Start planning your trip
เข้าเมืองโอซาก้าทั้งที มาจําวลีสําเนียงโอซาก้าเด็ดๆทั้ง 6 วลีกัน!
โอซาก้าเป็นเมืองที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นไม่ยอมแพ้โตเกียวเลย! แม้แต่สำเนียงก็ยังมีเป็นของตนเอง มาเรียนภาษาญี่ปุ่นกันดีกว่า ว่าวลีสำเนียงโอซาก้าเด็ดๆ ที่เรามักได้ยินบ่อย หรือน่าเอาไปใช้พูดใส่ระหว่างเที่ยวมีอะไรบ้าง
หากพูดถึงภาษาญี่ปุ่นสําเนียงโอซาก้าแล้ว ไม่ว่าใครที่ภูมิลําเนามาจากโอซาก้า
ต่างก็มีความภาคภูมิใจในสําเนียงของตัวเองกันแทบทุกคน
โดยปกติคนที่ย้ายจากต่างถิ่นเข้ามาอยู่ในเมืองโตเกียวจะเปลี่ยนมาพูดภาษาญี่ปุ่นสําเนียงกลางกัน
แต่ข้อปฏิบัตินี้ใช้ไม่ได้กับคนโอซาก้าครับ! เพราะคนโอซาก้ายังยืนกรานที่จะใช้สําเนียงนี้
ในการติดต่อสื่อสารไม่ว่าตัวจะอยู่ไหนในญี่ปุ่น หรือกระทั่งตอนอยู่ต่างแดนด้วยซ้ำไป
จากสายตาคนนอกอาจจะงงว่า มันก็แค่สําเนียงภาษาเองไม่ใช่เหรอ แต่คนโอซาก้าเขามีความภาคภูมิใจ
ในสําเนียงของตัวเองมากเกินกว่าที่เราและคุณผู้อ่านสุดจะคาดได้เลยล่ะครับ
ภาษาญี่ปุ่นสําเนียงโอซาก้านี้จัดเป็นหนึ่งในสําเนียงทั้งหมดที่ใช้ในภูมิภาคคันไซ และมีความคล้ายคลึงกับ
สําเนียงเกียวโต และสําเนียงโกเบ แต่หากเทียบกันแล้วสําเนียงโอซาก้ากลับให้ความรู้สึกแข็งแรงมากกว่า
สําเนียงอื่น อันเนื่องมาจากการโต้ตอบที่ฉับไว พูดเร็วด้วยจังหวะที่น่าฟังนั่นเอง
ในบทความนี้เราจะหยิบวลีภาษาญี่ปุ่นสําเนียงโอซาก้าเด็ดๆมา 6 วลีให้คุณผู้อ่านได้รู้จักกัน
เผื่อจะนําไปใช้พูดตอนไปเยือนเมืองโอซาก้าสร้างความประทับใจให้แก่คนท้องถิ่นกัน
6 วลีสําหรับใช้ตอนท่องเที่ยว
(1)เม็จจะ (Meccha)
คําว่า “เม็จจะ” หมายความว่า “มากๆ” โดยเป็นคําที่ใช้ในการเน้นย้ำถึงสิ่งที่พูดไป
ยกตัวอย่างเช่น “เม็จจะ”ดีเยี่ยม, “เม็จจะ”หล่อเลิศ, “เม็จจะ”คาวาอี้, “เม็จจะ”อร่อยเหาะ เป็นต้น
จะเห็นว่าเราจะเติมคําว่า “เม็จจะ” ไว้ข้างหน้าสิ่งที่เราจะพูด และมักนํามาใช้พูดตอน
จะเอ่ยปากชมใครซักคนก็ได้ ไม่แน่เจ้าตัวพอได้ยินอาจจะปลื้มมากกว่าปกติหลายเท่าเลยนะเนี่ย
(2)นันเดะยาเน็น (Nan-de-ya-nen)
วลีนี้จัดเป็นวลีสุดฮิตของสําเนียงโอซาก้ากันเลยทีเดียว โดยมีความหมายว่า “ทําไมเป็นอย่างนั้นล่ะ?” หรือ
“พูดเป็นเล่นน่า!” ซึ่งวลีนี้มักใช้ในตอนเล่นตลกแบบทสึคโคมิโบเคะ โดยคนชงมุกจะพูดใส่คนปล่อยมุกนั่นเอง
เราจะได้ยินวลีนี้ตอนดูการแสดงตลกจากคู่หูนักแสดงตลกญี่ปุ่น (เรียกว่า มันไซ ในภาษาญี่ปุ่น) ได้ทั่วไป
แต่ให้ทราบกันโดยทั่วไปนะครับว่า วลีนี้แท้จริงแล้วมีที่มาจากสําเนียงโอซาก้า และคนโอซาก้าเขาก็ใช้พูดกัน
ตามปกติในชีวิตประจําวัน ไม่ได้ใช้พูดตอนเล่นตลกแบบที่บางคนอาจจะเข้าใจผิดกันนะเออ
ดังนั้นน้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่าฉันใด คนชงมุกและคนปล่อยมุกต่างก็ต้องพึ่งพาซึ่งกันและกันฉันนั้น
คนโอซาก้าชอบเล่นมุก และพูดเกินจริงเรียกเสียงฮา สมมติเช่น เราไปทานราเมงที่ร้าน
พอท่านเสร็จจะจ่ายเงินค่าราเมง 700 เยน เจ้าของร้านกลับบอกเราว่า
“ทั้งหมดเจ็ดล้านเยนครับ ขอบคุณที่มาอุดหนุน”
จังหวะนี้เองให้เราชงมุกกลับด้วยการพูดวลี “นันเดะยาเน็น!” เพราะสิ่งที่เจ้าของร้านพูดมาตะกี้
คือการสวมบทบาทของคนปล่อยมุกที่ปล่อยมุกให้คนชงมุกช่วยแก้ไขให้ถูกนั่นเอง
ดังนั้นหากคุณผู้อ่านตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ก็ลองเอาไปใช้กันได้
เพื่อสร้างบรรยากาศครึกครื้นเป็นสีสันให้แก่ชีวิตนะคร้าบ
(3)มะเคะเตะ(Makete)
วลีนี้แปลว่า “กรุณาช่วยลดราคาให้หน่อย”
คุณผู้อ่านอาจจะงง อ้าวไหนว่าคนญี่ปุ่นเขาไม่มีธรรมเนียมการต่อราคาตามร้านค้าไง
และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งธรรมเนียมที่คนโอซาก้าแตกต่างจากคนอื่น ด้วยความที่เมืองโอซาก้าเป็น
เมืองที่มีจิตวิญญาณพ่อค้าแรงกล้าจึงเป็นเหตุให้คนโอซาก้าทุกคนล้วนมีนโยบายหนึ่งในใจเหมือนกันทุกคน
นั่นก็คือ ฉันจะต้องซื้อของคุณภาพดีได้ในราคาถูกที่สุดเท่าที่จะต่อรองให้ได้ นี่จึงเป็นเหตุผลหนึ่ง
ที่ทําให้การต่อรองราคาเป็นหนึ่งในธรรมเนียมเมืองโอซาก้ามาแต่เนิ่นนานนั่นเอง
แต่ใช่ว่าเราจะต่อราคาได้ทุกที่ อย่างห้างสรรพสินค้าหรือซูเปอร์มาร์เก็ตนั้น
เขาจะไม่ต่อราคากัน ส่วนร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าอาจจะพอต่อรองราคาได้
อย่างที่ผู้เขียนเพิ่งถอยกล้องตัวใหม่มาในราคาที่ถูกลงกว่า 3,000 เยนเลยทีเดียวล่ะ
นอกจากนี้อาจจะไปลองต่อราคาตามร้านในตลาดนัดของมือสองหรือถนนร้านค้าซึ่งเป็นแหล่งรวมตัว
ของร้านค้าขนาดเล็ก ทีนี้พอรู้วลีนี้แล้วก็อย่าลืมนําไปใช้กับคนเฝ้าร้านตอนช็อปปิ้งกันนะคร้าบ
(4)โฮนะ(Hona)
คุณผู้อ่านสามารถใช้วลีนี้ในแทนการกล่าวลาตามปกติ ตัวอย่างการใช้วลีนี้ของคนโอซาก้ามีดังนี้
“โฮนะ ไว้เจอกันใหม่” หรือ “โฮนะ ลาก่อนเน้อ” ว่าแล้วก็ลองเอาไปใช้กันได้
จะได้สัมผัสถึงแก่นของคนโอซาก้าได้มากขึ้นไปอีกนะคร้าบ
(5)โอคินิ(Okini)
วลี “โอคินิ” แปลว่า “ขอบคุณ”
เอาเข้าจริงแล้วเขาไม่ค่อยนิยมใช้วลีนี้กันซักเท่าไหร่แล้ว โดยเฉพาะคนรุ่นหลังๆ
แต่เรายังได้ยินคุณลุงคุณป้าตามย่านร้านค้าใช้วลีนี้ในการขอบคุณลูกค้ากันอยู่
ถึงทุกคนจะไม่ได้นําวลีนี้มาใช้พูดกัน แต่ใครที่ได้ยินก็อดปลื้มไม่ได้แน่นอนเชียว
ดังนั้นหากคุณผู้อ่านอยากพูดขอบคุณใครก็ลองเอาวลีนี้ไปใช้กันได้คร้าบ
(6)...ยาเน็น(Yanenn)
วลีลงท้ายดังกล่าวจัดเป็นวลีมหัศจรรย์ เพราะคุณผู้อ่านสามารถนํามันไปต่อท้ายได้ทั้งคํานาม คําวิเศษณ์
คํากริยา เพื่อเป็นการเน้นย้ำ พอทําแบบนี้แล้วไม่ว่าคุณผู้อ่านจะพูดอะไรก็จะฟังได้อารมณ์สําเนียง
โอซาก้าไปโหม๊ด! เช่น ฉันชอบ...ยาเน็น ฉันเกลียด...ยาเน็น ฉันเป็นคนโอซาก้ายาเน็น เป็นต้น
ว่าแล้วเรามาพูดพร้อม ๆ กันเลยว่า “โอซาก้า สุกิ ยะเน็น!" (เรารักโอซาก้า ยาเน็น)
ทีนี้เราลองมาเติมอีกหนึ่งวลีที่เราได้เรียนกันไป นั่นก็คือวลี “เม็จจะ” พอเติมไปแล้วจะได้เป็น
“เม็จจะ โอซาก้า สุกิ ยะเน็น!" (เรารักโอซาก้าสุดๆ ไปเลย ยาเน็น!) พอพูดได้แบบนี้แล้วรับรองว่าได้ครึกครื้นไปกับคนโอซาก้าอย่างแน่นอนเลยล่ะคร้าบ
เอ้าว่าแล้ว ขอจบบทความแต่เพียงเท่านี้ โอคินิ นะคร้าบทุกคน~!
城や昔の街並みが好きな医療職。大阪生まれ大阪育ちで大阪大好きですが、地方にも魅力を感じる今日この頃。週末はサッカー観戦か近畿、四国をショートトリップしています。
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง