Start planning your trip

“สวนคิกโค” (Kikko Park) คือ สวนสาธารณะในเขตโยโกยามะ เมืองอิวาคุนิ จังหวัดยามากุจิ โดยได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 100 สถานที่ชมซากุระขึ้นชื่อที่สุดในญี่ปุ่นคู่กับ “สะพานคินไตเคียว” เราจะขอแนะนำข้อมูลพื้นฐาน วิธีการเดินทาง และไฮไลท์ของที่นี่กันค่ะ
จากหน้าสถานีอิวาคุนิ (Iwakuni Station) ซึ่งเป็นสถานีหลักของเมืองอิวาคุนิมาจนถึงสวนคิกโค มีรถบัสวิ่งให้บริการอย่างสะดวกสบาย เพียงแค่ขึ้นรถบัสอิวาคุนิ (Iwakuni Bus) ที่มุ่งหน้าไปยังสะพานคินไตเคียว (Kintaikyo Bridge) ใช้เวลา 15 นาทีและค่าโดยสาร 300 เยนลงที่ป้ายสะพานคินไตเคียว (Kintaikyo) หลังจากนั้นก็เดินจากป้ายรถบัสมาถึงสวนคิกโคอีกเพียง 3 นาที
ต่อไป เราจะมาแนะนำไฮไลท์ภายในสวนคิกโคกันค่ะ ^^
บ้านเก่าตระกูลเมคาดะ (Former Mekada House) คือ บ้านที่อยู่อาศัยของตระกูลเมคาดะซึ่งเป็นตระกูลนักรบชั้นกลางผู้รับใช้ไดเมียว โดยว่ากันว่าเป็นสถาปัตยกรรมที่สร้างขึ้นราวศตวรรษที่ 18 และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าของชาติ ที่นี่สร้างเป็นอาคาร 2 ชั้นแตกต่างจากคฤหาสน์นักรบทั่วไป บนชั้น 2 ฝั่งติดถนนจะไม่มีการติดตั้งหน้าต่างเอาไว้เลยเพื่อให้ไม่สามารถมองนักรบชั้นสูงจากด้านบนได้ซึ่งจะเหมือนกับการหมิ่นศักดิ์ศรีกัน นี่เป็นการออกแบบโดยคำนึงถึงแนวคิดตามแบบสมัยนั้นนั่นเอง
พิพิธภัณฑ์อิวาคุนิชิโระเฮบิ (Iwakuni Shirohebi Museum) คือ สถานที่จัดแสดงการเลี้ยงงูเผือกที่อาศัยอยู่เฉพาะในอิวาคุนิ งูเผือกนี้เป็นงูหายาก จัดเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นอนุสรณ์สถานทางธรรมชาติของประเทศญี่ปุ่นเลยทีเดียว ภายในสถานที่นี้นอกจากเราจะสามารถชมงูเผือกมากมายได้ที่นี่แล้วก็ยังสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับระบบนิเวศของงูเผือกผ่านงานจัดแสดงได้ด้วย
ที่อยู่ : 2-6 Yokoyama, Iwakuni, Yamaguchi
เวลาทำการ : 09:00 – 17:00 น. ไม่มีวันหยุด แต่มีวันปิดทำการชั่วคราวเพื่อตรวจซ่อมบำรุง
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ (ตั้งแต่นักเรียนมัธยมปลายขึ้นไป) 200 เยน, เด็ก (นักเรียนประถมและมัธยมต้น) 100 เยน
บริเวณโดยรอบของสวนคิกโคและสะพานคินไตเคียวที่เต็มไปด้วยซากุระพันธุ์โซเมโยชิโนะกว่า 3,000 ต้นบานสะพรั่งนับเป็นแหล่งชมซากุระที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในยามากุจิเลยก็ว่าได้ ในแต่ละปีจะมีผู้คนเดินทางมาเที่ยวกว่า 4 แสนคนเลยทีเดียว
นอกจากนี้ สวนคิกโคก็ยังขึ้นชื่อเรื่องใบไม้เปลี่ยนสีสุดงามด้วยนะเออ
นอกจากซากุระและใบไม้เปลี่ยนสีแล้วก็ยังสามารถเพลิดเพลินกับดอกไม้ในฤดูกาลอื่นๆ อย่างดอกบ๊วยในเดือนกุมภาพันธ์ ดอกไอริสในเดือนพฤษภาคม และดอกไฮเดรนเยียในเดือนมิถุนายนได้ด้วยนะจ๊ะ
แหล่งท่องเที่ยวบริเวณโดยรอบสวนคิกโค
ศาลเจ้าคิกโค (Kikko Shrine) คือ ศาลเจ้าที่ตั้งอยู่ภายในสวนคิกโค อาคารสถาปัตยกรรมสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1728 และถูกโยกย้ายมาสร้างใหม่ที่นี่ในปี ค.ศ. 1886
คินอุนคาขุ (Kinunkaku) คือ สถานที่เก็บรักษา แผ่นไม้เขียนคำอธิษฐาน (เอมะ) ภายในศาลเจ้าคิกโคซึ่งสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1885 โดยมีโครงสร้างคล้ายกับโกดังเก็บรักษาลูกธนูภายในปราสาทไดเมียว
สะพานคินไตเคียว (Kintai Bridge) คือ สะพานที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากสวนคิกโค โดยมีเอกลักษณ์อยู่ที่ตัวสะพานสร้างขึ้นจากไม้อย่างเดียว ไม่มีการใช้คอนกรีตหรือโลหะเลย บอกเลยว่าที่นี่ได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน “3 สะพานขึ้นชื่อของญี่ปุ่น” คู่กับสะพานเมกาเนะในจังหวัดนางาซากิและสะพานนิฮมบาชิในโตเกียวเลยทีเดียว
สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับสะพานคินไตเคียวสามารถเข้าไปดูได้จากบทความ "สะพานคินไต สะพานไม้ทรงโค้ง 5 ทอดในจังหวัดยามากุจิ"
ปราสาทอิวาคุนิ (Iwakuni Castle) คือ ปราสาทที่มีปราการปราสาทสไตล์ “คาราสึคุริ” และ “นัมบังสึคุริ” สุดแปลก โดยปกติแล้วปราการปราสาทยิ่งชั้นสูงมากขึ้นเท่าไหร่ ห้องก็จะยิ่งเล็กลงไปเรื่อย ๆ แต่สถาปัตยกรรมสไตล์คาราสึคุริจะมีเอกลักษณ์อยู่ที่ห้องชั้นบนจะใหญ่กว่าชั้นล่าง เราสามารถนั่งกระเช้าจากสวนคิกโคมาถึงได้อย่างสะดวกสบาย (ไป-กลับ 550 เยน)
สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จากบทความ "ปราสาทอิวาคุนิ บนยอดเขาในจังหวัดยามากุจิ"
※ ข้อมูลระยะเวลาในการเดินทางและค่าโดยสารเป็นข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์หลักของสถานที่แต่ละแห่ง โดยเป็นข้อมูล ณ เดือนสิงหาคม 2017 โปรดทราบว่าอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ในภายหลัง
บทความโดย