Start planning your trip
“วัดมุโรจิ” แสนงดงามกลมกลืนกับธรรมชาติในจ.นารา
“วัดมุโรจิ” แห่งนี้สร้างขึ้นตั้งแต่ตีนเขายาวไปจนถึงตอนกลางของภูเขามุโรซังใกล้พรมแดนจ.นาราและจ.มิเอะ โดยเป็นวัดที่ตัวอาคารกลมกลืนไปกับธรรมชาติงดงามมาก ในครั้งนี้เราจะมาแนะนำวัดมุโรจิที่สร้างความประทับใจแก่ผู้มาเยือนกันค่ะ
เดินเล่นมุ่งหน้าไปยังโบสถ์หลัก
หลังจากลงรถบัสมาแล้วเดินตามถนนเลียบแม่น้ำมุโรกาวะไปเรื่อย ๆ ก็จะพบกับ สะพานไทโกะบาชิ สีแดงสดแบบนี้ เลย เมื่อเดินลอดประตูหน้าฝั่งตรงข้ามของสะพานเข้าไปก็จะเป็นเคาน์เตอร์รับรองของทางวัด
เนื่องจากบันไดนี้ดูเหมือนกับชุดเกราะที่สร้างขึ้นจากการนำหินธรรมชาติ (ไม่ได้ผ่านการแปรรูปมาเพื่อใช้สร้างบันไดโดยเฉพาะ) มาซ้อนกันเป็นชั้น ๆ จึงเรียกกันว่า “โยโรอิซากะ (เนินชุดเกราะ)”
บันไดรวมประมาณ 300 ขั้นนี้สร้างผ่าน พลับพลาทอง และ มิโรคุโด ยาวไปจนถึงโบสถ์หลัก บอกเลยว่าระหว่างขึ้นบันไดต้องลองแวะชมอาคารต่าง ๆ ระหว่างทางกันดูค่ะ ^^
พลับพลาทอง
พลับพลาทองแห่งนี้สร้างขึ้นในช่วงต้น สมัยเฮอัน เส้นทางสักการะได้รับการต่อเติมขึ้นใหม่ในสมัย สมัยเอโดะ โดยก่อนหน้านั้นผู้ที่เดินทางมาไหว้พระจำเป็นต้องขึ้นบันไดหินมาเท่านั้น
เราสามารถชมพระพุทธรูปชื่อดังหลายองค์ได้ที่นี่เลยไม่ว่าจะเป็นสมบัติของชาติอย่าง “พระโคตมพุทธเจ้าปางยืน”, “เจ้าแม่กวนอิม 10 พักตร์” และมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าของชาติอย่าง “พระไภษัชยคุรุ”
มิโรคุโด
ส่วน “มิโรคุโด” ตั้งอยู่ข้าง ๆ พลับพลาทองเลย ที่นี่ก็มีพระพุทธรูปมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าให้ได้ชมเช่นเดียวกัน
โบสถ์หลัก
เมื่อเดินขึ้นบันไดมาก็จะพบกับ “คันโจโด” ซึ่งเป็นโบสถ์หลักของที่นี่แล้วล่ะค่ะ ที่นี่ประดิษฐานฮอนซน (※3) “รูปปั้นพระโพธิสัตว์จินดามณีจักร”
แถมที่นี่ยังเป็นสถานที่จัดพิธีที่สำคัญที่สุดในนิกายชินงอนอย่าง “พิธีคันโจ” ด้วยนะเออ...
※3 : ฮอนซน……พระประธานองค์ที่สำคัญที่สุดในบรรดาพระทุกองค์ภายในวัด
ผ่านเจดีย์ 5 ชั้นไปยังโอคุโนะอิน
ถ้าเดินขึ้นบันไดข้างโบสถ์หลักมาก็จะพบกับเจดีย์ 5 ชั้นตามภาพนี้เลย เจดีย์ 5 ชั้นที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางแจ้งนี้มี ขนาดเล็กที่สุดในญี่ปุ่น
โดยเป็นเจดีย์เก่าแก่รองจากเจดีย์ 5 ชั้นของวัดโฮริวจิที่สร้างขึ้นใน สมัยเฮอัน รูปร่างหน้าตาที่ดูกลมกลืนเข้ากับธรรมชาติเป็นอะไรที่งดงามสุด ๆ
เส้นทางจากโบสถ์หลักมาถึงโอคุโนะอินต้องขึ้นบันไดมาประมาณ 400 ขั้น เมื่อขึ้นบันไดมาจนสุดก็จะพบกับอาคาร “อิไฮโด” ทันที ที่นี่สร้างยื่นออกไปบนเนินสูงชันเหมือนกับ วัดฮาเซเดระ ในนาราและ วัดคิโยมิสึ ในเกียวโต
ภายใน “มิเอโด” ประดิษฐานรูปปั้นโคโบไดชิ (※4) เมื่อสมัยที่อายุ 42 ปี โดยเรียกกันอีกชื่อหนึ่งว่า “ไดชิโด” ไดชิโดนั้นมีตั้งอยู่ทั่วญี่ปุ่นก็จริง แต่บอกเลยว่าที่นี่เก่าแก่ที่สุดแล้ว!
นอกจากนี้ วัดมุโรจิก็ยังขึ้นชื่อเรื่อง ดอกชาคุนาเกะ อีกด้วย ระหว่างช่วงกลางเดือนเมษายนจนถึงต้นเดือนพฤษภาคมตรงกับช่วงชมดอกชาคุนาเกะ ถ้าเกิดใครมาเที่ยวช่วงนี้จะบอกเลยว่าสวยมาก
วัดมุโรจิแห่งนี้ห้อมล้อมไปด้วยธรรมชาติและบรรยากาศอันศักดิ์สิทธิ์ เพื่อน ๆ ต้องแวะสัมผัสบรรยากาศสุดเอกลักษณ์แบบนี้ที่นี่กันให้ได้ค่ะ ^^
※4 : โคโบไดชิ……ชื่อที่จักรพรรดิใช้เรียกพระคูไคเพื่อเป็นการแสดงความเคารพ
ข้อมูลพื้นฐานของวัดมุโรจิ
ช่วงเวลาเปิดให้เข้าสักการะไหว้พระของวัดมุโรจิระหว่างวันที่ 1 เมษายน – 30 พฤศจิกายน 08.30 – 17.00 น. ส่วนระหว่างวันที่ 1 ธันวาคม – 31 มีนาคม 09.00 – 16.00 น.
ค่าเข้าชมสำหรับผู้ใหญ่ 600 เยนและเด็ก 400 เยน
งานอีเว้นท์ตามฤดูกาลของวัดมุโรจิ
ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนเมษายนจนถึงต้นเดือนพฤษภาคมซึ่งตรงกับช่วงชมดอกชาคุนาเกะจะมีการจัด “งานเทศกาลชาคุนาเกะ” ขึ้นภายในวัดมุโรจิ
นอกจากนี้ ในฤดูใบไม้เปลี่ยนสียังมีการจัด “งานเทศกาลชมใบไม้เปลี่ยนสี” ขึ้นอีกด้วย (ปี 2017 : วันที่ 14 ตุลาคม – 3 ธันวาคม) ระหว่างช่วงงานเทศกาลชมใบไม้เปลี่ยนสีจะมีการจัดไลท์อัพขึ้นในวันที่กำหนดและวันพิเศษที่เปิดให้เข้าชมพลับพลาทองประจำฤดูใบไม้ร่วงด้วยนะ (17.00 – 20.00 น., เปิดให้ขึ้นภูเขาจนถึงเวลา 19.30 น.)
โดยเราจะได้สัมผัสกับวัฒนธรรมดั้งเดิมภายในงานเทศกาลชมใบไม้เปลี่ยนสีไม่ว่าจะเป็นพิธีชงชาและการแสดงดนตรีจากขลุ่ยไม้ไผ่ซึ่งเรียกกันว่า “ชาคุฮาจิ”
วิธีการเดินทางไปยังวัดมุโรจิ
เราสามารถนั่งรถบัสหรือรถแท็กซี่จาก Kintetsu Railway Osaka Line Murōguchi-Ōno Station มาถึงวัดมุโรจิได้อย่างสะดวกสบาย โดยใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 15 นาทีและค่าโดยสาร 430 เยนสำหรับรถบัส เนื่องจากมีรถบัสวิ่งให้บริการน้อย จึงขอแนะนำให้เช็ค ตารางเดินรถบัส ให้ดีก่อนเสมอ
วิธีการเดินทางจากโอซาก้า (อุเมดะ) ไปยัง Murōguchi-Ōno Station
จากโอซาก้า (อุเมดะ) ให้นั่งรถไฟ JR Osaka Loop Line ซึ่งมุ่งหน้าไปยังเคียวบาชิไปลงที่ “Tsuruhashi Station” เพื่อเปลี่ยนขบวนเป็นรถไฟด่วนซึ่งมุ่งหน้าไปยังนาบาริ,อาโอยามะโจ, อุจิยามาดะ หรืออิซุซุกาวะของ Kintetsu Railway Osaka Line
ระยะเวลาในการเดินทางมาถึง Murōguchi-Ōno Station ประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที ค่าโดยสาร 1,060 เยน
วิธีการเดินทางจากเกียวโตไปยัง Murōguchi-Ōno Station
จากเกียวโตให้นั่งรถไฟด่วน Kintetsu Railway Kyoto Line ซึ่งมุ่งหน้าไปยัง Kashiharajingū-mae ไปลงที่ “Yamato-Yagi Station” เพื่อเปลี่ยนขบวนเป็นรถไฟด่วนซึ่งมุ่งหน้าไปยังนาบาริ,อาโอยามะโจ, อุจิยามาดะ หรืออิซุซุกาวะของ Kintetsu Railway Osaka Line
ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที ค่าโดยสาร 1,140 เยน
แหล่งท่องเที่ยวบริเวณโดยรอบวัดมุโรจิ
จาก「ขึ้นบันได 399 ขั้นไปยังโบสถ์ ไฮไลท์ของ "วัดฮาเสะเดระ" จังหวัดนาระ」
ถัดจาก Murōguchi-Ōno Station 2 สถานี (เปลี่ยนขบวนที่ Haibara Station) เป็นที่ตั้งของวัดฮาเซเดระ (Hase-dera) หรือที่เรียกกันว่าเป็นวัดดอกไม้
สำหรับใครที่มีโอกาสได้เดินทางมาเที่ยวนาราก็ขอแนะนำให้ตระเวนเที่ยววัดทั้ง 4 แห่งนี้ให้ครบประกอบด้วย วัดฮาเซเดระ (Hase-dera), วัดมุโรจิ, วัดอาเบะมอนจูอิน (Abe Monju-in) และวัดโอกาเดระ (Oka-dera) หรือที่เรียกรวม ๆ ว่า “การเดินทางจาริกแสวงบุญ 4 วัดแห่งนารายามาโตะ” เลยค่ะ สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จาก เว็บไซต์หลัก
ยังไงก็ขอให้เพื่อน ๆ สนุกกับการตระเวนเที่ยวชมวัดและศาลเจ้าในนารากันนะคะ ^^
※ ข้อมูลระยะเวลาในการเดินทางและค่าโดยสารเป็นข้อมูลอ้างอิงมาจากเว็บไซต์หลักของสถานที่แต่ละแห่ง โดยเป็นข้อมูล ณ ปัจจุบัน เดือนตุลาคม 2017 โปรดทราบว่าข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงในภายหลัง
ร่วมกับ : วัดมุโรจิ
奈良生まれの旅好きライター。日本の魅力を世界の人々に伝えていきたいです。
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง