ตะลุย สวนอุเอโนะ (Ueno Park) แบบจัดเต็ม! สวนสัตว์ พิพิธภัณฑ์ วัด ศาลเจ้า

สวนอุเอโนะ

สวนอุเอโนะ (Ueno Park) หรือชื่อเต็ม อุเอโนะอนชิ (Ueno Onshi Koen) คือสวนสาธารณะที่ตั้งอยู่ในเขตไทโต โตเกียว โดยได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสวนสาธารณะแห่งแรกของญี่ปุ่นโดยรัฐบาลในปี 1873

ภายในพื้นที่กว้างประมาณ 530,000 ตารางเมตรเป็นที่ตั้งของสวนสัตว์อุเอโนะ สระน้ำชิโนบาซุ พิพิธภัณฑ์ศิลปะตะวันตกแห่งชาติ และพิพิธภัณฑ์ชิตะมาจิให้เพลิดเพลินกันอย่างจุใจ

สวนอุเอโนะก็ยังเป็นจุดชมซากุระขึ้นชื่ออีกด้วย เมื่อเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิจึงคึกคักไปด้วยผู้คนที่เดินทางมาชมซากุระกันอย่างมากมาย ในครั้งนี้เราจะพาไปเจาะลึกทุกซอกทุกมุมในสวนอุเอโนะแห่งนี้กัน

วิธีการเดินทางไปสวนอุเอโนะ

สถานีรถไฟที่ไปสวนอุเอโนะสะดวกที่สุดคือสถานีอุเอโนะ (Ueno) ของ JR และสถานีเคเซอุเอโนะ (Keisei Ueno) ของรถไฟเคเซ (Keisei)

สถานีอุเอโนะ (Ueno) ของ JR
ใช้ทางออก Park Exit หรือ Shinobazu Exit ข้ามถนนไปจะเป็นสวนอุเอโนะ

สถานีเคเซอุเอโนะ (Keisei Ueno) ของรถไฟเคเซ (Keisei)
ใช้ทางออกหลัก Main Exit เมื่อออกมาจนเจอถนนให้เลี้ยวซ้าย จะเจอบันไดขึ้นสวน

ที่เที่ยวน่าไปในสวนอุเอโนะ

มาดูที่เที่ยวน่าไปในสวนอุเอโนะกัน

1. สวนสัตว์อุเอโนะ (Ueno Zoo)

สวนสัตว์อุเอโนะ (Ueno Zoo) เป็นสวนสัตว์แห่งแรกของญี่ปุ่น ไม่ใช่แค่นักท่องเที่ยวเท่านั้นที่มา เพราะคนญี่ปุ่นเองก็ชอบมาที่สวนสัตว์อุเอโนะเหมือนกัน

ดูวิธีการเดินทางจากสถานีรถไฟมายังสวนสัตว์อุเอโนะกันได้ที่บทความ "วิธีการเดินทางจากสถานีอุเอโนะไปสวนสัตว์อุเอโนะ"

ดาราดังของสวนสัตว์อุเอโนะคือแพนด้า โดยเฉพาะ ชางชาง ที่เพิ่งเกิดเมื่อปี 2017 จากพ่อแพนด้าลีลีและแม่แพนด้าชินชิน

สัตว์อื่นๆ ก็มีอีกเยอะทั้งสัตว์ที่มีถิ่นกำเนิดเฉพาะในญี่ปุ่นอย่างนกกระเรียนมงกุฎแดง ลิงญี่ปุ่น และสัตว์แปลกๆ จากทั่วโลก

2. พิพิธภัณฑ์ศิลปะตะวันตกแห่งชาติ (National Museum of Western Art)

พิพิธภัณฑ์ศิลปะตะวันตกแห่งชาติ (National Museum of Western Art)
พิพิธภัณฑ์ศิลปะที่มีงานแสดงจากศิลปินต่างประเทศชื่อดังมากมายแทบตลอดทั้งปี ที่สำคัญคือตัวอาคารของพิพิธภัณฑ์ได้รับการออกแบบโดย Le Corbusier สถาปนิกชื่อดังแห่งศตวรรษที่ 20 และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าของญี่ปุ่นและมรดกโลกทางวัฒนธรรมด้วย

ด้านหน้าอาคารพิพิธภัณฑ์ก็มีประติมากรรมชื่อดัง The Thinker และ Gates of Hell ของโรแดงตั้งอยู่ ด้านในก็มีผลงานของศิลปินดังอย่างโมเนต์ และเรอนัวร์ด้วย ใครที่ชอบศิลปะตะวันตกต้องแวะมาซักครั้งจริงๆ

ที่อยู่ : 7-7 Ueno Park, Taito, Tokyo
เว็บไซต์ : http://www.nmwa.go.jp/en/

3. พิพิธภัณฑ์ศิลปะโตเกียว (Tokyo Metropolitan Art Museum)

พิพิธภัณฑ์ศิลปะโตเกียว (Tokyo Metropolitan Art Museum) แห่งนี้เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะของรัฐแห่งแรกในญี่ปุ่น เปิดทำการในปี 1926 จัดแสดงผลงานของศิลปินญี่ปุ่นและต่างประเทศมากมายตลอดปี

ที่อยู่ : 7-47 Ueno Park, Taito, Tokyo
เว็บไซต์ : https://www.tobikan.jp/en/index.html

4. พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติและวิทยาศาสตร์แห่งชาติ (National Museum of Nature and Science)

พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติและวิทยาศาสตร์แห่งชาติ (National Museum of Nature and Science) พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติเพียงแห่งเดียวและใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น

ด้านในจะแบ่งออกเป็นสองส่วนใหญ่ๆ คือ "จิคิวคัง (Jikyu-kan : Global Gallery)" และ "นิฮงคัง (Nihon-kan : Japan Gallery)"

จิคิวคัง (Jikyu-kan : Global Gallery) จะเน้นการจัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับโลกมนุษย์ทั้งด้านวิวัฒนาการและความหลากหลายทางธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต มีโครงกระดูกไดโนเสาร์ขนาดเท่าจริง ระบบนิเวศของโลก ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และการวิจัยเกี่ยวกับอวกาศ และส่วนเด็กเล่นสำหรับเด็กอายุ 4-6 ปี

นิฮงคัง (Nihon-kan : Japan Gallery) เน้นเรื่องราวเกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่นเป็นหลัก ย้อนกลับไปตั้งแต่ยุคไดโนเสาร์ มีการจัดแสดงฟอสซิลอย่างฟุตาบะซอรัส ไดโนเสาร์พันธุ์คอยาวที่ขุดพบเจอตัวแรกในประเทศญี่ปุ่น ความเป็นอยู่ของชาวญี่ปุ่นในอดีต สิ่งมีชีวิตทั้งบนบกและในทะเล และวิวัฒนาการทางเทคโนโลยีต่างๆ อย่างเครื่องมือสังเกตธรรมชาติ กล้องดูดาว นาฬิกาโบราณ

ที่อยู่ : 7-20 Ueno Park, Taito, Tokyo
เว็บไซต์ : http://www.kahaku.go.jp/english/

6. สระน้ำชิโนบาซุ (Shinobazu Pond)

สระน้ำชิโนบาซุ (Shinobazu Pond) เป็นสระน้ำธรรมชาติขนาด 110,000 ตารางเมตร คือ บ่อน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่ขนาดกว้างกว่า 110,000 ตารางเมตร แบ่งออกเป็น 3 ส่วนคือ สระบัว ที่มีดอกบัวสีชมพูและขาวบานสวยในฤดูร้อน สระนกกาน้ำ ที่อยู่อาศัยของนกกาน้ำใหญ่ และสระเรือ มีเรือพายและเรือถีบให้นั่งชมวิวกลางน้ำ

7. เจดีย์หกเหลี่ยม เบ็นเท็นโด (Bentendo)

เบ็นเท็นโด (Bentendo) คือเจดีย์หกเหลี่ยมที่ตั้งอยู่บนเกาะกลางสระน้ำชิโนบาซุ สักการะเบ็นไซเท็น เทพเจ้าแห่งโชคลาภ การศึกษา ศิลปะ ทรัพย์สมบัติ และความสัมพันธ์ บริเวณโดยรอบเบ็นเท็นโดมีแผ่นศิลาจารึกที่สร้างขึ้นเพื่อแสดงความขอบคุณต่อตะพาบน้ำ ปลาปักเป้า แว่น และมีด! ถือเป็นของแปลกที่น่ามาดูสักครั้ง

8. วัดคิโยมิซุ คันนงโด (Kiyomizu Kannon-do Temple)

วัดคิโยมิซุ คันนงโด (Kiyomizu Kannon-do Temple) วัดนิกายเทียนไถที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่า มีต้นสนรูปพระจันทร์ สึกิโนะมัตสึ ที่ลำต้นโค้งเป็นวงกลม เป็นต้นแบบให้แก่หนึ่งในภาพพิมพ์อุคิโยะเอะชุด 100 ทิวทัศน์ขึ้นชื่อของเอโดะ โดยอุตากาวะ ฮิโรชิเกะ

9. ศาลเจ้าอุเอโนะโทโชกู (Ueno Toshogu)

ศาลเจ้าอุเอโนะโทโชกู (Ueno Toshogu) วัดที่สักการะบูชาโทคุกาวะ อิเอยาซุ, โทคุกาวะ โยชิมุเนะ และ โทคุกาวะ โยชิโนบุ โชกุนผู้ปกครองญี่ปุ่นในยุคเอโดะ ที่นี่มีเชื่อเสียงเรื่องการให้โชคและเรื่องการศึกษา จึงมักมีนักเรียน นักศึกษาแวะเวียนกันมาไหว้ขอพรและซื้อเครื่องรางกันเป็นประจำ

วิหารหลัก ประตูคารามง และกำแพงซุกิเบ (*1) สร้างขึ้นในปี 1651 ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าของชาติ สถาปัตยกรรมเหล่านี้เป็นสถาปัตยกรรมแบบเอโดะ มีเอกลักษณ์อยู่ที่การใช้สีแดงชาดและทองคำเปลวดูหรูหรา

ที่นี่เป็นจุดชมดอกซากุระและดอกโบตั๋นในฤดูใบไม้ผลิ ชมใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง และมาชมดอกโบตั๋นฤดูหนาวและไหว้เจ้าขอพรปีใหม่

*1 : กำแพงซุกิเบ ... กำแพงปรุจากการแกะสลักหรือกำแพงที่เป็นระแนงไม้ สามารถมองทะลุเห็นอีกฝั่งได้

ที่อยู่ : 9-88 Ueno Park, Taito, Tokyo
เว็บไซต์ : http://www.uenotoshogu.com/en/

10. พิพิธภัณฑ์ชิตะมาจิ (Shitamachi Museum）

พิพิธภัณฑ์ชิตะมาจิ (Shitamachi Museum) คำว่าชิตะมาจิหมายถึงย่านกลางเมืองเก่าที่มักเต็มไปด้วยร้านค้าและชาวบ้านทั่วไป เมื่อพูดคำว่าชิตะมาจิ คนญี่ปุ่นจะนึกไปถึงอาคารบ้านเรือนไม้แบบเก่าๆ และพิพิธภัณฑ์ชิตะมาจิ (Shitamachi Museum) ก็คือสถานที่ที่จะทำให้เราได้สัมผัสบรรยากาศในวันวานของเอโดะ หรือโตเกียวในอดีต

ด้านในจัดแสดงบ้านของชาวบ้านและร้านค้าแบบเมื่อ 100 ปีก่อน มีข้าวของเครื่องใช้ในอดีตอย่างกระดานไม้ซักผ้า ที่สูบน้ำโบราณ สายหนีบเกี๊ยะ สามารถเดินเข้าไปในบ้านเพื่อถ่ายรูปได้ด้วย เหมือนได้ย้อนเวลากลับไปสัมผัสวิถีชีวิตของคนญี่ปุ่นสมัยก่อนจริงๆ เลย

11. พระใหญ่ อุเอโนะไดบุตสึ (Ueno Daibutsu)

พระใหญ่ อุเอโนะไดบุตสึ (Ueno Daibutsu) แต่เดิมเป็นพระพุทธรูปปางสมาธิแบบเต็มองค์สูงราว 6 เมตร แต่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและสงครามที่เกิดขึ้นบ่อยในสมัยนั้น จึงหลงเหลือเพียงส่วนพระพักตร์ (หน้า) เท่านั้น

ตรงนี้ก็เป็นจุดขอพรที่โด่งดังในกลุ่มนักเรียนนักศึกษาเตรียมสอบเหมือนกัน เพราะหลังจากส่วนพระพักตร์ตกลงมาและส่วนอื่นๆ ของพระพุทธรูปที่เสียหายก็ถูกนำไปใช้หมดเลยถือว่า "ไม่มีอะไรให้ตกอีกแล้ว" เปรียบได้กับ "จะไม่สอบตก" นั่นเอง

12. STARBUCKS สาขาอุเอโนะ

STARBUCKS สาขาอุเอโนะ ร้านสตาร์บัคส์สาขาสวนอุเอโนะแห่งนี้ขึ้นชื่อเรื่องดีไซน์สวยๆ โดยเอาศิลปะดั้งเดิมของญี่ปุ่นอย่างการย้อมสีมาเป็นธีมในการออกแบบ

บานหน้าต่างขนาดใหญ่ช่วยให้มองเห็นสวนสวยและน้ำพุได้จากด้านใน ถ้าวันที่อากาศดีๆ ก็เหมาะจะออกมานั่งตรงระเบียงด้านนอกมาก

13. คาเฟ่ Park Side Cafe

พาร์คไซด์คาเฟ่ (Park Side Cafe) คาเฟ่อีกแห่งที่ตั้งอยู่ตรงข้ามสตาร์บัคส์ เหมาะจะมานั่งจิบกาแฟชมธรรมชาติในสวนแบบชิลล์ๆ

ชมซากุระในสวนอุเอโนะ (ช่วงเวลา - ข้อควรระวัง)

สวนอุเอโนะเป็นจุดชมซากุระที่มีชื่อเสียงมาตั้งแต่ยุคเอโดะ มีซากุระกว่า 40 สายพันธุ์รวม 1,200 ต้น

ช่วงปลายเดือนมีนาคม - ต้นเดือนเมษายนนับเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการชมซากุระในโตเกียว

ช่วงที่ซากุระบานคือราวกลางเดือนมีนาคม - ต้นเดือนเมษายน ช่วงนี้จะมีการจัดงานเทศกาลซากุระสวนอุเอโนะ (Ueno Sakura Festival) เป็นประจำทุกปี มีการประดับโคมไฟและไลท์อัพต้นซากุระในตอนกลางคืน นอกจากนี้ก็ยังมีร้านยะไต (แผงลอย) ขายอาหารอย่างยากิโทริและยากิโซบะด้วย ช่วงนี้จะมีผู้คนจำนวนมหาศาลเดินทางมาชมซากุระกันอย่างคึกคัก

บางครั้งตามแหล่งรวมผู้คนมากมายในช่วงเทศกาลชมซากุระนั้นอาจเกิดปัญหาสัญญาณโทรศัพท์ไม่มี ติดต่อกันยาก แนะนำให้นัดพบกันจากด้านนอกแล้วเดินเข้ามาพร้อมกัน

ข้อมูลที่มีประโยชน์ต่อการท่องเที่ยว

สำหรับใครที่กำลังมองหาที่แลกเงินเยนหรือเงินสกุลต่างประเทศก็สามารถใช้บริการแลกเงินตราต่างประเทศของธนาคารหรือตู้ ATM ตามเซเว่นอีเลฟเว่นได้เลย หรือถ้าเงินสดหมดก็หาตู้ ATM ที่มีสัญลักษณ์ PLUS ก็จะสามารถกดเงินสดระหว่างประเทศได้อย่างง่ายดาย

ที่ญี่ปุ่นยังมีบริการไวไฟฟรี Japan Connected-free Wi-Fi แสนสะดวกสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติด้วย ลองดาวน์โหลดแอปพลิเคชันไว้ล่วงหน้าได้