Start planning your trip
"พิพิธภัณฑ์ไข่มุกโกเบ" ชมไข่มุกญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงระดับโลก
เมืองโกเบ จังหวัดเฮียวโกะได้ชื่อว่าเป็น "เมืองแห่งไข่มุก" เนื่องจากมีชื่อเสียงในการแปรรูปไข่มุก บทความนี้จะพาไปชมโลกแห่งไข่มุกผ่านพิพิธภัณฑ์ไข่มุกโกเบทั้งการเพาะเลี้ยงไข่มุก เทคนิคการแปรรูป และเรื่องราวของผู้คนที่สนับสนุนอุตสาหกรรมท้องถิ่นจนดังระดับโลก
โกเบ ศูนย์กลางการแปรรูปไข่มุกระดับโลก
ไข่มุก เครื่องประดับและอัญมณีที่ช่วยเสริมความงามให้กับผู้หญิง และเป็นที่ชื่นชอบของผู้คนมากมายทั่วโลก แม้แต่ในโรมโบราณและเปอร์เซียก็มีการบันทึกไว้ว่ามีเครื่องประดับจากไข่มุกด้วย เดิมที่ญี่ปุ่นก็เคยเรียกไข่มุกว่าชิราทามะ (ลูกหินสีขาว) โดยใช้เป็นของสักการะบูชาเทพเจ้าในอดีตด้วย
ญี่ปุ่นเป็นประเทศชั้นนำของโลกในเรื่องการเพาะเลี้ยงและแปรรูปไข่มุก โดยเฉพาะเมืองโกเบ ในจังหวัดเฮียวโกะที่ถือเป็นศูนย์กลางการผลิตไข่มุกออกสู่ตลาดโลกคิดเป็นร้อยละ 70 จนได้รับการขนานนามว่าเป็น "เมืองแห่งไข่มุก"
ในบทความนี้ จะขอแนะนำ "พิพิธภัณฑ์ไข่มุกโกเบ" สถานที่สามารถเรียนรู้เกี่ยวกับไข่มุก เช่น การทำไข่มุก บุคคลที่สนับสนุนการแปรรูปในหน้างาน เป็นต้น
ความเป็นมาของไข่มุกในโกเบ
ตั้งแต่ช่วงปลายศตวรรษที่ 19 จนถึงช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ที่อ่าวอาโกวัง จังหวัดมิเอะ ได้คิดค้นเทคโนโลยีการเพาะเลี้ยงไข่มุกขึ้น ทำให้สามารถผลิตไข่มุกในปริมาณมากได้ ภายหลังจากนั้น ญี่ปุ่นก็ได้ก้าวขึ้นมาเป็นประเทศที่ส่งออกไข่มุกชั้นนำของโลก
ไข่มุกส่วนใหญ่ที่เพาะเลี้ยงในญี่ปุ่นจะมาจากหอยกาบคู่อย่างในรูปด้านบน เป็นหอยพันธุ์ที่เรียกว่า หอยอะโคยะ ขนาดราว 10 เซนติเมตร
หอยมุกที่ถูกใส่แกนมุกเข้าไปข้างในจะใช้เวลาเพาะเลี้ยงในทะเลประมาณ 2 ปี ได้รับการเลี้ยงดูอย่างทุ่มเท ทำความสะอาดเปลือกหอยและควบคุมคุณภาพของน้ำทะเลอย่างไม่ขาดในทุกวัน จนกระทั่งเป็นไข่มุกแสนสวยให้เก็บได้
ไข่มุกที่เก็บมาแล้วจะต้องผ่านการแปรรูป เช่น การขจัดคราบ จึงถูกรวบรวมมาไว้ที่โกเบ โดยมีเหตุผลหลักๆ 3 ข้อ ดังต่อไปนี้
1. คุณโทโด ยาสุอิเอะ ผู้ค้นพบเทคโนโลยีการขจัดคราบไข่มุก เปิดบริษัทอยู่ในโกเบ
2. แสงอาทิตย์อ่อนๆ ที่สะท้อนจากพื้นผิวของเขารกโคมีความเหมาะสมในการคัดแยกไข่มุก
3. มีท่าเรือโกเบซึ่งสะดวกสบายในการนำเข้าและส่งออก
การคัดแยกที่ทำด้วยมือ
ไข่มุกที่เก็บรวบรวมมาได้จะได้รับการคัดแยกโดยการเช็คสี รูปร่าง ขนาด รอยถลอก ความแวววาว ความเงางาม ความหนาของชั้นไข่มุก และอื่นๆ อย่างละเอียด
การคัดแยกสภาพของไข่มุกด้วยข้อกำหนดต่างๆ ด้านบนนั้นจำเป็นต้องใช้แสงสว่างอ่อนๆ จากทิศเหนือ ดังนั้นส่วนปฏิบัติงานแปรรูปส่วนใหญ่มักจะมีโต๊ะที่ตั้งอยู่ข้างหน้าต่างที่หันหน้าไปทางทิศเหนือ และบรรดาไข่มุกก็จะผ่านการคัดแยกด้วยสายตาของผู้ชำนาญในจุดนี้นั่นเอง
การเรียนรู้วิธีการคัดแยกว่ากันว่าต้องใช้เวลานานหลายปี และยังเป็นกระบวนการที่ต้องใช้ความอดทนเป็นอย่างมาก ภาพของพนักงานหญิงที่สวมใส่สร้อยคอไข่มุก นั่งทำงานอย่างแข็งขัน ทำให้รู้สึกได้ถึงความดีใจและความภาคภูมิใจที่มีต่อการทำงานได้เป็นอย่างดี
ไข่มุกจะถูกแยกเป็นกลุ่มๆ ตามคุณภาพ จากนั้นจะนำมาร้อยรวมกันเป็นเส้นเรียกว่า "เร็น" หลังจากผ่านการคัดแยกด้วยมือของผู้ชำนาญก็ถึงเวลาออกเดินทางไปยังตลาดซื้อขายทั่วโลก เพื่อรอพบกับทุกคนในรูปแบบของเครื่องประดับและอัญมณีแสนสวย
ไปเรียนรู้เกี่ยวกับไข่มุก ที่พิพิธภัณฑ์ไข่มุกโกเบกัน!
พิพิธภัณฑ์ไข่มุกโกเบ (Kobe Pearl Museum) ตั้งอยู่ทางตะวันออกสุดของคิวเคียวริวจิิ (Kyu-kyoryuchi) ย่านที่อยู่อาศัยเก่าของชาวต่างชาติ ใช้เวลาเดินจากสถานีซันโนะมิยะ (Sannomiya) ใจกลางเมืองโกเบด้วยการเดินประมาณ 12 นาที ลองมาสัมผัสโลกแห่งไข่มุกอย่างลึกซึ้งกันได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเข้าชมด้วยนะ
พิพิธภัณฑ์จะอยู่ที่ชั้น 1 ของอาคาร "ศูนย์ไข่มุกญี่ปุ่น Japan Pearl Hall" อาคารแห่งนี้สร้างขึ้นในปี 1952 ขึ้นทะเบียนเป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่จับต้องได้ของชาติ ได้รับการออกแบบอย่างสวยงามและมีผู้ชื่นชอบสถาปัตยกรรมยุคโมเดิร์นมาเยี่ยมชมจำนวนมาก
ภายในมีการจัดแสดงนิทรรศการประเภทของไข่มุก กระบวนการเจริญเติบโต ระบบเพาะเลี้ยง และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับไข่มุก โดยมีทั้งของจริงและแบบจำลองให้ชม ช่วยให้เข้าใจง่ายมาก
แบบจำลองของตะกร้าเพาะเลี้ยงสำหรับเลี้ยงดูหอยอะโคยะในทะเล
กระเป๋าดูราลูมิน (Duralumin) ใบจริงที่เคยใช้สำหรับขนไข่มุกในปริมาณมากๆ ร่องรอยที่ปรากฎอยู่บนกระเป๋าเป็นหลักฐานที่ชี้ให้เห็นถึงการทำหน้าที่ดูแลรักษาไข่มุกมาเป็นระยะเวลานาน
ระฆังที่ทำจากไข่มุกในชื่อว่า "Perla Vita (ชีวิตแห่งไข่มุก)" สร้างขึ้นเป็นอนุสรณ์ครบรอบ 10 ปีเหตุการณ์แผ่นดินไหวฮันชินอะวะจิในเดือนมกราคม ปี 1995
ในบรรดาสิ่งของที่นำมาจัดแสดง สิ่งที่ดึงดูดความสนใจอย่างมากคือ "Pearl Tree (ต้นไข่มุก)" งานศิลปะวัตถุที่เกิดจากการร้อยไข่มุกรวมกันกว่า 1 หมื่นเม็ดโดยไม่ใช้เครื่องจักร ไม่ว่าจะมองจากมุมไหนก็สวยงามราวกับภาพวาดเลยทีเดียว
ประเภทและเสน่ห์ของไข่มุก
นอกจากไข่มุกที่ได้จากหอยอะโคยะแล้ว ยังมีไข่มุกประเภทอื่นๆ อีกมาก ไข่มุกที่เก็บและเพาะเลี้ยงจากต่างประเทศก็ถูกนำมาแปรรูปที่โกเบเช่นกัน ในรูปภาพ ด้านซ้ายคือเปลือกของหอยอะโคยะ ส่วนด้านขวาคือเปลือกของหอยชิโระโจที่หาได้ในทะเลใต้
สีของไข่มุก นอกจากสีขาวที่รู้จักกันโดยทั่วไปแล้ว ยังมีสีชมพู สีทอง สีน้ำเงิน และสีอื่นๆ อีกมากมาย เรียกได้ว่าเป็นความมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นด้วยปัจจัยหลายๆ อย่าง เช่น ทะเลที่เติบโต และสภาพแวดล้อม เป็นต้น
ตำแหน่งของไข่มุกจะสลับกับรูปภาพของเปลือกหอยเมื่อสักครู่สักหน่อย แต่ในรูปด้านบนนี้ ด้านซ้ายคือไข่มุกสีทองที่ได้จากหอยชิโระโจ ส่วนด้านขวาคือไข่มุกสีทองที่เก็บจากหอยอะโคยะ แม้จะเป็นไข่มุกเหมือนกัน ก็ยังมีความแตกต่างกันอยู่มากโข
นี่คือ "สึชิมะบลู" แหวนที่ใช้ไข่มุกประเภทไข่มุกบาร็อค ไข่มุกที่ไม่ได้มีรูปร่างกลมเกลี้ยง จะเรียกว่าไข่มุกแบบบาร็อค
สึชิมะบลูมีลักษณะเด่นคือ สีที่เหมือนกับน้ำทะเล ถูกเพาะเลี้ยงใน "สึชิมะ" เกาะที่อยู่ระหว่างคาบสมุทรเกาหลีกับภูมิภาคคิวชู
เสน่ห์ของไข่มุกก็คือความแวววาวและความงดงามของสีสัน ช่วยให้ภาพลักษณ์สง่างาม เลอค่า และอ่อนโยนแก่ผู้สวมใส่
แม้ไข่มุกจะปรากฎในงานที่ค่อนข้างเป็นทางการบ่อย แต่ก็สามารถนำมาใส่คู่กับชุดลำลองสบายๆ เช่น สเวตเตอร์ก็ได้
ลองเลือกไข่มุกเป็นของฝาก ของที่ระลึกจากการเดินทางกันดูไหมคะ?
ทุกคนมักจะยึดติดกับภาพที่ว่า "ไข่มุกเป็นของราคาแพง" แต่ที่จริงแล้วก็มีเครื่องประกับไข่มุกชิ้นเล็กๆ ที่สามารถใช้กับสไตล์ลำลองได้
ลองแวะมาดูของฝากและของที่ระลึกจากการเดินทางที่ "Kobe Pearl Souq" ร้านค้าที่อยู่ฝั่งเหนือสุดของตึกเดียวกับพิพิธภัณฑ์กันดูไหมคะ?
หรูหราด้วยจี้ห้อยคอไข่มุก 1 เม็ด
ชิ้นแรกที่อยากแนะนำก็คือ จี้หอยคอที่ใช้ไข่มุกอะโคยะขนาด 7-7.5 มิลลิเมตร 1 เม็ด เป็นไอเท็มที่สามารถใช้ได้ทุกวัย ราคารวมภาษี 3,240 เยน
เข็มกลัด สำหรับผู้ที่มีใจรักเสียงเพลง
ชิ้นที่สองคือเข็มกลัดลายกระ (เบคโค) ประดับมุก 1 เม็ด ออกแบบเป็นลวดลายที่เกี่ยวข้องกับดนตรี 5 ชนิด ราคารวมภาษี 3,240 เยน ก่อนหน้านี้ทันทีที่ได้รับการแนะนำผ่านสื่อก็ได้รับความนิยมจนถึงขนาดขาดตลาดมาแล้ว
เวลาทำการของ Kobe Pearl Souq ตั้งแต่ 11:00 - 16:00 วันหยุดประจำคือวันเสาร์ วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ สามารถชำระเงินได้โดยใช้บัตรเครดิตเกือบทุกประเภท รวมถึง Union Pay ด้วย
อุตสาหกรรมไข่มุกที่ควรค่าแก่การรักษาไว้
ไข่มุกญี่ปุ่นอันเป็นที่ปรารถนาจากทั่วโลก นอกจากจะเป็นของขวัญล้ำค่าอันงดงามจากธรรมชาติ ในขณะเดียวกันก็เปี่ยมไปด้วยความทุ่มเทและความรักความใส่ใจ ควรค่าแก่การรักษาให้คงอยู่ไว้นานเท่านาน ทั้งในฐานะหนึ่งในวัฒนธรรมและหนึ่งในอุตสาหกรรมอันมีค่าของญี่ปุ่น
ความร่วมมือในการเก็บข้อมูล : สมาคมส่งออกไข่มุกญี่ปุ่น, ศูนย์ไข่มุกญี่ปุ่น, ที่ว่าการเมืองโกเบ, ห้างหุ้นส่วนมิสุกิชินจุ, บริษัท คิตะมุระชินจุโยโชขุ จำกัด, ห้างหุ้นส่วน เทรดดิ้ง จำกัด, องค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (ไม่เรียงตามลำดับและละคำต่อท้าย)
日本文化、特に絵画や工芸品が好き。福岡、京都、大阪、ベルギー、アメリカを経て現在は神戸在住。座右の銘は「住めば都」。
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง