Start planning your trip
ไม่ได้เป็นแค่ของฝาก! วิธีสนุกกับโปสการ์ดจากแหล่งท่องเที่ยว
ไม่ว่าจะไปเที่ยวที่ไหนก็มีโปสการ์ดลายสวยๆ วางขายอยู่เต็มไปหมด แล้วโปสการ์ดเหล่านี้จะเอาไปทำอย่างอื่นนอกจากเป็นของฝากเฉยๆ ได้มั๊ยนะ? ครั้งนี้จะขอแนะนำวิธีใช้โปสการ์ดเพื่อช่วยเพิ่มความสนุกทั้งระหว่างท่องเที่ยวและหลังกลับไปถึงบ้านแล้วเลย!
โปสการ์ดที่ซื้อตามสถานที่ท่องเที่ยว เอาไปทำอะไรกันบ้าง?
จาก "เขียนจดหมายส่งกันเถอะ วิธีส่งจดหมายไปภายในประเทศและต่างประเทศ"
ไปเที่ยวทีไรต้องเผลอซื้อโปสการ์ดทุกที แล้วนอกจากเพื่อเก็บไว้เป็นของที่ระลึกถึงสถานที่ต่างๆ ที่เราไปเยือนแล้ว หลายคนอาจจะกลุ้มใจว่าจะเอามันไปทำอะไรได้อีกบ้างใช่ไหมคะ
ไม่ต้องกลุ้มใจอีกต่อไปเพราะในบทความนี้จะมาแนะนำวิธีการใช้โปสการ์ดเหล่านั้นให้เอง รวมถึงโปสการ์ดลายน่ารักแบบต่างๆ ที่สามารถหาซื้อได้ตามที่ทำการไปรษณีย์ทั่วไปด้วย
3 วิธีสนุกกับโปสการ์ด ทั้งระหว่างท่องเที่ยวและหลังกลับบ้านแล้ว!
1. ส่งโปสการ์ดหาตัวเอง
ที่อยู่ในรูปด้านบนคือโปสการ์ดแบบมีลายที่จำหน่ายตามปกติที่ไปรษณีย์ โปสการ์ดด้านซ้ายที่เป็นรูปอินุฮาริโกะ (*1) ราคารวมภาษี 72 เยน ส่วนโปสการ์ดด้านขวาที่เป็นรูปภูเขาฟูจิกับดอกบ๊วย ราคารวมภาษี 108 เยน
นอกจากสองลายด้านบนแล้วก็ยังมีโปสการ์ดลายอื่นๆ อีกรวมแล้วกว่า 30 ลายให้เลือกซื้อได้ที่ไปรษณีย์ ลวดลายบนโปสการ์ดมักจะเป็นสิ่งต่างๆ ที่สามารถพบเห็นได้ในญี่ปุ่น เหล่าพืชพรรณ เช่น ดอกบ๊วยและต้นสน หรือสัตว์ต่างๆ เช่น สุนัขและแมว ลองหาโปสการ์ดลายที่ถูกใจที่อยากส่งกลับไปให้ตัวเองที่บ้านดูสักแผ่นนะคะ
*1 : อินุฮาริโกะ ...... ตุ๊กตาสุนัขที่ขึ้นโครงจากไม้ ไม้ไผ่ หรือดินเหนียว แล้วแปะทับด้วยกระดาษ
เมื่อซื้อโปสการ์ดลายที่ถูกใจได้แล้ว ลองเขียนถึงสถานที่ที่ได้ไปเยือน ความรู้สึกนึกคิดในตอนนั้น หรือสภาพอากาศในวันนั้น แล้วส่งถึงตัวเองกันเถอะ ถ้าส่งระหว่างที่ยังเที่ยวในญี่ปุ่นอยู่ โปสการ์ดก็น่าจะส่งถึงบ้านเราเองหลังจากกลับไปแล้วพอดี สนุกได้ 2 ต่อเลยเชียวล่ะ
นอกจากซื้อโปสการ์ดแล้ว อีกอย่างที่ห้ามลืมซื้อก็คือแสตมป์ ในกรณีที่ส่งไปต่างประเทศจะใช้แสตมป์ราคา 70 เยน ถ้าเป็นโปสการ์ดเนงกะโจ (*2) หรืออื่นๆ ที่มีค่าส่งไปรษณีย์รวมอยู่ในราคาขาย (*3) ก็ซื้อแสตมป์เพิ่มในส่วนต่างเท่านั้น เช่น โปสการ์ดที่มีรวมค่าส่งไปรษณีย์ในตัวแล้วก็ซื้อแสตมป์เพิ่มอีกเพียง 18 เยนเท่านั้น
*2 : เนงกะโจ และ เนงกะฮากาขิ ...... "เนงกะโจ" หมายถึงไปรษณีย์สำหรับอวยพรปีใหม่ ในช่วงปลายปีไปรษณีย์ของญี่ปุ่นจะจำหน่าย "เนงกะฮากาขิ" ไปรษณียบัตรสำหรับส่งอวยพรปีใหม่ ซึ่งรวมค่าส่งไปรษณีย์ในราคาขายแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องซื้อแสตมป์เพิ่ม
*3 : ค่าส่งไปรษณีย์ของโปสการ์ดได้มีการเปลี่ยนแปลงจาก 52 เยนเป็น 62 เยนในปี 2018 หากต้องการส่งโปสการ์ดที่ซื้อก่อนปี 2017 อาจจำเป็นต้องซื้อแสตมป์เพิ่ม รายละเอียดเพิ่มเติมโปรดสอบถามกับไปรษณีย์ที่ไปใช้บริการ
2. โปสการ์ดแบบจำนวนจำกัด เก็บไว้เป็นของสะสมกันดีกว่า
โปสการ์ดนี้เป็นโปสการ์ดลายคาแรคเตอร์แบบพิเศษจำนวนจำกัด จำหน่ายเฉพาะที่ไปรษณีย์เท่านั้น ออกแบบโดยนักวาดภาพประกอบ มิซุโมริ อะโดะ (Mizumori Ado) จำหน่ายในราคารวมภาษี 1 ใบ 108 เยน
โปสการ์ดลายคาแรคเตอร์แบบนี้มักจะมีดีไซน์ที่น่ารักเป็นพิเศษ ซื้อเก็บใส่อัลบั้มรูปเป็นของสะสมได้เลย
นอกจากนั้นในแต่ละสถานที่ท่องเที่ยวมักมีตราประทับที่ระลึกของสถานที่นั้นๆ อยู่ด้วย ลองเอาไปปั๊มที่ด้านหลังโปสการ์ดก็จะได้มีความทรงจำเกี่ยวกับสถานที่นั้นเพิ่มมาอีกหนึ่งอย่าง ตราประทับที่ระลึกมักวางอยู่แถวสถานีรถไฟและศูนย์ข้อมูลท่องเที่ยวต่างๆ
อย่างในรูปคือตราประทับที่ระลึกของศูนย์วัฒนธรรมและการท่องเที่ยวอาซากุสะ เขตไทโตะ ประกอบด้วยลวดลายของประตูคามินาริมง แพนด้าในสวนสัตว์อุเอโนะ และเรือนำเที่ยวล่องแม่น้ำสุมิดะ ซึ่งล้วนเป็นสัญลักษณ์ของย่านอาซากุสะ
ยิ่งกว่านั้น ที่ไปรษณีย์บางแห่งจะมีตราประทับไปรษณีย์ลวดลายพิเศษที่มักเป็นรูปสถานที่ท่องเที่ยวในเขตนั้นๆ แค่นำโปสการ์ดที่ติดแสตมป์เรียบร้อยแล้วไปยื่นให้พนักงานที่เคาน์เตอร์ไปรษณีย์ได้เลย
3. ให้สถานที่ท่องเที่ยวใน "Form Card" นำพาไป
นี่คือฟอร์มการ์ด (Form Card) เป็นโปสการ์ดที่ออกแบบเป็นรูปร่างพิเศษให้เข้ากับภาพของอาหารชื่อดังหรือสถานที่มีชื่อเสียงของแต่ละจังหวัดในญี่ปุ่น
ลวดลายของฟอร์มการ์ดจะแตกต่างกันไปตามแต่ละพื้นที่ อีกทั้งยังมีฟอร์มการ์ดลายพิเศษแบบจำนวนจำกัดออกใหม่ทุกๆ ปีด้วย จึงสามารถหาซื้อการ์ดลายที่แตกต่างจากเดิมได้ตลอด
ราคารวมภาษี 1 ใบเริ่มตั้งแต่ 185 เยนถึง 250 เยน ในกรณีที่ส่งไปต่างประเทศจำเป็นต้องใส่ฟอร์มการ์ดลงในซองจดหมายราคา 50 เยน และใช้แสตมป์ราคาประมาณ 250 เยน ขึ้นอยู่กับประเทศปลายทาง
ได้ฟอร์มการ์ดของโตเกียวสกายทรีมาแล้วค่ะ! นี่เป็นดีไซน์พิเศษของปี 2017 - 2018 เลยนะ ว่าแล้วก็รีบไปตามรอยสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ในฟอร์มการ์ดกันดีกว่า
มาถึงแล้วก็แชะรูปคู่ของฟอร์มการ์ดกับสถานที่จริงเสียหน่อย เท่านี้ก็ได้รูปถ่ายแบบไม่ซ้ำใครแล้ว!
P R
ผู้ใช้บริการรถไฟห้ามพลาด! แนะนำสถานที่ถอน - แลกเงินเยนแสนสะดวกในสถานีรถไฟ
ตามสถานีรถไฟในโตเกียวของบริษัทรถไฟ JR ตะวันออก (East Japan Railway Company) มีเคาน์เตอร์แลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศให้บริการ 7 แห่งและ ATM 10 แห่ง (ข้อมูล ณ เดือนมีนาคม 2018)
สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถเข้าไปดูได้จาก เว็บไซต์นี้
อ่านเพิ่มเติม:
เหมาะกับเป็นของฝากกลับไปสุดๆ ! “Form Card ประจำเขต” ที่หาซื้อได้ตามที่ทำการไปรษณีย์ทั่วประเทศ!
วิธีส่งโปสการ์ดจากญี่ปุ่นไปต่างประเทศ
เมื่อซื้อโปสการ์ดที่ถูกใจได้แล้วก็มาเขียนชื่อที่อยู่กัน ข้อควรระวังสำหรับการเขียนที่อยู่คือ ให้จับโปสการ์ดวางในแนวนอน เขียนชื่อและที่อยู่ผู้รับให้เขียนไว้ด้านบน ส่วนชื่อและที่อยู่ผู้ส่งให้เขียนไว้ด้านล่าง แล้วเขียนระบุไว้ตามจุดที่เห็นได้ชัดว่า AIR MAIL ด้วย สามารถดูภาพการจ่าหน้าแบบเข้าใจง่ายๆ ได้จากเว็บไซต์ไปรษณีย์ญี่ปุ่นนี้เลยค่ะ
ต่อไปก็จะมาแปะแสตมป์กัน แสตมป์สามารถซื้อได้ที่ไปรษณีย์และร้านสะดวกซื้อ แสตมป์ก็มีหลากหลายลาย ถ้าโชคดีอาจจะเจอลายที่น่ารักๆ ก็ได้นะ
หลังจากหย่อนลงตู้ไปรษณีย์แล้ว ปลายทางในภูมิภาคเอเชียจะใช้เวลาในการส่ง 4 - 7 วัน ส่วนปลายทางในภูมิภาคอเมริกาและยุโรปจะใช้เวลาประมาณ 7 วัน
บันทึกความทรงจำของการท่องเที่ยวด้วยโปสการ์ด
นอกจากวิธีที่แนะนำมาก็ยังมีวิธีสนุกกับโปสการ์ดได้อีกมากมาย หรืออาจจะลองหาวิธีใหม่ๆ ของตัวเอง ก็น่าจะช่วยเพิ่มความสนุกสนานและความทรงจำพิเศษๆ ให้กับการเดินทางได้มากขึ้นจริงไหมคะ
MATCHA編集・ライターのインターン生。カフェ・レストラン巡りと映画鑑賞が大好きな大学生。
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง