Start planning your trip
ยูเมะ โนะ สึริบาชิ สะพานแขวนแห่งความฝันเหนือผืนน้ำสีเขียวมรกตในชิซุโอกะ (Yume no Tsuribashi, Shizuoka)
เมืองคาวาเนะฮนโจ จังหวัดชิซุโอกะ เป็นเมืองที่อุดมไปด้วยธรรมชาติและออนเซ็น และมีรถจักรไอน้ำวิ่งผ่านด้วย ครั้งนี้เราจะพาไป สะพานแขวนยูเมะ โนะ สึริบาชิ สะพานแขวนที่ติดอันดับ 10 สะพานแขวนคนเดินของโลกที่น่าไปเยือนสักครั้งด้วยค่ะ
คาวาเนะฮนโจ ดินแดนลึกลับใจกลางชิซุโอกะ
คาวาเนะฮนโจ (Kawanehoncho) ตั้งอยู่ตอนกลางของจังหวัดชิซุโอกะ (Shizuoka) โอบล้อมด้วยธรรมชาติแสนสวยทั้งแม่น้ำโออิกาวะทางใต้ของเมืองและภูเขาสูงใหญ่ นั่งรถไฟชินคันเซ็นจากโตเกียวใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง
หากถามถึงสิ่งที่โด่งดังของเมืองนี้ก็คงจะเป็นรถจักรไอน้ำ SL ของบริษัท Oigawa Railways รวมถึงออนเซ็นและจุดชมวิวสวยๆ ตามเส้นทางรถไฟอีกมาก ถึงจะถูกเรียกว่าเป็นเหมือนเมืองลึกลับ แต่ก็มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เลยค่ะ
ส่วนวันนี้เราจะไปเที่ยวกันที่ สะพานแขวนยูเมะ โนะ สึริบาชิ อีกจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจของเมืองคาวาเนะฮนโจค่ะ
สะพานแห่งความฝันเหนือทะเลสาบสีเขียวมรกต
สะพานแขวนยูเมะ โนะ สึริบาชิ (Yume no Tsuribashi) เป็นสะพานแขวนความยาว 90 เมตรพาดผ่านทะเลสาบของเขื่อนโอมะ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแหล่งออนเซ็นชื่อ ซูมาตะเคียวออนเซ็น
เมื่อมองไปทางขวาของสะพานจะเห็นผืนน้ำสีเขียวมรกตลัดเลาะไปตามช่องเขา ไม่มีสิ่งก่อสร้างอื่นใดในสายตา ยามเดินบนสะพานที่สั่นไหวเบาๆ ข้ามทะเลสาบท่ามกลางธรรมชาติแสนสวยอย่างนี้ช่างรู้สึกดีจนบรรยายไม่ถูกเลยค่ะ
Picture courtesy of Oigawa Railway
ผลกระทบจากพายุในปี 2018 ทำให้เกิดการทับถมของดินและทรายจำนวนมาก และยังส่งผลให้น้ำขุ่นด้วย แต่ตอนนี้น้ำในทะเลสาบได้กลับมาใสเป็นปกติแล้วค่ะ แต่ว่าเนื่องจากปริมาณฝนตั้งแต่ปลายปีที่แล้วลดน้อยลงทำให้ปริมาณน้ำในทะเลสาบน้อยลง ถ้าเป็นตอนปกติจะได้เห็นวิวสวยๆ แบบในรูปด้านบนเลยค่ะ
Picture courtesy of Oigawa Railway
ช่วงเวลาที่เหมาะสมแก่ที่สุดของการท่องเที่ยวในเมืองนี้คือช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ดอกไม้เริ่มบาน หรือช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่ใบไม้เริ่มเปลี่ยนสี นักท่องเที่ยวจะเยอะจนต้องเข้าคิวเพื่อข้ามสะพานด้วยค่ะ
ปกติจะสามารถข้ามสะพานได้ครั้งละไม่เกิน 10 คน และต้องเดินแถวเรียงหนึ่งไปทางเดียวกัน เพราะฉะนั้นระหว่างข้ามจะไม่สามารถเดินย้อนกลับทางเดิมได้ เมื่อข้ามไปแล้วให้เดินขึ้นบันไดประมาณ 300 ขั้น จะเข้าสู่เส้นทางเดินเขา ซึ่งจะพาวนไปถึงลานจอดรถที่มีป้ายรถบัสด้วย
ระหว่างทางจะมีจุดที่สามารถชมวิวสวยๆ ของสะพานแขวนและช่องเขาได้เต็มตา คุ้มค่าต่อการเดินมากค่ะ
วิธีการเดินทาง
การเดินทางให้เริ่มต้นที่สถานีที่ใกล้ที่สุดคือสถานีรถไฟเซ็นซุ (Senzu) ขึ้นรถบัสจากป้ายหน้าสถานีไปลงที่ป้ายสุดท้าย "ป้ายซูมาตะเคียวออนเซ็น (Sumatakyo Onsen)" ใช้เวลาประมาณ 40 นาที จากนั้นเดินต่ออีกประมาณ 30 นาทีก็จะถึงสะพานแขวนยูเมะโนะสึริบาชิค่ะ
ระหว่างทางเดินไปสะพานจะมีร้านขายของที่ระลึกเรียงรายให้แวะชม
เมื่อเดินทะลุอุโมงค์ออกมา จะพบกับเสาบอกทางไปยังสะพานแขวนยูเมะโนะสึริบาชิแบบด้านซ้ายในรูป
เดินลงบันไดไปเรื่อยๆ ก็จะถึงสะพานแขวนยูเมะโนะสึริบาชิค่ะ วันที่เรามานี่มีฝนตกเบาๆ คนเลยบางตา แต่ถ้าวันที่อากาศแจ่มใสคนจะเดินกันเยอะค่ะ เราก็เดินตามเค้าไปได้เลยไม่หลงแน่นอน
เพื่อเป็นการรักษาภูมิทัศน์ทางธรรมชาติ จึงไม่มีการติดตั้งโคมไฟตามถนนและเส้นทางเดินเขา และจะปิดเส้นทางเดินหลังพระอาทิตย์ตกดิน ไม่แนะนำให้ไปช่วงใกล้มืดค่ะ ส่วนใครที่พาเด็กหรือผู้สูงอายุไปก็อาจจะลำบากนิดนึงเพราะมีทางลาดชันกับบันไดด้วย นอกนั้นก็ขอแนะนำให้สวมเสื้อผ้าและรองเท้าที่เดินได้สะดวกค่ะ
กิจกรรมน่าสนใจที่ซูมาตะเคียวออนเซ็น
จุดที่เราลงรถบัสคือส่วนของเมืองออนเซ็น ซูมาตะเคียวออนเซ็น ถ้าเทียบกับเมืองออนเซ็นที่มีชื่อเสียงอื่นๆ แล้ว ที่นี่จะมีบรรยากาศที่เงียบสงบ โรงแรม ร้านอาหารและร้านขายของก็มีพอสมควร เหมาะจะมาเดินเขาชมธรรมชาติสวยๆ แล้วปิดท้ายด้วยการแช่ออนเซ็นร้อนๆ ให้สบายตัวค่ะ
โรงแรมหลายแห่งก็มีออนเซ็นแบบไม่จำเป็นต้องค้างคืนให้บริการอยู่เหมือนกัน หรือจะไปที่ Bijozukuri no Yu บ่อออนเซ็นกลางแจ้งที่ทางเมืองดูแลอยู่ก็ได้ค่ะ น้ำแร่คุณภาพดีของออนเซ็นแห่งนี้ได้มาจากเทือกเขาแอลป์ตอนล่าง ช่วยให้ร่างกายอบอุ่นและเชื่อกันว่าดีกับผิวพรรณ ช่วยให้ผิวนุ่มลื่นขึ้นค่ะ
ส่วนเรื่องอาหารการกิน ร้านอาหารส่วนใหญ่จะใช้วัตถุดิบในท้องถิ่นเช่น บุก ผักป่า ปลาจากแม่น้ำ ผักตามฤดูกาล และ เนื้อกวาง มาประกอบอาหารค่ะ
ที่เรียวกังเก่าแก่ ซุยโคเอ็น (Suikouen) มีทั้งออนเซ็นแบบไม่ค้างคืนและอาหารเที่ยงให้บริการ เมนูอาหารมีทั้งเซ็ตอาหารญี่ปุ่น และ ข้าวแกงกะหรี่เขื่อน ที่จัดจานมาเหมือนทะเลสาบเขื่อนโอมะที่สะพานแขวนสึริโนะบาชิพาดผ่าน แกงกะหรี่จะใช้เนื้อของหมูป่ามาทำค่ะ ถ้าไม่รู้จะไปทานร้านไหนก็ขอแนะนำให้มาร้านนี้เลยค่ะ
นั่งรถจักรไอน้ำสู่ซูมาตะเคียวออนเซ็น
เราสามารถนั่งรถจักรไอน้ำ SL จากสถานีชินคานายะ (Shin Kanaya) ในจังหวัดชิซุโอกะมายังสถานีเซ็นซุได้ค่ะ รถจักรไอน้ำจะวิ่งไป-กลับบนทางรถไฟสายโออิกาวะวันละ 1 รอบเท่านั้น (อาจเปลี่ยนแปลงในบางช่วงเวลา) ถ้าต้องการขึ้นต้องจองตั๋วล่วงหน้าทางเว็บไซต์ค่ะ (มีภาษาอังกฤษ)
มาเที่ยวครั้งนี้เราก็ไม่พลาดที่จะขึ้นรถจักรไอน้ำค่ะ ที่สถานีชินคานายะมีคนมารอขึ้นกันเต็มเลย แค่ได้เห็นรถจักรไอน้ำที่หาดูได้ยากในปัจจุบันก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันทีเลย
Picture courtesy of Oigawa Railway
วิวจากหน้าต่างรถไฟจะมองเห็นไร่ชา แม่น้ำโออิกาวะ และภูเขาที่อยู่ห่างออกไป จังหวัดชิซุโอกะเป็นแหล่งปลูกชาชื่อดัง จึงพบไร่ชาอยู่ทั่วไป และจะมองเห็นสะพานข้ามแม่น้ำโออิกาวะอยู่เป็นระยะๆ หากเป็นฤดูใบไม้ผลิก็จะเห็นดอกซากุระบานตลอดทางด้วยค่ะ
จากสถานีชินคานายะถึงสถานีเซ็นซุ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที ระหว่างนั้นก็ชมวิวพลางทานข้าวกล่องเบนโตไป ไม่ทันไรก็ถึงจุดหมายแล้วค่ะ
เที่ยวท่ามกลางธรรมชาติที่ชิซุโอกะ
ซูมาตะเคียวออนเซ็นนั้นเดินทางสะดวกทั้งจากโตเกียวและโอซาก้า เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติและแช่ออนเซ็น คนที่ชอบเดินทางด้วยรถไฟก็ห้ามพลาดค่ะ
จากสถานีเซ็นซุยังมีเส้นทางรถไฟสาย Minami Alps Aputo ตลอดทางของรถไฟสายนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายแห่ง เช่น วิวทิวทัศน์สวยๆที่สถานีโอคุโออิโคโจ (Okuoikojo)
สำหรับข้อมูลของที่เที่ยวบริเวณสถานีโอคุโออิโคโจหรือเส้นทางรถไฟ สามารถดูได้จากบทความด้านล่างค่ะ
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
In coorperation with Oigawa Railway
อาศัยอยู่ในจังหวัดคานากาว่า ฉันเป็นนักเขียนที่ติดตามวรรณกรรมญี่ปุ่นดีๆ โดยไม่คำนึงถึงแนวเพลง ฉันเพลิดเพลินกับการเดินทางโดยมีธีมต่างๆ เช่น ศาลเจ้าและวัด น้ำพุร้อน บาร์เก่าแก่ และยานพาหนะ เช่น รถไฟ นอกเหนือจากการเดินทาง งานอดิเรกของฉันยังรวมถึงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ดูซูโม่ ศิลปะ และอ่านหนังสือ
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง