Start planning your trip
เวิร์กชอปย้อมสีผ้าเทะนุกุยแบบชูเซ็นที่ Tenukuri Studio
เทะนุกุย ผ้าผืนยาวที่มาพร้อมลวดลายแบบญี่ปุ่นสารพัดแบบ มาลองทำกิจกรรมสนุกๆ และยังได้เรียนรู้เกี่ยวกับการย้อมผ้าแบบชูเซ็นด้วยกันที่ Tenukuri Studio ใกล้สถานีทาเทอิชิ โตเกียว
เทะนุกุย ผ้าสารพัดประโยชน์ของชาวญี่ปุ่น
เทะนุกุย (Tenugui : 手ぬぐい) เป็นชื่อเรียกของผ้าเนื้อบางผืนยาว คำว่า "เทะ" แปลว่า มือ คำว่า "นุกุย" แปลว่า เช็ดถูให้สะอาด ถึงชื่อจะแปลว่าผ้าเช็ดมือ แต่เทะนุกุยเอาไปใช้ประโยชน์ได้สารพัดตามใจอยาก
ผ้าเทะนุกุยโพกหัว เห็นได้ตามงานเทศกาล / Photo by pixta
ว่ากันว่าเทะนุกุยถูกนำมาใช้เช็ดตัว เช็ดทำความสะอาด หรือไว้ห่อเก็บของมาตั้งแต่ยุคเฮอัน (ค.ศ. 794-1185) ทุกวันนี้ชาวญี่ปุ่นก็ยังใช้เทะนุกุยในโอกาสต่างๆ เช่น นักกีฬาเคนโดจะพันผ้าเทะนุกุยก่อนสวมหน้ากาก ตามเทศกาลก็จะเห็นคนเอาเทะนุกุยมาโพกหัวหรือไว้เช็ดหน้าซับเหงื่อ
ด้วยลวดลายหลากหลาย สีสันสวยงาม ราคาไม่แพง และดูแลรักษาง่าย ตอนนี้ทั้งชาวญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวต่างชาติเลยนิยมเอาเทะนุกุยมาใส่กรอบหรือห้อยเป็นภาพแขวนประหนึ่งของแต่งบ้านกันด้วย
แน่นอนว่าถ้าไปตามร้านร้อยเยนหรือตามห้างก็หาซื้อเทะนุกุยได้ง่ายๆ แต่ถ้าได้ลองย้อมสีผ้าเทะนุกุยเองด้วยล่ะ แค่ฟังก็น่าสนุกแล้ว!
ย้อมผ้าเทะนุกุยด้วยตัวเองที่ Tenukuri Studio
เรามากันที่ Tenukuri Studio (てぬクリ工房) สตูดิโอที่มีคอร์สให้ทดลองย้อมสีผ้าเทะนุกุยด้วยตัวเองใกล้สถานีทาเทอิชิ ในโตเกียว
ครั้งนี้เราเลือกคอร์สเบสิก เป็นคอร์สที่สั้นที่สุด ใช้เวลา 2 ชั่วโมง โดยจะได้ลองลงสีย้อมผ้าด้วยวิธีที่เรียกว่าชูเซ็นและรับผ้าเทะนุกุยที่ย้อมกลับบ้านคนละ 2 ผืน ยังมีคอร์สอื่นๆ สำหรับคนที่อยากเรียนรู้แบบจริงจังด้วย ติดต่อจองกิจกรรมเวิร์กชอปและดูคอร์สอื่นๆ ได้จากเว็บไซต์ทางการ
การเดินทาง
นั่งรถไฟสายเคเซจากสถานีเคเซอุเอโนะ (Keisei-Ueno) ลงที่สถานีเคเซทาเทอิชิ (Keisei-Tateishi) เดินประมาณ 5 นาที สตูดิโอตั้งอยู่บนชั้น 1 ในพื้นที่ของบริษัท Tokyo Wazarashi ลองกดดูแผนที่ได้จากลิงก์ด้านล่างนี้
เมื่อเข้ามาด้านในจะเจอกับส่วนร้านค้า เดี๋ยวมาดูกันอีกทีนะ ตอนนี้ไปส่วนเวิร์กชอปที่อยู่ทางซ้ายของห้องนี้กัน
ก่อนเริ่มจะมีวิดีโอเล่าเรื่องราวความเป็นมาและแสดงวิธีย้อมสีเทะนุกุยแบบชูเซ็นให้ดู มีเสียงบรรยายภาษาญี่ปุ่นกับภาษาอังกฤษให้เลือกด้วย
ข้อดีอย่างหนึ่งของวิดีโอนี้คือเราจะได้เห็นตั้งแต่ขั้นตอนเตรียมผ้า การลงสีย้อมแบบต่างๆ ที่ช่างฝีมือทำกันจริงๆ ทำให้เข้าใจหลักการก่อนไปลองของจริง
สวมผ้ากันเปื้อน เปลี่ยนเป็นรองเท้าบูทเสร็จครูผู้สอนก็พาเข้ามาในห้องเวิร์กชอปที่มีเครื่องไม้เครื่องมือเหมือนที่เราเห็นในวิดีโอเต็มไปหมด
ปาดกาวกันสี
ส่วนสีดำคือกระดาษลาย
ขั้นตอนแรกจะใช้เฟรมไม้ซึ่งติดด้วยกระดาษลายเอาไว้แล้ว บนโต๊ะจะเห็นเหมือนแท่งเหล็กเสียบอยู่ นั่นคือตัวกั้นล็อกตำแหน่งเฟรมไม้ให้อยู่ในตำแหน่งเดิม เพราะเราต้องยกเฟรมขึ้นลงหลายครั้ง
ผ้าสำหรับทำเทะนุกุยไม่ได้ถูกตัดเป็นแผ่นๆ เหมือนที่เห็นเวลาวางขาย แต่จะยาวเป็นม้วนเดียวกัน
เมื่อวางผ้าเรียบร้อยก็ตักกาวมาปาดด้วยไม้ปาด
ลวดลายบนผ้าเกิดจากการกั้นส่วนที่ไม่อยากให้โดนสีด้วยกาวกันสี กาวนี้ผสมขึ้นจากวัตถุดิบธรรมชาติ เช่น รำข้าว สามารถล้างออกได้ด้วยน้ำเปล่า
เห็นเลยว่ากาวจะค้างอยู่บนส่วนสีดำของกระดาษลาย ไม่ทะลุไปข้างล่าง
พอยกเฟรมขึ้นก็เห็นลายใบไม้เป็นสีขาว เฉพาะผ้าส่วนสีขาวที่ไม่โดนกาวเท่านั้นที่จะถูกย้อม
ปาดกาวเสร็จ 1 ครั้งก็เอาผ้าใหม่มาทาบอีก 1 ทบ แล้วก็ปาดกาวซ้ำขั้นตอนเดิมไปเรื่อยๆ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะย้อมกี่ผืน
ได้เวลาลองเองบ้างแล้ว ดูแล้วเหมือนไม่ยาก แต่ยากตรงที่ทำให้กาวหนาเท่ากันตลอดทั้งผืน เพราะครูบอกว่าให้ปาดไปทีเดียว อย่าหยุดตรงกลาง ไม่งั้นจะเกิดเป็นรอยด่างของชั้นกาว
พอปาดกาวบนผ้าครบตามจำนวนผืนที่ต้องการก็ปิดทับด้วยผ้าเก่าสำหรับกันชิ้นงานเปื้อน ที่จริงถ้ากลับไปดูที่รูปแรกก็จะเห็นผ้านี้รองอยู่ตั้งแต่แรกแล้ว
เอาผ้าไปโรยด้วยขี้เลื่อย เพื่อลดความเหนอะของกาว ไม่งั้นกาวอาจจะเยิ้มเลอะ แล้วทำให้ลายเสีย
สำหรับการย้อมสีเดียว เราสามารถลงสีย้อมได้เลยทันที แต่ครั้งนี้เราอยากย้อมหลายสี เลยต้องมาบีบกาวให้เป็นเขื่อนกั้นสีเอาไว้ก่อน ขั้นตอนนี้คนที่ทำเบเกอรี่แต่งหน้าเค้กมาคงสบายเลย
เทสีย้อม
ได้เวลาลงสีกันแล้ว สำหรับวิธีชูเซ็น (注染) นี้ถ้าดูตามตัวอักษรคันจิจะแปลได้ว่าเท+ย้อม เพราะเค้าจะเอาสีมาเทหยอดลงบนผ้าโดยใช้กาน้ำปากเรียวยาวที่เรียกว่ายะคัง
การเทสีจะทำบนโต๊ะที่เป็นเครื่องแวคคั่ม (เครื่องสุญญากาศ) ด้านหน้าโต๊ะจะเป็นตะแกรงให้สีหยดผ่านได้ พอเทสีลงไปจนเต็มช่องก็เหยียบแป้นดูดลม สีจะถูกดูดลงไปจนซึมผ่านผ้าทุกชั้น วิธีนี้ทำให้สามารถผลิตเทะนุกุยได้หลายผืนในครั้งเดียว
ถัดไปจะใช้ 2 สีลงพร้อมกันเพื่อให้เกิดการไล่สีแบบเนียนๆ ยากตรงที่ต้องถือกาสีสองมือแล้วเลื่อนเทไปพร้อมๆ กัน เพราะถ้าเทสีแรกให้เสร็จก่อนแล้วค่อยเทสีที่สอง สีแรกก็จะซึมเข้ามาจนไม่เห็นเป็นลายโค้งแบบที่ต้องการ
ตอนแรกครูก็ช่วยจับก่อน
ถัดไปนี่ต้องทำเองแล้ว อย่างลายวงกกลมยากตรงที่ต้องมียกปากของกาขึ้นแล้วเอาอีกอันลอดไปพร้อมกับเทไปด้วย ทำไปก็กลั้นหายใจไป กลัวสีหก
ปกติหลังจากลงสีครบแล้วจะต้องเอาผ้าไปตากประมาณ 2-3 ชั่วโมงเพื่อให้สีซึมติดเนื้อผ้า แต่ถ้ารออย่างนั้นเราคงไม่ได้กลับบ้านกันแน่ๆ เลยมีตัวช่วยเป็นน้ำยาช่วยเร่งปฏิกริยา เสร็จแล้วก็ได้เวลาแกะผ้ารองกันเปื้อนออก
ล้างกาว
เอาผ้าไปล้างในน้ำ เพื่อเอากาวและสีส่วนเกินออก
เสร็จแล้ว!
กางออกมายาวขนาดนี้เลย ถ้าเป็นเทะนุกุยที่เค้าทำขายผ้าจะยาวเป็นสิบเมตร เวลาตากก็ต้องใช้รอกดึงไปแขวนบนราวที่สูงมากๆ
ตัดผ้าแยกออกเป็นผืนเล็กก็เป็นอันเสร็จ ผลงานผ้าเทะนุกุยย้อมเองด้วยวิธีชูเซ็น ลวดลายที่มีให้ย้อมจะเปลี่ยนไปตามฤดูกาล ดูลายผ้าได้จากหน้าเว็บไซต์ ครั้งนี้มาประมาณเดือนกันยายน ก็เป็นลายใบเมเปิลกับใบแปะก๊วย เตรียมรับฤดูใบไม้เปลี่ยนสีกันล่วงหน้าเลย
จุดเด่นของการย้อมผ้าแบบชูเซ็นคือสีย้อมจะชัดเจนทั้งด้านหน้าและหลัง เพราะงั้นจะใช้ด้านไหนก็ได้
การได้มาที่นี่วันนี้ยังทำให้ได้พบกับคำตอบที่สงสัยมานานนับสิบปีว่าทำไมเทะนุกุยถึงไม่เย็บเก็บขอบผ้า ครูบอกว่าคุณสมบัติของเทะนุกุยคือบาง แห้งง่าย ถ้าไปพับขอบผ้าแล้วเย็บจะทำให้แห้งยาก และนั่นอาจทำให้เชื้อแบคทีเรียเติบโตได้ง่ายขึ้นด้วย เวลาที่มีด้ายรุ่ยออกมาก็ให้ตัดทิ้งไปเรื่อยๆ จนถึงจุดหนึ่งด้ายจะหยุดรุ่ยเอง ชายผ้าก็จะเป็นริ้วๆ สวยไปในตัว
เลือกซื้อเทะนุกุยสวยๆ เป็นของฝาก
ส่วนร้านค้ามีเทะนุกุยหลากหลายลวดลายให้เลือกซื้อ ตั้งแต่ลวดลายญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม ไปจนถึงลวดลายกราฟฟิกสมัยใหม่ บางส่วนเป็นของดีไซเนอร์อิสระที่ออกแบบเองย้อมเองด้วย
อันนี้เป็นแบรนด์ของสตูดิโอเอง เน้นลวดลายแบบดั้งเดิมแต่ใช้สีสันสดใส เอาไปใช้เป็นผ้าเช็ดหน้าก็ได้ หรือจะเอาไปแต่งบ้านก็เก๋ ได้อารมณ์ญี่ปุ่นแบบโมเดิร์น
ตัวอย่างของการเอาผ้าเทะนุกุยไปใส่กรอบแล้วใช้เป็นของแต่งบ้าน พอหมดฤดูนึงหรืออยากเปลี่ยนบรรยากาศก็แค่เปลี่ยนผ้าเป็นลายใหม่ได้เลยง่ายๆ
ถ้าอยากลองทำกิจกรรมสนุกๆ และยังได้เรียนรู้เกี่ยวกับการย้อมผ้าแบบชูเซ็นด้วยละก็มากันที่ Tenukuri Studio ได้เลย
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง