แพลนเที่ยวสัมผัสเสน่ห์ของเมืองทตโตริ เดินทางจากโอซาก้าจัดเต็ม 2 วัน 1 คืน! (Tottori)
มาพักที่โอซาก้าทั้งทีต้องหาเวลาเที่ยวจังหวัดอื่นแถวนั้นด้วยนะ! แนะนำทริปนั่งรถบัสแบบสบายกระเป๋า 2 วัน ไปเที่ยวทตโตริ เมืองแห่งศิลปะทรายและเนินทรายยิ่งใหญ่ แล้วยังมีชายทะเลแสนสวย และอาหารท้องถิ่นชั้นเลิศ ทริปนี้จะทำให้เราได้ค้นพบสิ่งใหม่ๆ เพียบแน่นอน!
ออกสำรวจเมืองทตโตริที่มีเสน่ห์ซุกซ่อนอยู่มากมาย!
จังหวัดทตโตริขึ้นชื่อเรื่องเนินทรายทตโตริที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ทรายที่มีจำนวนมหาศาลนั้นจึงถูกนำมาใช้สร้างประติมากรรมทรายซึ่งสามารถพบเห็นได้ทางฝั่งตะวันออกของจังหวัดทตโตริ
ในครั้งนี้เราจะมาแนะนำแผนเที่ยวตัวอย่างแบบ 2 วันสำหรับผู้ที่อยากเดินทางจากโอซาก้าไปเที่ยวเมืองทตโตริ โดยใช้บริการรถบัสด่วนแสนสะดวกที่วิ่งให้บริการระหว่าง 2 เมืองกันค่ะ บอกเลยว่าทริปนี้มีกิจกรรมสนุกๆ ให้ทำเพียบ รับรองว่าทุกคนจะได้เพลิดเพลินกับเสน่ห์ที่ซุกซ่อนอยู่ภายในทตโตริกันอย่างจุใจแน่นอน!
วันที่ 1 : เพลิดเพลินไปกับทราย!
7:00 - 9:52 มุ่งหน้าจากสถานีรถบัสนัมบะ OCAT (Namba Osaka City Air Terminal) สู่สถานีรถบัสสถานีทตโตริ (Tottori Station Bus Terminal)
เราสามารถนั่งรถบัสด่วนแสนสะดวกจากโอซาก้าซึ่งเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมที่สุดของญี่ปุ่นไปยังทตโตริได้ รถบัสจะวิ่งให้บริการจากสถานีรถบัสนัมบะ OCAT (Namba Osaka City Air Terminal) ตรงไปถึงสถานีรถบัสสถานีทตโตริ (Tottori Station Bus Terminal) ที่ด้านหน้าสถานีทตโตริ (Tottori) โดยไม่ต้องต่อรถ ค่าโดยสารเที่ยวละ 3,700 เยนได้ในเวลาไม่ถึง 3 ชั่วโมงก็ไปถึงทตโตริได้
เมื่อเดินทางมาถึงทตโตริแล้วก็นั่งรถบัสประจำทางหรือเช่ารถยนต์เพื่อมุ่งหน้าต่อไปยังสถานที่ที่เราจะมาแนะนำกันในบทความนี้ได้เลย สำหรับใครที่ต้องการนั่งรถบัส แนะนำให้เช็คตารางเวลาเดินรถและปรับกำหนดการท่องเที่ยวตามเวลากันด้วยนะคะ
10:30 เที่ยวรอบโลกด้วยทรายที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะทราย (Sand Museum)
พิพิธภัณฑ์ศิลปะทราย (Sand Museum) แห่งนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวห้ามพลาดเมื่อได้เดินทางมาเที่ยวทตโตริ ที่นี่เป็นสถานที่จัดแสดงประติมากรรมทรายขนาดใหญ่สุดงดงามและพิถีพิถัน
ธีมหลักของพิพิธภัณฑ์ศิลปะทรายในช่วงหลายปีมานี้คือ "เที่ยวรอบโลกผ่านทราย" ซึ่งคอนเซ็ปต์ในปีนี้ได้แก่ประเทศยุโรปทางเหนือ ส่วนประเทศที่เคยจัดมาแล้วได้แก่ สหรัฐอเมริกา แอฟริกา อังกฤษ และเยอรมัน
เสน่ห์อย่างหนึ่งของพิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งนี้เลยก็คือผลงานศิลปะของที่นี่เป็นแบบชั่วคราวนี่ล่ะค่ะ แม้ว่าประติมากรรมทรายจะเคยผ่านเหตุการณ์แผ่นดินไหวในอดีตมาได้ก็จริง แต่ผลงานเหล่านี้เมื่อครบปีก็จะถูกทำลายลงจนหมดสิ้น เพื่อเตรียมพื้นที่เอาไว้สร้างผลงานชิ้นใหม่ตามเรื่องราวที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะทรายจะเล่าต่อไปนั่นเอง
12:00 - 13:00 อิ่มอร่อยกับมื้อกลางวันแถวเนินทราย! กับพาสต้ากุ้งแสนอร่อยที่ร้าน สุคัตโตะ (SUKATTO)
ร้านสุคัตโตะ (SUKATTO) ตั้งอยู่ห่างจากพิพิธภัณฑ์ศิลปะทรายด้วยการเดินเพียงแป๊บเดียวเท่านั้น แม้กระทั่งทางเข้าร้านอาหารก็ยังมีประติมากรรมทรายขนาดเล็กตั้งเอาไว้ต้อนรับแขกเลย ที่นี่เป็นร้านอาหารอิตาเลียนเล็กๆ แสนพิเศษที่ขึ้นชื่อเรื่องเมนูพิซซ่าและพาสต้า
ช่วงระหว่างเดือนกันยายนถึงเดือนพฤษภาคมตรงกับฤดูกาลของกุ้งโมสะในทตโตริ กุ้งโมสะขึ้นชื่อเรื่องรสชาติหวานเป็นเอกลักษณ์และสามารถทานได้ทั้งแบบสดๆ และแบบปรุงสุก
ในช่วงดังกล่าวร้านสุคัตโตะจะเสิร์ฟเมนูพาสต้ากุ้งโมสะซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของผู้คนมากมาย พาสต้ากุ้งซอสครีมเข้มข้นโปะหน้าด้วยกุ้งโมสะย่างนับเป็นสุดยอดเมนูที่สามารถหาทานได้เฉพาะในทตโตริเลยก็ว่าได้นะ!
13:00 - 14:00 สนุกกับเนินทรายทตโตริ (Tottori Sand Dunes) ชื่อดัง
หลังจากทานมื้อเที่ยงที่ร้านสุคัตโตะจนเต็มอิ่มแล้วก็มุ่งหน้าสู่เนินทรายกัน แค่เดินข้ามฟากถนนไปก็ถึงแล้ว เลือกทางที่ถูกใจทางไหนก็ได้ลงไปยังเนินทรายได้เลย
เมื่อเดินทางมาถึงเนินทรายก็รู้สึกราวกับว่าอยู่ที่ทะเลทรายในต่างประเทศกันเลยทีเดียว ที่นี่เป็นเนินทรายกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตาที่มีอูฐอยู่ด้วย แถมยังเต็มไปด้วยกิจกรรมมากมายที่ในญี่ปุ่นมีให้สนุกกันได้แค่ที่นี่ด้วยนะ!
พอขึ้นมาถึงยอดเนินทรายแล้วก็จะได้เพลิดเพลินกับทัศนียภาพอันงดงามกว้างใหญ่ที่มองเห็นไปถึงเส้นขอบฟ้าอันไกลลิบ เราสามารถชมทัศนียภาพที่แตกต่างกันได้ตลอดทั้งปี อย่างในฤดูหนาว บางครั้งเราจะได้ชมหิมะปกคลุมทั่วทั้งเนินทรายสวยงามมาก
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
15:00 - 17:00 ชมพระอาทิตย์ยามเย็นริมชายฝั่งอุระโดเมะ (Uradome Coast)
ชายฝั่งอุระโดเมะ (Uradome Coast) ทอดยาวครอบคลุมพื้นที่อันกว้างใหญ่ของชายฝั่งด้านทะเลญี่ปุ่น ขอแนะนำให้เช่ารถยนต์หรือนั่งรถบัสไปยังโซนชายฝั่งทะเลในบริเวณที่สนใจมากเป็นพิเศษได้เลย สำหรับรายชื่อสถานที่แนะนำตามชายฝั่งทะเลอุระโดเมะสามารถเข้าไปเช็คได้จากบทความด้านล่างนี้เลย
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำห้ามพลาดเลยก็คือโขดหินชื่อดังบริเวณชายฝั่งชิราวาระ (Shirawara Coast) ใครที่อยากมาเดินเล่นหรือนั่งชิลล์ๆ ริมชายทะเลพลางชมพระอาทิตย์ยามเย็นก็เหมาะเลย
18:00 - เช็คอินที่ ทาบิบิโตะ โนะ ยาโดะ โน้ต (Tabibitonoyado NOTE) ที่พักที่เหมือนบ้าน!
ทาบิบิโตะ โนะ ยาโดะ โน้ต (Tabibitonoyado NOTE) แห่งนี้เป็นที่พักราคาสบายกระเป๋าที่ตั้งอยู่ใกล้กับชายฝั่งทะเล มีบรรยากาศแสนอบอุ่น จึงเป็นที่ถูกใจของบรรดานักท่องเที่ยวมากมาย แถมเจ้าของที่พักก็สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้มารอต้อนรับทุกท่านอีกต่างหาก
ที่นี่เป็นอาคาร 2 ชั้นซึ่งรีโนเวทมาจากบ้านไม้แบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น มีทั้งห้องพบปะสังสรรค์ส่วนกลางและห้องอาบน้ำฝักบัวให้บริการ ภายในห้องเสื่อทาทามิสไตล์ญี่ปุ่นมีการจัดเตรียมฟูกนอนแสนสบายเอาไว้ให้
สำหรับใครที่ต้องการห้องพักแบบไหนก็สามารถติดต่อที่พักล่วงหน้าได้เลย
เราสามารถเลือกได้ว่าจะเอามื้อเย็นและมื้อเช้าซึ่งเป็นอาหารแบบพื้นบ้านหรือว่าจะไม่เอาเลยก็ได้ แต่ถ้าใครอยากลิ้มลองเมนูท้องถิ่นแบบโฮมเมดก็ขอแนะนำให้เลือกแพ็คเกจพร้อมมื้ออาหารไปด้วยเลย เจ้าของที่พักจัดเสิร์ฟเมนูท้องถิ่นตามฤดูกาลแบบเน้นๆ รับรองว่าทุกคนจะต้องพอใจกันอย่างแน่นอน
สามารถติดต่อจองห้องพักเป็นภาษาอังกฤษได้จากโฮมเพจทางการของที่พักเลยค่ะ
วันที่ 2 : ออกสำรวจธรรมชาติและผลงานศิลปหัตถกรรมในตัวเมืองทตโตริ
8:00 เริ่มวันด้วยมื้อเช้าที่ ทาบิบิโตะ โนะ ยาโดะ โน้ต
หลังจากทานมื้อเช้าช่วง 8 โมงเรียบร้อยแล้วก็ยังมีเวลาเตรียมตัวสำหรับทริปวันนี้อีกพอสมควร อาหารเช้าของ ทาบิบิโตะ โนะ ยาโดะ โน้ต (Tabibitonoyado NOTE) เป็นอาหารเช้าสไตล์ญี่ปุ่นปริมาณจัดเต็ม มาพร้อมกับทั้งปลา ข้าว ซุปมิโซะ ถั่วนัตโต และอื่นๆ
วัตถุดิบหลักๆ จะเปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาล สำหรับใครที่ทานอาหารบางอย่างไม่ได้ก็สามารถแจ้งทางที่พักเอาไว้ล่วงหน้าตั้งแต่ตอนจองได้เลยโดยไม่ต้องเกรงใจ
10:10 - 10:50 เรือสำราญชมชายฝั่งและหมู่เกาะอุระโดเมะ (Uradome Coast Island Cruise)
อุตส่าห์เดินทางมาถึงชายฝั่งอุระโดเมะอันแสนไกลแห่งนี้ทั้งทีก็ต้องแวะนั่งเรือสำราญตระเวนชมเกาะและชายฝั่งอุระโดเมะแสนสนุกกันสักหน่อย จาก ทาบิบิโตะ โนะ ยาโดะ โน้ต สามารถนั่งรถยนต์มาถึงได้โดยใช้เวลาเพียง 10 นาทีหรือนั่งรถบัสมาโดยใช้เวลา 20 นาที เพื่อความชัวร์ อย่าลืมเช็คเวลารถบัสล่วงหน้าเสมอนะคะ
เรือสำราญแล่นให้บริการทุกๆ 1 ชั่วโมงตั้งแต่เวลา 09:10 จนถึงเวลา 16:10 ระหว่างเดือนมีนาคม - เดือนพฤศจิกายน
เรือสำราญชมชายฝั่งและหมู่เกาะอุระโดเมะจะแล่นผ่านทัศนียภาพอันงดงามที่สุดในทตโตริ ซึ่งบางแห่งไม่สามารถหาชมได้จากบนบกเลย น้ำทะเลในทตโตริก็ใสมากจนน่าตกใจ เกือบทุกแห่งสามารถมองลงไปถึงก้นทะเลได้เลย
ทัวร์นี้ใช้เวลาประมาณ 40 นาที สำหรับใครที่มาโดยรถยนต์แนะนำให้ไปเพลิดเพลินกับการขับรถเที่ยวชมโซนชายฝั่งทะเลอุระโดเมะซึ่งขึ้นชื่อเรื่องทัศนียภาพอันงดงามกันต่อเลย แถมยังมีร้านทัตสึมิ ร้านอาหารจากปลาตามฤดูกาลที่เหมาะกับมื้อเที่ยงตั้งอยู่ใกล้ๆ นี้ด้วย
12:00 - 13:00 พักทานมื้อกลางวัน อาหารทะเลตามฤดูกาลที่ร้านทัตสึมิ (Tatsumi)
ทัตสึมิ (Tatsumi) เป็นร้านอาหารที่สามารถทานเมนูอาหารทะเลตามฤดูกาลได้ในราคาสบายกระเป๋า ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ที่นี่ได้รับความนิยมสุดๆ ในหมู่ผู้คนท้องถิ่น อาหารตามภาพด้านบนคือเซ็ตอาหารแนะนำโดยเชฟของทางร้านทัตสึมิที่อัดแน่นไปด้วยวัตถุดิบตามฤดูกาลทั้งนั้น เซ็ตอาหารแบบนี้เหมาะมากสำหรับการสั่งมาเพื่อลิ้มลองหลากหลายเมนูอร่อยของทตโตริในเซ็ตเดียว
สำหรับใครที่อยากลองทานเมนูท้องถิ่นของทตโตริก็มีอยู่บางเมนูที่อาจต้องอาศัยความกล้าพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นเครื่องในของปลาฮิราเมะ (ปลาตาเดียวญี่ปุ่น) และไข่สีเขียวในกุ้งโมสะ ตอนทานครั้งแรกจึงอาจจะตกใจกันเล็กน้อยกับสีสันของมัน แต่ไข่สีเขียวนี่ล่ะคือหลักฐานยืนยันความสดของกุ้งโมสะแท้ๆ
สำหรับคนรักกุ้งก็บอกเลยว่าห้ามพลาดลิ้มลองเมนูเซ็ตกุ้งโมสะ (โมซะเอบิโกะเซน - Mosa ebi Gozen) ซึ่งเป็นหนึ่งในเมนูแนะนำตามฤดูกาล โดยมาพร้อมกับเมนูกุ้งโมสะมากมายหลากหลายแบบทั้งแบบสด แบบต้ม แบบย่าง และอื่นๆ
14:00 - 15:00 เที่ยวชมร่องรอยปราสาททตโตริ (Tottori Castle Ruins) และจิมปูคาคุ (Jinpukaku)
จุดมุ่งหมายถัดไปของเราก็คือร่องรอยปราสาททตโตริ (Tottori Castle) ที่ตั้งอยู่ส่วนกลางของเมืองทตโตรินั่นเอง ที่นี่เคยเป็นสัญลักษณ์แห่งอำนาจอันรุ่งโรจน์ในสมัยก่อน แต่สุดท้ายก็กลับถูกทำลายลงตามนโยบายการสร้างชาติสมัยใหม่ในยุคเมจิ (ปี 1868 - 1912)
ถึงแม้ว่าในปัจจุบันจะหลงเหลือเพียงร่องรอยของปราสาทเท่านั้น แต่ก็ยังมีนักท่องเที่ยวมากมายเดินทางมาชมวิวแสนสวยงามของเมืองทตโตริและเดินเล่นภายในเสี้ยวประวัติศาสตร์หนึ่งของทตโตริแห่งนี้
ในปี 1907 ผู้ครองแคว้นคนเก่าได้สร้างอาคารสไตล์ตะวันตกชื่อว่า จิมปูคาคุ (Jinpukaku) ขึ้นมาในบริเวณร่องรอยปราสาทนี้ จึงเป็นสิ่งที่น่าสนใจมากๆ ที่เราจะได้เห็นว่ารูปแบบการก่อสร้างสไตล์ยุโรปถูกนำมาใช้ในสถาปัตยกรรมที่รายล้อมไปด้วยทัศนียภาพสไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิมแบบนี้ได้อย่างไร แถมที่นี่ยังมีเตาผิงอิฐให้ชมกันด้วยนะ!
15:30 - 17:00 พิพิธภัณฑ์งานฝีมือพื้นบ้านมิงเกคัง (Tottori Mingei Museum of Folkcraft) และถนนมิงเกคัง (Mingeikan Folk Museum Street)
พิพิธภัณฑ์งานฝีมือพื้นบ้านมิงเกคัง (Tottori Mingei Museum of Folkcraft) แห่งนี้สร้างขึ้นโดยโยชิดะ โชยะ (Yoshida Shoya) แพทย์และศิลปินด้านหัตถกรรมพื้นบ้านในปี 1949 โดยขึ้นชื่อเรื่องคอลเลคชั่นผลงานศิลปหัตถกรรมพื้นบ้านระดับสุดยอดที่รวบรวมมาจากทั่วญี่ปุ่นเพื่อเรียนรู้เทคนิคของช่างฝีมือเหล่านั้น
ในปัจจุบัน พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งนี้เป็นสถานที่จัดแสดงผลงานที่เกิดจากการชี้แนะของคุณโยชิดะและคอลเลคชั่นของสะสมของเขา ผลงานของคุณโยชิดะเกิดจากการผสมผสานกันระหว่างความเรียบง่ายและการใช้งานได้จริง จึงได้รับความนิยมมากในหมู่นักสะสมทั่วญี่ปุ่นและส่งผลให้เขากลายเป็นบุคคลสำคัญที่มีชื่อเสียงในหน้าประวัติศาสตร์ศิลปหัตถกรรมพื้นบ้านของทตโตริไปโดยปริยาย
สำหรับใครที่อยากเห็นผลงานศิลปหัตถกรรมพื้นบ้านของทตโตริหรืออยากช้อปปิ้งผลงานศิลปะที่ใช้งานได้จริงกลับไปเป็นที่ระลึกของทริปเที่ยวทตโตริก็ขอแนะนำให้แวะไปเดินเล่นบนถนนถนนสายพิพิธภัณฑ์งานฝีมือพื้นบ้านมิงเกคัง (Mingeikan Folk Museum Street) ที่ตั้งอยู่ใกล้กันเลยค่ะ
17:00 ทานมื้อเย็นที่ ทาคุมิคัปโปเท็น (Takumi Kappoten)
ก่อนออกจากทตโตริก็แวะมาทานมื้อเย็นที่ร้านทาคุมิคัปโปเท็น (Takumi Kappoten) ร้านอาหารที่ตั้งอยู่ติดกับพิพิธภัณฑ์งานฝีมือพื้นบ้านมิงเกคังกันสักหน่อย ที่นี่เสิร์ฟอาหารท้องถิ่นด้วยภาชนะฝีมือโชยะ โยชิดะ และขึ้นชื่อเรื่องการใช้วัตถุดิบสดใหม่
สำหรับใครที่มาเที่ยวทตโตริเป็นกลุ่มตั้งแต่ 2 ท่านขึ้นไปขอแนะนำให้ลองเมนูหม้อไฟเลยค่ะ เมนูนี้เป็นเมนูยอดนิยมอันดับ 1 ของร้านทาคุมิคัปโปเท็นที่ทำมาจากเนื้อวัวและพืชผักท้องถิ่นในทตโตริ ถึงขนาดมีคนบอกว่านี่เป็นอาหารต้นตำรับของเมนูยอดนิยมอย่างชาบูชาบูเลยทีเดียว
ในครั้งนี้พวกเราได้ทานมื้อเย็นเป็นเมนูอาหารทะเลตามฤดูกาลแสนน่าทานซึ่งเสิร์ฟมาในจานสีเขียวอันเป็นเอกลักษณ์ของทตโตริกันค่ะ
18:40 นั่งรถบัสด่วนกลับโอซาก้า
หลังจากสนุกกับการตระเวนเที่ยวรอบเมืองทตโตริตลอด 2 วันกันจนเต็มอิ่มแล้วก็ถึงเวลานั่งรถบัสด่วนจากสถานีรถบัสสถานีทตโตริกลับโอซาก้า หรือว่าถ้าใครยังมีเวลาก็สามารถนั่งรถบัสไปเที่ยวสถานที่อันน่าตื่นตาตื่นใจแห่งอื่นๆ ในจังหวัดทตโตริกันต่อก็ได้เหมือนกันนะ!
ในทตโตริไม่ได้มีแค่เนินทรายเท่านั้น แต่ยังมีเสน่ห์ที่ซุกซ่อนอยู่รอให้ทุกคนได้มาสัมผัสอีกเพียบเลยล่ะค่ะ!
ในญี่ปุ่นนั้น ทตโตริเป็นแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อเรื่องเนินทรายก็จริง แต่บอกเลยว่าแค่เมืองทตโตริแห่งเดียวก็มีคุณค่ามากมายให้มาเยือนแล้วไม่ว่าจะเป็นอาหารรสเลิศ ชายฝั่งทะเลอันงดงาม ศิลปหัตถกรรมอันมีเอกลักษณ์ และอื่นๆ ตามที่เห็นจากทริป 2 วันที่เราแนะนำกันไปในบทความนี้
พบกับสถานที่ท่องเที่ยวแสนสนุกแห่งอื่นๆ ได้ในเว็บไซต์ทางการของจังหวัดทตโตริ : http://www.tottori-tour.jp/th/
แล้วก็ห้ามพลาดรวมบทความเกี่ยวกับทตโตริของ MATCHA กันด้วยนะ!
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
Written by Chiara Mischke
Sponsored by Tottori Prefecture
บัญชีส่งเสริมการขายของ MATCHA สำหรับการโฆษณาองค์กรและรัฐบาลท้องถิ่น เรามุ่งมั่นที่จะให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านของเราอย่างสนุกสนาน
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง