Start planning your trip
เหมือนได้ออกกำลังกาย! มาเรียนวิธีบรรเลงกลองญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมกันที่ TAIKO-LAB
"TAIKO-LAB" ได้เปิดสอนการตีกลองไทโกะสำหรับทั้งคนญี่ปุ่นและชาวต่างชาติ กลองไทโกะเป็นเครื่องตีแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น ผู้ที่ไม่มีประสบการณ์ก็สามารถเข้าร่วมคลาสเรียนกลองไทโกะครั้งละ 60 นาทีได้ ลองมาขยับร่างกายทุกส่วนไปพร้อมกับการตีกลองอย่างทรงพลังกัน!
สัมผัสประสบการณ์บรรเลงเครื่องดนตรีแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่ "TAIKO-LAB"
"กลองไทโกะ" ซึ่งเป็นเครื่องตีแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นนั้น เป็นเครื่องดนตรีที่ชาวญี่ปุ่นคุ้นเคยเป็นอย่างดีเพราะมักจะได้ยินเสียงของมันอยู่บ่อยครั้งตามงานเทศกาล
คราวนี้เราได้ไปเข้าคลาสเรียนกับคุณเจิ่นจากเวียดนาม (อายุ 29) และคุณจัสมินจากอเมริกา (อายุ 25) ที่ "TAIKO-LAB" ซึ่งเปิดสอนกลองไทโกะทั่วประเทศ
สถานที่ที่เราเข้าร่วมคลาสทดลองเรียนคือ TAIKO-LAB สาขาอาโอยามะ (Aoyama) ตั้งอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟใต้ดิน Gaiemmae สาย Ginza ใช้เวลาเดินจากสถานีประมาณ 4 นาทีเท่านั้น
จะว่าไปแล้ว "กลองไทโกะ" คืออะไร?
กลองไทโกะคือกลองญี่ปุ่นซึ่งบรรเลงโดยใช้ไม้ตีที่เรียกว่าบาจิ แม้จะเรียกรวมๆ กันว่ากลองไทโกะ แต่ก็มีรูปร่างและขนาดแตกต่างกันไป เช่น "นางาโดไดโกะ" แบบในรูปด้านบน หรือ "ชิเมะไดโกะ" ซึ่งตัวกลองจะถูกรัดด้วยเชือกหรือสลักเกลียว
ประวัติของกลองไทโกะนั้นย้อนกลับไปถึงในสมัยโบราณ เนื่องจากเสียงของมันสะท้อนก้องออกไปได้ไกล จึงเคยถูกใช้เป็นเครื่องมือในการปลุกขวัญกำลังใจหรือส่งข่าวสารในสนามรบ จากนั้นเมื่อเวลาผ่านไป กลองไทโกะก็ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องดนตรีประกอบในงานเทศกาล และตั้งแต่เข้าสู่ยุคสมัยใหม่เป็นต้นมา การบรรเลงกลองไทโกะก็ได้กลายเป็นการแสดงที่ดึงดูดความสนใจของผู้คน
แน่นอนว่าเนื้อหาหลักของคลาสเรียนในคราวนี้คือการได้บรรเลงเครื่องดนตรี แต่ก็ยังสอดแทรกเรื่องการแสดงโชว์และกีฬาที่ได้เคลื่อนไหวร่างกายเอาไว้ด้วย
เข้าชั้นเรียนของจริงกัน!
ซ้ายหน้า : คุณเจิ่น ซ้ายหลัง : คุณจัสมิน
เราถอดรองเท้าที่ประตูทางเข้าแล้วเดินไปที่เคาน์เตอร์ต้อนรับ การลงทะเบียนเรียนใช้ระบบจองล่วงหน้า แค่บอกชื่อที่ใช้จองไป ที่เหลือเจ้าหน้าที่จะจัดการให้ค่ะ
ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าจะมีแยกสำหรับชายหญิงให้ มาเปลี่ยนเป็นชุดที่เคลื่อนไหวร่างกายได้สะดวกกัน ในการเรียนจะเรียนกันแบบเท้าเปล่า เพราะงั้นถอดรองเท้าและถุงเท้าได้เลยค่ะ
สตูดิโอ TAIKO-LAB สาขาอาโอยามะแบ่งออกเป็น 3 ห้องได้แก่ สตูดิโอ A (รองรับได้ 50 คน) สตูดิโอ B (รองรับได้ 25 คน) และสตูดิโอ C (รองรับได้ 25 คน) เป็นสตูดิโอที่มีภาพลักษณ์ทันสมัยและดูเก๋ไก๋ทีเดียวค่ะ
ก่อนเริ่มมาเลือกสวมฮัปปิแบบที่ชอบกันก่อนค่ะ ฮัปปิเป็นเครื่องแต่งกายแบบญี่ปุ่นที่มักสวมใส่กันในงานเทศกาล เจ้าหน้าที่จะสอนวิธีการใส่และวิธีการผูกโอบิให้ค่ะ
เราจะได้เรียนรู้วิธีการจับไม้บาจิที่ถูกต้องไปจนถึงรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ อย่างเช่นท่าทางขณะที่ตีกลองไทโกะ ดูท่าคุณจัสมินกับคุณเจิ่นจะยังตื่นเต้นอยู่เล็กน้อย
เนื่องจากจังหวะในการบรรเลงจะมีลักษณะเฉพาะตัว ในช่วงแรกจึงให้ดูและเลียนแบบจากอาจารย์ก่อน การที่ต้องส่งเสียงดังพร้อมกับขยับร่างกายทุกส่วนไปด้วยถือเป็นเรื่องค่อนข้างยาก แต่เมื่อได้ตีกลองไทโกะด้วยตัวเองแล้ว ทั้งสองคนก็เริ่มจับจุดได้ จึงเริ่มสนุกสนานไปกับการบรรเลง
ประสานจังหวะที่ได้เรียนมาบรรเลงบทเพลงยาวกว่าสองนาทีครึ่งได้สำเร็จ
ในช่วงท้ายของคาบเรียน อาจารย์ได้ใช้กลองไทโกะใบใหญ่ "โอไดโกะ" แสดงโชว์ให้ดู เป็นการบรรเลงอันทรงพลังจนพื้นดินสนั่นหวั่นไหว การที่ได้เห็นในระยะประชิดช่างเป็นประสบการณ์อันล้ำค่าจริงๆ ค่ะ
คุณเจิ่นเล่าว่า "ถึงจะยากกว่าที่คิดเอาไว้ แต่ก็สนุกสุดๆ ไปเลยค่ะ" ส่วนคุณจัสมินบอกว่า "เป็นการออกกำลังกายที่ดีค่ะ การบรรเลงของอาจารย์ทรงพลังแล้วก็ดูเท่ด้วย"
จองคลาสเรียนกัน!
การที่จะเข้าคลาสนั้นจำเป็นต้องจองผ่านทางอินเทอร์เน็ตล่วงหน้า ที่สาขาในโตเกียวและเกียวโตมีคลาสทดลองเรียนเปิดเกือบทุกวัน ลองตรวจสอบกำหนดการก่อนจองนะคะ
แม้จะไม่รู้ภาษาญี่ปุ่นหรือเป็นมือใหม่ก็สามารถเข้าเรียนได้ สัมผัสประสบการณ์นี้ได้ในราคา 6,000 เยนต่อ 1 ท่าน ใช้เวลาครั้งละ 60 นาที จองคลาสเรียนได้ที่ เว็บไซต์ทางการ
วิธีการเดินทางไปยัง TAIKO-LAB สาขาอาโอยามะ
ลงรถไฟใต้ดินที่สถานี Gaiemmae (Tokyo Metro) ออกจากช่องตรวจบัตรฝั่ง Jingu Baseball Stadium District Gate แล้วเดินจากทางออกที่ 3 จะใกล้ที่สุด
เดินเลียบไปตามถนนใหญ่ที่ชื่อถนนอาโอยามะ ข้ามสัญญาณไฟจราจรสองป้ายแล้วเลี้ยวขวา จะมองเห็นอาคารที่ตั้งของ TAIKO-LAB อยู่ทางขวามือ
ห้องเรียนอยู่ที่ชั้นใต้ดิน B1
สร้างความทรงจำที่สนุกสนานในการมาท่องเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่น!
ทั้งคุณจัสมินและคุณเจิ่นต่างก็พึงพอใจกับคลาสเรียนกลองไทโกะเป็นอย่างมาก ทั้งสองบอกว่า "สนุกสุดๆ!" คุณเองก็ลองมาสนุกไปกับคลาสเรียนกลองไทโกะดูบ้างสิคะ
1988年東京生まれ・在住。 慶應義塾大学文学部東洋史学科卒業後、2012年朝日新聞社に入社。 新聞記者として新潟、青森、京都を転々とし、2016年11月からフリーで活動を始める。 旅、演劇、本などが主な守備範囲のフリーライター、フリーランサー。
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง