6 ร้านอาหารชั้นเยี่ยมในทตโตริ การันตีความอร่อยด้วยมิชลินไกด์! (Tottori)
ทตโตริอยู่ห่างจากโอซาก้าและเกียวโตด้วยรถไฟด่วนพิเศษเพียง 2 – 3 ชั่วโมงเรียกได้ว่าเป็นแหล่งขุมทรัพย์แห่งอาหารชั้นเยี่ยมทั้งปูสดใหม่และ "วากิว" เนื้อวัวญี่ปุ่นชั้นสูง ในครั้งนี้เราจะมาแนะนำร้านอาหารระดับโลกที่ได้ตีพิมพ์ในมิชลินไกด์ (Michelin Guide) กันค่ะ
ร้านอาหารในทตโตริที่ได้รับการคัดเลือกลงในคู่มือมิชลิน ไกด์
จังหวัดทตโตริเป็นแหล่งอาหารการกินแสนอร่อยไม่ว่าจะเป็นอาหารทะเลและเนื้อวัวญี่ปุ่นถึงขนาดขึ้นชื่อว่าเป็น "เมืองหลวงแห่งอาหาร" ไม่แพ้โอซาก้าและเกียวโตเลยก็ว่าได้ ในครั้งนี้เราจะมาแนะนำ 6 ร้านอาหารในทตโตริที่ได้รับการคัดเลือกลงใน "มิชลินไกด์ (Michelin Guide) " คู่มือแนะนำร้านอาหารชื่อดังระดับโลกกันค่ะ
ร้านอาหารทั้งหมดที่เราแนะนำนี้ได้รับการตีพิมพ์อยู่ใน "คู่มือมิชลินไกด์ เกียวโต โอซาก้า + ทตโตริประจำปี 2019" เราสามารถดื่มด่ำกับอาหารชั้นเลิศจากวัตถุดิบท้องถิ่นได้จากร้านเหล่านี้เลย!
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
1. "ซาซาซูชิ" เต็มอิ่มกับซูชิสดใหม่ในห้องสไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิม
สำหรับใครที่อยากทานซูชิแสนอร่อยภายในเมืองทตโตริ ที่อยู่ทางทิศตะวันออกของจังหวัดทตโตริ ขอแนะนำให้แวะมาที่ร้านซาซาซูชิ (Sasa Sushi) ร้านธุรกิจครอบครัวอายุกว่า 50 ปีแห่งนี้เลยค่ะ
สิ่งแรกที่เห็นเมื่อเข้ามาภายในร้านก็คือการตกแต่งภายในสไตล์ไม้ที่แสนอบอุ่น ถ้ามากันเป็นครอบครัวสามารถใช้บริการห้องส่วนตัวได้ ภายในห้องส่วนตัวได้รับการประดับตกแต่งสไตล์ห้องญี่ปุ่นดั้งเดิมไม่ว่าจะเป็นกำแพงจากไม้และกระดาษ รวมถึงเสื่อทาทามิ
ร้านซาซาซูชิใช้เฉพาะวัตถุดิบสดใหม่ที่ส่งตรงมาจากตลาดปลาท้องถิ่นเท่านั้น นอกจากนี้ยังไม่ใส่น้ำตาลลงในข้าวผสมน้ำส้มสายชูสำหรับปั้นซูชิเพื่อให้ได้รสชาติดั้งเดิมของวัตถุดิบอย่างเต็มที่ วิธีการอันมีเอกลักษณ์นี้เองที่ได้รับเสียงชื่นชมอย่างมากจากคู่มือมิชลินไกด์
ในครั้งนี้เราได้ขอให้จัดซูชิรวมกันเป็นหนึ่งจานเพื่อถ่ายรูปโดยเฉพาะ เพราะปกติแล้วทางร้านจะเสิร์ฟเฉพาะซูชิสดใหม่ จึงพยายามเสิร์ฟแบบปั้นสดๆ กันคำต่อคำเท่าที่จะทำได้
ผู้เขียนเดินทางมาที่ร้านซาซาซูชิในเดือนพฤศจิกายนซึ่งตรงกับฤดูกาลของปูพอดี จึงมีโอกาสได้ทานข้าวถ้วยเล็กที่โปะหน้าด้วยเนื้อและไข่ปู ไข่ปูนั้นถือเป็นอาหารแปลกในญี่ปุ่น หากใครชอบทานไข่ปลาคาเวียร์ก็บอกเลยว่าต้องลองไข่ปูดูสักครั้งค่ะ
2. "อัลมาเร" ดื่มด่ำอาหารอิตาเลียนจากวัตถุดิบท้องถิ่น
อัลมาเร (AL MARE) ตั้งอยู่ใกล้กับชายฝั่งอุราโดเมะ (Uradome Coast) ทางทิศตะวันออกของจังหวัดทตโตริ เป็นร้านอาหารอิตาเลียนที่เปิดให้บริการในปี 2018 การตกแต่งภายในดูสวย สะอาดตา ได้รับการออกแบบโดยหนึ่งในดีไซเนอร์ผู้ร่วมออกแบบรถไฟสุดหรูยอดนิยมของญี่ปุ่นฝั่งตะวันตกอย่าง Twilight Express Mizukaze
ภายในร้านอาหารมีหน้าต่างขนาดใหญ่สำหรับชมวิวทะเลแสนสวยได้อย่างกว้างขวาง "มิชลินไกด์" ไม่ได้ให้คะแนนที่นี่เฉพาะเรื่องความพิถีพิถันในการเลือกใช้วัตถุดิบและภาชนะท้องถิ่นเท่านั้น แต่ยังยกย่องให้เป็นร้านอาหารที่มีบรรยากาศราวกับอยู่ในรีสอร์ทเลยทีเดียว
แม้ตัวร้านจะดูมีบรรยากาศไฮโซดูราคาแพง แต่หลายเมนูนั้นมีราคาสมเหตุสมผล มื้อกลางวันอย่างคอร์สที่มีจานหลักเป็นเมนูเนื้อหรือพาสต้ามีราคาประมาณ 2,000 เยน ส่วนคอร์สเมดิเตอร์เรเนียนที่หรูขึ้นมาอีกก็มีราคาเริ่มต้นที่ 3,980 เยนเท่านั้น
ในช่วงเวลา 14:00 - 17:00 เราสามารถเพลิดเพลินกับอาฟเตอร์นูนทีที่มีขนมหลากหลายหรือเซ็ตขนมหวาน Dolce Set ได้อีกด้วย
ผู้เขียนสั่งคอร์สเมดิเตอร์เรเนียนมาทานซึ่งประกอบด้วยขนมปังโฮมเมดและเนย อาหารเรียกน้ำย่อย 2 ชนิด พาสต้า อาหารจานหลักเป็นเมนูปลา 1 จาน และของหวาน แน่นอนว่าวัตถุดิบที่ใช้เป็นวัตถุดิบท้องถิ่นทั้งหมด
แล้วก็ขอสั่งพิซซ่า Quattro Formaggi มาทานกันด้วย พิซซ่าที่ไม่ใช้ซอสมะเขือเทศจานนี้มีความโดดเด่นทั้งเรื่องรสชาติของแป้งและชีส 4 ชนิด
การได้มานั่งทานอาหารภายในร้านที่สามารถเพลิดเพลินกับอาหารแสนอร่อยและทัศนียภาพอันงดงามได้เช่นนี้ทำให้รู้สึกราวกับว่ากำลังอิ่มอร่อยกับอาหารท้องถิ่นอยู่บนชายหาดในอิตาลีเลยทีเดียว
*รายการอาหารอาจมีการเปลี่ยนแปลง ดูรายละเอียดได้จากเว็บไซต์ทางการของอัลมาเร
3. "คาเฟ่นิจิโนะกิ" กับแกงกะหรี่สุดพิถีพิถัน
คาเฟ่นิจิโนะกิ (Cafe Nijinoki) ตั้งอยู่ใกล้กับชายฝั่งอุราโดเมะทางทิศตะวันออกของจังหวัดทตโตริเหมือนกับ "อัลมาเร" ด้านบน เป็นคาเฟ่ยอดนิยมที่บริหารโดยคู่สามีภรรยาอายุยังน้อย
เอกลักษณ์ของที่นี่คือความเป็นโฮมเมดและแฮนด์เมดทั้งหมดตั้งแต่แกงกะหรี่ เค้ก จาน ไปจนถึงการตกแต่งภายนอกและการตกแต่งภายในเลย!
เมนูยอดนิยมเป็นพิเศษของที่นี่คือ แกงกะหรี่ที่ผสมผสานระหว่างเครื่องเทศหลากหลายจนได้รับการแนะนำอยู่ใน "มิชลิน ไกด์"
ผู้เขียนสั่งแกงกะหรี่รวมมิตรประจำวัน (Honjitsu no Curry Mix) มาทาน แกงกะหรี่หลากหลายชนิดถูกเสิร์ฟมาพร้อมกับข้าวสวยและแป้งนานทอดกรอบปริมาณจัดเต็มใน 1 จาน ประกอบด้วยแกงกะหรี่หลากสไตล์ ทั้งสไตล์อินเดียไปจนถึงแกงกะหรี่ที่คล้ายกับสตูว์เนื้อ ถึงจะมีรสชาติไม่เผ็ด แต่ขอบอกเลยว่าอร่อยทั้งนั้น
สำหรับใครที่เลือกไม่ถูกว่าจะทานแกงกะหรี่แบบไหนดีก็ขอแนะนำให้ลองสั่ง "แกงกะหรี่รวมมิตรประจำวัน" มาทานกันดูค่ะ เพราะว่าเราจะได้ลิ้มลองรสชาติอันหลากหลายอย่างจุใจภายในจานเดียว
ส่วนของหวานสั่งเป็นเค้กช็อกโกแลต กาโต้ช็อกโกล่า (Gateau Chocola) เค้กโฮมเมดประจำวันและกาแฟดริปมาทาน เห็นทางร้านบอกว่าเมนูเค้กจะเปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาลและวัตถุดิบที่หาได้ด้วยนะคะ
นอกจากนี้คาเฟ่นิจิโนะกิก็ยังเป็นร้านจำหน่ายสินค้าแฮนด์เมดฝีมือชาวบ้านท้องถิ่นอีกต่างหาก บางวันมีจำหน่ายทั้งพืชผักและขนมปังจากร้านในท้องถิ่น
จึงไม่แปลกใจเลยที่ คาเฟ่นิจิโนะกิ แห่งนี้จะได้รับความนิยมทั้งในหมู่ผู้คนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวมากมายขนาดนี้ เพียงแค่ได้มาสัมผัสบรรยากาศแสนอบอุ่นภายในร้านพลางนั่งจิบกาแฟชงใหม่ร้อนๆ ก็คุ้มแล้วล่ะ!
4. "อาจิโดโคโระ มิสะ" ลิ้มรสปูตามฤดูกาลสุดอร่อย!
เราสามารถเพลิดเพลินกับปูได้ถึง 2 พันธุ์ในทตโตริระหว่างช่วงเดือนพฤศจิกายน - เดือนมิถุนายน ปูสายพันธุ์ที่พบได้มากที่สุดคือปูหิมะ (ปูซุไว) ในเดือนกันยายน - เดือนมิถุนายน ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากปูถูกจำหน่ายสู่ท้องตลาดมากมาย แต่ขอบอกว่าเนื้อปูสดๆ ไม่ว่าจะนำไปต้มหรือย่างก็อร่อยไม่แพ้กัน
ส่วนปูอีกสายพันธุ์หนึ่งคือปูมัตสึบะกานิ ในเดือนพฤศจิกายน - เดือนมีนาคม เนื่องจากปูสายพันธุ์นี้อาศัยอยู่ในแหล่งน้ำที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยแพลงก์ตอน จึงมีเนื้อแน่นและรสชาติเข้มข้น
หากใครอยากลิ้มลองปูหิมะและปูมัตสึบะกานิสดใหม่ต้องมาเที่ยวทตโตริกันให้ได้นะคะ!
ร้านอาหารแนะนำสำหรับคนอยากทานปูสดๆ ใหม่ๆ ก็คืออาจิโดโคโระ มิสะ (Ajidokoro Misa) ที่ตั้งอยู่ในเมืองซาไคมินาโตะ (Sakaiminato) ทางทิศตะวันตกของจังหวัดทตโตริ ทั้งเมนูปูชั้นเลิศจับจากทะเลญี่ปุ่นและข้าวหน้าปลาดิบ (ไคเซนด้ง) โปะหน้าด้วยปลาตามฤดูกาลต่างเป็นเมนูเด็ดที่ได้รับการแนะนำอยู่ใน "มิชลิน ไกด์"
อาจิโดโคโระ มิสะ แห่งนี้มีเมนูยอดนิยมเป็นเมนูคอร์สเนื้อปูที่สามารถเพลิดเพลินกับการทานปูหิมะและปูมัตสึบะกานิในหลากหลายแบบได้อย่างเต็มอิ่ม!
เนื้อส่วนขาของปูมัตสึบะกานิสามารถทานแบบดิบๆ เป็นซาชิมิได้เลย ส่วนปูหิมะสีแดง (ปูเบนิซุไว) สามารถนำไปต้มในหม้อไฟหรือย่างทานบนโต๊ะอาหารได้ นอกจากนี้ยังมีเสิร์ฟซาชิมิและกับแกล้มอื่นๆ นอกจากปูอีกด้วย
คนญี่ปุ่นทานมันปูที่เรียกกันว่าคานิมิโซะด้วยเช่นกัน คานิมิโซะถือว่าเป็นอาหารแปลกที่มักทานเป็นกับแกล้มเหล้าญี่ปุ่น ในคอร์สนี้เราจะได้ลิ้มรสคานิมิโซะถึง 2 แบบทั้งคานิมิโซะย่างและไข่ตุ๋นผสมคานิมิโซะ
ใครที่อยากดื่มด่ำกับปูญี่ปุ่นกันแบบถึงอกถึงใจ ไม่มีที่ไหนเหมาะสมไปกว่า อาจิโดโคโระ มิสะ แห่งนี้แล้วล่ะค่ะ!
5. "เคียวโชเท" ร้านเนื้อวัวญี่ปุ่นย่างชั้นเลิศ
วากิว คือเนื้อวัวญี่ปุ่นคุณภาพสูง เนื่องจากมีไขมันเยอะ เนื้อของมันจึงมีรูปร่างหน้าตาสวยงามราวกับหินอ่อน ทานเข้าไปแล้วรู้สึกเหมือนแทบจะละลายในปากเลย
เคียวโชเท (Kyoshotei) ร้านในเมืองโยนาโกะ (Yonago) ทางทิศตะวันตกของจังหวัดทตโตริแห่งนี้เป็นร้านเนื้อย่างที่ใช้เฉพาะเนื้อวัวดำไดเซ็นคุโระอุชิซึ่งหมายถึงเนื้อวัวจากฟาร์มที่ได้รับการยอมรับบริเวณเขาไดเซ็นในจังหวัดทตโตริเท่านั้น วัวไดเซ็นคุโระอุชิได้รับการยกย่องเป็น "เนื้อวัวคุณภาพดีที่สุดในญี่ปุ่น" ถึงขนาดชนะเนื้อวัวชื่อดังระดับโลกอย่างเนื้อวัวโกเบได้เลยทีเดียว
ที่ร้านเคียวโชเท เราจะสั่งเป็นแบบคอร์สและเป็นจานเดี่ยวก็ได้
"มิชลิน ไกด์" ได้แนะนำเมนูแบบคอร์สที่สามารถเพลิดเพลินกับวิธีทานเนื้อวัวได้หลากหลายแบบ ในครั้งนี้ผู้เขียนได้ลองสั่งคอร์สไดเซ็นคุโระอุชิ (Daisen Kuroushi Tzukushi Course) มาทาน ในคอร์สประกอบด้วยเนื้อหลากหลายชนิด ข้าวกระเทียม ซุปหางวัว สลัด ของหวาน และกาแฟ
เนื้อวัวที่เสิร์ฟมาในคอร์สมีทั้งซูชิเนื้อวัวลนไฟ ยากิชาบู และยากิสุกี้
ซูชิเนื้อวัวลนไฟ คือ ซูชิที่โปะหน้าด้วยเนื้อวัวสไลซ์บางแผ่นใหญ่
ยากิชาบูเป็นเมนูที่ได้ไอเดียมาจากชาบูชาบู เราจะย่างเนื้อแผ่นบางเหมือนกับเนื้อสำหรับชาบูชาบูบนตะแกรงร้อนๆ ตามภาพ แต่ระวังเอาไว้นิดนึงว่าเนื้อจะไหม้เร็วมาก
ส่วนยากิสุกี้เป็นเมนูที่ได้ไอเดียมาจากสุกี้ยากี้ โดยเราต้องย่างเนื้อสไลซ์แผ่นบางอย่างรวดเร็วและจุ่มลงในเมอแรงค์ไข่ดิบทานแบบสุกี้ยากี้ ไข่ฟูฟ่องและเนื้อรสชาตินุ่มลิ้นราวกับครีม พอทานแล้วแทบจะละลายในปากเลยทีเดียว
เนื้อวัวไดเซ็นคุโระอุชิของทตโตริมีแฟนๆ มากมายทั่วญี่ปุ่น ถ้าอยากทราบว่าทำไมก็ต้องลองมาพิสูจน์กันที่ "เคียวโชเท" ดูค่ะ
6. "บราสเซอรี่ อโกรา" อาหารทตโตริสไตล์ฝรั่งเศส
บราสเซอรี่ อโกรา (Brasserie Agora) ตั้งอยู่ใกล้กับสถานีเจอาร์ โยนาโกะ (JR Yonago) ทางทิศตะวันตกของจังหวัดทตโตริ เสิร์ฟเมนูในครัวเรือนของฝรั่งเศสที่ประยุกต์ใช้วัตถุดิบในจังหวัดทตโตริ
การให้ความสำคัญกับสูตรอาหารดั้งเดิมของฝรั่งเศส เช่น การตกแต่งเมนูเนื้อด้วยซอสทุกจาน ทำให้ที่นี่ได้รับเสียงชื่นชมอย่างมากจาก "มิชลิน ไกด์"
เมนูคอร์สมื้อค่ำของที่นี่ได้รับความนิยมมากเป็นพิเศษ เพราะสามารถอร่อยกับอาหารหลากหลายแบบอย่างละนิดอย่างละหน่อยและยังมีรสชาติเข้ากับเบียร์หรือไวน์ได้อย่างยอดเยี่ยม
เนื่องจากผู้เขียนเดินทางมาที่ร้านในช่วงกลางวัน จึงสั่งเมนูมื้อกลางวันเป็นไก่และผักตามฤดูกาลมาทาน บอกเลยว่าเป็นประสบการณ์น่าสนใจจริงๆ ที่ได้ทานเนื้อไก่จากจังหวัดทตโตริ เนื้อชุ่มฉ่ำมาพร้อมกับถั่วเลนทิลและซอสสมุนไพรสไตล์ฝรั่งเศส
ครัวแบบเปิดทำให้เรามองเห็นบรรยากาศการปรุงอาหารด้วยใจรักและความอ่อนโยนแบบจานต่อจานของเชฟเจ้าของร้าน
เขาเน้นเหตุผลอันหนักแน่นในการเลือกเปิดร้านอาหารสไตล์ฝรั่งเศสให้ฟังว่า "ที่ผมเปิดร้านอาหารแห่งนี้ขึ้นมาก็เพราะว่าอยากแชร์ความรักต่อทตโตริให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการและอยากจะปรุงแต่งรสชาติของอาหารแบบดั้งเดิมด้วยรสชาติแบบใหม่ๆ"
จังหวัดทตโตริ เมืองหลวงแห่งอาหารการกิน
จังหวัดทตโตริที่แสนภาคภูมิใจเรื่องอาหารมากมายไม่ว่าจะเป็นปูสดใหม่แสนอร่อยและเนื้อวัวไดเซ็นคุโระอุชิแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็น "เมืองหลวงแห่งอาหาร" สำหรับใครที่มีความสนใจในอาหารญี่ปุ่น ขอบอกเลยว่าห้ามพลาดใส่ทตโตริลงไปในลิสต์แผนเที่ยวครั้งต่อไปด้วยประการทั้งปวง!!
ในเว็บไซต์ทางการของจังหวัดทตโตริยังมีแหล่งท่องเที่ยวแสนสนุกอีกมากมายรอคุณอยู่ : http://www.tottori-tour.jp/th/
สุดท้ายก็อย่าลืมเข้าไปอ่านบทความรวมพิเศษเกี่ยวกับทตโตริของ MATCHA กันด้วยนะคะ!
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
Sponsored by Tottori Prefecture
บัญชีส่งเสริมการขายของ MATCHA สำหรับการโฆษณาองค์กรและรัฐบาลท้องถิ่น เรามุ่งมั่นที่จะให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านของเราอย่างสนุกสนาน
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง