แผนเที่ยวฮาโกเนะฤดูใบไม้ร่วง 1 วันเพื่อสัมผัสศิลปะ สวน โรงน้ำชา และใบไม้เปลี่ยนสี

10.00 น. เพลิดเพลินกับใบไม้เปลี่ยนสีและศิลปะในแห่งเดียวที่ “พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งฮาโกเนะ (Hakone Open-Air Museum)”

เอื้อเฟื้อภาพโดย : Hakone Open-Air Museum

พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งฮาโกเนะ แห่งนี้เป็นสถานที่ที่สามารถเพลิดเพลินกับประติมากรรมกลางแจ้งตามจุดต่าง ๆ และใบไม้เปลี่ยนสีภายในพื้นที่อันแสนกว้างใหญ่กว่า 70,000 ตารางเมตรได้อย่างจุใจ หอจัดแสดงในร่ม เช่น หอปีกัสโซ มีทั้งหมด 5 แห่งด้วยกัน โดยขอแนะนำสำหรับใครที่อยากเพลิดเพลินกับทั้งใบไม้เปลี่ยนสีและศิลปะกันแบบจัดเต็มทั้งคู่เลยค่ะ ^^

นอกจากนี้ก็ยังมี คาเฟ่ แสนสบาย, ร้านอาหาร สไตล์บุฟเฟ่ต์ และ ร้านอาหารครอบครัว ที่ใช้วัตถุดิบธรรมชาติด้วย เราจึงสามารถเลือกทานมื้อกลางวันได้ตามใจชอบเลย

12.30 น. ชมการผสมผสานระหว่างความงามสไตล์ญี่ปุ่นและสวนสไตล์ฝรั่งเศสที่ “สวนฮาโกเนะโกระ (Hakone Gora Park)”

จาก「รวม 5 ที่เที่ยวชมใบไม้เปลี่ยนสี ฟินกับฤดูใบไม้ร่วงที่ฮาโกเนะ」

หลังจากนั่งรถบัสที่มุ่งหน้าไปยัง “Shisseikaen-mae” มาจากป้ายรถบัส “Chokoku-no-mori” ประมาณ 10 นาทีก็จะถึง สวนฮาโกเนะโกระ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสวนสไตล์ฝรั่งเศสแห่งแรกของญี่ปุ่นแล้วล่ะค่ะ ตรงใจกลางสวนมีน้ำพุตั้งอยู่ให้บรรยากาศสไตล์เปิดโล่งโปร่งสบาย ค่าเข้าชมรวมภาษีสำหรับผู้ใหญ่ 550 เยน

เมื่อย่างเข้าสู่ช่วงชมใบไม้เปลี่ยนสีภายในสวน ดอกกุหลาบภายในสวนก็จะเริ่มบานสะพรั่งสวยงามตามไปด้วย ไหนใครอยากลองแวะมาเพลิดเพลินกับ ความงดงามที่ผสมผสานกันระหว่างใบไม้เปลี่ยนสีและดอกกุหลาบ กันดูบ้างเอ่ย?

13.30 น. ชมทัศนียภาพอันงดงามจากโรงน้ำชาภายใน “พิพิธภัณฑ์ศิลปะฮาโกเนะ (Hakone Museum of Art)”

เอื้อเฟื้อภาพโดย : Hakone Museum of Art

เมื่อเดินเท้าจากสวนฮาโกเนะโกระมาประมาณ 5 นาทีก็จะพบกับ “พิพิธภัณฑ์ศิลปะฮาโกเนะ” แห่งนี้เลย ที่นี่ตั้งอยู่ภายใน สวนญี่ปุ่น ซึ่งเรียกกันว่า “ชินเซ็นเคียว” เราสามารถชม ใบไม้เปลี่ยนสีที่แต่งแต้มไปด้วยใบเมเปิ้ล ได้อย่างจุใจ

นอกจากนี้ก็ยังเป็นที่ตั้งของโรงน้ำชา “ชินวะเท” ซึ่งตั้งอยู่ติดกับ “สวนมอส” ภายในสวนอีกด้วย โดยเราสามารถเพลิดเพลินกับ ขนมญี่ปุ่น ตามฤดูกาลและ ชาเขียว ที่ปลูกแบบปลอดสารพิษได้ที่นี่เลย (ราคารวมภาษี 700 เยน / 1 ชุด เวลาทำการ 10.00 – 15.30 น.)

บอกเลยว่าน่ามานั่งจิบชาพลางชมใบไม้เปลี่ยนสีชิลล์ ๆ เป็นไหน ๆ

ค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์ศิลปะฮาโกเนะสำหรับผู้ใหญ่ 900 เยน เด็กมัธยมปลายและนักศึกษา 400 เยน

15.00 น. ชมรูปปั้นราคันตามจุดต่าง ๆ และใบไม้เปลี่ยนสีสุดงามที่ “วัดโชอันจิ (Choanji)”

จาก「2 ที่เที่ยวที่ฮาโกเนะในฤดูใบไม้ร่วง「วัดโจอันจิ」และ「เนินเขาเซ็นโกคุ」」

เมื่อเอ่ยถึงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีของฮาโกเนะแล้วบอกเลยว่า “วัดโชอันจิ” ก็ขึ้นชื่อเรื่องใบไม้เปลี่ยนสีไม่แพ้กัน จากพิพิธภัณฑ์ศิลปะฮาโกเนะให้นั่งรถบัสที่มุ่งหน้าไปยัง “Shisseikaen-mae” หรือ “Kojiri・Togendai” ประมาณ 20 นาทีมาลงป้าย “Sengoku” แล้วถึงวัดทันที

บรรยากาศที่เรียงรายไปด้วยรูปปั้นราคันหลายร้อยองค์ตั้งอยู่ตามจุดต่าง ๆ ภายในวัดท่ามกลางใบไม้เปลี่ยนสี เป็นอะไรที่ควรค่าแก่การมาชมให้ได้สักครั้งในชีวิต

สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จาก「2 ที่เที่ยวที่ฮาโกเนะในฤดูใบไม้ร่วง「วัดโจอันจิ」และ「เนินเขาเซ็นโกคุ」」

16.00 น. ดื่มด่ำกับเสน่ห์ที่แตกต่างจากใบไม้เปลี่ยนสีที่ “ที่ราบสูงเซ็งโกคุฮาระซูซูกิ (Sengokuhara Susuki Grass Fields)”

จาก「2 ที่เที่ยวที่ฮาโกเนะในฤดูใบไม้ร่วง「วัดโจอันจิ」และ「เนินเขาเซ็นโกคุ」」

จากวัดโชอันจิให้นั่งรถบัสที่มุ่งหน้าไปยัง “Togendai” ประมาณ 10 นาทีมาลงป้าย “Sengoku Kogen” แล้วจะถึง “ที่ราบสูงเซ็งโกคุฮาระซูซูกิ” ทันที เมื่อย่างเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง หญ้าซูซูกิสีเหลืองอร่าม จะปกคลุมพื้นที่ไปทั่วทั้งบริเวณเลยทีเดียว

โดยเฉพาะในตอนเย็น บรรยากาศของหญ้าซูซูกิสีเหลืองอร่ามที่สะท้อนกับแสงอาทิตย์ยามเย็นเป็นอะไรที่สุดยอดมาก ๆ แถมที่นี่ยังมีการตัดเส้นทางเดินเล่นกินลมชมวิวเอาไว้ให้ด้วย ยังไงก็อย่าลืมแวะมาเดินเล่นสัมผัสบรรยากาศสุดงามที่นี่กันดูนะคะ ^^

สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จาก「2 ที่เที่ยวที่ฮาโกเนะในฤดูใบไม้ร่วง「วัดโจอันจิ」และ「เนินเขาเซ็นโกคุ」」

18.00 น. เดินทางมาถึง “สถานีฮาโกเนะ-ยูโมโตะ (Hakone-Yumoto Station)”

จาก「จากโตเกียวก็ไปเช้าเย็นกลับได้！ที่ที่น่าไปชม 「ฮาโกเนะ-ยูโมโตะ」ปากทางเข้าฮาโกเนะ」

และสุดท้ายเราจะนั่งรถบัสที่มุ่งหน้าไปยัง “Odawara” กลับไปที่ Hakone-Yumoto Station โดยใช้เวลาประมาณ 40 นาที หลังจากนั้น เราจะกลับชินจุกุเลยก็ได้ แต่เพราะว่า ฮาโกเนะเป็นแหล่งขึ้นชื่อเรื่องออนเซ็น จึงขอแนะนำว่าถ้าเกิดใครค้างอีกซักคืนเพื่อแช่ออนเซ็นต่อพลางรำลึกถึงความทรงจำตลอดทั้งวันอย่างชิลล์ ๆ ก็น่าจะดีไม่น้อยเลยค่ะ ^^