พุ่งตัวจากที่นอนไปลองมื้อเช้าอร่อยๆ ที่มีต้นกำเนิดในญี่ปุ่น

อาหารเช้าอันหลากหลายของญี่ปุ่น

คนญี่ปุ่นทานอะไรเป็นอาหารเช้ากันนะ? ข้าวตอกไข่ดิบหรือเปล่า? หรือว่านัตโต? ความจริงแล้วอาหารญี่ปุ่นมีหลากหลายประเภทมากค่ะ แค่แซนด์วิชกับคปเปะปังก็นับไม่หวาดไม่ไหวแล้วว่ามีกี่รส ซึ่งอาหารพวกนี้มีการพัฒนาเฉพาะตัวมาตลอดนับแต่ออกวางขาย มาศึกษาเกี่ยวกับอาหารเช้าที่มีถิ่นกำเนิดในญี่ปุ่นไปพร้อมกับผู้เขียนกันค่ะ!

คาเฟ่แห่งแรกของญี่ปุ่นอยู่ที่โตเกียว

คาเฟ่แห่งแรกของญี่ปุ่นมีความเกี่ยวข้องกับเจิ้งเฉิงกง ผู้มีบทบาทสำคัญต่อการเกิดประเทศไต้หวันด้วย เพราะลูกหลานตระกูลเจิ้งได้มาทำงานเป็นล่ามและงานราชการต่างประเทศที่จังหวัดนางาซากิ และหนึ่งในลูกหลานตระกูลเจิ้ง เจิ้งหยงฉิง ผู้มีความรู้ด้านภาษาจีน ญี่ปุ่น อังกฤษเป็นอย่างดีได้เปิด คาฮิซาคัง (Kahisakan : 可否茶館) คาเฟ่แห่งแรกของญี่ปุ่นที่โตเกียวในปี 1888

คาฮิ (可否) ในชื่อร้านแปลว่า "กาแฟ" ค่ะ ยุคนั้นกาแฟเป็นของนำเข้าจากต่างประเทศ ในญี่ปุ่นจึงยังไม่มีการกำหนดอักษรคันจิให้คำนี้ หลังจากนั้นถึงกำหนดคันจิใช้เป็น 珈琲 อ่านแบบญี่ปุ่นว่า "โคฮี"

ที่ตั้งของ คาฮิซาคัง นั้นอยู่ไม่ไกลจากสถานีอุเอโนะในปัจจุบัน ตอนที่เปิดกิจการเป็นบ้านสไตล์ยุโรปอาคารเดี่ยว 2 ชั้น สามารถเล่นหมากล้อมหรือหมากรุกได้ อีกทั้งมีคลังหนังสือจากประเทศต่างๆ ทั่วโลกมากมาย เจิ้งหยงฉิงหวังให้คาเฟ่แห่งนี้เป็นสถานที่แลกเปลี่ยนความรู้ของชาวบ้านค่ะ

สุดท้ายแล้วที่นี่ติดขัดเรื่องจัดหาเงินทุนและปิดตัวไปในเวลาไม่ถึง 5 ปี แต่ก็ได้ทิ้งรอยเท้าไว้ในประวัติศาสตร์ในฐานะผู้บุกเบิกคาเฟ่ ปัจจุบันไม่เหลือตัวอาคารแล้ว แต่มีอนุสาวรีย์ตั้งอยู่ที่นั่นแทน ลายคล้ายหมอกสีขาวบนแผ่นกระจกสื่อถึงควันที่ลอยจากกาแฟร้อนนั่นเองค่ะ

ซากปรักหักพังโรงน้ำชาได้ไหม

1-1-10 Ueno, Taito-ku, โตเกียว 110-0005

1. มอร์นิ่ง เซ็ตมื้อเช้าของร้านคาเฟ่

Picture courtesy of Pixta
เมื่อพูดถึงเซ็ตมื้อเช้า มอร์นิ่งเซอร์วิส โดยปกติมักประกอบด้วยเครื่องดื่ม 1 แก้วกับขนมปัง คาเฟ่แต่ละแห่งอาจมีความพิเศษขึ้นไปอีกเช่นแถมสลัดผัก ไข่ต้ม สลัดไข่บด หรือเมนูอื่นๆ ตามสไตล์ของร้านเอง

ร้านต้นตำรับเค้าว่ากันว่าอยู่แถวจังหวัดไอจิ จังหวัดกิฟุ และจังหวัดฮิโรชิม่า แต่ถ้าจะพูดถึงสาเหตุหลักๆ ที่ทำให้วัฒนธรรมมอร์นิ่งเซอร์วิสโด่งดังมีชื่อเสียงมากที่สุดก็คงจะเป็นเรื่องในปี 1955 เมื่อมอร์นิ่งเซอร์วิสของร้าน รูเอ้ บราซิล (Ruhe Brazil) คาเฟ่ในฮิโรชิม่าได้รับการแนะนำในนิตยสารรายสัปดาห์ที่มีชื่อเสียงในสมัยนั้น ร้านคาเฟ่อื่นๆ ทั่วประเทศจึงเริ่มบริการมอร์นิ่งเซอร์วิสกันบ้าง

สมัยนี้เรียกได้ว่าเป็นเมนูประจำร้านคาเฟ่ทั่วญี่ปุ่นแล้วล่ะค่ะ

2. แซนด์วิชไข่ความสุขท่วมท้น!

เท่าที่มีบันทึกมาบอกไว้ว่าแซนด์วิชได้เริ่มจำหน่ายในญี่ปุ่นตอนปี 1892 เป็นข้าวกล่องสถานีรถไฟ (เอกิเบ็น) ที่คามาคุระ พร้อมๆ กับการแพร่หลายของวัฒนธรรมอาหารฝรั่ง (ชาวญี่ปุ่นจะเรียกอาหารฝรั่งว่า โยโชคุ) ส่วนแซนด์วิชหมูชุบแป้งทอดทงคัตสึ แซนด์วิชสไตล์ญี่ปุ่นยอดนิยมก็คิดค้นโดยร้านหมูชุบแป้งทอด ว่ากันว่าสมัยก่อนก็เป็นหนึ่งในอาหารที่เสิร์ฟให้กับเกอิชาด้วย

เมนูที่ผู้เขียนอยากแนะนำคือ แซนด์วิชไข่ที่มีทั้งสารอาหารและยังทานง่ายในยามเช้า แซนด์วิชไข่ของภูมิภาคคันโตกับคันไซจะมีเอกลักษณ์ที่ต่างกันหน่อย ที่คันโตส่วนมากจะนำไข่ต้มแข็งมาสับหรือบดหยาบๆ คลุกกับมายองเนสเหมือนเป็นสลัดไข่บด แต่ทางคันไซจะทำเป็นเหมือนไข่ม้วนชิ้นหนาๆ ประกบด้วยขนมปังไปเลย

ร้านเอสปัวร์ (Espoir) ที่มงเซ็นนากะโจเปิดกิจการเป็นเบเกอรี่มาตั้งแต่ประมาณ 50 ปีก่อน เดิมทีแซนด์วิชไข่ของที่นี่จะเป็นแบบไข่ต้ม แต่หลังจากปรับปรุงเพิ่มส่วนคาเฟ่ขึ้นมาในร้าน ก็เปลี่ยนมาเป็นสไตล์ไข่ม้วนชิ้นหนานุ่มแบบในรูปข้างบนนี้แทน

แค่คำแรกก็ได้รสสัมผัสนุ่มเนียนของไข่ม้วนกับรสเปรี้ยวหวานนิดๆ ของมายองเนส พร้อมกลิ่นหอมของไข่ฟุ้งไปทั่วปาก ต้องต่อคำที่สองเข้าไปทันที (เซ็ตแซนด์วิชไข่มื้อเช้า ราคารวมภาษี 970 เยน)

เอสปัวร์

1-9-8 Tomioka, Koto-ku, โตเกียว 135-0047

3. คปเปะปังกับไส้สารพัดทั้งหวานและเค็ม!

หนึ่งในขนมปังฮิตที่ญี่ปุ่นในช่วงหลังๆ นี้คือคปเปะปังค่ะ หน้าตาคล้ายขนมปังฮอทด็อกของอเมริกา แต่ขนมปังชนิดนี้เกิดขึ้นจากการที่ญี่ปุ่นเรียนวิธีผลิตขนมปังจากต่างประเทศแล้วนำมาพัฒนาในรูปแบบของตัวเอง

มีรสชาติต่างๆ มากมาย เช่น โครกเกะเนื้อต้มมันเทศ ถั่วแดงกวนหยาบกับมาการีน แยมสตรอเบอร์รี่กับครีมนมข้นหวาน แฮมกับกะหล่ำปลี เป็นต้น สำหรับผู้สูงอายุชาวญี่ปุ่นแล้ว คปเปะปังคือหนึ่งในอาหารที่จะได้ทานสมัยเป็นนักเรียน หากเจอคปเปะปังตามท้องถนนคงจะรู้สึกคิดถึงวันเวลาเก่าๆ แน่นอน อาหารโรงเรียนของญี่ปุ่นส่วนมากจะใช้ข้าวขาวเป็นอาหารหลัก แต่บางทีก็เป็นคปเปะปังค่ะ

การผ่าก้อนขนมปังคปเปะปังก็ต่างกันด้วย ญี่ปุ่นฝั่งตะวันออก (ฝั่งโตเกียว) ส่วนมากจะผ่าก้อนขนมปังตรงกลางเป็นแนวนอนแล้วทาหรือยัดไส้เข้าไป เรียกว่า "ฮาระวาริ" ส่วนญี่ปุ่นฝั่งตะวันตก (ฝั่งโอซาก้า) เป็นแบบ "เซวาริ" ที่ผ่าเป็นแนวตั้งจากด้านบน ร้านที่ผู้เขียนซื้อประจำคือ ปัง โนะ ทาจิมะ (Pan no Tajima) ค่ะ บรรยากาศภายในร้านเหมือนกับห้องเรียนชั้นประถม เมนูจะเขียนไว้บนกระดานดำ พนักงานร้านสวมคัปโปกิ (kappougi ชุดกันเปื้อนแบบญี่ปุ่น) เหมือนเป็นเวรดูแลอาหารโรงเรียน ไม่ว่าผู้ใหญ่หรือเด็กก็ดื่มด่ำกับความทรงจำแสนสนุกในโรงเรียนได้

ที่ร้านปัง โนะ ทาจิมะ มีไส้ให้เลือกประมาณ 30 ชนิด ที่ผู้เขียนอยากแนะนำเป็นพิเศษคือขนมปังยากิโซบะค่ะ เนื้อขนมปังนุ่มกับเส้นเคี้ยวหนึบ กะหล่ำปลีชุ่มซอส สัมผัสการเคี้ยวหลากหลายนี้น่าพึงพอใจทีเดียว เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ไม่ค่อยอยากทานช็อกโกแลตหรือสตรอเบอร์รี่เป็นมื้อเช้าเท่าไหร่ หรือผู้ที่อยากทานนิดหน่อยตอนมื้อกลางวัน ซื้อแบบเทคเอาต์ได้ (ทานในร้าน ราคารวมภาษี 305 เยน)

ขอแนะนำรสรัมเรซิ่นบัตเตอร์ครีมเป็นของว่างช่วงบ่ายค่ะ ลูกเกดกับกลิ่นเหล้ารัมหอมนี้ได้รสชาติขนมหวานสไตล์ผู้ใหญ่ขึ้นมาเลย (ทานในร้าน ราคารวมภาษี 286 เยน)

ร้านขนมปังทาจิมะ อาซากุสะ ROX

1-25-15 อาซากุสะ, Taito-ku, โตเกียว 111-0032

4. พิซซ่าโทสต์รสเลิศที่ทานได้แม้ไม่ต้องไปร้านอาหารอิตาเลียน!

ของว่างที่สามารถทานได้ง่ายและพึงพอใจเต็มอิ่มคือ "พิซซ่าโทสต์" ซึ่งเป็นอาหารที่มีต้นกำเนิดจาก เบนิซิก้า (Benisica) คาเฟ่เก่าแก่ที่เปิดกิจการเมื่อปี 1957 ค่ะ ช่วงปี 1960 พิซซ่ามีราคาสูงมากในร้านอาหารอิตาเลียนและเป็นอาหารฟุ่มเฟือยที่ชาวบ้านทั่วไปหาทานไม่ได้ง่ายๆ ในชีวิตประจำวัน และตอนนั้นเองร้านเบนิซิก้าก็คิดค้น "พิซซ่าโทสต์" ที่ทานได้ง่ายๆ ในร้านคาเฟ่

พิซซ่าโทสต์ของร้านนี้ให้ปริมาณเยอะมากค่ะ แต่ถ้าชอบชีสล่ะก็รับรองว่าหลงเสน่ห์ชีสโปะหน้าหนาเตอะรสเค็มนิดๆ นี้แน่นอน ขอบโทสต์เนื้อละเอียด เนื้อขนมปังด้านในนุ่ม อร่อยแบบหยุดไม่ได้จริงๆ ค่ะ (เซ็ตมื้อเช้า ราคารวมภาษี 1,250 เยน)

คาเฟ่เบนิซิกา (Cafe Benisica)

1-6-8 Yurakucho, Chiyoda-ku, Tokyo 100-0006 Matsui Bldg. 1F

อร่อยกับมื้อเช้าแบบชาวญี่ปุ่น

เมื่อเห็นอาหารเช้าเฉพาะตัวของญี่ปุ่นที่แนะนำไปครั้งนี้แล้วอยากลองทานข้อไหนมากที่สุดคะ? คราวหน้าลองตั้งนาฬิกาปลุกให้ไวขึ้นอีกหน่อยแล้วลุกจากที่นอนไปตระเวนหามอร์นิ่งเซอร์วิสอร่อยๆ กันค่ะ

ติดตามเรื่องราวน่าสนใจของญี่ปุ่นได้จาก Facebook Matcha เว็บไซต์แนะนำการท่องเที่ยวญี่ปุ่น

Main image courtesy of Pixta