วัฒนธรรมและธรรมชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของเกาะจิจิจิมะ หมู่เกาะโอกาซาวาระ โตเกียว

บริการนี้รวมโฆษณาที่ได้รับการสนับสนุน

“หมู่เกาะโอกาซาวาระ” แห่งนี้ตั้งอยู่ห่างจากใจกลางโตเกียวถึง 1000 กิโลเมตรซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมโดยองค์กรยูเนสโก ในครั้งนี้เราจะมาแนะนำวัฒนธรรมและธรรมชาติของเกาะชิชิจิมะไม่ว่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตเฉพาะถิ่น ผลไม้ และชิมะซูชิกันค่ะ

บทความโดย

Maki

新潟生まれ。事業会社でのマーケティングを経験後、2011年からシンガポールへ移住し、出版社や制作会社で編集に従事。2015年に日本へ帰国しMATCHAのライターに。国内外を旅行する中で見つけた新しい発見を、多くの人とシェアしていきたいです。

“เกาะชิชิจิมะ” ของหมู่เกาะโอกาซาวาระแห่งนี้เป็นเกาะย่อยที่ตั้งอยู่ห่างจากโตเกียวไปทางตอนใต้ประมาณ 1000 กิโลเมตร โดยเราสามารถนั่งเรือเฟอร์รี่จากใจกลางโตเกียวมาถึงได้อย่างสะดวกสบาย

ที่นี่ตั้งอยู่ห่างจากเกาะที่มีผู้คนอาศัยอยู่ที่ใกล้ที่สุดมากกว่า 600 กิโลเมตร โดยไม่เคยมีผู้คนอาศัยอยู่มาก่อนจนถึงช่วงต้นศตวรรษที่ 19 หลังจากเรือตะวันตกใช้เป็นฐานที่มั่นในการล่าวาฬ ในช่วงระหว่างสงครามมหาเอเชียบูรพาเคยเป็นฐานทัพทางการทหารที่สำคัญของญี่ปุ่น แต่หลังสงครามตกอยู่ภายใต้การปกครองของประเทศสหรัฐอเมริกาจนถูกส่งคืนให้ประเทศญี่ปุ่นเมื่อปี 1968

ด้วยประวัติศาสตร์ดังกล่าวและสภาพแวดล้อมสุดเอกลักษณ์ ทำให้ที่นี่กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่แตกต่างจากแผ่นดินใหญ่ของญี่ปุ่นซึ่งได้รับการปกป้องรักษาโดยชาวบ้านภายในเกาะไปโดยปริยาย นอกจากนี้ ในปัจจุบันก็ยังมีการจัดแคมเปญอนุรักษ์ระบบนิเวศสุดเอกลักษณ์ที่พบเห็นได้ยากของเกาะที่ไม่เคยเชื่อมต่อกับแผ่นดินใหญ่เลยสักครั้งอีกด้วย

ในครั้งนี้เราจะมาแนะนำสถานที่ที่สามารถสัมผัสวัฒนธรรมสุดเอกลักษณ์และประวัติศาสตร์ของเกาะชิชิจิมะได้กันค่ะ ^^

อ่านเพิ่มเติมได้ที่：

วิธีการนั่งเรือจากโตเกียวไปยัง “เกาะชิชิจิมะ・หมู่เกาะโอกาซาวาระ”
【โตเกียว】วิธีการเดินทางภายในเกาะ “ชิชิจิมะ” มรดกโลกทางธรรมชาติ
รวมแหล่งท่องเที่ยวจัดว่าเด็ดบนเกาะ “ชิชิจิมะ” มรดกโลกทางธรรมชาติ
8 ชายหาดสุดงามจนต้องอึ้งบนเกาะ “ชิชิจิมะ” มรดกโลกทางธรรมชาติ
6 จุดชมวิวบนเกาะ “ชิชิจิมะ” มรดกโลกทางธรรมชาติ
สนุกกับกิจกรรมชมวาฬและดำน้ำตื้นสุดเจ๋งบนเกาะ “ชิชิจิมะ”

แหล่งรวมสิ่งมีชีวิตอันหลากหลายซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ

หมู่เกาะโอกาซาวาระแห่งนี้เป็นเกาะที่เกิดจากการปะทุของภูเขาไฟใต้ทะเล เนื่องจากตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบันไม่เคยเชื่อมต่อกับแผ่นดินใหญ่ที่ไหนมาก่อนเลย ทำให้เกิดพืชและสัตว์เฉพาะถิ่นขึ้นมาจนกลายเป็นระบบนิเวศสุดเอกลักษณ์ในที่สุด โดยสามารถเรียกได้ว่าเป็น “กาลาปากอสแห่งซีกโลกตะวันออก” จากความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตพันธุ์หายากเลยก็ว่าได้

หมู่เกาะโอกาซาวาระขึ้นชื่อเรื่องความอุดมสมบูรณ์ของสิ่งมีชีวิตเฉพาะถิ่นถึงขนาดได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติโดยองค์กรยูเนสโกในปี 2011 เลยทีเดียว

นกพิราบป่าญี่ปุ่น

สิ่งมีชีวิตเฉพาะถิ่นอย่าง “นกพิราบป่าญี่ปุ่น” ซึ่งเป็นอนุสรณ์สถานทางธรรมชาติและ “หอยทากคาตาไมไม” เป็นสิ่งมีชีวิตอันล้ำค่าที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสิ่งมีชีวิตที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ ถ้าเกิดดวงดีเราอาจได้พบตอนเดินชมวิวตามเส้นทางเดินเล่นของเกาะชิชิจิมะก็ได้นะเออ...

“ต้นทาโกโนกิ” เป็นพืชเฉพาะถิ่นประจำหมู่เกาะโอกาซาวาระก็จริง แต่เนื่องจากเติบโตให้เห็นมากมายทั่วทั้งเกาะ เราจึงสามารถพบเห็นได้อยู่บ่อยๆตอนเดินเล่นภายในเกาะ

Shanti Bungalow (ชานติบังกะโล) แห่งนี้จัดเตรียมทัวร์ตระเวนชมป่าซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของพืชและสัตว์หลากหลายชนิดเอาไว้มากมาย โดยสามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้จาก เว็บไซต์หลักเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ ได้เลยจ้า... ราคาทัวร์ครึ่งวัน 5,000 เยน～

ผืนดินอันอุดมสมบูรณ์ที่เกิดจากสภาพอากาศเขตกึ่งร้อน

เนื่องจากหมู่เกาะโอกาซาวาระมีสภาพอากาศอบอุ่นสบายตลอดทั้งปี ทำให้ที่นี่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยพืชนานาพันธุ์และผลิตผลทางการเกษตรประจำเขตกึ่งร้อน

“ศูนย์การเกษตรเขตกึ่งร้อนโอกาซาวาระ” คือ สวนพฤกษศาสตร์ที่สามารถเยี่ยมชมพืชเฉพาะถิ่นและพืชเขตร้อนได้ฟรี แถมที่นี่ยังมีเรือนกระจกสำหรับปลูกผลไม้ด้วย ยังไงก็ลองแวะมาสัมผัสบรรยากาศที่เรียงรายไปด้วยผลไม้ของจริงกันที่นี่ดูเนอะ

ศูนย์เกษตรกรรมกึ่งเขตร้อนสาขาโอกาซาวาระ

Komagari 2 Chichijima, Ogasawara-mura, โตเกียว 100-2101

ส่วนผลไม้ที่เพาะพันธุ์ภายในเกาะสามารถหาซื้อได้จาก JA agricultural product direct sales store (JA ร้านขายตรงผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร) เลยจ้า... ไม่ว่าจะเป็นกล้วยที่สามารถเก็บเกี่ยวได้ตลอดทั้งปีหรือผลไม้ตระกูลส้มอย่างเลม่อนและส้มโอแสนอร่อยก็สามารถมาหาทานได้ที่นี่ตามฤดูกาล

สำนักงานขายตรงการท่องเที่ยวเชิงเกษตรของสหกรณ์การเกษตรเกาะโตเกียว

Higashimachi, Chichijima, Ogasawara-mura, โตเกียว 100-2101

นอกจากนี้ เสาวรสก็เป็นผลิตภัณฑ์ประจำโอกาซาวาระเช่นเดียวกัน บอกเลยว่าเครื่องดื่มผสมเหล้ารัมที่ผลิตขึ้นภายในเกาะนับเป็นของฝากยอดนิยมเลยทีเดียว โดยเราสามารถเพลิดเพลินกับค็อกเทลรัมและเสาวรสได้ตามร้านอาหารภายในเกาะ

ส่วนผักที่การันตีความอร่อยโดยนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนเกาะชิชิจิมะกันอีกรอบก็หนีไม่พ้นมะเขือเทศจิ๋วตามภาพ โดยเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมจากแฟนๆมากมายถึงขนาดมีผู้คนมายืนรอต่อแถวซื้อที่ร้านขายส่งในวันออกจำหน่ายเลยล่ะค่ะ เนื่องจากมีรสหวานเข้มข้น จึงให้อารมณ์ผลไม้ชื่นใจสุดๆ

สวรรค์แห่งอาหารทะเลจากเขตประมงอันอุดมสมบูรณ์

เกาะชิชิจิมะที่รายล้อมไปด้วยทะเลอันแสนกว้างใหญ่แห่งนี้ยังสามารถดื่มด่ำกับอาหารทะเลสดใหม่และเรียบง่ายได้ด้วยนะเออ...

“ชิมะซูชิ” หรือข้าวปั้นหน้าปลาสดใหม่ เช่น ปลาซาวานะ จากทะเลท้องถิ่นจิ้มซอสโชยุดูเป็นเมนูที่เรียบง่ายแต่อร่อยล้ำลึก โดยมีจำหน่ายตามร้านซูชิ, ร้านอาหารญี่ปุ่น และร้านกินดื่ม รวมถึงร้านข้าวกล่องด้วย

นอกจากนี้ เมนูท้องถิ่นประจำโอกาซาวาระก็ยังมีเมนูเต่าทะเลสุดแปลกอีกด้วย เนื้อเต่าทะเลมีรสสัมผัสกลางๆระหว่างปลา-เนื้อและไม่มีกลิ่นคาว เมนูเต่าทะเลเป็นวัฒนธรรมอาหารการกินในยุคที่ขาดแคลนอาหาร แต่เนื่องจากในปัจจุบันอยู่ในช่วงรณรงค์อนุรักษ์เต่าทะเล จึงจำกัดการล่าเหลือเพียงแค่ 135 ตัว / ปีเท่านั้น

ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวซึ่งสามารถสัมผัสได้ถึงจักรวาล

เกาะชิชิจิมะเป็นที่ตั้งขององค์กรหอดูดาวแห่งชาติญี่ปุ่นและองค์การวิจัยและพัฒนาการสำรวจอวกาศญี่ปุ่น (JAXA) (※1) ทำให้เกาะแห่งนี้กลายเป็นศูนย์รวมสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับจักรวาลไปโดยปริยาย

เสาอากาศขนาดยักษ์เส้นผ่าศูนย์กลางกว่า 20 เมตรที่ตั้งอยู่ภายในพื้นที่องค์กรหอดูดาวแห่งชาติญี่ปุ่นเปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมได้อย่างอิสระ แถมตอนกลางคืนยังสามารถชมทัศนียภาพอันยิ่งใหญ่จากการไลท์อัพได้อีกต่างหาก

※ 1……ไม่อนุญาตให้เข้าชมภายในโซน JAXA

หอดูดาวแห่งชาติของญี่ปุ่น หอดูดาว VERA Ogasawara

〒100-2101 ชิชิจิมะ, โอกาซาวาระ-มูระ, โตเกียว อาซ่า โยอาเกะยามะ

บอกเลยว่าภายในเกาะที่มีแสงไฟอันน้อยนิดในยามค่ำคืนแห่งนี้เต็มไปด้วยหมู่ดาวเต็มท้องฟ้าอันแสนมืดมิดงดงามมาก ทัศนียภาพของหมู่ดาวที่เรียงรายกันอย่างเนืองแน่นขนาดนี้เป็นวิวเฉพาะของเกาะห่างไกลติดทะเลเท่านั้น! วิวท้องฟ้าอันแสนงดงามที่ดูราวกับแม่น้ำแม้มองด้วยตาเปล่าเป็นอะไรที่ต้องชมกันให้ได้สักครั้ง

ร่องรอยทางประวัติศาสตร์ของหมู่เกาะโอกาซาวาระ

ว่ากันว่าหมู่เกาะโอกาซาวาระถูกค้นพบครั้งแรกโดย “โอกาซาวาระ ซาดาโยริ” นักสำรวจชาวญี่ปุ่นในศตวรรษที่ 16 ด้วยเหตุนี้จึงตั้งชื่อกันตามชื่อของเขาว่า “โอกาซาวาระ” นั่นเอง

ภายในเขตโอกิอุระใจกลางเกาะมี “อนุสาวรีย์การค้นพบเกาะร้างไร้ผู้คน” ซึ่งติดกันเป็นที่ตั้งของ Ogasawara Shrine (ศาลเจ้าโอกาซาวาระ) ซึ่งสักการะนักสำรวจโอกาซาวาระ ซาดาโยริ

ศาลเจ้าโอกาซาวาระ

1115 Toyotsu, Miyako-cho, Miyako-gun, ฟุกุโอกะ 824-0121

หลังจากหมู่เกาะโอกาซาวาระแห่งนี้ถูกค้นพบก็เริ่มมีผู้คนที่จำหน่ายสินค้าให้กับเรือล่าวาฬจากชาติตะวันตกเข้ามาอยู่อาศัย

นอกจากนี้ เนื่องจากในสมัยสงครามมหาเอเชียบูรพาเคยเป็นฐานทัพทางการทหารที่สำคัญของญี่ปุ่นมาก่อน ทำให้ที่นี่ยังคงหลงเหลือร่องรอยความเสียหายจากสงครามให้เห็นกันอยู่ภายในเกาะ

ภายในเขตศาลเจ้าโอกาซาวาระเป็นที่ตั้งของร่องรอยฐานทัพทางการทหารที่เรียกว่า “โทจิกะ” แถมตรงจุดชมวิวฮัตสึเนะอุระก็ยังมีคลังอาวุธสร้างทิ้งเอาไว้อีกด้วย โดยภายในเต็มไปด้วยร่องรอยของลูกปืนมากมาย

ร่องรอยทางสงครามเหล่านี้ช่วยถ่ายทอดความปรารถนาถึงสันติภาพและความทรงจำของสงครามมหาเอเชียบูรพาซึ่งยังคงหลงเหลืออยู่บนเกาะชิชิจิมะออกมาได้เป็นอย่างดี

บทส่งท้าย

ที่นี่เต็มไปด้วยความทรงจำแห่งประวัติศาสตร์ของสงครามและการล่าวาฬ รวมถึงวัฒนธรรมอาหารการกินอันแสนเรียบง่ายจากวัตถุดิบท้องถิ่นซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากสภาพอากาศอบอุ่นและธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ไปด้วยสิ่งมีชีวิตเฉพาะถิ่นมากมาย โดยล้วนได้รับการพัฒนาจนมีความแตกต่างจากเกาะฮอนชูจนกลายเป็นเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวมากมายให้เดินทางมาเยือน สำหรับใครที่วางแผนเดินทางมาเที่ยวโอกาซาวาระก็ขอให้ศึกษาข้อมูลข้างต้นเอาไว้ล่วงหน้าเพื่อให้สามารถเพลิดเพลินกับการท่องเที่ยวและธรรมชาติของที่นี่ได้อย่างเต็มที่กันนะคะ ^^

อ่านเพิ่มเติมได้ที่：

บทความโดย

Maki

เนื้อหาในบทความนี้อ้างอิงจากการเก็บข้อมูลในช่วงเวลาที่เขียนบทความ อาจมีการเปลี่ยนแปลงของรายละเอียดสินค้า บริการ ราคาในภายหลังได้ กรุณาตรวจสอบกับสถานที่นั้นอีกครั้งก่อนการไปใช้บริการ
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง