Start planning your trip
ไปดูรูปปั้นหินแปลกตาที่ วัดซุมะเดระในโกเบ
วัดซุมะเดระอยู่ทางตะวันตกของเมืองโกเบ เป็นวัดพุทธที่มีประวัติยาวนานกว่า 1,100 ปี แต่ก็เป็นวัดที่เข้าถึงง่าย และมีรูปปั้นหินไม่เหมือนใครที่เข้ากับยุคปัจจุบัน บทความนี้จะพาไปดูเสน่ห์ของวัดซุมะเดระ เช่น บรรยากาศภายในวัดที่งดงามตลอดทั้งสี่ฤดู
วัดซุมะเดระ (Suma Temple) ที่มีสิ่งก่อสร้างเชิงประวัติศาสตร์และเสน่ห์ของรูปปั้นหินที่แปลกตา
ไดชิโด วัดซุมะเดระ
"วัดซุมะเดระ" อยู่ทางตะวันตกของเมืองโกเบ เป็นวัดที่มีประวัติยาวนานกว่า 1,100 ปีนับแต่ก่อตั้ง ชื่อทางการคือ "วัดโจยะซังฟุคุโชจิ (Joyasan Fukushoji Temple)" และเป็นฮนซัง (*1) ในสังกัดวัดซุมะเดระของนิกายชินกอน
*1: ฮนซัง (วัดศูนย์กลาง).....วัดที่ควบคุมดูแลวัดในศาสนาหรือลัทธิเดียวกัน
นิกายชินกอน เป็นหนึ่งในนิกายของศาสนาพุทธ ก่อตั้งขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 9 โดยพระคูไคหรือโคโบไดชิ
แม้ในปัจจุบันโคโบไดชิยังคงเป็นบุคคลสำคัญ มีรูปปั้นของโคโบไดชิประดิษฐานในวิหารไดชิทางตะวันตกของวิหารหลักด้วย
Picture courtesy of วัดซุมะเดระ
ทุกวันที่ 20 และ 21 ของเดือน จะมีการจัดงานวัดที่มีบรรยากาศคึกคักและการออกร้านมากมาย
แม้ว่าวัดซุมะเดระจะเป็นวัดเก่าแก่ที่มีประวัติอันยาวนาน แต่ก็ยังรวมเอาองค์ประกอบที่ทันสมัยเข้าไว้ด้วยกันอย่างการจัดวางรูปปั้นที่มีเอกลักษณ์ และการทำคลิปสอนศาสนาบน YouTube อีกทั้งยังมีสิ่งที่น่าสนใจมากมายที่ไม่มีในวัดอื่น บทความนี้เราจะพาไปชมในวัดซุมะเดระกันค่ะ
ไปพบกับ "สิ่งน่าสนใจ" ซึ่งเป็นจุดถ่ายรูปสวยๆ กัน!
1. วาราเบะจิโซ (Warabe Jizo)
"วาราเบะจิโซ" น่ารักๆ 6 รูปที่สวมหมวกไหมพรมและผ้ากันเปื้อนโพสต์ท่าต่างๆ เช่น ท่าบันไซ (*2) ท่าพนมมือ และท่าชูสองนิ้วที่คนญี่ปุ่นมักทำตอนถ่ายรูป
วาราเบะหมายถึงเด็ก และว่ากันว่าจิโซคือ "พระพุทธเจ้าที่อยู่ใกล้ชิดกับชาวญี่ปุ่น และช่วยชีวิตผู้คนจากความทุกข์ทรมานด้วยจิตใจที่เมตตากรุณา"
*2: ท่าบันไซ.....ท่าทางการยกแขนทั้งสองข้างตอนรู้สึกดีใจ และอื่นๆ
2. ลูกประคำยักษ์ที่ทำให้คำอธิษฐานหนึ่งข้อเป็นจริง
"ลูกประคำยักษ์ที่ทำให้คำอธิษฐานหนึ่งข้อเป็นจริง" คือลูกประคำยักษ์ที่ทำให้ความปรารถนาเป็นจริงได้เพียงแค่นำมาคล้องไว้บนบ่าแล้วโคโบไดชิก็จะช่วยให้เป็นจริง ปกติลูกประคำจะทำจากเม็ดประคำร้อยด้วยเส้นด้ายคล้ายสร้อยข้อมือ ใช้สวมที่ข้อมือตอนสวดมนต์ภาวนา
แต่ลูกประคำนี้ใหญ่มากขนาดที่คนๆ เดียวไม่สามารถถือได้ จึงขอให้สวมบนบ่าอย่างระมัดระวังกันนะคะ
3. กงล้ออธิษฐานแห่งเทพเจ้าโชคลาภทั้งเจ็ด
กงล้ออธิษฐานที่มีรูปเทพเจ้าโชคลาภทั้งเจ็ดบนหลังเต่า กงล้ออธิษฐานเป็นอุปกรณ์ประกอบศาสนกิจของศาสนาพุทธในธิเบต โดยจะอธิษฐานสิ่งที่ปรารถนาขณะที่หมุนกงล้ออธิษฐาน กงล้ออธิษฐานที่วัดซุมะเดระมีภาพของเทพเจ้านำโชคทั้งเจ็ดอยู่ ในการอธิษฐานขอพรสามารถขึ้นไปบนหลังเต่า หมุนกงล้ออธิษฐานแล้วไหว้ขอพรได้ แต่อย่าขึ้นไปบนกงล้ออธิษฐานแห่งเทพเจ้าโชคลาภทั้งเจ็ดนะคะ
เทพเจ้าแห่งโชคลาภทั้งเจ็ด ได้แก่ ไดโคคุเท็น, เอบิซุเท็น, บิชามงเท็น, ฟุคุโรคุจุ, โฮเทซน, จุโรจิน และเบ็นไซเท็น ซึ่งเป็นเหล่าเทพเจ้าที่ประทานพรทำให้คำอธิษฐานของทุกคนเป็นจริง
4. กบบุจิคาเอรุ (กลับบ้านปลอดภัย!)
"กบบุจิคาเอรุ" มีกลไกที่หันคอและหมุนตาได้ ว่ากันว่า "ถ้าอยากประหลาดใจให้หมุนตา ถ้ากังวลเรื่องเงินที่ยืมมาก็แก้เคล็ดโดยหมุนคอกบ" เรื่องนี้มีที่มาจากสำนวนโวหารญี่ปุ่นว่า "目を回す หมุนตา (หมายถึง ประหลาดใจ)" และ "借金で首が回らないหันคอไม่ได้เพราะเงินกู้ (หมายถึง กลุ้มใจเพราะไม่สามารถคืนเงินที่ยืมมาได้) นั่นเองค่ะ
5. ลิงห้าตัว
"โกะซารุหรือลิง 5 ตัว" เมื่อลูบหัว ลิงจะเคลื่อนไหวในท่าที่ต่างกันให้ดู มีคำสอนของพระพุทธเขียนกำกับไว้ที่เจ้าลิงทั้งห้านี้มีว่า "ปิดตา" "ปิดปาก" "ไม่มอง" "ปิดหู" "ไม่โกรธ"
ที่วัดซุมะเดระยังมี "สิ่งที่น่าสนใจ" อื่นๆ อีกมากมายให้ไปค้นหา ทำให้เด็กๆ มีความสุขมากและผู้ใหญ่ยิ้มได้
ลองแวะไปสัมผัสสถานที่ทางประวัติศาสตร์กัน
1. เจดีย์สามชั้น (Three-Storied Pagoda)
เจดีย์สามชั้นที่ทาสีแดงชาดเป็นสิ่งก่อสร้างที่ดึงดูดสายตามากที่สุดในวัด มีความสูงจากพื้นดิน 25 เมตร ทางเหนืออยู่ใกล้ทิวเขา สีเขียวของต้นไม้ตัดกับสีแดงของเจดีย์ทำให้ความงดงามยิ่งชัดเจนขึ้น ที่นี่จึงเป็นหนึ่งจุดถ่ายรูปยอดนิยมของวัดซุมะเดระค่ะ
2. รูปปั้นที่สัมผัสได้ถึงประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น
ช่วงครึ่งหลังของศตวรรษที่ 12 ประเทศญี่ปุ่นเกิดการจลาจลครั้งใหญ่เรียกว่าจิโชจุเอโนะรัน ซึ่งรู้จักกันในชื่อ "สงครามเก็มเป" หรือ "เก็มเปกัตเซ็น"
เป็นสงครามการต่อสู้ระหว่างเก็นจิ (ตระกูลมินาโมโตะ) กับเฮเคะ (ตระกูลไทระ) ที่ยาวนานเกือบ 6 ปี ด้านบนคือรูปปั้นของคุมากาอิ นาโอซาเนะ นายพลฝ่ายเก็นจิ วัดซุมะเดระเองก็เป็นสนามรบหนึ่งในสงครามเก็มเป ว่ากันว่าที่นี่เคยเป็นค่ายพักของมินาโมโตะ โนะ โยชิสึเนะ แม่ทัพฝ่ายเก็นจิด้วย
ด้านบนคือรูปปั้นของไทระ โนะ อัตสึโมริ นายพลฝ่ายเฮเคะ ชายหนุ่มที่ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นปรมาจารย์ด้านการเป่าขลุ่ย นี่คือรูปปั้นจำลองเรื่องราวระหว่างอัตสึโมริกับคุมากาอิ นาโอซาเนะ อย่าลืมชมนิทรรศการ "อาโอบะโนะฟุเอะ" ขลุ่ยรักของอัตสึโมริด้วยนะคะ
3. เครื่องดนตรีที่สืบทอดวัฒนธรรมดั้งเดิม
วัดซุมะเดระยังเป็นสถานที่ปฏิบัติกิจกรรมที่สืบทอดวัฒนธรรมดั้งเดิมอีกด้วย ด้านบนคือบรรยากาศการฝึกซ้อม "อิชิเก็นคิน (โกโตะสายเดี่ยว)" (*3) ซึ่งว่ากันว่ามีต้นกำเนิดในซุมะ หากโทรศัพท์สอบถามล่วงหน้าราว 1 เดือน อาจมีโอกาสได้ชมการแสดงอิชิเก็นคินด้วย (มีค่าใช้จ่าย) เบอร์โทรศัพท์: 078-731-0416
มีตำนานเล่ากันว่า อาริวาระ โนะ ยุกิฮาระ ขุนนางในสมัยเฮอัน เมื่อย้ายจากเกียวโตมาอยู่ที่ซุมะแล้วรู้สึกเปลี่ยวเหงา เพื่อคลายความเหงาจึงได้ขึงสายเครื่องดนตรีกับแผ่นไม้ที่เก็บได้จากชายหาด และบรรเลงเพลง
*3: โคโตะ.....เครื่องดนตรีดั้งเดิมของญี่ปุ่น
เทียนอธิษฐาน เครื่องราง เซียมซี หาซื้อของฝากที่สำนักงานของวัดกัน
สำนักงานของวัดอยู่ฝั่งตรงข้ามวิหารหลัก มีแผ่นพับนำเที่ยวฉบับภาษาอังกฤษด้วย อย่าลืมหยิบติดตัวไว้นะคะ
เทียนแดง (ค่าธรรมเนียม 200 เยน) สำหรับเขียนคำอธิษฐานและนำไปถวาย (*4)
*4: ถวาย.....การนำสิ่งของหรือการเต้นรำสักการะแก่เทพเจ้า
เราจะจุดไฟเทียนและนำไปถวายตรงด้านหน้าวิหารหลัก เปลวเทียนพลิ้วไหวทำให้บรรยากาศดูเคร่งขรึม
"เซียมซีที่มาพร้อมกับเครื่องรางนำโชคลาภและความสุข" ซึ่งรับได้ที่สำนักงานของวัด มีเครื่องรางนำโชคดีและความสุขแบบต่างๆ ใส่อยู่ในซองด้วย เซียมซีในรูปบนมี "ดารุมะ" เล็กๆ ใส่อยู่ข้างในด้วย ค่าธรรมเนียมรับเซียมซี 200 เยน
มีเครื่องรางหลากหลาย เช่น ประสบความสำเร็จในการเรียน และมีสุขภาพแข็งแรง แต่เครื่องรางยอดนิยมในหมู่ชาวต่างชาติคือ "เน็ตสึเคะ" อันเล็กๆ เป็นรูป12 นักษัตร ค่าธรรมเนียมรับเครื่องราง 300 เยน
เน็ทสึเคะ หมายถึงห่วงขนาดเล็กที่ห้อยจากสายโอบิ ซึ่งในสมัยเอโดะ จะใช้คล้องของชิ้นเล็กๆ อย่างถุงใส่บุหรี่
สี่ฤดูกาลในวัดซุมะเดระ
Picture courtesy of วัดซุมะเดระ
เราสามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์งดงามทั้งสี่ฤดูกาลได้ที่วัดซุมะเดระ ช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายนเป็นฤดูกาลชมซากุระ
ฤดูใบไม้ร่วงมีใบไม้เปลี่ยนสี ภายในวัดมีต้นเมเปิ้ลและแปะก๊วยมากมาย ภายในวัดจึงย้อมไปด้วยสีสันของฤดูใบไม้ร่วง
Picture courtesy of วัดซุมะเดระ
ในฤดูหนาวทิวทัศน์ที่จะปกคลุมด้วยหิมะ วิหารหลักจะได้รับการแต่งแต้มด้วยหิมะขาวโพลนราวกับภาพวาด
ข้อความจากโคอิเคะ โยนิน รองเจ้าอาวาสวัดซุมะเดระ
เราได้รับข้อความจากโคอิเคะ โยนิน รองเจ้าอาวาสวัดซุมะเดระตามด้านล่างนี้ค่ะ เจ้าอาวาสคือพระสงฆ์ซึ่งทำหน้าที่เป็นหัวหน้าวัด ส่วนรองเจ้าอาวาสคือพระสงฆ์ที่คอยช่วยเหลือเจ้าอาวาสค่ะ
รองเจ้าอาวาสโคอิเคะ: "วัดซุมะเดระเป็นวัดที่มีความหลากหลาย เป็นทั้งสถานที่แห่งความศรัทธาที่สืบทอดคำสอนของศาสนาพุทธ สถานที่ซึ่งเต็มไปด้วยร่องรอยทางประวัติศาสตร์ สถานที่สืบทอดวัฒนธรรมและประเพณี และยังเป็นสถานที่ซึ่งเราจะได้พบเจอสิ่งที่น่าสนใจมากมาย ยิ่งกว่านั้น ยังเป็นสถานที่ซึ่งเราสามารถลิ้มรสความงดงามของธรรมชาติทั้งสี่ฤดูกาล เช่น ซากุระและใบไม้เปลี่ยนสีได้ด้วย อยากให้มาเยือนและนมัสการที่วัดกันนะ"
วัดซุมะเดระเป็นวัดที่มีประวัติยาวนานและมีชื่อเสียง แต่ก็เป็นวัดที่ "เข้าถึงได้ไม่ยาก" เพราะสามารถพูดคุยกับพระสงฆ์ได้อย่างรองเจ้าอาวาสโคอิเคะได้ หากมีโอกาสไปเที่ยวโกเบ อย่าลืมแวะไปเที่ยววัดซุมะเดระกันด้วยนะคะ
YouTube - Essays from Yonin Koike, Chief Priest’s Deputy (ภาษาญี่ปุ่น)
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
In cooperation with Daihonzan Suma Temple
日本文化、特に絵画や工芸品が好き。福岡、京都、大阪、ベルギー、アメリカを経て現在は神戸在住。座右の銘は「住めば都」。
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง