10 สิ่งน่าทำในชิบูย่า! เมืองของวัยรุ่นสุดอินเทรนด์ (Shibuya)

ชิบูย่า (Shibuya) ศูนย์รวมเทรนด์ล่าสุดของญี่ปุ่น

ชิบูย่า ในกรุงโตเกียว คือ แหล่งรวมเทรนด์และกระแสนิยมใหม่ๆ ในญี่ปุ่น เต็มไปด้วยแหล่งช้อปปิ้ง ร้านอาหารที่ทันสมัย สถานที่เกี่ยวกับวัฒนธรรม คลับ และอื่นๆ อีกมากมาย

นอกจากนั้นยังมีสถานที่ต่างๆ ที่คนต่างชาติรู้จักเป็นอย่างดี เช่น ห้าแยกชิบูย่าที่มีคนเดินสวนกันไปมาจนตาลายบริเวณ ชิบูย่าเซ็นเตอร์ไก (Shibuya Center-gai) ถนนช้อปปิ้งแหล่งรวมตัวของวัยรุ่น และรูปปั้นฮาจิโกะ สุนัขผู้ซื่อสัตย์ที่กลายเป็นจุดนัดพบและสถานที่ที่หากใครมาเยือนชิบูย่าต้องแวะมาถ่ายรูป

ในบทความนี้จึงขอรวบรวมสิ่งน่าทำหากได้มาเยือนชิบูย่าเอาไว้ถึง 10 อย่าง!
มาชิบูย่าครั้งใด ขอบอกว่าอย่าพลาด!

สารบัญ

• 1. เช็คอิน & เซลฟี่ กับน้องหมาฮาจิโกะและโมอาย
• 2. ถ่ายรูปห้าแยกชิบูย่าสุดยุ่งเหยิง
• 3. ช้อปปิ้งให้เต็มที่ มีทุกสิ่งให้เลือกสรร
• 4. ชมและซื้อของในห้างสรรพสินค้าญี่ปุ่น
• 5. ทานของอร่อยตามร้านอาหารและคาเฟ่ชื่อดัง
• 6. สัมผัสความคึกครื้นของวัยรุ่นญี่ปุ่น
• 7. สนุกแบบวัยรุ่นที่เกมเซนเตอร์
• 8. ดื่มด่ำวัฒนธรรมเก่าใหม่หลายรูปแบบ
• 9. สนุกกันยันดึกทั้งกิน ดื่ม แดนซ์
• 10. แวะเที่ยวสถานที่น่าสนใจใกล้เคียงทั้งฮาราจูกุ โยโยงิ หรือเอบิสึ

1. เช็คอิน & เซลฟี่ กับน้องหมาฮาจิโกะและโมอาย

พูดถึงชิบูย่า ทุกคนคงนึกถึงรูปปั้นของน้องหมาผู้ซื่อสัตย์ "ฮาจิโกะ" แน่นอน
จนถึงทุกวันนี้รูปปั้นฮาจิโกะก็ยังคงรอทักทายนักท่องเที่ยวอยู่หน้าสถานี JR ชิบูย่า ทางออกฮาจิโกะ (Hachiko Exit) อยู่ทุกวัน
ใครได้มาถึง ห้ามพลาดถ่ายรูปเก็บไว้ หรือเช็คอินประกาศตัวกันได้เลย

แต่ยังมีแลนด์มาร์คน่าถ่ายรูปเก็บอีกที่ที่หลายคนอาจจะไม่รู้ นั่นคือ หากออกจากทางออกทิศใต้ (South Exit) ของสถานี JR ชิบูย่า เราจะได้เจอกับรูปปั้นขนาดใหญ่ที่คนญี่ปุ่นใช้เป็นจุดนัดพบอีกที่ ซึ่งเป็นรูปปั้น "โมอาย" เหมือนกับรูปสลักหินลึกลับของเกาะอีสเตอร์!
ใครยังไม่เคยเห็น ครั้งหน้าอย่าลืมมาตามหากันนะ

↑ กลับไปที่สารบัญ

2. ถ่ายรูปห้าแยกชิบูย่าสุดยุ่งเหยิง

อีกสถานที่หนึ่งที่เป็นสัญลักษณ์ของชิบูย่าย่อมหนีไม่พ้น ห้าแยกชิบูย่าที่แสนยุ่งวุ่นวาย ยิ่งในวันหยุดหรือวันที่มีการจัดอีเวนท์พิเศษอะไร เราจะได้ชมภาพของคนกลุ่มใหญ่หลายร้อยคนหรืออาจจะถึงพันคนข้ามถนนพร้อมๆ กัน!

การถ่ายรูปที่บริเวณห้าแยกเลยนั้นออกจะยากเพราะมีคนจำนวนมากสัญจร จึงอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ ขอให้ระมัดระวังเพื่อความปลอดภัยและไม่ไปสร้างความลำบากให้กับผู้อื่นนะคะ
หากใครอยากถ่ายรูปสบายๆ หรือชมบรรยากาศมหานครของญี่ปุ่น ก็ยังมีจุดน่าสนใจให้ชม เช่น จากอาคารสถานีชิบูย่า หรือจากสตาร์บัคส์ตรงหน้าแยก (ชั้นสองของ Tsutaya) เลย
หรือใครอยากถ่ายรูปห้าแยกชิบูย่าไม่เหมือนใคร แนะนำให้ลองไปใช้บริการถ่ายรูปจากมุมสูง CROSSING PHOTO บนห้าง MAGNET by SHIBUYA109 หน้าห้าแยกด้านขวามือค่ะ
รับรองว่าจะต้องได้รูปสุดยอด อวดคนได้ทั้งโซเชียลแน่นอน

↑ กลับไปที่สารบัญ

3. ช้อปปิ้งให้เต็มที่ มีทุกสิ่งให้เลือกสรร

ในชิบูย่ามีร้านขายสินค้ามากมายจนพูดได้ว่ามีทุกสิ่งให้เลือกสรร!
จะซื้อของให้ตัวเอง หรือซื้อของฝาก ของถูกฝากซื้ออะไรก็มีร้านให้แวะช้อปไปเสียหมด เรียกว่ามาชิบูย่าที่เดียวช้อปกันจนเหนื่อยได้เลยล่ะค่ะ โดยร้านส่วนใหญ่จะกระจายตัวอยู่ตามหน้าสถานีรถไฟ ห้าแยกชิบูย่า และข้ามห้าแยกไปตรงโซนช้อปปิ้งเซนเตอร์ไก (Center-gai)
จะมีอะไรบ้าง ขอนำเสนอแบบกว้างๆ ให้ส่องกันก่อนเลยดีกว่า

ช้อปความสวยงาม สินค้าแฟชั่น เครื่องสำอางค์ หรือร้านขายยา

จาก "ช็อปปิ้งของอินเทรนด์ 3 ร้านที่ได้รับความนิยมที่ห้างชิบุยะ 109"
ขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งวัยรุ่นและแฟชั่น ก็รับประกันได้ว่าต้องมีสินค้ากลุ่มนี้เยอะแน่ๆ ค่ะ
จากห้าแยกเราจะเห็นห้าง 109 ทางซ้ายมือ ซึ่งถือว่าเป็นห้างรวมเสื้อผ้าสาวๆ ชั้นนำเลยล่ะ และยังมีร้านของแบรนด์ดังหลายเจ้าเช่น ZARA, UNIQLO, Onitsuka Tiger, FOREVER 21 และอีกมากมายในบริเวณโซนช้อปปิ้งเซนเตอร์ไก (Center-gai)
นอกจากนี้ยังมีร้านขายเครื่องสำอางค์ รานขายยาอีกมากมายไม่ว่าจะเป็นมัตสึโมโตะคิโยชิ (Matsumoto Kiyoshi) โคคุมินดรัก (Kokimin Drug) ซันดรัค (Sundrug) แอดคอสเมสโตร์ (@cosme store) ไอนส์แอนด์ทัลเป้  (Ainz and Tulpe) และอื่นๆ 

ร้านของใช้ ของฝาก เครื่องใช้ไฟฟ้าเต็มไปหมด

สำหรับของใช้ ของฝาก เครื่องใช้ไฟฟ้า แถวนี้ก็มีร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้ง Biccamera และ Labi รวมถึงมีดองกี้โฮเต้สาขาใหญ่จนใช้ชื่อว่า "Mega Donki" เลยนะ

สินค้าจุกจิกน่ารักน่าสนใจ และร้านร้อยเยน

จาก "LOFT ชิบูย่า" แหล่งหาของฝากสุดเก๋ที่ไม่ค่อยมีใครรู้!"
ใครอยากได้ของน่ารักๆ หรือของน่าสนใจติดไม้ติดมือกลับไป ก็ขอแนะนำทั้ง Tokyu Hands ที่ใหญ่ถึง 9 ชั้น และ Loft ที่มีตั้ง 7ชั้น แถมยังมี MUJI อีก 5 ชั้น และมี Disney Store อีกด้วย
แต่ถ้าอยากประหยัดงบนิด ก็มีร้านร้อยเยนอย่าง Daiso หรือ Cando ให้แวะช้อปเช่นกัน

ช้อปความบันเทิงญี่ปุ่นกลับบ้านทั้งเพลง ภาพยนตร์ และสินค้าการ์ตูน

จาก "รวมสินค้าเกมและอนิเมะ! สวรรค์ Subculture ที่ Village Vanguard สาขาใหญ่ชิบุยะ"
หากใครชอบความบันเทิงของญี่ปุ่นไม่ว่าจะเป็นหนังสือ เพลง ภาพยนตร์ หรือการ์ตูน ชิบูย่ามีร้านตอบโจทย์คุณหลายร้านเลยเช่นกัน เริ่มตั้งแต่ Tsutaya ที่ตั้งประจันหน้ากับห้าแยกเลยและยังมี Tower record กับ HMV ด้วย
ส่วนใครเป็นสายการ์ตูนแนะนำให้ไปยังร้านขายสินค้าเฉพาะของวันพีซที่ใหญ่ที่สุด "วันพีซ มุกิวาระสโตร์ (One Piece Mugiwara Store)" ร้าน Village Vanguard หรือ Animate กันเลย

↑ กลับไปที่สารบัญ

4. ชมและซื้อของในห้างสรรพสินค้าญี่ปุ่น

ชิบูย่าเป็นเมืองที่เพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งได้อย่างเต็มที่ เพราะมีร้านให้ช้อปเยอะมากนับไม่ถ้วน และในจำนวนเหล่านั้นก็มีแหล่งช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงมากๆ เช่น

ห้างมารุอิ (Marui หรือ OIOI)

ห้างมารุอิ (Marui) มีสัญลักษณ์เป็นเหมือนเลขศูนย์หนึ่ง OIOI ที่นี่เน้นสินค้าแฟชั่นสำหรับสาวๆ ตั้งแต่วัย 20 ปีไปจนถึง 30 ปี สไตล์เรียบง่ายที่ใช้ใส่ไปทำงานหรือใส่เที่ยวก็ได้
ราคาแต่ละร้านจะเริ่มตั้งแต่หลายพันเยน ไปจนถึงเกิน 10,000 เยน มีร้านรวงหลายประเภทตั้งแต่ร้านเครื่องสำอาง ร้านขายเสื้อชั้นในเช่นแบรนด์ Wacoal ร้านขายกิโมโน ไปจนถึงร้านอาหารร้านขนม

ชิบูย่าฮิคาริเอะ (Shibuya Hikarie)

ชิบูย่า ฮิคาริเอะ (Shibuya Hikarie) อาคารสรรพสินค้าขนาดใหญ่ตั้งแต่ชั้นใต้ดินชั้น 3 ขึ้นไปจนถึงชั้น 11 สินค้าแฟชั่นของตึกนี้จะเป็นแบรนด์สไตล์สาวทำงานและสไตล์สบายๆ มากกว่า มีคนหลากหลายวัยมาช้อปปิ้งกันหนาตา ช่วงราคาสินค้าเริ่มตั้งแต่หลายพันเยนไปจนถึงเกิน 10,000 เยน มีร้านขายของเบ็ดเตล็ด เครื่องสำอาง ร้านอาหาร และร้านขนมหวานด้วย ข้อดีอีกอย่างนึงก็คือเชื่อมต่อกับสถานีรถไฟเลย จึงเดินทางไปสะดวกมาก

นอกจากนี้ยังมีห้างอื่นอีกหลายห้าง เช่น Seibu, Tokyu, Parco, Modi, Shibuya Mark City เป็นต้น

↑ กลับไปที่สารบัญ

5. ทานของอร่อยตามร้านอาหารและคาเฟ่ชื่อดัง

นอกจากเทรนด์แฟชั่นแล้ว ย่านวัยรุ่นแบบนี้ยังเป็นแหล่งนำเทรนด์อาหารอีกด้วย ทำให้มีร้านชื่อดังและร้านน่ารัก น่าสนใจมากมายเลยล่ะ
จะแวะทานอาหารกลางวันหรือของหวาน น้ำชา กาแฟสักหน่อยก็ไม่เลวเลย
ร้านดังๆ ที่คนไทยรู้จักก็อย่างเช่น อิจิรันราเม็ง หรือ มิโดริซูชิ นั่นเอง!

หากใครอยากเริ่มตั้งแต่อาหารเช้า เราก็มีร้านมาแนะนำกันด้วย

ร้านโตเกียวเค็งเคียว (Tokyo Kenkyo)

Picture courtesy of Tokyo Kenkyo

โตเกียว เค็งเคียว (Tokyo Kenkyo) คาเฟ่ที่มีแซนด์วิชให้เลือกทานหลายชนิด และยังมีเมนูอีกหลายประเภท ตั้งแต่อาหารที่มีปริมาณจัดเต็มไปจนถึงเซ็ตอาหารที่เน้นสลัดเป็นพิเศษ

เมนูอาหารเช้ามีให้เลือกมากมายค่ะ ซึ่งเราสามารถเลือกได้จากทั้งหมด 5 เซ็ต ได้แก่ เซ็ตขนมปังปิ้ง เซ็ตผลไม้กับโยเกิร์ต และโอนิกิริเพลท เช่น ไข่หวานใส่ซุปดาชิ กับข้าวถ้วยเล็ก ผักดอง ซุปมิโซะและข้าวปั้นโอนิกิริ อาหารเช้าจะมีเสิร์ฟในช่วงเช้าตั้งแต่เวลา 8:00-11:00

โตเกียว เค็งเคียว (Tokyo Kenkyo)
ที่อยู่ : 7-9 Nanpeidaicho, Shibuya, Tokyo Google Maps
การเดินทาง : ใช้เวลาเดิน 10 นาทีจากทางออกตะวันตกสถานีชิบูย่า (Shibuya)
เว็บไซต์ทางการ : https://www.facebook.com/tokyokenkyo/timeline (ภาษาญี่ปุ่น)

ร้านนินเก็งคังเค (Ningen Kankei)

Picture courtesy of Kumagai Corporation

ร้านนินเก็งคังเค (Ningen Kankei)) คาเฟ่สวยเก๋ดูราวกับผับในประเทศอังกฤษแห่งนี้เปิดในปี 1979 เมนูที่ขึ้นชื่อเป็นพิเศษคือสโคน ที่นี่มีสโคนทำเองกว่า 10 ชนิด ทั้งแบบธรรมดา ช็อกโกแลต ชาเขียว ฟักทอง เป็นต้น ข้อดีคือราคาอันสมเหตุสมผล เพียงชิ้นละ 120 เยนเท่านั้น รับอาหารเช้าเป็นสโคนกับกาแฟซักแก้วไหมคะ ร้านเปิดให้บริการเวลา 9:00 ค่ะ

ร้านนินเก็งคังเค (Ningen Kankei)
ที่อยู่ : 16-12 Udagawacho, Shibuya, Tokyo Google Maps
การเดินทาง : ใช้เวลาเดิน 5 นาทีจากสถานีชิบูย่า (Shibuya) สาย JR สายโตคิว (Tokyu) หรือรถไฟใต้ดิน
เว็บไซต์ทางการ : http://www.kumagaicorp.jp (ภาษาญี่ปุ่น)

↑ กลับไปที่สารบัญ

6. สัมผัสความคึกครื้นของวัยรุ่นญี่ปุ่น

อุตสาห์มาถึงแหล่งกำเนิดเทรนด์ทั้งที แนะนำว่าต้องเดินเล่นชมเมือง สัมผัสชีวิตชีวาของวัยรุ่นญี่ปุ่นกันดีกว่า

นอกจากจะเดินช้อปปิ้งแล้ว ชิบูย่าเรียกได้ว่าเต็มไปด้วยผู้คนและวัยรุ่นตั้งแต่หน้าสถานีไปเลย
เริ่มที่หน้าสถานีชิบูย่าที่จะเป็นจุดนัดพบ มีคนมากมายมายืนรอ จับกลุ่มคุยกันตั้งแต่เช้ายันมืด ตามมาด้วยห้าแยกที่พลุกพล่านทั้งวันเช่นกัน เมื่อข้ามถนนมา ซอยด้านซ้ายของร้าน Tsutaya จะเป็นถนนที่ชื่อว่า "ชิบูย่าเซ็นเตอร์ไก (Shibuya Center-gai)" ภายในจะเต็มไปด้วยร้านค้าทั้งร้านอาหารราคาไม่แพงเวอร์ ร้านสินค้า เสื้อผ้าแบรนด์ที่ซื้อหาได้ง่ายๆ  จึงเป็นแหล่งที่วัยรุ่นและคนญี่ปุ่นทั่วไปนิยมมาเดินเล่น จับจ่ายซื้อของกัน หากเดินลึกเข้าไปอีกหน่อยจะมีทั้งร้านกินดื่มและสถานที่เที่ยวกลางคืนอีกด้วย

เราสามารถใช้เวลาทั้งวันชมชีวิตของชาวญี่ปุ่นในอีกแบบได้ที่นี่เลยค่ะ

↑ กลับไปที่สารบัญ

7. สนุกแบบวัยรุ่นที่เกมเซนเตอร์

ความสนุกอีกอย่างแบบวัยรุ่นที่อยากแนะนำให้มาลองเลยก็คือ "เกมเซนเตอร์" ร้านเกมที่มีเครื่องเล่นมากมาย ซึ่งที่ชิบูย่าก็มีเครือเกมเซนเตอร์ชื่อดังครบหมดทั้ง SEGA, Adores และ Taito
ใครเป็นขาเกม ก็มีเกมตู้ให้เล่น หรือใครมีความสามารถก็ไปลองเครนเกมหนีบตุ๊กตากันได้ สำหรับคนชอบเสี่ยงดวงก็ไปหมุนไข่กาชาปองกัน นอกจากนี้ยังมีตู้สติกเกอร์ (Purikura) ให้ถ่ายรูปแต่งภาพน่ารักๆ กลับไปเป็นของที่ระลึกกันอีกต่างหาก

↑ กลับไปที่สารบัญ

8. ดื่มด่ำวัฒนธรรมเก่าใหม่หลายรูปแบบ

ย่านชิบูย่าไม่ได้เป็นแค่ที่เที่ยวหรือช้อปปิ้งเท่านั้นนะคะ เพราะที่นี่ยังมีแหล่งวัฒนธรรมหลายรูปแบบให้ได้สัมผัสกัน เช่น หอศิลป์ โรงละคร พิพิธภัณฑ์ ท้องฟ้าจำลอง รวมไปถึงมีอีเวนท์ทางวัฒนธรรมจัดตามห้างร้านรอบๆ อยู่เรื่อยๆ

อย่างเช่นที่ "Bunkamura (บุงกะมุระ)" คือ ศูนย์วัฒนธรรมขนาดใหญ่แห่งแรกของญี่ปุ่น เป็นแหล่งรวมทั้งฮอลจัดคอนเสิร์ต โรงละคร พิพิธภัณฑ์ศิลปะ โรงภาพยนตร์ คาเฟ่ และร้านจำหน่ายผลงานศิลปะเอาไว้ในแห่งเดียว ในเว็บไซต์ทางการมีภาษาอังกฤษพร้อม สามารถเช็ครายการได้เลยว่าเมื่อไหร่จะมีการแสดงหรือนิทรรศการอะไรบ้าง
หากมีเวลาสักนิด ก็น่าพักจากการช้อปปิ้งมาชมงานในนี้กันดูนะคะ

↑ กลับไปที่สารบัญ

9. สนุกกันยันดึกทั้งกิน ดื่ม แดนซ์

ไนท์ไลฟ์หรือสีสันในยามกลางคืนก็เป็นอีกโฉมหน้าหนึ่งที่สนุกได้ในชิบูย่าค่ะ!
เมื่อฟ้าเริ่มมืด ก็ได้เวลาหาร้านแวะกันล่ะ หากอยากจะแค่กินดื่ม สามารถหาผับบาร์ ร้านอาหารได้ง่ายๆ หรือจะหาร้านเหล้าสไตล์ญี่ปุ่น "อิซากายะ (Izakaya)" นั่งก็ไม่เลวเลย

กินให้เต็มที่! ที่ ชิบูย่านิคุโยโกโจ (Shibuya Niku Yokocho)

ภายในร้าน Shibuya Tamariba Enya

ชิบูย่านิคุโยโกโจ (Shibuya Niku Yokocho) (*4) เรียกได้ว่าเป็นธีมพาร์คของคนชอบทานเนื้อเลยค่ะ ภายในรวบรวมร้านที่เน้นเมนูเนื้อๆ เน้นๆ ทั้งซูชิเนื้อ เนื้อย่าง ลิ้นวัว ยากิโทริ และอื่นๆ อีกมาก ร้านอาหารไทยก็มีนะคะ แนะนำให้ไปตระเวนทานตระเวนดื่มหลายๆ ร้านในวันเดียวค่ะ

ในชิบูย่ายังมีซอยที่ชื่อว่า นมเบโยโกโจ (Nonbei Yokocho) ซึ่งเป็นแหล่งรวมบาร์และร้านนั่งดื่มในบรรยากาศสงบๆ เทียบแล้ว Shibuya Niku Yokocho เป็นตึกที่มีหลายร้านตั้งอยู่รวมกัน สำหรับนักท่องเที่ยวแล้วน่าจะเข้าง่ายกว่าค่ะ

*4 : โยโกโจ ... ถนน (ตรอก, ซอย) ที่เข้าไปจากถนนหลักอีกที มักใช้เรียกถนนที่มีร้านค้าตั้งเรียงราย

ชิบูย่านิคุโยโกโจ (Shibuya Niku Yokocho)
ที่อยู่ : 13-8 Chitose Hall, Udagawacho, Shibuya, Tokyo Google Maps
การเดินทาง : เดินจากทางออกรูปปั้นฮาจิโกะ (Hachiko exit) สถานี JR Shibuya 7 นาที
เว็บไซต์ทางการ : http://shibuyayokocho.com/

ฮาจิกัตสึ โนะ คุจิระ (Hachigatsu no Kujira) บาร์สำหรับคนรักภาพยนตร์

จาก "ฮาจิกัตสึโนะคุจิระ บาร์สำหรับคนรักหนัง"

ฮาจิกัตสึ โนะ คุจิระ (Hachigatsu no Kujira) หรือ "วาฬแห่งเดือนสิงหาคม" เป็นร้านที่คุณสามารถดื่มค็อกเทลที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากภาพยนตร์ได้ ชื่อของเมนูจะมาจากชื่อเรื่องของภาพยนตร์ที่คัดสรรมาทั้งเก่าใหม่และหลายประเทศ มีภาพยนตร์ที่มีชื่อเสียงอย่าง Roman Holiday และ Life Is Beautiful ไปจนถึง The Godfather, Nausicaä of the Valley of the Wind และ My Sassy Girl เป็นต้น

ไม่เพียงแต่ภาพยนตร์ที่เป็นที่รู้จักเท่านั้น ยังมีผลงานอีกหลายชนิด ตั้งแต่ผลงานแอคชั่นไปจนถึงผลงานจากดิสนีย์ สตูดิโอจิบลิ ถ้าเป็นคนที่ชอบดูภาพยนตร์ล่ะก็ แค่อ่านเมนูก็ตื่นเต้นสุดๆ แล้วค่ะ

อีกทั้งทางร้านยังทำค็อกเทลจากชื่อหนังที่ไม่ได้อยู่ในเมนูให้ด้วย

ฮาจิกัตสึ โนะ คุจิระ (Hachigatsu no Kujira)
ที่อยู่ : ชั้น B1 Shibuyamon Building 28-12 Udagawacho, Shibuya, Tokyo Google Maps
การเดินทาง : เดินจากทางออกรูปปั้นฮาจิโกะ (Hachiko exit) สถานี JR Shibuya 10 นาที

ถ้าใครอยากมันส์ อยากแดนซ์ ก็มีไนท์คลับให้ไปเที่ยวกันอีกด้วย ลองหาร้านตามสไตล์ตัวเองและสมาชิกไปสนุกกันให้เต็มที่เลยจ้า

↑ กลับไปที่สารบัญ

10. แวะเที่ยวสถานที่น่าสนใจใกล้เคียงทั้งฮาราจูกุและโยโยงิ

เที่ยวชิบูย่าแล้วขอแนะนำว่าอย่าพึ่งกลับ! เพราะใกล้ๆ กันยังมีสถานที่น่าสนใจอีก ไหนๆ มาแล้ว ก็แวะเที่ยวไปพร้อมๆ กันเลยดีกว่า โดยเฉพาะฮาราจูกุ (Harajuku) หรือสวนโยโยงิ (Yoyogi Park) นั้นอยู่ในระยะทางที่เดินไปได้ หากเดินเล่นๆ ชมข้างทางไปด้วย จะใช้เวลาราว 20-30 นาทีค่ะ

ไปสวนโยโยงิ (Yoyogi Park)  ผ่านโซนโอคุชิบูย่า (Oku Shibuya)

โอคุชิบูย่า (Oku Shibuya) เป็นชื่อเรียกพื้นที่เขตคามิยามะโจ (Kamiyama-cho) อุดากาวะโจ (Udagawa-cho) และโทมิกายะ (Tomigaya) ซึ่งเป็นพื้นที่ที่อยู่รอบๆ สวน NHK Studio Park (NHK : สถานีกระจายเสียงสาธารณะของญี่ปุ่น) เป็นเส้นทางระหว่างชิบูย่าไปจนถึงสวนสาธารณะโยโยงิ โดยให้เดินไปทางชิบูย่าเซ็นเตอร์ไก เลย Tokyu Hands ไป จากย่านที่คราคร่ำไปด้วยผู้คนอย่างเซ็นเตอร์ไก เมื่อเข้าสู่พื้นที่โอคุชิบูย่าจะมีบรรยากาศที่สงบขึ้นทันทีค่ะ

ละแวกนี้มีร้านขายสินค้าเบ็ดเตล็ดและร้านอาหารที่สวยงาม อาจจะเป็นย่านที่เหมาะสำหรับผู้ใหญ่มากที่สุดในชิบูย่า

ยกตัวอย่างร้านค้าที่น่าสนใจ เช่น SHIBUYA PUBLISHING & BOOKSELLERS ร้านขายสิ่งพิมพ์และสินค้าเบ็ดเตล็ด มีเครื่องประดับแฮนด์เมดและอุปกรณ์เครื่องเขียนจำนวนมาก และ Archivando (อาร์ชิแวนโด้) จำหน่ายข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันจากทั้งในและต่างประเทศ เป็นร้านที่เราจะได้เจอกับสินค้าที่มีดีไซน์เรียบหรูดูแพง และมีคุณภาพดี

นอกจากร้านจำหน่ายสินค้าเบ็ดเตล็ดแล้ว ยังมีคาเฟ่สวยๆ อีกมากมาย เดินๆ ไปอาจจะได้เจอกับร้านที่ถูกใจก็ได้นะคะ

SHIBUYA PUBLISHING & BOOKSELLERS สาขาใหญ่
ที่อยู่ : ชั้น 1 Terrace Kamiyama 17-3 Kamiyamacho, Shibuya, Tokyo Google Maps
การเดินทาง : เดินจากทางออกรูปปั้นฮาจิโกะ (Hachiko exit) สถานี JR Shibuya 15 นาที
เว็บไซต์ทางการ : https://www.shibuyabooks.co.jp/

Archivando (อาร์ชิแวนโด้)
ที่อยู่ : ชั้น B1, 41-5 Kamiyamacho, Shibuya, Tokyo Google Maps
การเดินทาง : เดินจากทางออกรูปปั้นฮาจิโกะ (Hachiko exit) สถานี JR Shibuya 15 นาที
เว็บไซต์ทางการ : http://www.archivando.jp/

เดินเที่ยวที่แคตสตรีท (Cat Street) ก่อนมุ่งหน้าไปฮาราจูกุ (Harajuku)

แคทสตรีท (Cat Street ) เป็นถนนคนเดินที่ขนานกับถนนเมจิ (Meiji Dori) เชื่อมระหว่างชิบูย่ากับฮาราจูกุ ถนนสายนี้ยาวกว่า 1 กิโลเมตร เต็มไปด้วยร้านค้าและความคึกคัก จนถูกเรียกว่าดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งสตรีทแฟชั่น

ปลายทางคือถนนโอโมเตะซันโด (Omotesando) ซึ่งเป็นที่ที่เราจะเจอกับร้าน KIDDY LAND (คิดดี้แลนด์) และ Omotesando Hills (โอโมเตะซันโดฮิลส์) ถึงจะเป็นแค่ถนนสายสั้นๆ แต่ก็มีร้านยอดนิยมจำนวนมาก คนที่ชอบแฟชั่นคงจะเพลิดเพลินเป็นพิเศษเลยค่ะ แค่มาเดินเล่นปกติก็ใช้เวลาประมาณ 20 นาทีค่ะ

↑ กลับไปที่สารบัญ

การเดินทางไปชิบูย่า

สถานีชิบูย่าประกอบไปด้วยรถไฟ 9 สาย แต่สถานีที่มีนักท่องเที่ยวใช้บริการมากที่สุดคือ JR สายยามาโนะเตะ (Yamanote) ที่วิ่งวนรอบโตเกียว และ รถไฟใต้ดิน Tokyo Metro สายกินซ่า (Ginza)ที่เชื่อมระหว่างอาซากุสะกับชิบูย่า

สายยามาโนะเตะสามารถเดินทางไปยังชินจูกุ (Shinjuku) ฮาราจูกุ (Harajuku) อิเคบุคุโระ (Ikebukuro) และสถานีโตเกียวได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนสาย ส่วนสายกินซ่า นอกจากอาซากุสะแล้ว ยังสามารถเดินทางไปกินซ่า อาโอยามะ และที่อื่นๆ ได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนสายเช่นกัน

เลือกวิธีการเดินทางให้เหมาะสมกับแผนเที่ยวของเราดูนะคะ

รายละเอียดเกี่ยวกับการเปลี่ยนสายรถไฟและการเดินทางในสถานีชิบูย่า อ่านเพิ่มเติมได้ในบทความด้านล่างนี้ค่ะ

ชิบูย่า เมืองที่เต็มไปด้วยสิ่งน่าสนใจ

จาก "เมื่อพลาดรถไฟเที่ยวสุดท้าย อยู่อย่างไรให้ปลอดภัยในเมืองหลวง"

ชิบูย่า เมืองที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมและเทรนด์ที่หลากหลาย ลองไปเที่ยวเต็มๆ วัน ทั้งช้อปปิ้ง ชิมอาหาร และเที่ยวไนท์ไลฟ์ให้ครบนะคะ