สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำในอิบารากิ สัมผัสกับประเพณีญี่ปุ่นและวัฒนธรรมใหม่

แนะนำการไปชมใบไม้เปลี่ยนสีช่วงฤดูใบไม้ร่วงพร้อมที่เที่ยวแนะนำ (โตเกียว เกียวโต ฮาโกเน่)

บริการนี้รวมโฆษณาที่ได้รับการสนับสนุน
article thumbnail image

บทความแนะนำช่วงเวลาสำหรับชมใบไม้เปลี่ยนสี, แหล่งชมใบไม้เปลี่ยนสีขึ้นชื่อ และข้อควรระวังตอนชมใบไม้เปลี่ยนสีซึ่งนับเป็นกิจกรรมผ่อนคลายยอดนิยมของคนญี่ปุ่น

วันที่ปรับปรุงล่าสุด :

ใบไม้แดงแสนสวยของฤดูใบไม้ร่วง

紅葉

นักท่องเที่ยวชาวไทยหลายๆ คนเลือกจะมาญี่ปุ่นในช่วงฤดูใบไม้ร่วงราวเดือนตุลาคม - พฤศจิกายน นอกจากอากาศจะเย็นสบายแล้วอีกหนึ่งเหตุผลก็น่าจะไม่พ้นใบไม้แดงสวยๆ

ใบไม้แดงก็คล้ายกับซากุระที่มีดอกหลากสีสันตั้งแต่ชมพูอ่อนเกือบขาวไปจนถึงชมพูเข้ม ใบของต้นไม้ต่างชนิดจะมีสีและเวลาของการเริ่มเปลี่ยนสีต่างกันไป

แล้วเมื่อไหร่ใบไม้ถึงจะเริ่มเปลี่ยนสี ถ้ามาเที่ยวช่วงนั้นต้องแต่งตัวยังไงดี ไปดูใบไม้เปลี่ยนสีที่ไหนได้บ้าง เรารวมมาให้แล้ว!

ใบไม้เปลี่ยนสีเริ่มเมื่อไหร่

hokkaidou kouyou_1028j

ฤดูใบไม้เปลี่ยนสีจะอยู่ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง พูดรวมๆ ก็ราวเดือนตุลาคม - ต้นธันวาคม

แต่ประเทศญี่ปุ่นมีลักษณะเป็นแนวยาวเหนือใต้ เพราะฉะนั้นอากาศจะเริ่มเย็นจากจังหวัดทางเหนือไล่ลงไปทางใต้ ใบไม้ก็จะเริ่มเปลี่ยนสีตามนั้นเช่นกัน ลองดูค่าเฉลี่ยช่วงพีคของใบไม้เปลี่ยนสี และอุณหภูมิในช่วงนั้นจากตารางด้านล่างได้เลย

สถานที่ ช่วงพีคเฉลี่ยจากปีก่อนๆ อุณหภูมิเฉลี่ยในช่วงพีค
(องศาเซลเซียส)
ฮอกไกโด (ซุเอฮิโระ) กลางตุลาคม 10.0
ฮอกไกโด (ซัปโปโร) ปลายตุลาคม 11.8
มิยางิ - เซ็นได กลางพฤศจิกายน 9.4
คานาซาวะ ปลายพฤศจิกายน 11.5
โตเกียว ปลายพฤศจิกายน 12.1
นาโกย่า ปลายพฤศจิกายน 12.2
เกียวโต ต้นธันวาคม 7.0
โอซาก้า ต้นธันวาคม 8.6
ฮิโรชิม่า กลางพฤศจิกายน 12.5
ฟุกุโอกะ ปลายพฤศจิกายน 13.8

ความสูงของพื้นที่ก็มีผลต่อการเริ่มเปลี่ยนสีของใบไม้เหมือนกัน เช่น เขาไดเซ็ตสึซัง ของฮอกไกโด ที่เรียกกันว่าสถานที่ที่ใบไม้เปลี่ยนสีเร็วที่สุดในญี่ปุ่น เฉลี่ยจะเริ่มมีใบไม้เปลี่ยนสีตั้งแต่ประมาณปลายเดือนสิงหาคมเลย

ต้นไม้บางพันธุ์ใช้เวลาแค่ 2 อาทิตย์ตั้งแต่เริ่มเปลี่ยนสีก็ร่วงแล้ว แต่บางพันธุ์ก็นานถึง 1 เดือน แต่อย่างว่าเรื่องของธรรมชาติเอาแน่เอานอนไม่ได้ บางปีหนาวเร็ว บางปีหนาวช้า บางปีมีฝนตก ช่วงเวลาที่ได้ดูก็อาจจะเร็วขึ้นหรือช้าลงได้เหมือนกัน

สภาพอากาศและการแต่งกายในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี

紅葉

จาก "เช็คให้พร้อม! สภาพอากาศ การแต่งตัว และที่เที่ยวใบไม้แดง เดือนตุลาคม-พฤศจิกายน

สภาพอากาศช่วงเดือนตุลาคม - ธันวาคมของญี่ปุ่นโดยรวมจะค่อนข้างเย็นสบาย ฝนไม่ค่อยตก

เดือนตุลาคมสวมเสื้อแขนยาวหรือสเว็ตเตอร์เนื้อบาง เดือนพฤศจิกายนอากาศเริ่มเย็นขึ้นแล้ว แนะนำให้พกแจ๊กเก็ตหรือสเวตเตอร์เนื้อหนา ส่วนเดือนธันวาคมไม่ว่าจะที่ไหนอากาศก็ค่อนข้างหนาว แนะนำให้พกเสื้อโค้ทกันหนาว

ลองดูเรื่องเกี่ยวกับสภาพอากาศและการแต่งกายเพิ่มได้ที่บทความ "เช็คให้พร้อม! สภาพอากาศ การแต่งตัว และที่เที่ยวใบไม้แดง เดือนตุลาคม-พฤศจิกายน

ข้อควรระวังและสิ่งของควรพกเวลาไปชมใบไม้เปลี่ยนสี

紅葉

คนญี่ปุ่นจะเรียกการไปเที่ยวตระเวนชมใบไม้เปลี่ยนสีว่าโมมิจิการิ คำว่า "การิ" จริงๆ แล้วจะแปลว่า "การล่า" แต่ในที่นี้หมายถึงการไปชมใบไม้เปลี่ยนสีตามป่าตามเขา

ถ้าจะไปชมใบไม้เปลี่ยนสีตามพื้นที่ธรรมชาติอย่างบนเขาขอแนะนำให้สวมรองเท้าที่เดินสะดวก ยิ่งพื้นที่สูงอากาศก็ยิ่งหนาว อย่าลืมพกอุปกรณ์กันหนาวให้พร้อม จะให้ดีก็เผื่อชุดคลุมกันฝนหรือร่มติดไปด้วยเพราะอากาศบนเขาเปลี่ยนแปลงง่าย

ถ้าไปแล้วใบไม้ร่วงจากต้นแล้วก็อย่าเพิ่งเสียใจ เพราะใบไม้เหลืองแดงที่ตกบนพื้นจะดูเหมือนกับพรมแสนสวยเลย

8 จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีแนะนำทั่วประเทศ

สถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีสวยๆ ในญี่ปุ่นมีหลายที่เลย แต่เราขอเลือกเอา 8 ที่เด่นๆ มาให้เป็นตัวเลือกกัน

1. โจซังเค (ฮอกไกโด)

北海道

นั่งรถบัสจากกลางเมืองซัปโปโรไปแค่ประมาณ 1 ชั่วโมงก็จะถึง โจซังเค (Jozankei) หุบเขาที่มีแม่น้ำลัดเลาะพร้อมใบไม้สีเหลืองทอง

จะมาขี่ม้าหรือพายเรือแคนูเหมือนในรูปเพื่อดูใบไม้เปลี่ยนสีสวยๆ ก็ได้ นั่งกระเช้าโรปเวย์ไปบนเขาเพื่อดูวิวสวยๆ ก็ได้ ก่อนกลับก็มาแวะแช่ออนเซ็นร้อนๆ ให้สบายตัวกันก่อนกลับ


2. โออิราเซะเคริว (อาโอโมริ)

奧入瀨溪流

โออิราเซะเคริว (Oirase Keiryu) ลำธารใสยาวร่วม 14 กิโลเมตรที่ไหลมาจากทะเลสาบโทวะดะ จังหวัดอาโอโมริ ตลอดเส้นทางสองฝั่งริมธารน้ำเต็มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่และหินสวยให้เดินชมธรรมชาติกันได้อย่างสบายๆ

สามารถมาเดินเล่นได้ตลอดทั้งปี แต่ในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีจะสวยมากเป็นพิเศษด้วยสีสันสดสวยทั่วป่า ทางเดินชมธรรมชาติก็มีใหห้พร้อม


3. ศาลเจ้านิกโก้โทโชกู (นิกโก้)

日光

Picture courtesy of Nikko City Tourism Association
นิกโก้โทโชกู (Nikko Toshogu) สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของนิกโก้ จังหวัดโทจิกิ ต้องไปชมใบไม้เปลี่ยนสีพร้อมสะพานชินเคียวสีแดงชาดของศาลเจ้าฟุตาระซังให้ได้ หรือจะไปที่น้ำตกเคะกง ที่มีสายน้ำตกเป็นทางยาวจากความสูงร่วม 100 เมตรก็ได้

ลองดูบทความเที่ยวชมใบไม้เปลี่ยนสีใน 1 วันของนิกโก้ได้ที่บทความ "แผนเที่ยวชมใบไม้เปลี่ยนสี 1 วันที่นิกโก้ พร้อมไปเที่ยวแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อ เช่น ทะเลสาบชูเซนจิและน้ำตกเคะกง"


4. สวนริคุกิเอ็น (โตเกียว)

六義園

สวนริคุกิเอ็น (Rikugien) หนึ่งในจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีไม่กี่แห่งของโตเกียว ได้รับการสร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1702 เป็นสวนญี่ปุ่นที่มีประวัติยาวนาน ในฤดูใบไม้ร่วงจะมีใบไม้เปลี่ยนสีสวยๆ จากต้นไม้กว่า 500 ต้นให้ชม

ช่วงหัวค่ำหลังพระอาทิตย์ตกดินจะมีการเปิดไฟไลท์อัพด้วย ได้บรรยากาศที่ต่างจากการมาเดินชมตอนกลางวัน


5. วัดริรุโคอิน (เกียวโต)

kouyou20160813a

จาก "รุริโคอิน วิวใบไม้เปลี่ยนสีที่งดงามราวภาพศิลปะในเกียวโต (Rurikoin, Kyoto)"

วัดริรุโคอิน (Rirukoin Temple) ในจังหวัดเกียวโต เป็นหนึ่งในจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่่ค่อนข้างจะวงใน แสงและเงาที่ต้องกระทบใบไม้สร้างสีสันสวยงามชวนมอง ดูราวกับภาพวาดศิลปะยังไงยังงั้น


6. สวนมิโน (โอซาก้า)

紅葉

สถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีชื่อดังของโอซาก้าก็ต้อง สวนมิโน (Mino Park) จากทางเข้าสวนจะมีทางเดิน (*) ระยะทาง 2.8 กิโลเมตรที่ลัดเลาะไปตามเทือกเขาท่ามกลางใบไม้เปลี่ยนสี นำไปสู่น้ำตกมิโนด้านใน

* หมายเหตุ เส้นทางบางส่วนปิดซ่อมแซม แต่สามารถเดินเข้าไปถึงน้ำตกได้

紅葉

ของแปลกต้องลองของที่นี่คือ โมมิจิ โนะ เท็มปุระ หรือเท็มปุระใบเมเปิ้ลนี่เอง แป้งด้านนอกรสออกหวาน อร่อยจนหมดไม่รู้ตัวเลย

7. สวนโมมิจิดานิ (ฮิโรชิม่า)

広島

Picture courtesy of Hiroshima Prefecture

สวนโมมิจิดานิ (Momijidani Park) ห่างจากมรดกโลกอย่างศาลเจ้าอิตสึคุชิมะด้วยการเดินเท้าเพียงประมาณ 10 นาทีเท่านั้น มีต้นเมเปิ้ลกว่า 700 ต้นอวดสีสันสดใสตั้งแต่ช่วงกลางเดือน - ปลายเดือนพฤศจิกายน จุดถ่ายรูปสวยๆ คือสะพานโมมิจิที่ห้อมล้อมด้วยใบไม้เปลี่ยนสีแสนสวย

8. สวนไมซุรุ (ฟุกุโอกะ)

福岡

Picture courtesy of Fukuoka City

สวนไมซุรุ (Maizuru Park) ของจังหวัดฟุกุโอกะ เดิมเป็นที่ตั้งของปราสาทฟุกุโอกะที่เคยถูกสร้างขึ้นในสมัยเอโดะ ยังมีก้อนหินที่ถูกใช้เป็นฐานปราสาทหลงเหลือให้เห็นได้อยู่

ข้างๆ กันมีสวนญี่ปุ่นโอโฮริ (Ohori Park) สามารถแวะไปชมพร้อมกันได้เลย

ต้นกำเนิดของการไปชมใบไม้เปลี่ยนสี

momijigari20160719a

คนญี่ปุ่นเริ่มนำเอาการชมใบไม้เปลี่ยนสีมาเป็นหนึ่งในกิจกรรมสันทนาการช่วงกลางยุคเอโดะ (ปี 1603 - 1868) แต่ตามบันทึกในมันโยชู หนังสือบทกวีที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่นที่รวบรวมขึ้นราวช่วงศตวรรษที่ 8 ได้มีวากะ (บทกลอนญี่ปุ่น) ที่กล่าวชมความงามของต้นแปะก๊วยอยู่ด้วย หลายคนก็คาดว่านี่อาจจะเป็นต้นกำเนิดการชมใบไม้เปลี่ยนสีก็ได้

โมมิจิการิ (紅葉狩り : Momijigari) โมมิจิ แปลว่าใบไม้เปลี่ยนสี ส่วน การิ แปลว่า การล่า เช่นการล่าสัตว์ บางเรื่องเล่าก็บอกว่าที่คำนี้ถูกนำมาใช้กับใบไม้เปลี่ยนสีเพราะเหล่าขุนนางชั้นสูงในสมัยก่อนเดินทางออกไปเก็บใบไม้เปลี่ยนสีสวยๆ จึงมีการคิดคำนี้ขึ้นมา

อีกหนึ่งเรื่องเล่าคือมียักษ์สาวนามว่า โมมิจิ คอยทำร้ายนักเดินทางบนเขาโทกาคุชิยามะ ที่อยู่ในจังหวัดนากาโนะ พระจักรพรรดิในตอนนั้นจึงมีบัญชาให้ล่ายักษ์ตนนี้ จึงเป็นที่มาของคำว่า "โมมิจิการิ" และมีการนำไปสร้างเป็นบทละครโนห์ ละครคาบูกิด้วย

ไปตามล่าใบไม้เปลี่ยนสีแสนสวยกัน!

ไม่นึกเลยว่าการไปชมใบไม้เปลี่ยนสีจะเป็นประเพณีที่มีมายาวนานขนาดนี้ ถ้ากำลังวางแผนจะมาเที่ยวญี่ปุ่นก็ลองมาในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่มีอากาศเย็นสบายและใบไม้เปลี่ยนสีสวยๆ ให้ชมกันนะ


ผู้เขียนบทความต้นฉบับ : Sawada Tomomi
บทความนี้เรียบเรียงใหม่จากบทความที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2016

Written by

นี่คือบัญชีของกองบรรณาธิการ MATCHA เราจะเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่นที่นักท่องเที่ยวอยากรู้ รวมถึงเสน่ห์ที่ซ่อนอยู่ของญี่ปุ่นที่ยังไม่มีใครรู้จัก

เนื้อหาในบทความนี้อ้างอิงจากการเก็บข้อมูลในช่วงเวลาที่เขียนบทความ อาจมีการเปลี่ยนแปลงของรายละเอียดสินค้า บริการ ราคาในภายหลังได้ กรุณาตรวจสอบกับสถานที่นั้นอีกครั้งก่อนการไปใช้บริการ
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง

อันดับ

ไม่พบบทความ