กูรูราเม็งขอบอก! แนะนำ 15 ราเม็งอร่อยขั้นเทพในชิบูย่า โตเกียว พลาดแล้วจะเสียใจ! (Shibuya, Tokyo)

ชิบูย่า ที่สุดของคนและความวุ่นวาย

โตเกียว กับย่านที่ไม่เคยหลับไหล ชิบูย่า
ที่นอกจากคนเยอะแล้ว ร้านราเม็งเองก็เยอะสุดๆเช่นกันครับ

ถ้าร้านราเม็งจะเยอะขนาดนั้น ทุกคนคงเลือกไม่ถูกว่าจะไปกินร้านไหนดีใช่ไหมครับ ในบทความนี้ ผู้เขียน ... ก็ตัวผมนี่แหละ! ยอมรับเลยว่าผมบ้าราเม็งมาก ทานราเม็งปีละประมาณ 900 ชาม (หรือวันละ 2.4 ชาม ... ก็คือกินมันทุกวันน่ะแหละครับ) จนถึงตอนนี้รวมแล้วก็กว่า 5,000 ชาม

วันนี้จะขอมาแนะนำร้านราเม็งที่คอนเฟิร์มว่าอร่อยจริงๆ จากการไปเดินตะลุยทานมาด้วยตัวเองในชิบูย่า

1. Kiraku ร้านราเม็งเก่าแก่สีจัดจานในชิบูย่า

ร้านราเม็งที่ถือว่าเป็นร้านเก่าแก่ และยังเป็นร้านที่ขึ้นชื่อ ร้านราเม็ง Kiraku เสิร์ฟราเม็งทั้งแบบโชยุและชิโอะ โดยส่วนตัวผมชอบราเม็งใส่เกี๊ยว โชยุวันตันเม็ง (ราคารวมภาษี 850 เยน)

ร้านเก่าแก่ทีมาคู่กับรสชาติที่ดั้งเดิม และความหอมจากหอมเจียวที่แทบจะอดใจไม่ไหว มาพร้อมกับปริมาณเต็มชามจาก ถั่วงอก และเกี๊ยว อย่างจุใจ ถ้าคิดจะหาร้านราเม็งแถวชิบูย่าแล้วล่ะก็ ไม่ต้องมากเรื่องมากความ ขอเชิญที่ร้านนี้โดยด่วนครับ

ที่ร้าน Kiraku ที่นอกจะขายราเม็งแล้ว ก็ยังมีเมนูอาหารจีนอื่นๆอีก ที่จะเอามาแกล้มกับเบียร์ก็อร่อยเด็ด ปกติที่ร้านก็คนเยอะเป็นปกติอยู่แล้ว แต่ต่างคนต่างกิน แปปๆก็ได้ที่นั่งแล้วก็ถือว่ารอไม่นานมาก

ร้านก๋วยเตี๋ยวจีน Kiraku

2-17-6 Dogenzaka, Shibuya-ku, โตเกียว 150-0043

2. ร้านราเม็งลับในชิบูย่า Kokuu

ร้าน Kokuu ร้านราเม็งลับที่แอบอยู่ห่างจากสถานี เสิร์ฟราเม็งทั้งแบบโชยุ ชิโอะ และตันตัน ที่โดยส่วนตัวนั้นผมชอบ ชิโอะราเม็ง ที่สุด (ในรูปคือราเม็งใส่เกี๊ยว ราคารวมภาษี 850 เยน)

ซุปรสชาติเบาๆ ที่ไม่ว่าใครก็ต้องชอบ บอกได้คำเดียว "อร่อย" ที่อาจจะบอกได้ว่าไม่ได้ความเฉพาะตัวอะไรเป็นพิเศษ แต่ความดีงามคือความพิถีพิถันในการปรุงของร้าน หมูชาชูและเกี้ยวเองก็ยังขึ้นชื่อ ซึ่งเกี๊ยวไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง

เนื่องจากร้านอาจจะหายากไปซะหน่อย ยังไงก็อย่าเดินเลยร้านไปนะครับ มองหาดีๆ ส่วนเวลาทำการก็ค่อนข้างสั้น ถ้าไปสายหน่อยก็หมดอดกินอย่างแน่นอน

ราเมนโคคุ

29-5 Sakuragaoka-cho, Shibuya-ku, โตเกียว 150-0031

3. นิโบชิราเม็งสูตรเฉพาะที่หากินได้ที่นี่ที่เดียว "Sugoi Niboshi Ramen Nagi"

ร้านราเม็งนิโบชิที่หากินได้ย่านชิบูย่า มีให้กินที่ร้าน "Sugoi Niboshi Ramen Nagi" มีราเม็ง 2 แบบให้เลือกก็คือแบบใสและแบบข้น ถ้าพึ่งมาครั้งผมแนะนำราเม็งที่อยู่ในรูป "ราเม็งนิโบชิแบบข้น" (ราคารวมภาษี 830 เยน)

น้ำซุปนิโบชิที่ได้มาจากการเคี่ยววัตถุดิบกว่า 20 ชนิด ที่ยังปรุงรสให้ได้รสที่เข้มข้น แค่กินเข้าไปเพียงคำเดียวก็รู้สึกได้ของพลัง! ที่ไม่ว่าร้านไหนก็ทำออกมาไม่ได้แบบนี้ ส่วนฝั่งเส้นก็เป็นเส้นอ้วนที่ทำเอง เข้ากับได้ดีกับซุปที่มีรสเข้ม ส่วนใครชอบเส้น ที่นี่ยังเพิ่มเส้นได้ฟรีอีกด้วย

นิโบชิที่แม้ว่าจะทำมาจากปลา แต่ที่นี่คุมรสคาวของปลาได้ดีมากๆ ใครที่ไม่ชอบราเม็งซุปปลาก็สามารถกินได้ นอกจากนี้ที่ร้านยังใจดีปรับแต่งความแข็งของเส้น ความเข้มของซุป และระดับความมันได้อีก ตอบโจทย์ลูกค้ากันแบบสุดๆไปเลย

* นิโบชิ ... การนำปลาตัวเล็กมาต้มและตากแห้ง มักนำมาใช้สำหรับต้มเอาน้ำมาทำเป็นซุป

ราเมนต้มและแห้งที่น่าตื่นตาตื่นใจ Nagi Shibuya ทางออกทิศตะวันออก

3-7-2 Shibuya, Shibuya-ku, Tokyo 150-0002 อาคารยากิที่ 2 ชั้น 1F

4. ความจับกังคือจุดขาย Menya Musashi Bukotsu-gaiden

ถ้าว่ากันถึงราเม็งจับกังในย่านชิบูย่าก็คงไม่พ้นร้านนี้ ร้านMenya Musashi Bukotsu-gaiden มีรสชาติให้เลือก 3 สีก็คือ สีดำ ขาว และแดง และเมนูที่ฮิตที่สุดก็คือราเม็งที่อยู๋ในรูป Noko-Gaiden Kuro Tsukemen (ราคารวมภาษี 1,200เยน)

ด้านบนของเส้นจะมี An (แป้งที่ผสมน้ำและน้ำซุปเข้าไปเพื่อความข้น) วางอยู่ด้านบน เมื่อผสมกับตัวเส้นจะทำให้มีรสของน้ำซุปปลาเข้มข้น กินแบบไม่ง้อน้ำซุปแบบ Abura Soba ก็ทำได้เช่นกัน
สำหรับเส้น ถ้าสั่งขนาดใหญ่พิเศษก็จะมีขนาด 1 กิโลกรัมโดยที่ไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่ม ใครอยากประลองก็มาลองดูได้ แต่เพื่อเป็นมารยาทที่ดีในการกิน ควรสั่งแค่พอกินหมด นะครับ

ทั้งซุปทั้ง An จะค่อนข้างออกหวานด้วยกันทั้งคู่ อาจจะไม่ถูกปากสำหรับคอของเค็ม เพราะงั้นทางร้านก็ได้จัดเตรียมเครื่องปรุงเช่น น้ำส้มสายชูหรือเครื่องเทศต้นตำรับของร้านไว้ จะได้ไม่เบื่อซะก่อนที่จะกินหมด

เมนยะ มูซาชิ มูซาชิ ไกเดน

2-8-5 Dogenzaka, Shibuya-ku, โตเกียว 150-0043

5. วัดกันด้วยราเม็งเพียวๆ Ramen Hayashi

สำหรับผม ร้านเดียวที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงสำหรับร้านราเม็งในชิบูย่าก็ต้องร้าน Ramen Hayashi เมนูราเม็งสุดเบสิค ที่มีท้อปปิ้งแค่หมูชาชูกับไข่ต้ม (ในรูปคือเพิ่มหมูชาชูและไข่ต้มแล้ว ราคารวมภาษี 1,100 เยน) ไม่มีทั้งเมนูค้างเคียง หรือแม้แต่เบียร์

ซุปของร้านเป็นซุปผสมที่ทำจากกระดูกหมู ไก่และปลาเข้าด้วยกัน ให้รสที่ละมุนและกินง่าย และแน่นอนสำหรับร้านระดับนี้ การเข้าแถวเป็นเรื่องปกติ ถ้าใครไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเข้าแถวด้วย ก็ขอให้ไปลองด้วยตัวเอง จะได้รู้ว่าราเม็งชามนี้ชาวเดียวเต็มไปด้วยความใส่ใจของเจ้าของร้าน ที่ใครๆ ก็ต้องยอม

ที่ร้านนี้ยังมีเมนูลับสำหรับราเม็งอีก 1 เมนู ก็คือเมนูชิโอะราเม็ง สำหรับใครที่อยากจะลองสั่งดู ก็สามารถบอกกับพนักงานได้เลยว่าจะเอาชิโอะราเม็งครับ

ราเมน ฮายาชิ

1-14-9 Dogenzaka, Shibuya-ku, โตเกียว 150-0043 Social Dogenzaka

6. เมนูหลากหลายไม่ว่าแบบไหนก็อร่อยสุดๆ Usagi

ถ้าเวลาไปชิบูย่าแล้วอยากกินราเม็ง แต่ดันไม่รู้จะกินราเม็งอะไรดี เดินตรงมาที่ร้าน Usagi ได้เลย ที่ร้านนี้มีราเม็งตังแต่เราเม็งแบบรสเบาๆ ทสีเคเมง ตันตันเมง อะไรๆ ก็มี แถมอร่อยไปซะทุกอย่าง
แต่ถ้ามาเป็นครั้งแรกขอแนะนำราเม็งที่อยู๋ในรูป Hishio (ราเม็งในรูปใส่ไข่ต้มและหมูชาชูเพิ่ม ราคารวมภาษี 1,200 เยน)

ที่ร้านนี้ใช้ซุปที่ผสมมาจากการนำโชยุหรือ Gyosho(*) ไปรวมกันดาชิไก่หรือดาชิจากปลา ทำให้รสที่เบาแต่เข้มข้น แม้จะกินเก็บเส้นอ้วนก็เข้ากันได้ดี แถมด้วย ชาชูเผาไฟ ก็เข้ากันได้ดีกับซุปมากๆ แนะนำให้สั่งมาลองกินกันดูครับ

ที่ร้าน Usagi นอกจากเมนูปกติที่มีให้เลือกมากมายแล้ว ยังมีเมนูที่ขายเฉพาะช่วงเวลาอีก แถมที่ร้านยังใส่ใจนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลมาเป็นจำนวนมาก ด้วยการจัดเตรียม เมนูภาษาอังกฤษ เอาไว้ให้อีกด้วย บรรยากาศในร้านยังเป็นแบบร้านๆ ทำให้ค่อยเพลิดเพลินไปกับราเม็งได้อย่างเต็มที่

* Gyosho ... คือการนำปลาจำนวนมากไปแช่เกลือ และนำน้ำที่ได้มากจากหมักไปปรุงอาหาร เรียกง่ายๆ ก็คือน้ำปลา

กระต่าย

8-13 Shinsencho, Shibuya-ku, Tokyo 150-0045

7. ราเม็งเรียบง่ายที่กินเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อ Menya Nukaji

สำหรับร้านราเม็งที่ชิบูย่า ที่ไม่ว่ามากินเมื่อไหร่เมื่อใด กินเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อ ผมต้องขอยกให้ร้าน Menya Nukaji สำหรับเมนูฮิตของร้านนี้ก็คือราเม็งในรูป Tsukemen (ราคารวมภาษี 880 เยน)

ซุปที่ได้มาจากเคี่ยวปลากอปรกับโชยุรสเข้มข้น จนออกมากเป็นซุปที่มีรสอุมามิอย่างเต็มที่ ที่ไม่ว่าจะเป็นใคร เกิดปีไหน เพศอะไรก็กินได้ง่ายๆไม่ต้องคิดมาก ถึงแม้ว่าจะไม่ได้มีความเฉพาะตัวมากขนาดนั้น แต่ก็เป็นซุปที่เคี่ยวมาจากความพิถีพิถัน ระหว่างที่กินก็อย่าลืมลองใส่พริกป่นชิจิมิดูนะครับ

ข้าวกับไข่ดิบฟรี ที่ต้องถือว่าใจป้ำพอดู จะกินข้าวทามาโกะคาเคะโกฮัง (ข้าวราดไข่ดิบ) ก็ดี หรือพอกินหมดจะตอกใส่และข้าวลงไปในน้ำซุปปิดท้ายก็ยังได้ เลือกอย่างที่ตัวเองชอบกันได้เลย สำหรับส่วนตัวผมชอบที่จะตอกไข่ลงไปในระหว่างการกิน หลังจากนั้นค่อยใส่ข้าวลงไปปิดท้ายครับ

Menya Nukaji

3-12 Udagawa-cho, Shibuya-ku, โตเกียว 150-0042 s-vort Shibuya Jinnan 1...

8. ร้านทงคตสึราเม็งย่านชิบูย่า ต้องที่นี่ Mennobo Toride

ถ้าอยากกินราเม็งทงคตสึอร่อยๆ แถวชิบุย่าก็ต้องห้ามพลาดร้าน Mennobo Toride (ในรูปเป็นราเม็งเพิ่มไข่ต้มและสาหร่าย ราคารวมภาษี 880 เยน) ที่ตั้งของร้านนั้นจริงๆ แล้วอยู่ที่สถานี Shinsen ของสาย Keio Inokashira แต่ก็สามารถเดินมาได้จากสถานีชิบูย่า

แม้ในร้านจะเต็มไปด้วยกลิ่นจากกระดูกหมู แต่ราเม็งที่เสิร์ฟออกมานั้นกลับไม่ได้มีกลิ่นคาวแต่อย่างใด แถมด้วยรสที่ปรุงมาแล้วอย่างกลมกล่อม แต่ก็ต้องและมาด้วยความมันที่เยอะซักเล็กน้อย แต่หลังจากกินแล้วต้องบอกว่าเต็มท้องจริงๆ เส้นนั้นก็เป็นเส้นที่ทำเอง มีทั้งเส้นเล็กและเส้นใหญ่ให้เลือกกัน 2 แบบ โดยส่วนตัวผมแนะนำให้เลือกเส้นใหญ่จะดีกว่าครับ

สำหรับการปิดท้ายการกินราเม็ง วิธีการกินสไตล์ Mennobo Toride นั้นก็คือการสั่ง ข้าวมาและใส่ลงไปในซุปพร้อมกับบดงาลงไป แถมข้าวร้านนี้ยังใช้ข้าวชื่อดังของญี่ปุ่น รับประกันได้ถึงความอร่อย ถ้าใครกินเสร็จแล้วยังมีท้องเหลือ ก็ลองกินวิธีกินแบบนี้ดูนะครับ

Men no Bou Toride

20-23 Shinsencho, Shibuya-ku, โตเกียว 150-0045

9. สึเคเม็งเข้มข้นอันดับ 1 ในชิบูย่า "Dogenzaka Mammoth"

ถ้าเกิดอย่างกินราเม็ง สึเคเม็งเข้มข้นแถวชิบูย่าขอเชิญร้าน Dogenzaka Mammoth อย่างพลาดไม่ได้ ก่อนอื่นผมอยากให้ลองกินเมนู Noko Tsukemen สึเคเม็งรสเข้มข้น (ราคารวมภาษี 800 เยน)

ซุปที่ได้จากผสมผักลงไปในน้ำซุปที่เคี่ยวจากกระดูกหมูและปลา ให้รสชาติเข้มและน้ำที่ข้นเป็นจุดเด่น แต่ว่ามีไขมันน้อยทำให้กินแล้วไม่เลี่ยนเท่ารูปลักษณ์ ส่วนเส้นก็มีให้เลือก 2 แบบ ผมแนะนำเส้นเพื่อสุขภาพอย่าง Haiga Iri Men ที่เป็นเส้นที่ใส่ต้นอ่อนของพืช ที่สามารถเพลิดเพลินไปกับรสชาติที่เข้มของเส้นกับน้ำที่ข้นของซุป

แถวชิบูย่านั้น ร้านราเม็งที่ขายความเข้มข้นนั้นมีน้อยกว่าที่คิด ร้านนี้ถือว่าเป็นร้านที่สำคัญมากพอสมควร ทำให้มีคนต่อคิวแม้จะไม่ได้เป็นช่วงพักกินอาหาร แต่เนื่องจากมีการหมุนเวียนค่อนข้างเร็ว ทำให้รอไม่นานมาก

โดเก็นซากะแมมมอธ

2-10-1, Dogenzaka, Shibuya-ku, โตเกียว 150-0043

10. ร้านราเม็งของตลกชื่อดัง Onisoba Fujigaya

ร้าน Onisoba Fujigaya ที่เป็นร้านที่เปิดโดยตลกชื่อดังของญี่ปุ่น ที่ทำให้เป็นที่กล่าวขานสำหรับร้านราเม็งยอดนิยมที่ชิบูย่า ถึงแม้จะเป็นร้านราเม็งที่เปิดเป็นธุรกิจเสริม แต่รสชาติก็ไม่เป็นรองใคร (ราเม็งในรูปคือ Oniramen ราคารวมภาษี 750 เยน)

การใส่หอมเจียวลงไปในซุปที่เคี่ยวมาจากโครงไก่และปลานั้น ทำให้ได้รับคำชมจากกูรูราเม็งหลายๆคน ประกอบกับความหอมที่ได้จากท้อปปิ้งเนื้อไก่เผาไฟนั้นก็สุดยอดจนถึงคำสุดท้าย และร้านนี้ก็ไม่ได้ดังจากการเป็นข่าวแต่เพียงอย่างเดียว รสชาติก็ได้รับค้นควาจนตกผลึกมาแล้วเรียบร้อย

นอกจากราเม็งแล้ว ผมยังแนะนำเมนูเคียงอย่าง ข้าวผัด ที่รสเหมือนกับร้านอาหารจีนแท้ๆเลยทีเดียว อยากให้ทุกคนได้ลองกัน แต่เนื่องจากปริมาณค่อนข้างเยอะอาจจะต้องไปกันหลายๆ คนแล้วช่วยๆกันกินจะดีกว่านะครับ

โอนิ โซบะ ฟูจิยะ ชิบูย่า

อาคารชิบุ 5F, 24-6 Udagawa-cho, Shibuya-ku, Tokyo 150-0042

11. ร้านดังจากเมืองชิบะ Chibakara Shibuya Dogenzaka

จิบะ เมืองที่ตั้งอยู่ข้างโตเกียวนั้นมีร้านหลักของร้านนี้อยู่ พบกับร้าน Chibakara Shibuya Dogenzaka ซึ่งมีราเม็งที่ใส่ทั้งผักและกระเทียมกันอย่างล้นหลามเป็นจุดขาย ที่ร้านนี้ก็ยังมีอาหารเส้นๆ มาอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นราเม็ง ทสึเคะเมง หรืออะบุระโซบะก็มี เมนูแนะนำก็ตามรูป Ajitama Ramen Buta Ichikire ราคาหมูหั่นใส่ไข่ต้ม (ราคารวมภาษี 990 เยน)

จุดขายคือซุปกระดูกหมูอันเข้มข้น ถ้าใครเป็นคอราเม็งน้ำข้นต้องห้ามพลาด ส่วนปริมาณของเส้นที่ให้มานั้น ถ้าเทียบกับร้านอื่นๆก็เยอะเป็น 2 เท่า อิ่มกันชัวร์ สำหรับหมูที่หั่นให้มานั้น แต่ละชิ้นก็หนาถึง 3-4 เซ็นติเมตร เต็มปากเต็มคำกันไปตามๆกัน ถึงแม้จะชิ้นหนาแต่ก็ทำมาจนนุ่มได้ที่ รสชาติก็สุดยอด

แถมด้วยการขอเพิ่มผักได้ไม่อั้น กินกันให้จุใจกันไปเลย แต่ก็อย่าลืมสั่งเท่าพอกินกันนะครับ

ร้านชิบะคารา ชิบุยะ โดเก็นซากะ

12. ร้านราเม็งกับบรรยากาศแบบฮิปๆ พร้อมกับราเม็งไร้สารปรุงแต่ง Art Masashiya

ร้าน Art Masashiya เป็นร้านราเม็งยอดนิยมที่ตั้งหลุดในส่วนลึกของ Dogenzaka ที่ชิบูย่า ที่้ร้านเสิร์ฟราเม็งทั้งหมด 3 แบบ สำหรับเมนูดังของร้านก็คือราเม็งที่อยู๋ในรูป Tokusei Umakuchi Ramen (ราคารวมภาษี 880 เยน)

มีจุดเด่นตรงที่มีธาตุเหล็ก แคลเซียม และแร่ธาตุต่างๆ จากทะเล ความอร่อยที่ไร้สารปรุงแต่งดีต่อสุขภาพและซุปที่อ่อนโยน ที่ยังมีรสเผ็ดอ่อนๆ มาช่วยเสริมรสนั้นเป็นจุดเด่นของร้านนี้ เมนูข้างเคียงก็มีทามาโกะคาเคะโกฮังหรือข้าวราดไข่ดิบ กินคู่กับราเม็งก็อร่อยสุดๆ

ตัวร้านนั้นทำมาจากร้านกาแฟเก่า ทำให้ได้บรรยากาศเก๋ เป็นร้านที่เนรมิตมาจากเจ้าของร้านที่เคยทำงานด้านแฟชั่นมาก่อน บรรยากาศสบายๆ ทำให้ไม่นึกว่าที่นี่คือชิบูย่า ทำให้ลูกค้าได้อิ่มเอมไปทั้งบรรยากาศที่สงบและราเม็งที่อร่อยไปพร้อมๆ กัน

อาร์ต มาซาชิยะ

2-8 Nanpeidaicho, Shibuya-ku, โตเกียว 150-0036 Nikko Palace Nanpeidai...

13. ร้านมิโซะราเม็งสูตรต้นตำรับ Shinbusakiya Shibuya

Shinbusakiya Shibuya ร้านมิโซะราเม็งที่ถ้าคิดถึงมิโซะราเม็งระหว่างเดินเล่นที่ชิบูย่า ที่ไม่ได้มีแค่มิโซะราเม็ง แต่ยังมี Aburi Miso Ramen ราเม็งมิโซะผัด ที่ถือว่าห้ามพลาด (ในรูปเพิ่มไข่ต้มและหมูชาชู ราคารวมภาษี 1,020 เยน)

ซุปที่ทำมาจากมิโซะและกระเทียมที่นำไปผัดด้วยไฟแรงที่จนแทบจะทำให้ไหม้ ทำให้รสที่ลุ่มลึกและรสเครื่องเทศที่จัดจ้าน ที่ไม่ใครก็ต้องน้ำลายไหล อาจจะมีมันเยอะไปซักหน่อย แต่ถ้ากินคู่กับกินขูดฝอยก็จะช่วยให้กินได้อร่อยขึ้น มิโซะราเม็งที่มาพร้อมกับเส้นหงิกงอนั้นเข้ากันได้ดีอย่างน่าประหลาด

ที่บนโต๊ะยังวาง Garam Masara ที่เป็นเครื่องเทศผสมสูตรอินเดีย สามารถเติมเพื่อเพิ่มรสระหว่างกินได้อีก สุดท้ายตบท้ายด้วยข้าวใส่ลงไปในซุป ตามด้วยผง Garam Masara ที่จะเนรมิตราเม็งให้กลายเป็นแกงกะหรี่ แต่เครื่อง Garam Masara มีรสที่หนักมาก ควรใส่อย่างระมัดระวัง

บะหมี่ทาคูมิ มาทาเกะ ซาคุยะ ชิบูย่า

2-10-3 Dogenzaka, Shibuya-ku, โตเกียว 150-0043

14. ร้านยอดฮิตในหมู่สาวๆ Kugatsudo

ร้านราเม็งที่เป็นที่นิยมในหมู่สาวก็ต้องเป็นร้าน Kugatsudo อย่างแน่แท้ ถ้าถามว่าทำไมก็อาจจะเพราะว่าที่ร้านขายของหวานพร้อมๆกับขายราเม็ง ทำให้ร้านนี้กลายเป็น Ramen Cafe ไปโดยปริยาย ส่วนราเม็งก็มี 2 แบบ ก็คือแบบAsariหรือแบบใส และKotteriหรือแบบข้น ส่วนเมนูในรูปนั้นก็คือแบบใส (เพิ่มไข่ต้ม ราคารวมภาษี 890 เยน)

เบสของราเม็งนั้นทำมาจากเครื่องตระกูลปลา เช่นปากโอตากแห้งหรือนิโบชิ ทำให้มีไขมันน้อย ที่ร้านนี้ไม่ใส่สารเติมแต่ง ดีต่อสุขภาพ ทำให้คนที่กลัวราเม็งก็สามารถกินได้อย่างสบายใจ
สำหรับส่วนตัวผม ราเม็งสูตรใสนั้นไม่ค่อยถึงใจซักเท่าไหร่ ถ้าใครที่อยากกินแบบถึงรสถึงเครื่องแนะนำให้สั่งแบบข้นดีกว่าครับ

สำหรับร้าน Kugatsudo เนื่องจากมีคอนเซปต์แบบ Ramen Cafe ทำให้จะไปกินแค่ของหวานก็ทำได้ แถมร้านก็ยังดูเก๋ๆ นั่งกินนานๆ ได้ไม่เคอะเขิน

คุกัตสึโดะ

1-15-12 Jinnan, Shibuya-ku, Tokyo 150-0041 อาคาร Sato 2F

15. ถึงจะไม่เด่น แต่ก็ฮิตสุดๆ Chukasoba Sakurazaka

ชิบูย่าย่านที่มีร้านราเม็งอยู่มากมาย ร้าน Chukasoba Sakurazaka ที่แม้จะธรรมดาแต่ก็ยังคงอยู่ได้มาจนถึงปัจจุบันนี้ ที่ร้านนี้เมนู 3 แบบ แต่เมนูที่อยากให้ลองมากที่สุดก็คือเมนูที่เป็นชื่อร้านหรือ Chukasoba (ราคารวมภาษี 750 เยน)

ตัวซุปเองค่อนข้างที่จะมีรสอ่อน แต่ให้พลังของปลาโอตากแห้งอย่างเต็มที่ แค่คำเดียวก็บอกได้เลยว่าอร่อย หมูชาชูเองก็ใช่ที่ นุ่มจนละลายในปากกันเลยที่เดียว ถ้าใครท้องว่างๆ แนะนำให้สั่งชาชูมาเพิ่มนะครับ

ราเม็งรสเกลือโทริไพตัน (*) เองก็ควรลอง เพราะในแถบๆ นีร้านที่เสิร์ฟซุปโทริไพตันค่อนข้างจะมีน้อย เพราะฉะนั้นถ้าอย่างกินโทริไพตันราเม็งอร่อยๆ ก็ต้องอย่าพลาดร้าน Chukasoba Sakurazaka

* โทริไพตัน ... ซุปที่ต้มจากโครงไก่ ซุปที่ได้จะเป็นสีขาวขุ่น ภายนอกอาจดูเหมือนซุปกระดูกหมู แต่กลิ่นจะเบากว่าและทานง่ายกว่า

บัควีทจีน ซากุระซากะ

17-10 Sakuragaoka-cho, Shibuya-ku, โตเกียว 150-0031

ตะลุยร้านราเม็งอร่อยในชิบูย่าให้อิ่มจุใจกันไปเลย

ไม่ว่าจะวันไหน เวลาไหน ชิบูย่าก็ครึกครื้นไปด้วยผู้คนอยู่เสมอ ร้านราเม็งก็มากมายและหลากหลาย หลายๆ ร้านเปิดบริการถึงดึกและไม่ค่อยมีวันหยุด เรียกได้ว่าเป็นความพิเศษของร้านราเม็งในชิบูย่าเลย

ถ้าเกิดอยากไปทานราเม็งแถวชินจูกุ อย่าลืมตามลายแทงร้านเด็ดๆ ในบทความนี้ดูนะครับ