แนะนำคาเฟ่ ร้านอาหารที่มี Wi-Fi และปลั๊กไฟให้ใช้ใกล้สถานีชิบูย่า (Shibuya)

เที่ยวชิบูย่าอย่างไร้กังวล

จะหาข้อมูลเที่ยว ตรวจสอบเส้นทางไปจนถึงที่หมาย ถ่ายรูปเก็บความทรงจำ ... ไม่ว่ากิจกรรมไหนก็ต้องพึ่งอุปกรณ์เทคโนโลยีที่เรียกได้ว่า "ขาดไม่ได้" ในการเดินทางทั้งนั้น หลายๆ ท่านระหว่างใช้อุปกรณ์เหล่านั้นอาจเคยประสบปัญหา เช่น "แบตหมดระหว่างเที่ยว" หรือ "ไม่มีอินเตอร์เน็ท เลยเช็คเส้นทางต่อไม่ได้"

บทความนี้จึงขอเอาใจคนมาเที่ยวชิบูย่าด้วยข้อมูลสถานที่ที่มี Wi-Fi หรือปลั๊กไฟไว้บริการ ไม่ว่าจะแวะนั่งทานอาหาร หรือจะแวะมาระหว่างการช้อปปิ้ง ก็สามารถมาตุนพลังไฟฟ้าเอาไว้ได้เลย!

สารบัญ

• - 4 คาเฟ่สำหรับคนอยากพักสบายๆ
• - ร้านอาหารจานด่วนสำหรับคนอยากรีบทาน
• - เน้นประหยัด ต้องไปนั่งในร้านสะดวกซื้อ!
• - ช้อปปิ้งระหว่างรอชาร์ตแบตที่ดองกี้โฮเต้หรือร้านเครื่องใช้ไฟฟ้า

6 คาเฟ่สำหรับคนอยากพักสบายๆ

1. FREEMAN CAFE

คาเฟ่ทำเลดี อยู่ที่ชั้น 2 ของอาคาร "Tokyu Metro Plaza" ตรงทางออกหมายเลข 13 ของรถไฟใต้ดินโตเกียวเมโทร (Tokyo Metro) แต่ละสายเลยค่ะ หากมาจากสถานีของ JR ก็เดินมาเพียงประมาณ 5 นาทีเท่านั้น

ภายในร้านบรรยากาศดี มีหนังสือท่องเที่ยว อัลบั้มภาพถ่าย นิตยสารแฟชั่นวางเรียง ติดกระจกตามกำแพงรอบร้านเป็นรูปตัว L ทำให้มีแสงสว่างส่องเข้ามาอย่างเต็มที่ หากต้องการใช้ปลั๊กไฟ ให้แจ้งทางร้านว่าต้องการนั่งโต๊ะริมหน้าต่าง ติดกำแพง หรือโต๊ะเคานเตอร์ เนื่องจากเป็นร้านยอดนิยมบางครั้งจึงมีคนแน่น แต่ร้านค่อนข้างจะโล่งในตอนเช้าค่ะ

ส่วนที่ชั้น 1 มีร้านคาเฟ่และบาร์ "PRONTO" ซึ่งมีปลั๊กไฟให้ใช้บริการเช่นกัน หากลงทะเบียนด้วยอีเมล์ จะสามารถใช้ Wi-Fi ได้ด้วย เวลาที่ FREEMAN CAFE คนแน่น ก็ลองลงมาใช้บริการที่นี่แทนกันดูนะ

FREEMAN CAFE
ที่อยู่ : ชั้น 2 อาคาร Metro Plaza, 1-16-14 Shibuya, Shibuya, Tokyo (GoogleMap)

2. hotel koé tokyo

เพียงเดินจากสถานีชิบูย่า 5 นาที เราจะพบกับโรงแรมสไตล์ญี่ปุ่นโมเดิร์น "hotel koé tokyo" ซึ่งที่ชั้น 1 ของโรงแรมนั้นมีร้านอาหารควบเบเกอรี่และคาเฟ่อยู่ด้วย ภายในมีเพดานสูง ทำให้รู้สึกปลอดโปร่ง โต๊ะแบบเคานเตอร์หน้ากระจกมีปลั๊กไฟให้เรานั่งชาร์ตแบตไปพร้อมกับชมผู้คนเดินผ่านไปมา

ห้องพักของโรงแรมอยู่ที่ชั้น 3 เท่านั้น ส่วนชั้น 2 เปิดจำหน่ายเสื้อผ้าเรียบหรูและของกระจุกกระจิกที่เป็นผลงานร่วมมือกับศิลปินต่างๆ หากนั่งพักในคาเฟ่เสร็จแล้วก็น่าเดินมาชมดูสักหน่อยนะคะ

hotel koé tokyo
ที่อยู่ : 3-7 Udagawa-cho, Shibuya, Tokyo (GoogleMap)
เว็บไซต์ทางการ : http://hotelkoe.com/food/

3. d47 Shokudo

จากบทความ "ลิ้มรสอาหารทั้ง47จังหวัดทั่วญี่ปุ่นที่ "d47 โชคุโด" ชิบูย่า"

ชั้น 8 ของห้างชิบูย่าฮิคาริเอะ (Shibuya Hikarie) เป็นที่ตั้งของร้านอาหาร "d47 โชคุโด (d47 Shokudo)" ให้บริการอาหารญี่ปุ่นเป็นเซ็ทโดยใช้วัตถุดิบตามฤดูกาลจากทั่วญี่ปุ่นทุกเมนู รวมไปถึงเมนูต่างๆ ในคาเฟ่ทั้งกาแฟ ชาฝรั่ง และอื่นๆ

ภายในร้านเราสามารถใช้งาน Wi-fi ฟรีของห้างชิบูย่าฮิคาริเอะ ส่วนโต๊ะแบบเคาน์เตอร์ที่ชมวิวของชิบูย่าในมุมกว้างได้จะมีปลั๊กไฟให้บริการ ระหว่างชาร์ตแบตอุปกรณ์ เราก็นั่งชมบรรยากาศเมืองชิบูย่าได้เลยค่ะ

d47 โชคุโด (d47 Shokudo)
ที่อยู่ : Shibuya Hikarie ชั้น 8, 2-21-1 Shibuya, Shibuya, Tokyo (GoogleMap)
เว็บไซต์ทางการ : http://www.hikarie8.com/d47shokudo/menu/2019/05/5-6.shtml

4. TOWER RECORDS CAFE สาขาชิบูย่า

ร้านคาเฟ่บนชั้น 2 ของร้านขาย CD เจ้าใหญ่อย่าง Tower Records สาขาชิบูย่า ภายในอาคารสามารถใช้ Wi-fi ได้ทั้งหมด ส่วนปลั๊กไฟสามารถใช้บริการได้ที่โต๊ะแบบเคาน์เตอร์ แถมยังเดินจากสถานีชิบูย่าได้ในเวลาเพียง 3 นาทีเท่านั้นเอง

ในร้านคาเฟ่บางครั้งมีการจัดงานร่วมกับศิลปินของญี่ปุ่นหรือตัวการ์ตูนยอดนิยมต่างๆ และมีเมนูออริจินัลเสิร์ฟด้วย ระหว่างการจัดงานการตกแต่งร้านก็จะเปลี่ยนแปลงไปตามแต่ละงานด้วย ไม่ว่าจะมาซ้ำกี่ครั้งก็ไม่เบื่อแน่นอน

TOWER RECORDS CAFE สาขาชิบูย่า
ที่อยู่ : TOWER RECORDS CAFE สาขาชิบูย่า ชั้น 2, 1-22-14 Jinnan, Shibuya, Tokyo (GoogleMap)
เว็บไซต์ทางการ : https://tower.jp/restaurants/cafe/shibuya

ร้านอาหารจานด่วนสำหรับคนอยากรีบทาน

ร้านอาหารจานด่วน (Fast Food) บางส่วนก็มี Wi-fi และปลั๊กไฟให้บริการเช่นกัน

ร้านส่วนใหญ่มักจะมี Free Wi-Fi ให้ใช้อยู่แล้ว แต่ปลั๊กไฟแต่ละร้านอาจมีหรือไม่มีแตกต่างกันไป ตอนที่เข้าร้านจึงควรสอบถามพนักงานหรือหาโต๊ะก่อน
ที่ชิบูย่านั้นจะมีร้านLotteriaและร้านMos Burgerในโซนโดเก็นซากะ (Dogenzaka) ที่จะมีปลั๊กไฟบริการที่โต๊ะแบบเคาน์เตอร์

เน้นประหยัด ต้องไปนั่งในร้านสะดวกซื้อ!

ร้านสะดวกซื้อบางร้านมีการจัดเตรียมบริเวณ eat in space ไว้สำหรับนั่งทานสิ่งที่ซื้อมาในร้านด้วยค่ะ และส่วนหนึ่งของร้านเหล่านั้นจะมีปลั๊กไฟให้บริการ สำหรับท่านที่ "อยากจะประหยัดค่าอาหารและเครื่องดื่ม แต่ก็อยากใช้งาน Wi-fi และอยากชาร์ตไฟ" นี่จึงเป็นทางเลือกที่เหมาะมาก
แถบสถานีชิบูย่ามีร้าน แฟมิลี่มาร์ท สาขาสุบารุ ซากุระกะโอกะ 246 (Subaru Sakuragaoka 246)" ที่มีโต๊ะแบบเคาน์เตอร์พร้อมปลั๊กไฟให้บริการค่ะ

ส่วนบริการ Free Wi-fi นั้น ร้านแฟมิลี่มาร์ทมีให้บริการแบบครั้งละ 20 นาที ใช้ได้วันละ 3 ครั้ง ส่วนร้าน 7-11 และลอว์สัน (LAWSON) สามารถใช้งานได้เมื่อลงทะเบียน ในหลายๆ ที่อาจจำเป็นต้องลงทะเบียนเพื่อใช้งาน Wi-fi จึงขอแนะนำให้สมัครใช้บริการกับ Japan Connected-free Wi-Fi เอาไว้เลย หากสมัครแล้วจะสามารถใช้งาน Wi-fi ของสถานที่ที่ร่วมบริการได้อย่างอิสระเลยค่ะ

ช้อปปิ้งระหว่างรอชาร์ตแบตที่ดองกี้โฮเต้หรือร้านเครื่องใช้ไฟฟ้า

ตามร้านอย่างดองกี้โฮเต้ (Don Quijote) หรือร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าใหญ่ๆ จะมีกล่องชาร์ตแบตเตอร์รี่สำหรับโทรศัพท์มือถือหรืออุปกรณ์อื่นๆ ให้บริการอยู่ กล่องชาร์ตแบตเหล่านี้ใช้ระบบใส่รหัสผ่านล็อคกล่องเอาไว้ ระหว่างที่รอชาร์ตแบต เราจึงสามารถเดินเที่ยวในร้านได้เลย ถือเป็นวิธีการชาร์ตแบตที่ใช้เวลาอย่างคุ้มค่ามาก

ที่ร้านดองกี้โฮเต้ให้บริการชาร์ตแบตเตอร์รี่ฟรี ส่วนร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ มักจะให้บริการในราคาประมาณ 100 เยน/30 นาทีค่ะ

เที่ยวให้สะดวกด้วย Wi-fi และจุดชาร์จแบต

แม้จะเตรียมตัวก่อนการเดินทางแล้ว แต่อะไรก็เกิดขึ้นได้!
ก่อนออกเดินทางอย่าลืมมาอ่านบทความนี้หรือ bookmark เก็บเอาไว้เป็นตัวช่วยยามเจอปัญหาที่ชิบูย่านะคะ

ผู้เขียนบทความต้นฉบับ : Misaki Tachibana
*บทความนี้เรียบเรียงใหม่ในเดือนมิถุนายน ปี 2019