Start planning your trip
ประวัติศาสตร์ "เกาะฮะฮะ" โอกาซาวาระ & แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ เช่น ซากปรักหักพังจากสงคราม, จุดชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม เป็นต้น
หมู่เกาะโอกาซาวาระเป็นเกาะห่างไกลที่ถูกบันทึกเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติโดยองค์กรยูเนสโก อยู่ห่างจากโตเกียว 1000km จากเกาะจิจิที่เป็นทางเข้าไป 50km ทางใต้คือเกาะฮะฮะ ในครั้งนี้จะขอแนะนำแหล่งธรรมชาติที่มีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ ทั้งการล่าวาฬ และสงครามแปซิฟิก
หมู่เกาะโอกาซาวาระเป็นเกาะที่ห่างไกล อยู่ห่างจากใจกลางโตเกียวไปทางใต้ราว 1000 กิโลเมตร จากทาเคชิบะ โตเกียว ใช้เวลาเดินทางโดยเรือเฟอร์รี่ไปเกาะจิจิ 24 ชั่วโมง จากที่นั่นโดยสารเรือไปอีก 50k กิโลเมตรทางใต้ จะเจอกับเกาะที่มีชื่อเสียงที่ชื่อว่า "เกาะฮะฮะ"
เกาะฮะฮะถูกบุกเบิกสร้างเป็นฐานทัพของเรือล่าวาฬ และยังเป็นฐานของอดีตกองทัพญี่ปุ่นในสมัยสงครามแปซิฟิกอีกด้วย หลังสงคราม ชาวเกาะประมาณ 500 คนพยายามดำเนินกิจกรรมให้พื้นที่ตรงนี้เป็นป่าที่ได้รับการคุ้มครอง จึงถูกบันทึกเป็นมรดกทางธรรมชาติของโลกตั้งแต่ปี 2011 เป็นต้นมา
ในครั้งนี้ จะแนะนำไฮไลต์รอบๆ เกาะ เช่นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ของสงครามและการล่าวาฬที่ยังหลงเหลือในเกาะฮะฮะ
อ่านเพิ่มเติมได้ที่:
วิธีการนั่งเรือจากโตเกียวไปยัง “เกาะชิชิจิมะ・หมู่เกาะโอกาซาวาระ”
ปีนเขาจิบุสะ "เกาะฮะฮะ" ที่สัมผัสได้ถึงธรรมชาติในหมู่เกาะโอกาซาวาระ มรดกทางธรรมชาติของโลก
รวมแหล่งเดินเที่ยวรอบๆ ท่าเรือโอคิ "เกาะฮะฮะ" มรดกโลกทางธรรมชาติในโอกาซาวาระ
1.ประวัติศาสตร์ของการล่าวาฬที่ยังหลงเหลืออยู่ทางตอนเหนือของเกาะ
"ท่าเรือคิตะ" ของเกาะฮะฮะ เป็นสถานที่ที่ยังหลงเหลือภาพความหลังสมัยที่เกาะยังรุ่งเรืองกับอาชีพล่าวาฬ ในอดีตเคยเป็นที่อยู่ของคนที่มาทำอาชีพล่าวาฬ แต่ในปัจจุบันเป็นเพียงแค่ซากของสะพานที่ถูกคลื่นซัดสาดและกัดกร่อน
จากสะพาน เราสามารถมองเห็นปลากำลังว่ายน้ำอยู่ในน้ำทะเลใสแจ๋วได้ และบนชายหาดที่มีหินก้อนเล็กๆ ก็มีสิ่งมีชีวิตบนเกาะ เช่น ปูและ "ปลาลี่ปิ้งเบลนนี่" วิ่งวนไปมาอย่างแข็งแรง
"ท่าเรือฮิกาช" ที่อยู่ไม่ไกลจากท่าเรือคิตะก็ถูกใช้เป็นฐานทัพของเรือล่าวาฬจนถึงปี 1985
2.ร่องรอยของสงครามแปซิฟิกที่จมลึกอยู่ในป่า
"ป้อมปืนกลตรงท่าเรือฮิกาชิ" เป็นที่ที่ยังคงเหลือป้อมปืนที่อดีตกองทัพญี่ปุ่นเคยใช้ จากทางรถเดินเข้าไปในป่าใช้เวลาประมาณ 5 นาที สภาพของลำปืนยังคงหันไปทางทะเล
ใกล้ๆนั้นก็ยังมี "ร่องรอยฐานทัพไฟฉาย" ในหลุมมีไฟฉายขนาดใหญ่ที่อดีตกองทัพญี่ปุ่นเคยติดตั้งเอาไว้ แต่ก่อนเคยมีรางสำหรับเคลื่อนย้าย แต่ตอนนี้เสื่อมไปตามเดือนและปีที่แสนยาวนาน จนถึงตอนนี้คงเหลือเพียงแค่ซากเท่านั้น
ที่ฐานทัพไฟฉายมีศาลสำหรับสักการะบูชาพระจิโซอยู่ ว่ากันว่านิ้วของพระจิโซข้างขวามี 6 นิ้ว จึงถูกเรียกว่า "รปปงยูบิจิโซ(พระจิโซหกนิ้ว)"
3.ทะเลที่ธรรมชาติสร้างสรรค์และทิวทัศน์ที่สวยงามของท้องฟ้า
"หาดมิยูกิโนะฮามะ" เป็นชายหาดที่ถูกตั้งชื่อจากตอนที่จักรพรรดิโชวะเดินทางมาเยือนโอกาซาวาระในปี 1927(※1)。จากจุดชมวิวที่อยู่บนยอดสูง เราสามารถมองเห็นปลาโลมาโผล่หน้าขึ้นมาบนผืนทะเล และได้ยินเสียงร้องอีกด้วย
※1:การที่จักรพรรดิไปเยือนสถานที่แห่งใดแห่งหนึ่ง จะเรียกว่า "มิยูกิ"
ชายฝั่งที่เรียกได้ว่าจักรพรรดิโชวะได้คัดเลือกสิ่งมีชีวิตเอาไว้แล้ว จะถูกแยกเป็นพื้นที่อนุรักษ์พิเศษ และกลายเป็นสวนสาธารณะในเขตทะเลที่มีทิวทัศน์กว้างใหญ่และสวยงาม
ใกล้กับหาดมิยูกิ จะมีชายหาดที่ชื่อว่า "หาดนันคิน" ซึ่งเชื่อมต่อกันไว้ด้วยทางเดิน
ในทะเลแถบชายหาดนันคิงมีแนวปะการังขนาดใหญ่ ใต้เงาก้อนหินเป็นที่นอนกลางวันของ "ปลาฉลามครีบขาว" ฉลามขนาดเล็ก หากเปรียบเทียบกับฉลามพันธุ์อื่นๆ แล้ว ฉลามครีบขาวค่อนข้างสงบเสงี่ยม และไม่ค่อยบุกโจมตีก่อนสักเท่าไรนัก แต่ถ้าเราไปจับอย่างตั้งใจหรือไล่ตาม ก็อาจเป็นอันตรายได้ จึงควรเพลิดเพลินโดยการชมเงียบๆ
"ชินยูฮิงาโอกะ" ที่อยู่ระหว่างภูเขาตรงกลางเกาะ เป็นจุดที่สามารถมองเห็นพระอาทิตย์ตกจากในป่าได้
ถ้าอากาศดี เราจะสามารถชมพระอาทิตย์สีแดงที่กำลังตกลงบนมหาสมุทรแปซิฟิกได้
"ลานจอดเฮลิคอปเตอร์เก่า" ที่อยู่ทางทิศใต้ของเกาะ เป็นพื้นที่ราบที่สามารถมองโดยรอบได้ 360℃ หลังจากพระอาทิตย์ตกจะไม่มีแสงใดๆ ทั้งสิ้น จึงทำให้เรามองเห็นท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวได้ จำนวนดวงดาวที่กะพริบวิววับบนท้องฟ้ามากมายจนเราไม่สามารถมองเห็นได้หมดในท้องฟ้าที่มืดสนิท เป็นท้องฟ้าที่ "เหนือท้องฟ้า" ที่ไม่เคยได้เห็นมาก่อน
4.คอร์สเดินเขาชมธรรมชาติ
เมื่อลงไปทางใต้ของเกาะ จะถึงจุดที่เป็นทางแยกออกจากกัน ตรงนี้ถือว่าเป็นจุดที่อยู่ทางใต้ที่สุดของกรุงโตเกียว
จากตรงนี้จะมีการจัดทางเดินเอาไว้ให้ เมื่อเดินเขา เราจะได้พบเจอกับธรรมชาติหลากหลาย
การเดินทางไป "โคะฟูจิ" ภูเขาที่อยู่ทางตอนใต้ของเกาะฮะฮะ จากทางเข้าเดินไปประมาณ 40 นาที ทางก็จะเริ่มเดินยากขึ้น และจะมีพวกบันไดลิง หรือบันไดปรากฎขึ้นมา ควรไปเดินโดยใส่รองเท้าที่เราชิน
แนวปะการังที่อยู่ในทะเลตรงแหลมมินามิซากิ (แหลมทางตอนใต้) สามารถมองดูได้ด้วยตาเปล่า
เราสามารถมองเห็นเกาะร้างที่อยู่นอกชายฝั่งได้ เช่น เกาะอาเนะ และเกาะอิโมโตะ ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงจนถึงฤดูร้อน ว่ากันว่าสามารถชมนกกาน้ำที่ขยายพันธุ์ที่เกาะนี้บินวนไปมาได้
เมื่อย้อนกลับจากโคะฟูจิมาอีกครั้ง ระหว่างทางเดินจะมีป้ายบอกทาง ให้เราเลี้ยวไปทาง "minamizaki beach" (แหลมทางตอนใต้)
เมื่อถึงชายฝั่งแนวปะการังที่มองเห็นได้จากยอดโคะฟูจิเมื่อสักครู่ จะเจอกับแนวปะการังที่มีลักษณะกว้างเหมือนโต๊ะเรียบๆ จึงเหมาะสำหรับเพลิดเพลินกับการดำน้ำ บริเวณน่านน้ำของแหลมมินามิซากิ กระแสน้ำขึ้นลงค่อนข้างเร็วมาก จึงควรระวังอย่าออกไปนอกเขตอ่าว
ข้อควรระวัง:วิธีการเดินทางในเกาะฮะฮะ
ที่เกาะฮะฮะไม่มีกรมการขนส่งสาธารณะ การเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวที่จะแนะนำในคราวนี้คือการเช่ารถยนต์ หรือรถมอเตอร์ไซค์ เพราะมีความสะดวก แต่ในกรณีที่ไม่มีใบขับขี่ ก็อาจจะใช้บริการรับส่งของที่พัก หรือไม่ก็ขอโดยสารแท็กซี่ สำหรับการจอง ให้ติดต่อสมาคมการท่องเที่ยวเกาะฮะฮะ (04998-3-2300)
ช่วงสุดท้าย
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ? ประวัติศาสตร์และแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติของ "เกาะฮะฮะ" ภายในเกาะเต็มไปด้วยธรรมชาติที่งดงามและน่าทึ่ง ไม่ว่าจะเป็นทะเล ท้องฟ้า หรือภูเขา และนอกจากนั้นยังมีร่องรอยของประวัติศาสตร์ให้ได้ชมกัน เช่น การล่าวาฬและสงคราม ขอให้นำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้เที่ยวเกาะฮะฮะให้สนุกนะคะ
新潟生まれ。事業会社でのマーケティングを経験後、2011年からシンガポールへ移住し、出版社や制作会社で編集に従事。2015年に日本へ帰国しMATCHAのライターに。国内外を旅行する中で見つけた新しい発見を、多くの人とシェアしていきたいです。
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง