Start planning your trip
ปีนเขาจิบุสะ "เกาะฮะฮะ" ที่สัมผัสได้ถึงธรรมชาติในหมู่เกาะโอกาซาวาระ มรดกทางธรรมชาติของโลก
โอกาซาวาระเป็นเกาะห่างไกลที่ถูกบันทึกเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติโดยองค์กรยูเนสโก อยู่ห่างจากโตเกียว 1000km จากเกาะจิจิที่เป็นทางเข้าไป 50km ทางใต้คือเกาะฮะฮะ หากอยากสัมผัสธรรมชาติที่เกาะฮะฮะแล้วล่ะก็ "เขาจิบุสะ" เหมาะสมที่สุด!ในครั้งนี้จะขอแนะนำพืชพันธุ์, สัตว
หมู่เกาะโอกาซาวาระอยู่ห่างจากเขตโตเกียวประมาณ 1000 กิโลเมตร จากเกาะจิจิที่เปรียบเสมือนทางเข้าของหมู่เกาะโอกาซาวาระ นั่งเรือเฟอร์รี่ต่อไปทางใต้ประมาณ 50 กิโลเมตร ก็จะเจอกับเกาะฮะฮะที่มีประชากรอาศัยอยู่
"ภูเขาจิบุสะ" อยู่บริเวณเกือบจะตรงกลางเกาะฮะฮะ เป็นภูเขาที่มียอดสูงที่สุดของเกาะจิจิและเกาะฮะฮะ ในครั้งนี้จะขอแนะนำเส้นทางการปีนเขาจิบุสะ, พืชและสัตว์แปลกๆ ที่จะได้พบเห็นระหว่างทาง และวิวของทะเลและภูเขาที่สวยงาม
อ่านเพิ่มเติมได้ที่:
วิธีการนั่งเรือจากโตเกียวไปยัง “เกาะชิชิจิมะ・หมู่เกาะโอกาซาวาระ”
ปีนเขาจิบุสะ "เกาะฮะฮะ" ที่สัมผัสได้ถึงธรรมชาติในหมู่เกาะโอกาซาวาระ มรดกทางธรรมชาติของโลก
วิธีเดินทางไปทางขึ้นเขาจิบุสะ
ทางเข้าเขาจิบุสะอยู่ที่ด้านหลังหมู่บ้านโมโตะจิ ที่เป็นแหล่งรวมร้านค้าและที่พักอาศัยในเกาะฮะฮะ จากต้นgajumaru(ไทรย้อยใบทู่)ที่เป็นจุดสังเกตบริเวณหมู่บ้าน ใช้เวลาเดินไปประมาณ 5 นาที
หากเดินไปตามทางที่ชี้แนะก็จะถึงทางขึ้นเขา ทางขึ้นเขานั้นไม่มีห้องน้ำ หรือตู้ขายสินค้าอัตโนมัติใดๆ ดังนั้นควรจะเตรียมการต่างๆ ให้เสร็จเรียบร้อยก่อนเข้าไปในภูเขา
ในภูเขามีพันธ์พืชประหลาดๆ อยู่มากมาย เพื่อไม่ให้สิ่งมีชีวิตหรือเมล็ดพืชติดมาด้วย จะต้องถูพื้นรองเท้าบนพรมให้ดีก่อนไปเดินเขา
ทางเดินเขาจิบุสะคือป่าเขียวลึก
ทางขึ้นเขามีแต่ต้นไม้และพงหญ้าข้างทางเต็มไปหมด ราวกับอยู่กลางป่าดงดิบเลยทีเดียว
เมื่อเดินไปสักพัก จะเจอกับต้นgajumaruยักษ์ที่ระยะสายตามองได้ไม่หมดลำต้นตั้งตระหง่านอยู่ ลำต้นของต้นไม้และรากโค้งเป็นรูปอุโมงค์ ฉะนั้นเมื่อเดินทางต่ออาจจะต้องระวังลื่นเป็นพิเศษ
เมื่อขึ้นไปตามเส้นทางเขาที่อันตรายได้สักประมาณ 2 ชั่วโมง ก็จะถึงบนยอดเขาที่ความสูง 462 เมตรจากระดับน้ำทะเล
บนยอดเขามีจุดสำหรับชมวิวทิวทัศน์ จึงมองเห็นทะเลสีน้ำเงินที่กว้างใหญ่ทางฝั่งตะวันออกของเกาะฮะฮะได้
ทางเดินเล่นที่อยู่แถวยอดเขา จะมีทางสำหรับเดินไปสันเขาที่มีพืชพันธุ์ขึ้นมากมาย เป็นพื้นที่ที่ลื่นง่ายเพราะมีมอสอยู่มาก ต้องเดินด้วยความระมัดระวัง
หากมีช่วงที่ต้นไม้ที่โตใหญ่อยู่ห่างกันนิดนึง เราจะมองเห็นมหาสมุทรแปซิฟิกปรากฎอยู่ตรงหน้า จากตรงนี้บางทีก็สามารถมองเห็นปลาวาฬและปลาโลมาได้
ระหว่างทางเดิน จะมีสัญลักษณ์ชี้ทางที่ต้องเดินไปต่อให้ ให้เดินต่อไปโดยเช็คทิศทางและระยะทางเอาไว้ด้วย
ผู้อาศัยในป่าที่จะได้พบเจอระหว่างเดินทาง
ระหว่างทางจะมีที่ให้น้ำนกป่าประมาณ 2 แห่ง บริเวณนั้นจะมีขวดที่กักน้ำฝนวางไว้อยู่ ให้เทน้ำลงในชาม พวกนกก็จะบินมาแวะดื่มน้ำกัน
นกพิราบเจแปนนีสวู้ด
บริเวณใกล้ๆ ต้นgajumaruยักษ์จะมีจุดที่นกจำนวนมากชอบบินมาแวะเวียน เราจะได้เห็นปีกที่กระพือเสียงพั่บ พั่บตรงหน้า พร้อมๆ กับได้ฟังเสียงสดใสของนกร้อง
นกกระจอก ฮะชินากะอุกุอิสุ
นกป่าที่มีเฉพาะในเกาะฮะฮะจะโผล่มาทักทายนักเดินป่าเสมอๆ เช่นนก "ฮะฮะจิมะเมกุโระ" และ "นกพิราบเจแปนนีสวู้ด" พันธุ์พิเศษที่มีแค่ในโอกาซาวาระ และ "ฮะชินากะอุกุอิสุ" เป็นต้น
หอยทากที่มีเฉพาะในเกาะก็มีชีวิตอยู่เป็นจำนวนมาก และจะชอบอยู่ตามขั้นบันไดตรงทางเดิน ฉะนั้นเพื่อไม่ให้เหยียบมัน จึงต้องคอยเดินอย่างระมัดระวัง
และสามารถชมรูปร่างน่ารักของ "กล้วยไม้พันธุ์มูนิงชุส" พันธุ์ของกล้วยไม้ประเภทหนึ่งที่เติบโตขึ้นเองตามธรรมชาติได้อีกด้วย
ค้นพบเห็ดที่มีขนาดใหญ่มาก! ทางการแพทย์จีนถือว่าเป็นเห็ดที่มีชื่อเสียง แต่ภูเขาจิบุสะถือว่าเป็นเขตสงวนพันธุ์ป่าไม้ ฉะนั้นห้ามขุดหรือนำกลับโดยเด็ดขาด
ร่องรอยสงครามที่ถูกทิ้งไว้กลางป่าใหญ่
สมัยสงครามแปซิฟิก เขาจิบุสะเคยเป็นที่ตั้งของอดีตกองทัพญี่ปุ่น จึงยังหลงเหลือซากระเบิดและหลุมหลบภัยอยู่จำนวนมาก
ป้อมปืนใหญ่ที่เคยถูกใช้จริงในสมัยสงครามก็ยังเหลืออยู่เช่นกัน คอยบอกเล่าความดุเดือดของสงครามผ่านลูกปืนที่เกาะสนิม
เพื่อที่จะปีนเขาได้อย่างสนุกและปลอดภัย
เกาะฮะฮะยังคงเหลือสภาพของธรรมชาติที่มีเยอะกว่าเกาะจิจิ แต่ว่าสิ่งแวดล้อมของภูเขาอาจจะไม่ใจดีกับมนุษย์อย่างเราๆ สักเท่าไรนัก ทางเดินขึ้นเขาสามารถเดินได้ตลอด 24 ชั่วโมงโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่ระหว่างการเดินทางนั้นจะไม่มีแสงไฟเลย ดังนั้นควรจะวางแผนเดินทางกลับก่อนพระอาทิตย์ตกดินไว้ดีกว่า
นอกจากนั้น การเข้าไปในทางเดินที่นอกเหนือจากทางที่จัดเอาไว้ ค่อนข้างเสี่ยงอันตราย จึงถูกห้ามเข้า จุดที่มีพืชพันธุ์ขึ้นมากมายอาจทำให้เริ่มมองไม่เห็นทางเดิน จึงควรเดินไป และพยายามดูป้ายบอกทางไปด้วย
เป็นภูเขาลูกเล็กๆ ฉะนั้นให้ใส่เสื้อผ้าที่เคลื่อนไหวง่าย กับรองเท้าผ้าใบ หากใครเตรียมตัวไม่พร้อม ก็ขอให้พักเรื่องการเดินเขาเอาไว้ก่อน เพราะระหว่างทางจะต้องกระหายน้ำ จึงควรเตรียมเครื่องดื่มและพวกขนมเอาไว้ให้พร้อม ส่วนขยะก็อย่าลืมเอากลับไปทิ้งที่ที่พักของตัวเองนะ
ช่วงสุดท้าย
เวลาในการเดินรอบเขาจิบุสะหนึ่งรอบ หากเป็นผู้ใหญ่จะใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง แต่ถ้าเป็นคนที่มีความมั่นใจในสมรรถภาพร่างกายก็อาจจะอยู่ที่ประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่ง และในภูเขา เรายังสามารถพบเห็นพืชและสัตว์ที่มีเฉพาะในเกาะได้ด้วย เพื่อที่จะรักษาธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์และสภาพนิเวศ เราไม่ควรขุดหรือจับต้องพืชและสัตว์ต่างๆ เพียงแค่ชม และนำของฝากที่เรียกว่า "ความทรงจำ" กลับบ้านก็พอ
新潟生まれ。事業会社でのマーケティングを経験後、2011年からシンガポールへ移住し、出版社や制作会社で編集に従事。2015年に日本へ帰国しMATCHAのライターに。国内外を旅行する中で見つけた新しい発見を、多くの人とシェアしていきたいです。
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง