ตามรอยสตูดิโอจิบลิ 15 ที่ทั่วญี่ปุ่น (Studio Ghibli)

สถานที่ที่เกี่ยวข้องกับจิบลิทั่วญี่ปุ่น!

ภาพยนตร์อนิเมชั่นของสตูดิโอจิบลิ (Studio Ghibli) โดยเฉพาะผลงานของผู้กำกับมิยาซากิ ฮายาโอะ มีแฟนคลับจำนวนมากอยู่ทั่วโลก ถึงขั้นที่ตั๋วเข้าชม Ghibli Museum หรือพิพิธภัณฑ์จิบลิ ที่จัดแสดงผลงานที่เกี่ยวข้องกับภาพยนตร์จิบลิขายหมดเกลี้ยงโดยใช้เวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง

นอกจาก Ghibli Museum แล้ว ยังมีสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับสตูดิโอจิบลิอยู่มากมายทั่วทั้งประเทศญี่ปุ่น เช่น สถานที่ที่ผู้กำกับมิยาซากิได้รับแรงบันดาลใจและนำมาใช้ในภาพยนตร์ ร้านค้าที่ขายสินค้าของจิบลิ หรือคาเฟ่ที่มีของหวานเป็นธีมจากภาพยนตร์จิบลิ

ในบทความนี้จะขอแนะนำ 15 สถานที่ที่เกี่ยวข้องกับจิบลิในประเทศญี่ปุ่นค่ะ

โตเกียว

ก่อนอื่น ลองไปดูสถานที่ 4 แห่งที่เกี่ยวข้องกับจิบลิในโตเกียวกันเลยค่ะ

1. Ghibli Museum ที่มิทากะ

Photo by Pixta

Ghibli Museum ที่เขตมิทากะ (Mitaka) หนึ่งในสถานที่ที่แฟนๆ สตูดิโอจิบลิจะไปเยือนเป็นที่แรก ที่นี่เปิดขึ้นในวันที่ 1 ตุลาคม 2001 แม้จะเปิดมาเป็นเวลานานแล้ว แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าความนิยมจะลดลงเลย

ผลงานที่จัดแสดงส่วนใหญ่จะเป็นการจัดแสดงแบบถาวร และมีมุมจัดแสดงชั่วคราวที่เปลี่ยนปีละ 1 ครั้ง ในช่วงปี 2017 ไปจนถึงเดือนพฤศจิกายน 2018 (อาจมีการเปลี่ยนแปลง) จะเป็นการจัดแสดงอาหารที่ปรากฎในภาพยนตร์อนิเมชั่นของจิบลิค่ะ

ภายในพิพิธภัณฑ์จะมีการฉายหนังสั้นที่หาดูที่อื่นไม่ได้ และยังมีการจัดงานโปรโมทผลงานใหม่ๆ ด้วย

ตั๋วเข้าชมจะต้องซื้อล่วงหน้า และต้องกำหนดวัน-เวลาเข้าชมด้วย (หลังจากซื้อแล้วไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้) ในประเทศญี่ปุ่นจะมีการจำหน่ายตั๋วเข้าชมของเดือนถัดไป ตั้งแต่วันที่ 10 ของทุกๆ เดือน ในต่างประเทศก็สามารถซื้อตั๋วเข้าชมของเดือนถัดไปได้ตั้งแต่วันที่ 1 ของทุกๆ เดือนผ่านเว็บไซต์ของ JTB กรุ๊ปค่ะ

ตั๋วขายหมดเร็วมาก หากมีแผนจะเดินทางไปแน่นอนแล้ว แนะนำให้รีบซื้อทันทีนะคะ

รายละเอียดเพิ่มเติม ดูได้ที่บทความ "วิธีซื้อซื้อตั๋วเข้าพิพิธภัณฑ์จิบลิและการเดินทาง"

พิพิธภัณฑ์จิบลิ มิตากะ

1-1-83 Shimorenjaku, Mitaka City, โตเกียว 181-0013

2. The Ghibli Clock ที่ชิโอโดเมะ

จาก "The Ghibli Clock In Shiodome - Enjoy Hayao Miyazaki’s Art For Free!"

The Ghibli Clock ตั้งอยู่ในชิโอโดเมะ (Shiodome) ด้านหน้าสำนักงานใหญ่ของสถานีโทรทัศน์ Nippon Television เป็นผลงานศิลปะกลางแจ้งที่เกี่ยวข้องกับจิบลิในโตเกียว ได้รับการออกแบบโดยผู้กำกับมิยาซากิ ฮายาโอะ และสร้างขึ้นโดยคุณชิจิมารุ คุนิโอะ ศิลปินคนเดียวกับที่สร้างสรรค์หุ่นเหล็กที่อยู่ด้านบน Ghibli Museum

นาฬิกากุ๊กกูนี้สูง 10 เมตรและกว้าง 18 เมตร สร้างขึ้นจากการร่วมมือกันระหว่างผู้กำกับมิยาซากิ ฮายาโอะกับสถานีโทรทัศน์ Nippon Television เปิดตัวในปี 2006 แม้ผู้กำกับมิยาซากิจะไม่ได้อธิบายถึงที่มาที่ไปของนาฬิกาเรือนนี้ แต่เพราะทั้งนาฬิกาและภาพยนตร์เรื่อง Howl’s Moving Castle ก็ถูกสร้างขึ้นในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน ไม่แน่อาจจะมีอะไรที่เกี่ยวข้องกันก็ได้นะคะ

มีโชว์กลไกของนาฬิกาด้วย ในวันธรรมดามี 4 ครั้ง เวลา 12:00, 15:00, 18:00 และ 20:00 ส่วนวันสุดสัปดาห์มี 5 ครั้ง โดยเพิ่มเวลา 10:00 ขึ้นมาด้วย แต่ระวังนิดนึงนะคะเพราะกลไกจะเริ่มทำงานก่อนเวลาที่กำหนด 2 นาที 45 วินาทีค่ะ

นาฬิกาจิบลิที่พอจะมองเห็นได้ถึงความพิถีพิถันและความละเอียดยิบของผู้กำกับมิยาซากิ แนะนำสำหรับแฟนๆ จิบลิและผู้ที่มีใจรักศิลปะว่าห้ามพลาดชมทีเดียวค่ะ

นาฬิกายักษ์จิบลิ

1-6 Higashi-Shimbashi, Minato-ku, โตเกียว 105-0021

3. Edo-Tokyo Open-Air Architectural Museum

จาก "ทั้งสถานที่เชิงประวัติศาสตร์ ทั้งจิบลิ!? พิพิธภัณฑ์สิ่งก่อสร้างเอโดะโตเกียว"

Edo-Tokyo Open-Air Architectural Museum หรือพิพิธภัณฑ์สถาปัตยกรรมกลางแจ้งเอโดะ จัดแสดงผลงานทางสถาปัตยกรรมของยุคสมัยเอโดะ ที่ว่ากันว่าเป็นต้นแบบของอาคารต่างๆ ในภาพยนตร์เรื่อง Spirited Away

ทั้งเรื่องที่ตั้งที่อยู่ไม่ไกลจากสำนักงานใหญ่ของสตูดิโอจิบลิ ผู้กำกับมิยาซากิเลยแวะมาที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ค่อนข้างบ่อยในช่วงที่กำลังสร้างภาพยนตร์เรื่อง Spirited Away หนอนผีเสื้อสีเขียวที่เป็นมาสค็อตของ Edo-Tokyo Open-Air Architectural Museum ก็เป็นการออกแบบของผู้กำกับมิยาซากิด้วยเช่นกัน

รถรางเก่าที่จัดแสดงในโซนตะวันออกของพิพิธภัณฑ์ก็เหมือนกับรถไฟที่พาจิฮิโระกับคาโอนาชิภูติไร้หน้าไปหาเซนีบะเป๊ะเลย อาคารโรงอาหารเก่าก็ทำให้นึกถึงฉากที่พ่อแม่ของจิฮิโระกำลังทานอาหารและกลายร่างเป็นหมู

ภายใน Edo-Tokyo Open-Air Architectural Museum มีสถาปัตยกรรมให้ชมมากมาย ตั้งแต่บ้านญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมไปจนถึงสิ่งก่อสร้างที่ได้รับอิทธิพลมาจากชาติตะวันตก เราจะได้สัมผัสประสบการณ์ราวกับนั่งไทม์แมชชีนย้อนยุคกลับไปสู่อดีตเลยค่ะ

เอโดะ โตเกียว ทาเทโนะเอ็ง

3-7-1 Sakuracho, Koganei-shi, โตเกียว 184-0005

4. Shirohige's Cream Puff Factory

จาก "ชูครีมของโทโทโร่ อย่างเป็นทางการแห่งเดียวในโลกอยู่ที่เซตากายะ"

Shirohige's Cream Puff Factory หรือโรงงานครีมพัฟฟ์ชิโระฮิเกะ ตั้งอยู่ใกล้กับย่านชิโมะคิตาซาวะ ที่ร้านนี้ขาย "ชูครีมของโทโทโร่" ที่ได้รับอนุญาตจากสตูดิโอจิบลิอย่างเป็นทางการเพียงแห่งเดียวในประเทศญี่ปุ่น

ดีไซน์ของสิ่งของต่างๆ ภายในร้านนี้เป็นสไตล์ของจิบลิทั้งหมด กุ๊กที่มีหนวดสีขาวซึ่งเป็นมาสค็อตของร้าน และการตกแต่งภายในร้านก็ล้วนแต่หลุดออกมาจากภาพยนตร์ของจิบลิทั้งสิ้น

ขนมของ Shirohige's Cream Puff Factory ออกแบบเป็นโทโทโร่กับเพื่อนพ้องในป่า ชูครีมจะมีรสทั่วไปที่ทำขายตลอดทั้งปีคือ ครีมคัสตาร์ดกับครีมช็อกโกแลต และรสพิเศษขายตามฤดูกาล แล้วก็มีเค้กกับคุ้กกี้จำหน่ายด้วยค่ะ

สำหรับคนที่อยากลองทานขนมหวานรูปโทโทโร่ที่น่ารักและแสนอร่อย ต้องรีบไปลองค่ะ!

สตูดิโอพัฟครีมเคราขาว

5-3-1 Daita, Setagaya-ku, โตเกียว 155-0033

จังหวัดรอบๆ โตเกียว

ต่อไปจะแนะนำสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับจิบลิที่อยู่ใกล้โตเกียวค่ะ

5. Totoro Forest จังหวัดไซตามะ

จาก "A Walk Through Totoro's Forest In Saitama"

เนินเขาซายามะ (Sayama Hills) จังหวัดไซตามะ ด้านเหนือของโตเกียว ได้รับการขนานนามใหม่ว่า Totoro Forest หรือป่าโทโทโร่ในปัจจุบัน เพราะเป็นต้นแบบของฉากในภาพยนตร์เรื่อง My Neighbor Totoro (โทโทโร่เพื่อนรัก) จุดที่ทำให้นึกถึงฉากในหนังมีหลายแห่งเลยค่ะ

สถานที่ที่มีชื่อเสียงที่สุดในป่าโทโทโร่ก็คือบ้านคุโรสุเกะ ซึ่งเป็นชื่อที่ตั้งจากภูตสีดำ "มัคคุโระ คุโรสุเกะ" ที่ปรากฎตัวในหนัง บ้านนี้เป็นที่รู้จักในชื่อบ้านโทโทโร่ด้วยเช่นกันค่ะ

ภายในบ้านมีการจัดแสดงสิ่งที่เกี่ยวข้องกับหนัง สามารถถ่ายภาพคู่กับโทโทโร่ขนาดใหญ่ได้ด้วยนะคะ ส่วน "มัคคุโระ คุโรสุเกะ" ที่ปรากฎตัวในเรื่อง "Spirited Away" จะใช้ชื่อว่า "ซุซุวาตาริ" ค่ะ

บ้านหลังนี้ยังมีเสียงเล่าลือด้วยว่ามี "มัคคุโระ คุโรสุเกะ" ตัวจริงอาศัยอยู่ และมีแค่เด็กๆ เท่านั้นที่มองเห็น

Totoro no Mori No. 1

351 Kamiyamaguchi ปลาเบ็ดเตล็ดในเมือง Tokorozawa จังหวัดไซตามะ 359-115...

6. ยามาเตะ เมืองโยโกฮาม่า

จาก "สถานที่ต้นแบบของ "ป๊อปปี้ ฮิลล์ ร่ำร้องขอปาฏิหาริย์" หนังสตูดิโอจิบลิ ที่โยโกฮาม่า"

ยามาเตะ (Yamate) เมืองโยโกฮาม่า จังหวัดคานากาว่าด้านใต้โตเกียว เป็นต้นแบบของสถานที่ในภาพยนตร์เรื่อง From Up On Poppy Hill (ป๊อปปี้ ฮิลล์ ร่ำรองขอปาฏิหาริย์) มีต้นแบบของร้านดอกไม้ที่ปรากฎในหนัง และ Maruei Shoten (มารุเอโชเต็น) ต้นแบบของร้านที่ตัวละครไปซื้อโคร็อกเกะด้วย

ในยามาเตะมีบรรยากาศเงียบสงบ มีสิ่งก่อสร้างสไตล์ยุโรปเหมือนในหนังตั้งอยู่จำนวนมาก

7. Yokohama Motomachi Shopping Street

จาก "ไปเที่ยวโยโกฮาม่ากันมั้ย? แนะนำมินาโตะมิไรและที่เที่ยวที่น่าไปทั้ง 9 แห่ง"

ถ้าไปเที่ยวโยโกฮาม่าล่ะก็ ลองไปเที่ยวถนนช้อปปิ้งที่โมโตมาจิ (Motomachi) กันดูไหมคะ? ที่นี่เป็นสถานที่ที่ฮารุ ตัวละครเอกของเรื่อง The Cat Returns (เจ้าแมวยอดนักสืบ) ได้เจอกับแมวมุตะเป็นครั้งแรก แถมใกล้ๆ กันยังมีสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับ From Up on Poppy Hill (ป๊อปปี้ ฮิลล์ ร่ำรองขอปาฏิหาริย์) อีกเพียบเลยค่ะ

ที่นี่มีบรรยากาศสไตล์ยุโรปคล้ายกับเมืองยามาเตะที่แนะนำไปเมื่อสักครู่ และสองฝั่งถนนยาว 500 เมตรก็เรียงรายไปด้วยร้านขายสินค้าคุณภาพสูง ร้านคาเฟ่และร้านอาหารให้เพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งได้ค่ะ

ถนนช้อปปิ้งโยโกฮาม่า โมโตมาจิ

1-29 Motomachi, Naka-ku, โยโกฮาม่า-ชิ, 231-0861 GINZA TANAKA

8. Shima Onsen จังหวัดกุนมะ

จาก "ชิมะออนเซ็น บ่อน้ำร้อนเก่าแก่ชื่อดังในกุนมะที่เชื่อว่ารักษาได้ทุกโรค!"

ลือกันว่าผู้กำกับมิยาซากินำไอเดียการทำบ่อน้ำร้อนใน Spirited Away มาจากออนเซ็นเรียวกัง 3 แห่งในญี่ปุ่น หนึ่งในนั้นคือ Sekizen Kan (เซกิเซ็นคัง) ที่อยู่ในแหล่งออนเซ็น ชิมะออนเซ็น (Shima Onsen) จังหวัดกุนมะ ที่คล้ายกับทิวทัศน์ยามค่ำคืนของโรงอาบน้ำที่อยู่ในหนังมากที่สุด

เซกิเซ็นคัง ออนเซ็นเรียวกังสร้างจากไม้ที่ว่าเก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่นมีสะพานสีแดงเหมือนกับในภาพยนตร์ แม้ในตอนกลางวันอาจจะดูไม่โดดเด่น แต่เมื่อตะวันลับขอบฟ้า ก็จะส่องแสงอย่างลี้ลับทำให้นึกถึงโรงอาบน้ำที่อยู่ในภาพยนตร์เลยค่ะ

การเดินทางไปชิมะออนเซ็น เดินทางด้วยรถบัสหรือรถไฟจากโตเกียวไปได้ไม่ยากเลยค่ะ

บ่อน้ำพุร้อน Shiwan Jizenkan

Sekizen Onsen เมือง Nakanojo เขต Kamitsuma จังหวัด Gunma 377-0601

9. Shibu Onsen จังหวัดนากาโนะ

จาก "ไปหาลิงแช่ออนเซ็นที่ ชิบุออนเซ็น จังหวัดนากาโนะ เดินเล่นเมืองออนเซ็นสไตล์เรโทร"

เรียวกังคานากุยะ (Kanaguya Ryokan) ในเมืองออนเซ็นชิบุออนเซ็น (Shibu Onsen) จังหวัดนากาโนะ ก็ว่ากันว่าเป็นหนึ่งในเรียวกังต้นแบบของภาพยนตร์เรื่อง Spirited away งานไม้ของตัวอาคารด้านหน้าโดยช่างไม้ฝีมือเยี่ยม ทำให้นึกถึงโรงอาบน้ำในตอนกลางวันเลยค่ะ

ไม่ใช่แค่ด้านนอกนะคะ พอเดินเข้าไปด้านในคานากุยะแล้วก็ทำให้นึกไปถึงโรงอาบน้ำได้อีก สามารถเดินทางไปด้วยรถบัสหรือรถไฟได้อย่างสะดวกเหมือนกับชิมะออนเซ็นในจังหวัดกุนมะ ไปแล้วไม่ผิดหวังแน่นอน

คะนะงุยะ โรงแรมเก่าแก่

2202 Hirao, Yamanouchi-machi, Shimotakai-gun, นากาโนะ 381-0401

ที่อื่นๆ ทั่วญี่ปุ่น

สุดท้ายนี้ จะพาไปดูสถานที่ที่เกี่ยวกับจิบลิในแต่ละแห่งทั่วประเทศญี่ปุ่นกันค่ะ

10. เมืองคุชิโระ จังหวัดฮอกไกโด

จาก "ล่องเรือแคนูชมพระอาทิตย์ยามเย็น! 7 กิจกรรมห้ามพลาดเมื่อได้มาเที่ยวเมืองคุชิโระในฮอกไกโด"

เมืองคุชิโระ (Kushiro) จังหวัดฮอกไกโดเป็นแรงบันดาลใจให้กับฉากในเรื่อง When Marnie Was There (ฝันของฉันต้องมีเธอ) ผลงานของผู้กำกับ โยเนะบานาชิ ฮิโรมาสะ อาจเป็นเพราะเรื่องนี้ไม่ใช่ผลงานของผู้กำกับมิยาซากิ จึงมีคนรู้จักสถานที่ในเรื่องนี้ค่อนข้างน้อย

แต่ถึงอย่างนั้นเมืองคุชิโระก็เป็นเมืองใหญ่หนึ่งในสามของฮอกไกโดที่น่าไปเยือนค่ะ เพราะมีจุดชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามมากมาย โดยเฉพาะอาหารทะเลของที่นี่ก็อร่อยกว่าที่อื่นๆ เป็นพิเศษ แม้จะไม่ได้ตามรอยจิบลิแต่ก็เป็นที่ที่คุ้มค่าที่จะมาเยือนมากๆ ค่ะ

11. เมืองฮิราคาวะ จังหวัดอาโอโมริ

จาก "อาโอโมริ กับ ความอบอุ่นที่กึกก้องไปทั้งหัวใจ จาก ผู้คน, ของกิน, ทิวทัศน์ที่สวยงาม, เที่ยวออนเซ็น"

เซบิเอ็น (Seibien) ในเมืองฮิราคาวะ (Hirakawa) จังหวัดอาโอโมริ (Aomori) เป็นต้นแบบของบ้านสไตล์ตะวันตกที่มีสวนญี่ปุ่น ซึ่งปรากฎในภาพยนตร์เรื่อง The Secret World of Arrietty (อาริเอตี้ มหัศจรรย์ความลับคนตัวจิ๋ว)

สวนญี่ปุ่นของบ้านหลังนี้เป็นหนึ่งในสามของสวนที่ใหญ่ที่สุดที่สร้างในยุคเมจิ (1868-1912) ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง มีทิวทัศน์สวยงาม และเป็นจุดชมวิวยอดนิยมที่ได้รับเลือกจากรัฐบาลญี่ปุ่น

นอกจากนี้ใกล้กับเมืองฮิราคาวะยังมีสถานที่ท่องเที่ยวทีมีชื่อเสียงอย่างปราสาทฮิโรซากิ (Hirosaki Castle) กับวัดโจเซ็นจิ (Josenji) แวะไปคาเฟ่ในวัดที่พระจะชงกาแฟมาเสิร์ฟให้เราด้วยนะคะ

เซเบียน

1 ซารุกะ อิชิบายาชิ เมืองฮิราคาวะ จังหวัดอาโอโมริ 036-0242

12. โทโมะโนะอุระ เมืองฟุคุยามะ จังหวัดฮิโรชิม่า

จาก "หนึ่งในฉากในภาพยนตร์！เสน่ห์ของ "โทโมะโนะอุระ" เมืองท่าที่ยังหลงเหลือกลิ่นอายสมัยเอโดะ"

โทโมะโนะอุระ (Tomonoura) จังหวัดฮิโรชิม่าเป็นเมืองท่าที่เป็นแรงบันดาลใจให้ฉากในภาพยนตร์เรื่อง Ponyo (โปเนียว ธิดาสมุทรผจญภัย) เราจะได้เห็นสถานที่และสิ่งก่อสร้างที่ทำให้นึกถึงฉากในเรื่องมากมายในทุกหนทุกแห่ง ผู้คนท้องถิ่นภูมิใจมากที่สถานที่แห่งนี้เป็นแรงบันดาลใจให้กับผลงานของมิยาซากิ เราจะพบเห็นภาพวาดและสินค้าของโปเนียวทั่วทุกแห่งในเมือง

ไม่ใช่แค่ฉากใน Ponyo เท่านั้น โทโมะโนะอุระยังเป็นสถานที่ถ่ายทำรายการทีวีและภาพยนตร์อีกมากมาย เมืองนี้เป็นเมืองเก่าที่มีสถานที่น่าสนใจให้ค้นหามากมาย เช่น บ้านตระกูลโอตะ ผู้ทำโรงกลั่นเหล้าที่มีชื่อเสียง "โฮเมชุ" เหล้ารสชาติดั้งเดิมที่ทำจากการดองเครื่องเทศกว่า 16 ชนิด

13. Dogo Onsen จังหวัดเอะฮิเมะ

โดโกะออนเซ็น อาคารหลัก (Dogo Onsen) ในจังหวัดเอะฮิเมะ (Ehime) ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกและบรรยากาศที่ทำให้นึกไปถึงฉากในหนังเรื่อง Spirited Away จนแฟนคลับบางส่วนถึงกับบอกว่าที่นี่แหละ ที่เป็นต้นแบบของโรงอาบน้ำเพียงแห่งเดียวเท่านั้น

แม้โดโกะออนเซ็นจะเหมือนกับโรงอาบน้ำมากที่สุด แต่ก็ไม่มีสะพานสีแดงแบบในภาพยนตร์ แต่ถ้าดูดีๆ คงไม่ใช่แค่โดโกะออนเซ็น อาคารหลักเท่านั้น เพราะดูเหมือนว่าผู้กำกับมิยาซากิจะได้แรงบันดาลใจมาจากเมืองออนเซ็นของโดโกะออนเซ็นทั้งเมืองเลยก็เป็นได้

โดโกะออนเซ็นเป็นหนึ่งในออนเซ็นที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น มีประวัติยาวนานกว่า 1,000 ปี เพราะเป็นเมืองออนเซ็นที่เก่าแก่ขนาดนี้ ไม่แปลกที่จะกลายเป็นต้นแบบให้กับภาพยนตร์และเรื่องเล่าเหนือจินตนาการทั้งหลาย

อาคารหลักโดโกะออนเซ็น

5-6 Dogoyunomachi เมืองมัตสึยามะ จังหวัดเอฮิเมะ 790-0842

14. เกายาคุชิมะ จังหวัดคาโกชิมะ

จาก "10 แหล่งท่องเที่ยวแนะนำบนเกาะยาคุชิมะ จังหวัดคาโกชิมะ"

ป่าลี้ลับที่กว้างใหญ่ในเกาะยาคุชิมะ (Yakushima Island) หนึ่งในเกาะที่ใหญ่ที่สุดที่อยู่ทางตอนใต้ของจังหวัดคาโกชิมะ (Kagoshima) เป็นต้นแบบของผลงานเรื่อง Princess Mononoke (เจ้าหญิงจิตวิญญาณแห่งพงไพร) ผลงานของผู้กำกับมิยาซากิ

ยิ่งเข้าไปในป่าลึกมากเท่าไร รอบๆ ก็จะค่อยๆ กลายเป็นโลกของ "โมโนโนะเกะ" มากขึ้น ทางเดินที่ปกคลุมไปด้วยมอส สายน้ำที่ไหลผ่านต้นไม้เขียวชอุ่ม ต้นไม้ใหญ่ที่รายล้อมเหมือนจะกันเราจากโลกภายนอก ที่นี่มีแค่ความสงบเงียบและธรรมชาติเท่านั้น

ได้ยินเสียงของเหล่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในป่าไหมคะ? ทิวทัศน์ของเกาะยาคุชิมะทำให้รู้สึกราวกับว่ามีเทพเจ้าสถิตอยู่เลยค่ะ

15. ร้านจำหน่ายของที่ระลึกจากจิบลิ Donguri Republic

จาก "ช้อปปิ้งสินค้าตัวการ์ตูนจิบลิสุดโปรดที่ ดงกุริเคียววะโคขุ"

Donguri Republic (ดงกุริ รีพับลิค) เป็นร้านขายสินค้าที่ได้รับอนุญาตเป็นทางการจากจิบลิ สินค้าในร้านล้วนมีดีไซน์จากภาพยนตร์ของจิบลิทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นพวงกุญแจ เครื่องเขียน ผ้าขนหนู พรม แจกันดอกไม้ ไปจนถึงตุ๊กตาตัวเล็กๆ

แค่เดินดูของก็เพลินแล้ว ไม่แน่อาจจะได้เจอของถูกใจ ซื้อกลับไปเป็นของที่ระลึกด้วยนะคะ

สินค้ากว่าครึ่งของที่ร้านเป็นแบบลิมิเต็ดที่หาซื้อได้ในประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น เหมาะแก่การซื้อไปเป็นของฝากให้ครอบครัวและเพื่อนๆ ด้วยนะคะ ส่วนใหญ่สาขาของ Donguri Republic จะอยู่ตามเมืองสำคัญแต่ละจังหวัดทั่วประเทศญี่ปุ่นค่ะ

กระโดดเข้าไปในโลกของจิบลิ!

สตูดิโอจิบลิได้สร้างโลกแห่งเวทมนตร์ตามสถานที่ต่างๆ ทั่วประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่โทโทโร่ตัวเล็กที่วาดอยู่บนแจกันดอกไม้ ไปจนถึงนาฬิกาจิบลิใหญ่ยักษ์ที่ชิโอโดเมะ สถานที่ต้นแบบที่สร้างแรงบันดาลใจให้แก่ผู้กำกับมิยาซากิก็มีให้ดูอยู่ทั่วญี่ปุ่น ทุกคนก็ลองออกไปตามรอยกันดูไหมคะ?

* บทความนี้แปลและเรียบเรียงมาจากบทความภาษาอังกฤษ