Start planning your trip

ทัมบะซาซายามะในจังหวัดเฮียวโกะมีการอนุรักษ์ถนนหนทางอายุกว่า 400 ปีเอาไว้ในสภาพสมบูรณ์ถึงขนาดว่าทั้งเมืองได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกของญี่ปุ่นเลย เพียงแค่ย่างกรายเข้าไป เราจะได้ย้อนรอยประวัติศาสตร์ราวกับเดินทางข้ามเวลาเลยทีเดียว
“กลุ่มอาคารบ้านเรือนตระกูลนักรบ (Samurai Residences)” ที่ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของปราสาทซาซายามะแห่งนี้เคยเป็นโซนที่อยู่อาศัยของเหล่านักรบในสมัยก่อน โดยหนึ่งในคฤหาสน์นักรบซึ่งยังคงหลงเหลือให้เห็นกันอยู่ในปัจจุบันได้กลายเป็น “พิพิธภัณฑ์บ้านนักรบตระกูลอัมมะ (Anma Family Museum)” นั่นเอง
กลุ่มคฤหาสน์ตระกูลนักรบแห่งนี้นับเป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยมเลยก็ว่าได้ ถ้าเกิดใครได้มาลองถ่ายรูปในชุดกิโมโน รับรองว่าจะได้รูปภาพสไตล์ย้อนยุคเข้ากับบรรยากาศดั้งเดิมอันงดงามของสถาปัตยกรรมกันอย่างแน่นอน
เอื้อเฟื้อภาพโดย : เมืองซาซายามะ
“หมู่บ้านประวัติศาสตร์อาโอยาม่า” คือ บ้านพักตากอากาศของตระกูลอาโอยามะซึ่งเคยปกครองซาซายามะในสมัยก่อน ในปัจจุบันกลายเป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงข้อมูลทางประวัติศาสตร์ไปเรียบร้อยแล้ว ภายในพิพิธภัณฑ์จัดแสดงเอกสารเกี่ยวกับตระกูลอาโอยามะ นอกจากนี้ก็ยังมีอาคาร “ทัมบะซาซายามะ เดคันโฉะคัง” สถานที่แนะนำงานเทศกาลดั้งเดิมของเมืองซาซายามะโดยเฉพาะอีกด้วย
“เดคันโฉะบูชิแห่งทัมบะซาซายามะ ความทรงจำของบ้านเกิดที่ร้องถ่ายทอดลงในบทเพลงพื้นบ้านสืบต่อกันมาตั้งแต่ในอดีต” ที่เมืองซาซายามะส่งเข้าประกวดนั้นได้รับเลือกให้เป็นมรดกของประเทศญี่ปุ่นในปี 2015
“เดคันโฉะบูชิ” คือ เพลงที่นำมาร้องกันในงานเต้นรำโอบ้งประจำเขตซาซายามะ โดยว่ากันว่าสืบทอดต่อกันมาตั้งแต่ในสมัยเอโดะแล้ว เหล่าเกษตรกรซึ่งมุ่งมั่นทำงานอย่างตั้งอกตั้งใจมาตลอดทั้งปีจะได้พักผ่อนกันเฉพาะในวันนี้เท่านั้น ในวันนี้จึงคึกคักไปด้วยบรรยากาศอันสนุกสนานของเหล่าเกษตรกรที่ร้องรำทำเพลงกันตลอดทั้งวัน
เอื้อเฟื้อภาพโดย : เมืองซาซายามะ
ใสเนื้อเพลงจะประกอบด้วยเรื่องราว่างๆ ของงซาซายามะ เริ่มต้นจากปราสาทซาซายามะ ไปจนถึงผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น วัฒนธรรม และศิลปะวิทยาการของซาซายามะ เราจึงจะได้เข้าใจถึงเรื่องราวต่าง ๆ มากมายที่เกิดขึ้นในแต่ละยุคสมัยผ่านบทเพลง และในขณะเดียวกันก็ช่วยถ่ายทอดความทรงจำทางประวัติศาสตร์ไปในตัวด้วย
ในปัจจุบันจะมีการจัดงานเทศกาลทัมบะซาซายามะเดคันโฉะ (Tamba-Sasayama Dekansho Festival) ขึ้นที่ร่องรอยปราสาทซาซายามะในวันที่ 15 – 16 สิงหาคมของทุกปีเพื่อเป็นการสืบสานวัฒนธรรมสู่รุ่นต่อ ๆ ไปจากการร้องเพลงร่วมกับชาวบ้านท้องถิ่นและการร้องรำประวัติศาสตร์
หลังจากฟังเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของซาซายามะกันจนเต็มสมองแล้วก็ถึงเวลามุ่งหน้าไปเพลิดเพลินกับรสชาติแห่งประวัติศาสตร์ของซาซายามะกันแล้วล่ะค่ะ! “โรงกลั่นเหล้าโฮเมอิ โฮโรโยอิ โจคากุระ” แห่งนี้เป็นโรงกลั่นเหล้าอายุกว่า 200 ปีที่สร้างขึ้นในสมัยเอโดะ
แม้ในปัจจุบันทั้งโรงกลั่นเหล้าและอุปกรณ์ต่าง ๆ ในสมัยนั้นก็ยังถูกรักษาเอาไว้ในสภาพเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ทำให้เราได้ชมขั้นตอนและความรู้เรื่องการกลั่นเหล้าในสมัยก่อนกันอย่างจุใจ
นอกจากนี้ เรายังสามารถลองชิมเหล้าท้องถิ่นได้ด้วยนะเออ… เอาล่ะ มาลองชิมเหล้าท้องถิ่นกันหลาย ๆ แก้วเพื่อค้นหาเหล้าที่ถูกใจกันดีกว่า~ ^^
เอื้อเฟื้อภาพโดย : เมืองซาซายามะ
หลังจากเพลิดเพลินกับเหล้าท้องถิ่นของซาซายามะกันแล้วก็เดินทางย้อนเวลากลับไปเดินเล่นกินลมชมวิวที่ “เขตร้านค้าคาวารามาจิทสึมะอิริโชกะกุน” กันต่อเลยจ้า…
ย่านร้านค้า แห่งนี้เป็นถนนยาวประมาณ 500 เมตรซึ่งตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของปราสาทซาซายามะ โดยเรียงรายไปด้วยอาคารบ้านเรือนเก่าแก่ตั้งแต่สมัยเอโดะ
“สึมะอิริ” หมายถึง สไตล์สถาปัตยกรรมที่สร้างประตูทางเข้า-ออกหลักเอาไว้ตรงด้านที่สั้นกว่าของอาคาร
เมืองซาซายามะอนุรักษ์อาคารบ้านเรือนดั้งเดิมเอาไว้เป็นอย่างดี จึงบอกเลยว่าเพียงแค่ย่างกรายเข้ามาภายในเมืองก็ให้ความรู้สึกราวกับหลุดเข้าไปสู่โลกยุคก่อนแล้ว ในเมื่อมีสถาปัตยกรรมโครงสร้างไม้กำแพงขาวแล้วก็ย่อมมีบ้านโบราณสร้างจากไม้ด้วยเช่นเดียวกัน
ร้านค้าขนาดเล็กสุดพิถีพิถันทั้งหลายต่างตั้งซุกซ่อนอยู่ตามมุมต่าง ๆ ราวกับกำลังเล่นซ่อนหากับเราอยู่เลยล่ะค่ะ รับรองว่าทุกร้านกำลังรอคอยให้เพื่อน ๆ ได้มาค้นพบอยู่อย่างแน่นอน!
อาคารของร้านขายของชำ “ฮาคุโตยะ” เป็นบ้านเรือนเก่าแก่อายุกว่า 200 ปี ส่วนเจ้าของร้านเป็นผู้หญิงร่าเริงแจ่มใสที่หลงใหลในบ้านเรือนเก่าแก่หลังนี้จนยอมลงทุนเดินทางมาจาก โกเบ ทุกวันโดยใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมงเลยทีเดียว
สินค้าจิปาถะที่ตั้งโชว์เอาไว้ภายในร้านล้วนเป็นผลิตภัณฑ์ที่รวบรวมมาจากทั่วโลกทั้งจากยุโรป อเมริกา และแอฟริกา แน่นอนว่าผลงานศิลปหัตถกรรมของแต่ละท้องถิ่นในญี่ปุ่นก็มีจำหน่ายเช่นเดียวกัน
เนื่องจากสินค้าจิปาถะภายในร้านดูเข้ากับบ้านเรือนเก่าแก่เอามาก ๆ จึงถูกใจผู้หลงใหลในสินค้าจิปาถะท้องถิ่นของญี่ปุ่นอย่างแน่นอนจ้า ... บอกเลยว่าที่นี่เป็นหนึ่งในร้านค้าห้ามพลาดเมื่อได้มาเที่ยวซาซายามะเลยก็ว่าได้!
แล้วก็อย่าลืมถ่ายรูปย่านร้านค้ากลับไปเป็นที่ระลึกกันด้วยเนอะ! คอมโบสุดงามแสนเข้ากันระหว่างดวงอาทิตย์ที่เริ่มคล้อยลับไปทางทิศตะวันตก ชุดกิโมโน พื้นหิน และอาคารบ้านเรือนเก่าแก่แบบนี้นับเป็นทัศนียภาพที่พบได้ยากแม้ในญี่ปุ่นเอง แหม...เห็นแล้วอยากตั้งเป็นรูปโปรไฟล์จริง ๆ ค่ะ!
บริเวณไม่ไกลจากเขตร้านค้าคาวารามาจิทสึมะอิริโชกะกุนเป็นที่ตั้งของ ศาลเจ้าโอจิยามะอินาริจินจะ สถานที่ที่มีเสาโทริอิสีแดงสดตั้งเรียงรายกันตั้งแต่ประตูทางเข้าไปจนถึงศาลเจ้าหลักแห่งนี้เรียกกันอีกชื่อหนึ่งว่า “มาเคคิไรอินาริ”(ศาลเจ้าอินาริ เกลียดความพ่ายแพ้)
โดยมีตำนานเล่าว่าในสมัยเอโดะมีนักซูโม่ชาวเมืองซาซายามะ 8 คนซึ่งตั้งชื่อตามศาลเจ้าอินาริแห่งนี้ปรากฏตัวขึ้นในเอโดะ (ชื่อเก่าของโตเกียว) และได้รับชัยชนะจากการแข่งขันติดต่อกัน เมื่อนำชื่อของนักซูโม่ทั้ง 8 คนที่หายตัวไปหลังจากนั้นมาตรวจสอบดูก็พบว่าตรงกับชื่อเทพเจ้าของศาลเจ้าอินาริแห่งนี้เลย ทำให้ที่นี่กลายเป็นแหล่งพาวเวอร์สปอตยอดนิยมไปในที่สุด
เพียงแค่ย่างกรายเข้ามาภายในเมืองก็รู้สึกอัศจรรย์ใจและสามารถสัมผัสบรรยากาศดั้งเดิมสไตล์ญี่ปุ่นโบราณได้ง่าย ๆ สำหรับใครที่หลงใหลในทัศนียภาพดั้งเดิมก็บอกเลยว่าห้ามพลาด "ซาซายามะ" ด้วยประการทั้งปวงค่ะ! ^^
หากใครสนใจอยากรู้เรื่องราวของ "ซาซายามะ" เมืองที่แสนมีเสน่ห์เช่นนี้ สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์นี้เลยค่ะ
※ เนื้อหาภายในบทความนี้แปลมาจากบทความเวอร์ชั่นภาษาจีนตัวเต็มและนำมาเรียบเรียงใหม่
บทความโดย