Start planning your trip

ทตโตริ (Tottori) มีอะไรมากกว่าแค่เนินทรายหรือโคนัน! มาดูแผนเที่ยวไปกลับจากโตเกียวรวม 4 วัน 3 คืน กับวิธีเดินทางแสนประหยัด แถมแนะนำสถานที่เด็ดๆ อย่าง "โรงงานโอนิสึกะไทเกอร์" (Onitsuka Tiger) รองเท้าขวัญใจคนไทยด้วยนะ!
จะว่าไปแล้วก่อนที่จะรู้จักจังหวัดนี้ ก็ได้ไปเที่ยวญี่ปุ่นมาเยอะ เคยคิดว่าการที่มีทะเลสวยทางตอนใต้ของญี่ปุ่นทำให้ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีครบทุกรสให้เที่ยวจริงๆ
แต่เมื่อได้มารู้ว่าที่จังหวัดทตโตริมีทะเลทราย ทำให้รู้สึกว่ายิ่งเติมความครบรสให้กับญี่ปุ่นมากขึ้นไปอีก
แต่เหตุที่ทำให้ต้องมาเยือนทตโตริในครั้งนี้ก็คือ การมาเที่ยวชมโรงงานรองเท้าผ้าใบที่ถูกใจคนไทยอย่าง Onitsuka Tiger จึงทำให้ต้องเก็บกระเป๋ารีบบินจากโตเกียวมาเลยค่ะ
ไหนๆ มาแล้ว ก็ต้องมีแพลนอื่นพ่วงไปด้วย
เอาล่ะวันนี้เลยจะพาจัดแพลนเที่ยวเพื่อเพิ่มรสชาติ และสนุกกับเสน่ห์ในแบบของทตโตริพร้อมไปลุยโรงงาน Onisuka Tiger กัน!
เริ่มการเดินทางจากสนามบินฮาเนดะ เทอร์มินัล 2 ด้วยเครื่องบินวิ่งนิ่มๆ สายนี้เลย กับสายการบิน ANA
เดินทางไปช้อปปิ้งไปก็ได้นะบนเครื่องนี้เค้ามีแคทตาล็อกมาให้ช้อปปิ้ง สินค้าจะอัพเดท เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ด้วย
สามารถดูรายละเอียดและจองตั๋วเครื่องบินสาย ANA เที่ยวในประเทศญี่ปุ่น ราคาพิเศษได้จากที่นี่เลย
>> https://www.ana.co.jp/th/th/promotions/share/experience_jp/
1. ANA มีเที่ยวบินไปสนามบินโยนาโกะวันละ 6 เที่ยว และไปสนามบินทตโตริวันละ 5 เที่ยว รวมทั้งหมด 11 เที่ยวด้วยกัน และเป็นสายการบินที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น จากโตเกียวไปยังสนามบินโยนาโกะและทตโตริใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที มีความสะดวกสบายมาก
2. หากเดินทางจากไทยไปยังสนามบินโยนาโกะหรือสนามบินทตโตริด้วยสายการบิน ANA สามารถต่อเครื่องได้อย่างสะดวกที่สนามบินฮาเนดะในโตเกียวได้เลย และหากออกเดินทางจากไทยในตอนกลางคืน ถึงโตเกียวในตอนเช้า จะสามารถไปถึงสนามบินโยนาโกะหรือสนามบินทตโตริได้ก่อนบ่ายในวันนั้นเลย
3. เพื่อนๆ ที่ไม่ได้พักอาศัยในญี่ปุ่น หรือจะมีคนเดินทางมาด้วยเป็นคนญี่ปุ่นที่ไม่ได้พำนักในญี่ปุ่นก็ใช้สิทธิพิเศษนี้ได้ ขอเพียงมีตั๋วเครืองบินไปกลับจากประเทศที่อยู่อาศัย ก็สามารถซื้อตั๋วเครื่องบินสำหรับเดินทางในประเทศญี่ปุ่นของสายการบิน ANA ได้ในราคาเที่ยวละ 10,800 เยน รวมไปถึงไฟลท์ที่เดินทางจากโตเกียวไปยังสนามบินทตโตริแซนดูนส์โคนัน (Tottori Sand Dunes Conan Airport) หรือสนามบินโยนาโกะคิทาโร่ (Yonago Kitaro Airport) ก็สามารถซื้อได้ในราคาเที่ยวละ 10,800 เยน ซึ่งถือว่าราคาประหยัดมาก
4. ตั้งแต่วันที 1 เมษายนเป็นต้นไป สายการบิน ANA จะให้บริการ Wifi ฟรีบนเที่ยวบินภายในประเทศญี่ปุ่น จะยิ่งช่วยให้การเดินทางของผู้โดยสารสะดวกสบายยิ่งขึ้น
*Wifi ฟรีนั้นจะเริ่มให้บริการตั้งแต่เมษายน 2018
การเดินทางจากโตเกียวจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง ตอนขาของทริปนี้ไปเราจะเดินทางไปลงยังสนามบินโยนาโกะคิทาโร่ (Yonago Kitaro Airport) ซึ่งสนามบินนี้จะเป็นสนามบินที่มีเรื่องราวของการ์ตูนเรื่องอสูรน้อยคิทาโร่ (Gegege no Kitaro)
แน่นอนว่ามาที่เมืองโยนาโกะทั้งทีเราคงได้ไปใกล้ชิดกับอสูรน้อยคิทาโร่ อย่างแน่นอนค่ะ
ถึงอนิเมะเรื่องนี้จะไม่ได้เข้าฉายในทีวีของไทยแต่ก็หนังสือการ์ตูนฉบับภาษาไทยวางจำหน่าย รวมไปถึงเคยมีภาพยนตร์เวอร์ชั่นคนแสดงเข้าฉายด้วย
เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้สัมผัสความสนุกของเรื่องนี้มากันบ้างล่ะ!
เมื่อเดินทางมาถึงสนามบินก็ได้เวลาเริ่มหิวแล้ว จากสนามบินใช้เวลาประมาณ 10 นาทีก็สามารถเดินทางไปยังตลาดค้าอาหารทะเล “นะคะอุระ (Nakaura)” และที่นั่นมีร้านอาหาร "ยูมิกาฮามะ (Yumigahama)" อยู่ด้วย
เราสามารถไปกินเมนูปูที่อร่อยๆ มันปู และทะเลเผาได้ที่นั่น พร้อมกับช้อปปิ้งของแห้ง ของฝากได้
เมนูปูนี้ถือว่าเป็นของดีพลาดไม่ได้ของทตโตริเลยล่ะค่ะ เพราะทตโตรินั้นขึ้นชื่อเรื่องปูขนาดที่คนญี่ปุ่นบอกว่า "พูดถึงปู ต้องนึกถึงทตโตริ" เลยทีเดียว!
สามารถเดินทางได้โดย จากสถานีรถไฟ JR สะไกมินาโตะ (Sakaiminato) ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีโดยรถยนต์ไปถึงตลาดปลานะคะอุระ
ใช้ทางหลวงโยะนะโงะ “Yonagao IC” ใช้เวลาประมาณ 30 นาที หรือจากสนามบินโยนาโกะคิทาโร่ใช้เวลาประมาณ 7 นาที
ในเมืองสะไกมินาโตะยังมีที่เที่ยวพร้อมซีฟู๊ดอร่อยๆ อีก ลองอ่านเพิ่มเติมจากบทความนี้ได้
และแล้วก็มาถึงจุดที่ตั้งใจมาเลยค่ะนั่นคือ ...
ขอบอกว่ารองเท้า Onitsuka Tiger รุ่น NIPPON MADE ซึ่งผลิตในญี่ปุ่นและเป็นรุ่นยอดนิยมที่เราเห็นวางตามร้านก็ผลิตที่นี่ล่ะ!
วันนี้เราได้มีโอกาสมาเที่ยว ชมโรงงานเค้าแล้ว จะได้เห็นความประณีตในการทำมือ และเรื่องราวประวัติของรองเท้าเค้ากันได้ในโรงงานเลยค่ะ
สำหรับใครที่สนใจจะเข้าชมโรงงาน San-in ASICS Industry Co., Ltd.จะมีการจำกัดสำหรับผู้ที่ต้องการเข้าชมว่าต้องเดินทางในรูปแบบกรุ๊ปทัวร์เท่านั้น ซึ่งจะเปิดให้จองเร็วๆ นี้ โดยมีกำหนดเริ่มเปิดจองทัวร์กับบริษัท WENDY TOUR (เบอร์โทรศัพท์ : +81(0)-3- 3459-1386) เป็นเจ้าแรก
และจะเปิดให้กับบริษัททัวร์อื่นๆ ตามลำดับ ถ้าเพื่อนๆ สนใจก็ลองติดต่อไปตามรายละเอียดด้านบนเลยค่ะ!
ในโรงงานเราจะได้ชมรองเท้าหลากหลายรุ่นในอดีต
และรองเท้าหลากหลายดีไซน์ ... ซึ่งที่ผ่านมาเราคิดแค่ว่ารองเท้ายี่ห้อนี้มีแต่รองเท้าสวยๆ ใส่เดินเล่น
แต่จริงๆ แล้วเค้ามีรองเท้าที่สั่งตัดสั่งทำให้กับนักกีฬา มีการปักชื่อลงไปบ้าง ทำสีพิเศษบ้าง
เมื่อเข้าไปในโรงงานแล้วเห็นเค้าทำมือ รู้สึกเลยค่ะ ว่างานประณีตจริงๆ สมราคามากมาย!
ในโรงงานแห่งนี้ในหนึ่งวันผลิตรองเท้าได้กว่า 2,400 คู่ ทั้งรองเท้าในไลน์ NIPPON MADE และรองเท้ารุ่นอื่นๆ
แถมโรงงานเค้าสะอาดมากๆ เลยค่ะ
มีเกร็ดเล็กน้อยแถมให้ คือ เราได้แอบถามเจ้าหน้าที่ที่พาเราเดินชมโรงงาน เค้าเล่าว่าลายเส้นบนรองเท้าที่ทุกๆ คนเห็นว่าเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของยี่ห้อนั้น แท้จริงแล้วออกแบบมาให้รองรับเท้าเวลาเดินเพื่อช่วยป้องกันขาพลิกค่ะ
แต่ปัจจุบันลายนั้นได้มีการปรับเปลี่ยนเพื่อความสวยงามไปแล้ว จึงอาจจะไม่ได้มีประสิทธิภาพในด้านนั้นในทุกรุ่น
ด้านในโรงงานไม่สามารถถ่ายรูปมาให้ชมกัน เอาเป็นว่าท่านใดสนใจอยากเห็นด้วยตาตัวเองลองติดต่อไปชมกันได้เลย
เมื่อทำภารกิจเที่ยวโรงงานสำเร็จแล้วมาถึงที่เที่ยวต่อไปที่จะแนะนำก็คือ ...
เอื้อเฟื้อการถ่ายรูปและเก็บข้อมูล : © Mizuki Productions
ที่นี่มีเหล่าบรรดาอสูรมาทักทายกับเราตั้งแต่ทางเข้าเลย ด้านในจะมีประวัติ และผลงานต่างๆ ของนักเขียนการ์ตูน คุณมิสุกิ ชิเกะรุ รวมถึงเรื่องราวของ "อสูรน้อยคิทาโร่" ซึ่งเป็นผลงานเลื่องชื่อ
ที่น่าสนใจมากคือรูปปั้นจำลองภูติผีต่างๆ ของญี่ปุ่นที่ดูสมจริงจนอาจจะทำให้เดินชมไปขนลุกไปเลยก็ได้นะ
เรียกได้ว่าหากใครไม่ได้เป็นแฟน หรือไม่เคยดูมาก่อน ไปแล้วก็อาจจะติดใจกลับมาหาดูก็เป็นได้!
การเดินทางก็สะดวกสบายจากสถานี JR Sakaiminato เดินใช้เวลาประมาณ 10 นาที
ระหว่างทางยังเป็นถนนที่เต็มไปด้วยร้านค้า และมี stamp rally ของเหล่าภูตผีในเรื่องอสูรน้อยคิทาโร่ด้วย
แถมค่าผ่านประตูของที่นี่ยังมีราคาพิเศษให้ชาวต่างชาติอีกนะ
เมื่อสนุกสนานกันไปจนเย็นแล้ว มาพักผ่อนกันต่อที่โรงแรมเลยค่ะ
วันนี้แนะนำให้พักที่ โรงแรม ANA CROWNE PLAZA Yonago
ที่นี่ห้องพักกว้าง อาหารมื้อเช้าเป็นบุฟเฟต์แสนอร่อย มีให้เลือกหลากหลาย และมีของดีประจำเมืองทตโตริให้ทาน
แถมใกล้สถานี เดินทางสะดวก
ที่อยู่ : 53-2 Kume Yonago, Tottori
วิธีเดินทาง :เดินจากสถานี JR Yonago ประมาณ 8 นาที มีรถบัสจากสนามบินโยนาโกะ ใช้เวลาประมาณ 30 นาที
เว็บไซต์ : https://www.ihg.com/crowneplaza/hotels/us/en/tottori/ttjja/hoteldetail
ออกเดินทางจากโรงแรมตอนเช้า เรามาแวะช้อปนิดก่อนไปถึงเป้าหมายต่อไป
บุกมาที่ปราสาทขนม "โคโตบุกิโจ"! (Sweets Castle Kotobuki - jo)
ที่นี่เป็นร้านขนมใกล้กับภูเขาไดเซน แหล่งน้ำแร่ธรรมชาติของญี่ปุ่น ทันทีที่เดินเข้ามาถึงก็มีน้ำแร่จากธรรมชาติใช้ดื่มฟรีเป็นการต้อนรับเลย
ด้านในมีขนมให้ชิมมากมาย ตอนแรกถ้าเห็นภายนอกจะคิดว่าเป็นปราสาท แต่จริงๆ แล้วคือที่นี่เป็นร้านขนมที่ด้านในมีเปิดให้ชมไลน์ผลิต "โทจิโมจิ" ขนมดังของที่นี่
แวะซื้อขนม ของฝากชื่อดังของทตโตริ อย่าลืมทำ TAX Free ด้วยนะ
ที่อยู่ : 1605-1 Yodoecho Sada, Yonago, Tottori
เวลาทำการ : 9:00 - 18:00
วิธีเดินทาง : เห็นได้ทันทีจากทางด่วน Yonago IC
เว็บไซต์ : http://www.kotobukijo.jp/th/
พิพิธภัณฑ์ภาพถ่ายของคุณอุเอดะ โชจิ ช่างภาพชาวญี่ปุ่นที่โด่งดังไปจนถึงต่างประเทศ
นอกจากจัดแสดงภาพถ่ายแล้ว สิ่งที่ชวนให้ต้องมาคือหากสภาพอากาศเปิด เราจะมองเห็นภูเขาไดเซ็นที่มีลักษณะคล้ายกับภูเขาไฟฟูจิอยู่ที่บริเวณหน้าต่างนี้
และหมวกในรูปก็เป็นจุดถ่ายรูปของที่นี่เลย! เพราะเราจะสามารถถ่ายรูปภูเขาไดเซ็นใส่หมวกได้จากจุดนี้
เงาภูเขาไดเซ็นที่สะท้อนบนน้ำจนดูเหมือนมีภูเขาอีกลูกอยู่ในน้ำก็เป็นอีกจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวที่ชอบงานภาพถ่ายจากทั่วโลกให้มาเยือน
ที่อยู่ : 353-3, Sumura, Hoki, Saihaku, Tottori
เวลาทำการ : 9:00 - 17:00 (เข้าได้ถึง 16:30)
วิธีเดินทาง : นั่งรถแท็กซี่จากสถานี JR Kishimoto ใช้เวลา 10 นาที หรือนั่งรถบัส Daisen Loop bus จากสถานี JR Yonago ใช้เวลา 25 นาที
เว็บไซต์ : http://www.houki-town.jp/p/15/2/1/15/
รอบนี้น่าเสียดายนิด เนื่องจากหิมะตกหนักจึงเข้าไปถึงวัดด้วยการเดินจะไม่ค่อยสะดวก แต่เราก็ได้ชมหิมะขาวๆ จนเต็มอิ่มเลย
เรามานั่งพักที่พักของทางวัดซึ่งอยู่ติดกับวัด ชื่อ "ซันระคุโซ" (Sanrakuso) ที่นี่เป็นที่พักซึ่งเดิมทางวัดเปิดให้แขกที่เดินทางมาฝึกตนใช้ค้างคืน แต่ปัจจุบันเปิดให้ใครก็เข้าพักได้ ซึ่งก็มีนักท่องเที่ยวมาพักตลอด โดยเฉพาะช่วงที่มีงานเทศกาลของวัด
และในปีนี้ทางวัดจะมีงานครบรอบ 1,300 ปีของวัดเลยทีเดียวค่ะ! ถ้าใครอยากมาพัก แนะนำว่าต้องรีบจองเลย
วัดไดเซ็นจิ (Daisen-ji)
ที่อยู่ : 9 Daisen, Daisen, Saihaku, Tottori
วิธีเดินทาง : นั่งรถแท็กซี่จากสถานี JR Yonago ใช้เวลา 40 นาที หรือนั่งรถบัสจากสถานี JR Yonago ใช้เวลา 50 นาที
เว็บไซต์ : http://www.houki-town.jp/p/15/2/1/18/
และสามารถดูรายละเอียดที่พักได้จาก http://www.san-raku.jp/en/
ใครอยากมาลองพักแบบแปลกใหม่ ควรติดต่อแต่เนิ่นๆ เพราะเป็นที่พักขนาดไม่ใหญ่ ในแต่ละวันจะรับแขกเข้าพักได้แค่ประมาณ 20 คนเท่านั้
มาถึงทตโตริทั้งทีจะพลาดเนื้อวัววะกิวได้ยังไง
ที่นี่มีทั้งเมนูเนื้อชาบูชาบู สเต็ก และเนื้อกระทะ เนื้อนุ่ม อร่อย ราคาไม่แพง ที่ร้านยังมีของฝากต่างๆ อีกมากมายให้เลือกชิม เลือกช้อปกันด้วย
ที่เลือกร้านนี้มาแนะนำกันก็เพราะว่าวัววะกิวของทตโตรินั้น ถึงจะไม่ดังในหมู่คนไทยเท่าไหร่ แต่จริงๆ แล้วเป็นวะกิวพันธุ์ดี ราคาสุดคุ้ม แถมเป็นต้นกำเนิดวะกิวของญี่ปุ่นเลยด้วยค่ะ
สำหรับใครที่อยากเช็คข้อมูลเที่ยวภูเขาไดเซ็นแบบเจาะลึกมากกว่านี้ ต้องไปอ่านบทความนี้เลย
มากันต่อที่สถานที่ที่คนรักการ์ตูนจะต้องกรี๊ดกับพิพิธภัณฑ์โคนัน (Gosho Aoyama Manga Factory) และไปกดกริ่งบ้านโคนันบนถนนช้อปปิ้งแห่งเมืองเบกะกันที่ “บ้านโคนัน ถนนช้อปปิ้งเบกะ (Conan’s House Beika Shopping Street)”
ไปจนถึงสถานีรถไฟ JR Yura (หรือเรียกกันว่าสถานี Conan) ซึ่งที่นี่จะมี “ขบวนรถไฟโคนัน”
เมืองแห่งนี้จะทำให้คนที่เดินทางมาชม สนุกกับการมาเที่ยวได้อย่างเต็มที่ตั้งแต่ระหว่างเดินทางมาเลย
เอื้อเฟื้อการถ่ายรูปและเก็บข้อมูลโดย : ©GOSHO AOYAMA/SHOGAKUKAN
ที่พิพิธภัณฑ์โคนัน (Gosho Aoyama Manga Factory) เราจะได้ชมประวัติและผลงานของคุณอาโอยาม่า โกโช นักวาดการ์ตูนที่มีผลงานโด่งดังสุดๆ เรื่อง "ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน"
ส่วนที่บ้านโคนัน ถนนช้อปปิ้งเบกะ จะมีร้านรวงที่จำลองมาจากเมือง "เบกะ" ในการ์ตูน ให้เราได้ช้อปทั้งของฝาก สินค้าโคนัน หรือได้ชิมอาหารกับขนมอร่อยๆ แถมมีบ้านของ "คุโด้ ชินอิจิ" ร่างจริงของนักสืบจิ๋วโคนันให้เราได้กดกริ่งทักทายอีกด้วย
ส่วนการเดินทางจากสถานีไปยัง Gosho Aoyama Manga Factory ใช้เวลาเดินประมาณ 20 นาที ระหว่างทางมีรูปปั้นตัวละครจากการ์ตูนเรื่องนี้เรียงเต็มไปหมด ไม่ต้องกลัวจะเบื่อเลย
รวมสาลี่ทุกๆ มุมโลกมาไว้ให้ชมและศึกษาที่นี่ เรียกได้ว่าใครที่ชอบทานสาลี่จะต้องประทับใจมากๆ แถมมีสาลี่ให้ชิมฟรี เปรียบเทียบรสชาติสาลี่แต่ละพันธุ์ด้วย
แต่ที่ชอบที่สุดก็คือซอฟครีมสาลี่! รสอร่อยมาก หอมสุดๆ!
หลังเรียนรู้เรื่องสาลี่จนหลงรักแล้ว ก็ยังมีของฝากให้ช้อปอีกมากมายเลย
ส่วนคืนนี้พักที่มิซาสะออนเซ็นค่ะ ว่ากันว่าออนเซ็นของที่นี่เป็นออนเซ็นรักษาโรคภัยไข้เจ็บ
คนญี่ปุ่นมีความเชื่อเป็นอย่างมากว่าน้ำแร่ของที่นี่หากได้แช่ 3 วันจะทำให้อาการป่วยบรรเทา หรือหายจากการป่วยไข้ได้
และที่พักที่เราใช้บริการคือ “ไซกิ เบคคัง (Saikibekkan)” นอกจากออนเซ็นแล้ว
ที่นี่ยังมีอาหารมื้อค่ำเป็นเซ็ทอาหารปูเน้นๆ ได้ปู่มาเป็นตัวๆ เลย! อร่อยมาก ห้องพักเป็นห้องญี่ปุ่นกว้างขวาง
ส่วนทำเลก็เหมาะเที่ยว เพราะห่างจากสะพานข้ามแม่น้ำที่มีออนเซ็นโอเพ่นแอร์อันเป็นไฮไลท์ หรือซอยที่มีบ้านเรือนแบบเมืองเก่าๆ ให้เดินเล่นเพียง 5 นาทีเท่านั้น
ก่อนออกเดินทางเราแวะไปชมบ่อออนเซ็นโอเพ่นแอร์กลางแม่น้ำที่คนญี่ปุ่นแช่กันกลางแจ้งแบบนี้เลย
กลางแจ้งแจ่มขนาดไหน ดูรูปกัน ใครกล้าถอด ขอเชิญเลยนะคะ!
ที่นี่เป็นเมืองเก่าได้รับการพัฒนาจนเป็นศูนย์กลางของอาณาจักรโฮกิในสมัยนารา ก็นู้น ปาไปพันปีมาแล้ว
แต่บ้านเรือนต่างๆ ยังคงความสวยงามในรูปแบบโบราณอยู่ค่อนข้างเยอะ และยังเป็นหมู่บ้านที่นักท่องเที่ยวรู้จักกันเป็นอย่างดีในฐานะเขตอนุรักษ์เมืองเก่าน่าเดิน
งานสถาปัตยกรรมของที่นี่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ เรียกได้ว่ามาแล้วคุ้มค่าแน่นอน
นอกจากเดินดูเมืองเก่าสวยๆ แล้ว อาคารหลายหลังยังถูกปรับเป็นร้านค้า ทำให้สามารถช้อปปิ้งของฝาก ขนมชื่อดังของเมืองได้ด้วยค่ะ
การเดินทาง สามารถนั่งรถบัสจากสถานี JR Kurayoshi ทางออกทิศใต้ ป้ายหมายเลข 2
ลงที่ป้าย "Akagawara,Shirakabe dozo" หรือ "Shiyakusyo,Utsubuki Kouen Iriguchi" ใช้เวลาประมาณ 12-15 นาที
เว็บไซต์ : https://www.tottori-tour.jp/th/sightseeing/191/
วัดโอฮิระซัง คมปิระอิน เป็นวัดพุทธญี่ปุ่นที่ดูเผินๆ อาจจะเหมือนไม่มีอะไรต่างจากที่อื่น
แต่เราสามารถทำเครื่องรางส่วนตัวชิ้นเดียวในโลกได้ที่นี่นะคะ!
เราสามารถเลือกพรที่จะขอได้เอง และเลือกถุง สีเชือก เขียนคำอธิษฐานใส่เครื่องรางได้จากความตั้งใจของเราเอง
เมื่อทำเสร็จพระจะนำเครื่องรางไปสวดขอพรให้กับเรา
เรียกได้ว่าเป็นเครื่องรางทำมือที่ทำเองสำหรับเราเท่านั้น ไม่ต้องซื้อแบบสำเร็จรูป คุ้มค่ามากๆ ค่ะ
ค่ากิจกรรมทำเครื่องรางเพียงแค่ 2,000 เยนเท่านั้น แถมยังได้ชาเขียวกับของหวานให้ทานด้วย
ที่อยู่ : 1 Agei, Kurayoshi, Tottori
เวลาทำการ : 9:00 - 15:00
วิธีเดินทาง : ออกจากสถานี JR Kurayoshi เดินประมาณ 8 นาที หรือออกจากทางออก North Exit แล้วนั่งรถแท็กซี่ใช้เวลาประมาณ 3 นาที
เว็บไซต์ : https://oohirasan-konpirain.com
เดินทางมาอีกหน่อย มาทานอาหารกลางวันกัน
ร้านนี้มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองคือมีข้าวแกงกะหรี่สีชมพูสวยๆ ในเซ็ตอาหารนี้จะไม่มีเนื้อแต่จะได้ลิ้มลองกับน้ำแกงกะหรี่สีชมพูได้อย่างเต็มที่
การตกแต่งร้านก็สวย น่ารัก รวมไปถึงมีชุดอลังการสไตล์ยุโรปให้เช่า จึงทำให้ร้านนี้เป็นที่นิยมของคนที่ชื่นชอบคอสเพลย์
ที่อยู่ : 3-3 Oenoki, Tottori, Tottori
เวลาทำการ : 11:00 - 20:30 (ปิดช่วงวันหยุดตามเทศกาล)
วิธีเดินทาง : ออกจากสถานี JR Tottori โดยสารรถบัสประจำทางลงที่ป้าย Ezakicho
เว็บไซต์ : http://www.allure-ba.com/oenoki/
คฤหาสน์ที่มีความสวยงามในแบบตะวันตกแห่งนี้เต็มไปด้วยร่องรอยทางประวัติศาสตร์ในอดีต ทั้งที่ตั้งซึ่งอยู่ด้านล่างของซากปราสาททตโตริและทั้งยังเคยมีบุคคลสำคัญมากหน้ามาพัก
ด้วยความสวยงามและความสมบูรณ์ที่มีเคียงคู่ไปกับอดีต ทำให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม แถมยังมีพวกภาพยนตร์มาใช้เป็นโลเคชั่นด้วยนะ
ที่อยู่ : 2-121 Higashicho, Tottori, Tottori
เวลาทำการ : 9:00 - 17:00 (เข้าได้ถึง 16:30 หยุดทุกวันจันทร์และหลังวันหยุดนักขัตฤกษ์)
วิธีเดินทาง : ออกจากสถานี JR Tottori เดิน 25 นาที หรือโดยสารบัส 10 นาที หรือโดยสารแท็กซี่ 5 นาที
เว็บไซต์หลัก : http://www.tbz.or.jp/jinpuukaku/ (เฉพาะภาษาญี่ปุ่น)
มาถึงไฮไลท์ที่ทุกคนต้องรู้จักในทตโตริ นั่นคือความงดงามจากทราย!
ที่พิพิธภัณฑ์ทรายมีการจัดแสดงปฎิมากรรมทั้งในแบบนูนต่ำ นูนสูงในธีมต่างๆ ที่ไม่ซ้ำกันในแต่ละปี ซึ่งพูดได้คำเดียวว่าอลังการมากๆ
ทุกๆ ปีจะมีการรวมศิลปินที่ทำงานด้านนี้โดยเฉพาะมาเพื่อทำการสร้างสรรค์ผลงาน
ถึงใครจะเคยมาแล้ว แต่ธีมที่จัดแต่ละปีเปลี่ยนไปเรื่อย จึงทำให้ควรค่าแก่การมาเที่ยวในทุกๆ ปีเลยทีเดียว
ที่อยู่ : 2083-17 Yuyama, Fukube, Tottori, Tottori
เวลาทำการ : 9:00 - 18:00 (ยกเว้นวันเสาร์ จะเปิดเวลา 9:00 - 20:00)
วิธีเดินทาง : ออกจากสถานี JR Tottori โดยสารบัสหรือโดยสารแท็กซี่ประมาณ 20 นาที
เว็บไซต์หลัก : http://www.sand-museum.jp/en/
ออกจากพิพิธภัณฑ์ทรายมานิดเดียว เราจะมาถึงทะเลทรายของญี่ปุ่นอันแสนกว้างใหญ่ ยาว 2.4 กิโลเมตและ 16 กิโลเมตรรจากเหนือจรดใต้! มีอูฐให้เราได้ขี่ถึง 3 ตัว
อันที่จริงที่นี่ไม่ได้เป็นทะเลทราย แต่เป็น "เนินทราย" ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นค่ะ
เนินทรายแห่งนี้เป็นสิ่งที่ไม่น่าเชื่อว่าญี่ปุ่นจะมีด้วย เลยทำให้ยิ่งเรารู้สึกว่าเข้าไปใหญ่ว่าประเทศญี่ปุ่นนี่มีให้เที่ยวทุกรสจริงๆ
บอกเลยว่าเป็นจุดเที่ยวที่สวยงาม เหนือความคาดหมาย ประทับใจมากๆ
เที่ยวกันจนเต็มอิ่มแล้ว คืนนี้เรามาพักคลายเหนื่อนก่อนกลับโตเกียวกันที่โรงแรม Hotel Monarque Tottori
ที่นี่เป็นโรงแรมที่สะดวกสบายเดินไปร้านสะดวกซื้อเพียง 2 นาที อยู่ใกล้สถานี Tottori มากด้วย อาหารเช้าก็อร่อย
ที่อยู่ : 403, Eiraku Onsencho, Tottori, Tottori
วิธีเดินทาง :เดินจากสถานี JR Tottori ทางออก North Exit ประมาณ 7 นาที
เว็บไซต์ : https://www.hotel-monarque.jp/english/
ได้ทานเนื้อวัวดีๆ ของทตโตริไปแล้วรอบนึง แต่ถ้าไม่ได้ทานเนื้อย่าง อาจจะดูเหมือนยังไม่ครบสูตรวะกิว
คืนนี้เราเลยมาทานวะกิวปิ้งย่างขึ้นชื่อของเมืองที่ร้าน “จุจุอัน” (Jujuan)
ที่นี่มีวะกิวคุณภาพดี พร้อมกับมันปูรสเด็ดสูตรพิเศษของที่นี่เค้าด้วย
สามารถเดินจากโรงแรมที่พักในคืนนี้เพียง 3 นาทีเท่านั้น
มาถึงวันสุดท้ายของทริปเราแล้ว ตอนเช้าเรามานั่งเครื่องบินเดินทางกลับไปโตเกียวที่สนามบินทตโตริแซนดูนส์โคนัน (Tottori Sand Dunes Conan Airport)
ความดีงามที่อยากจะเล่าก็คือ ที่สนามบินนี้หากคนไทยท่านใดเดินทางด้วยสายการบิน ANA เค้าจะมีของขวัญเล็กๆ น้อยๆ มาแจกให้กับท่านก่อนขึ้นเครื่องด้วย ว๊าวมากๆ เลย!
เที่ยวกลับสนามบินฮาเนดะ เลือกนั่งเครื่องบินฝั่งซ้ายมือ ถ้าอากาศดีมีโอกาสชมฟูจิได้ครบทุกทิศจากเครื่องบิน ANA และสนุกกับการถ่ายภาพฟูจิเกือบๆ 1 ชั่วโมงเลยทีเดียว
ที่นั่งค่อนข้างกว้าง นุ่มสบาย มีที่ให้ชาร์จมือถือให้เสร็จ แน่นอนว่ามี Wifi ด้วย เล่นโซเชียลได้เต็มที่เลย
เมื่อเดินทางมาถึงโตเกียวแล้ว ความอินใน Onisuka Tiger ยังไม่หมด เลยขอไปชมสินค้าไลน์ NIPPON MADE ที่สถานี Omotesando ซึ่งเขามีร้านสำหรับรุ่นนี้เป็นของตัวเองเลย
ที่ตั้งก็อยู่ใกล้กับร้านของ Onisuka Tiger สาขา Omotesando นิดเดียว
ไปชมกันดีกว่าว่ามีอะไรน่าสนใจกันบ้าง!
สินค้าของทีนี่แน่นอนว่ามีความประณีต ทำด้วยวัสดุคุณภาพดี และมีหลากหลายสไตล์ให้เลือกสรร
ทั้งผู้หญิงและผู้ชายก็สามารถเพลินไปกับงานดีมีคุณภาพได้ รวมไปถึงมีเสื้อผ้า กระเป๋าจำหน่ายด้วย
สำหรับรองเท้า Custom Made ตามใจเราของไลน์ NIPPON MADE นั้น
เราสามารถเลือกสีส่วนต่างๆ ของรองเท้าในจุดใหญ่ๆ ได้เอง เรียกได้ว่ารองเท้าที่ได้มาจะเป็นสีสันที่เราออกแบบเองนะ
และสีโปรดของเราจะได้มาอยู่รวมกันที่รองเท้าแล้ว! หรือจะใส่ชื่อของเราลงไปก็ได้เหมือนกัน
ใช้เวลาทำประมาณ 6 สัปดาห์พร้อมส่งให้ที่ประเทศไทยฟรี แต่หากโดนภาษีนำเข้าจะต้องทำการชำระด้วยตัวเองนะ
Written and Photo by ไม่ใช่กรูรู แต่กรูรู้ ของถูกในโตเกียว
Sponsored by ANA and Tottori Prefecture
บทความโดย
นี่คือบัญชีของกองบรรณาธิการ MATCHA เราจะเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่นที่นักท่องเที่ยวอยากรู้ รวมถึงเสน่ห์ที่ซ่อนอยู่ของญี่ปุ่นที่ยังไม่มีใครรู้จัก