Start planning your trip
Guesthouse irodori Kamakura เกสต์เฮาส์ของซามูไรผู้พิทักษ์ความเท่าเทียม
Guesthouse irodori Kamakura เป็นเกสต์เฮาส์ที่แตกต่างจากที่อื่นเล็กน้อย ตรงที่เจ้าของเป็นซามูไรใส่ชุดเกราะ พนักงานเองก็เป็นผู้พิการทางร่างกาย ดังนั้นที่พักแห่งนี้จึงมีการออกแบบเป็นพื้นที่ปลอดสิ่งกีดขวางเพื่อให้ผู้พิการสามารถใช้บริการได้ พร้อมความช่วยเหลือในการท่องเที่ยวอย่างดีจากเจ้าของในชุดซามูไร
ทาคาโนะ โทโมยะ ซามูไรสวมเกราะสะพายตะกร้าไผ่แห่งยุคเรวะ
คนที่เปิดเกสต์เฮาส์มีเหตุผลอะไรเป็นแรงจูงใจกันนะ? เพราะอยากมีเพื่อนเยอะ หรือเพราะอยากทำงานที่บ้าน หรืออาจจะเพราะนั่นคือความฝันก็เป็นได้
ลองมาฟังเหตุผลของซามูไรสวมชุดเกราะผู้เปิดเกสต์เฮาส์ในคามาคุระคนนี้กันดีกว่า
ซามูไรคนนี้คือคุณทาคาโนะ โทโมยะ เจ้าของเกสต์เฮาส์ที่เราอยากแนะนำให้ทุกคนรู้จักค่ะ
โทโมยะซังผู้ที่เรียกตัวเองว่าซามูไรแห่งยุคเรวะ คอยต้อนรับขับสู้แขกที่มาเข้าพัก แต่เวลาอื่นนอกเหนือจากนั้นเขาก็มักจะอยู่ในชุดเกราะอย่างนี้เสมอ บางครั้งก็สะพายตะกร้าไม้ไผ่ขนาดใหญ่ขึ้นรถไฟด้วย
ในเมื่อเจ้าของโดดเด่นมีเอกลักษณ์ขนาดนี้ เกสต์เฮาส์ที่เขาเปิดก็คงไม่ธรรมดาแน่นอน
*1 : เรวะ ... ชื่อศักราชของญี่ปุ่น เริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 1 เดือนพฤษภาคม 2019
พนักงานเกสต์เฮาส์ผู้มีความหลากหลาย
Guesthouse irodori Kamakura รีโนเวทมาจากบ้านเก่าอายุ 90 ปี บรรยากาศภายในยังคงหลงเหลือโครงสร้างไม้ มีกลิ่นหอมของเสื่อทาทามิอบอวลไม่ต่างจากบ้านเก่าแห่งอื่นๆ ในญี่ปุ่น
แต่ตอนที่เราเข้ามาเช็คอิน พนักงานต้อนรับไม่ได้สื่อสารกับเราด้วยคำพูด กลับเขียนตัวอักษรบนกระดานดำแทน
Picture courtesy of Guesthouse irodori Kamakura
พนักงานส่วนใหญ่ของที่นี่เป็นผู้พิการทางร่างกาย มีปัญหาทางการได้ยิน การมองเห็น หรือการเคลื่อนไหว และมีหลากหลายวัยทั้งนักเรียนมัธยมปลาย นักศึกษามหาวิทยาลัย ไปจนถึงผู้ที่มีอายุกว่า 70 ปีด้วย
แต่สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เป็นปัญหาต่อการต้อนรับและดูแลแขกที่มาเข้าพักเลย
พื้นที่สำหรับทุกคน
แรงบันดาลใจในการร่วมสร้างเกสต์เฮาส์แห่งนี้กับผู้พิการมาจากเพื่อนสนิทคนหนึ่งของโทโมยะซังที่ไม่สามารถขยับตัวได้ตั้งแต่ช่วงคอไปจนถึงช่วงล่างตั้งแต่กำเนิด แต่ก็ยังปรารถนาที่จะเข้าเรียนในโรงเรียนมัธยมปลายธรรมดา ไม่ใช่โรงเรียนพิเศษสำหรับผู้พิการ
โทโมยะซังเองก็ช่วยหาและติดต่อกับโรงเรียนอยู่หลายแห่ง แต่ก็โดนปฏิเสธทุกแห่ง แม้ท้ายสุดความปรารถนาของเพื่อนสนิทจะกลายเป็นจริง แต่คุณทาคาโนะเองก็รู้สึกว่าในญี่ปุ่นยังมีการเลือกปฏิบัติแบบไม่เท่าเทียมกันอยู่
เมื่อได้เจอประสบการณ์แบบนั้นจากกรณีของเพื่อนสนิท โทโมยะซังก็รู้สึกได้ว่าคนเราไม่ว่าจะพิการหรือไม่ก็ไม่ได้แตกต่างกันเลย ทุกคนล้วนอยากเรียน อยากไปทำงาน อยากใช้ชีวิตในสังคมเหมือนกันทั้งนั้น แต่กลับเป็นสังคมที่กีดกันและตีกรอบให้พวกเขาต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างจำกัด
ในปี 2017 คุณโทโมยะตัดสินใจสร้างสถานที่ที่ผู้พิการสามารถใช้ชีวิตได้เหมือนกับคนอื่นๆ และนั่นก็คือ Guesthouse irodori Kamakura และได้เพื่อนผู้พิการมาร่วมทำงานเป็นพนักงาน
เพราะเข้าใจถึงทำได้
ก่อนหน้านี้โทโมยะซังเคยทำงานเป็นพยาบาลมาก่อน จึงเข้าใจความลำบากที่ผู้พิการทางร่างกายต้องพบเจอ และนำมาปรับใช้กับการออกแบบพื้นที่ภายในเกสต์เฮาส์ให้เป็นแบบบาเรียฟรี เช่นทางลาดตรงทางเข้า
บาเรียฟรี ... ในญี่ปุ่นจะหมายถึงการออกแบบเชิงอารยสถาปัตย์ หรือ Universal design ที่ผู้คนสามารถใช้งานร่วมกันได้ไม่ว่าจะผู้พิการ เด็ก หรือผู้สูงอายุ
แม้จะคับแคบแต่คุณโทโมยะก็พยายามทำให้เต็มที่ โดยเฉพาะห้องน้ำที่เป็นห้องอาบน้ำด้วย รถเข็นวีลแชร์เข้าออกได้ง่ายด้วยพื้นที่ระนาบเดียวไม่มีสูงต่ำ อ่างล่างหน้าอยู่ในระดับที่ผู้นั่งรถเข็นสามารถใช้ได้สะดวก
รถเข็นวีลแชร์สำหรับอาบน้ำก็มีเตรียมไว้ให้ ถ้าไม่ใช่คนที่เคยมีประสบการณ์ตรงหรือใกล้ชิดกับผู้พิการก็คงนึกไม่ถึงจุดนี้
ด้วยความใส่ใจขนาดนี้ ผู้พิการหลายๆ คนเลยเลือกที่จะมาพักที่นี่ และโทโมยะซังก็ยังไม่หยุดความพยายามที่จะให้ทุกคนได้สนุกกับคามาคุระอย่างเต็มที่
อยากเที่ยวคามาคุระไหม เดี๋ยวซามูไรจะพาไป!
Picture courtesy of Guesthouse irodori Kamakura
Picture courtesy of Guesthouse irodori Kamakura
ไม่ว่าจะไปดูทะเล เดินเที่ยวในเมืองคามาคุระ หรือเข็นรถเข็นขึ้นบันไดไปยังศาลเจ้าสึรุกาโอกะ ฮาจิมังกู โทโมยะซังก็เต็มที่เสมอเพื่อให้ลูกค้าได้เพลิดเพลิน
"แต่บันไดสูงหลายขั้นของศาลเจ้าสึรุกาโอกะนี่ก็เหนื่อยเอาเรื่องเลยครับ" โทโมยะซังบอกพร้อมหัวเราะไปด้วย
โทโมยะซังมีจัดทัวร์เที่ยวคามาคุระแบบเจาะลึกด้วย โดยมีแผนที่โบราณนำทาง เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศอย่าลืมสวมรองเท้าสานโซริแล้วย่ำไปตามรอยประวัติศาสตร์กัน
ทางไกลกว่าจะมาถึงจุดที่ได้รับความเข้าใจ
ด้วยคอนเซ็ปต์ที่แตกต่างอย่างนี้แน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะในช่วงที่เริ่มเปิดใหม่ๆ ก็มีเสียงไม่พอใจจากคนท้องถิ่นบ้าง ไม่ว่าจะเรื่องมาเปิดเกสต์เฮาส์ตรงนี้หรือเรื่องการจ้างผู้พิการ แต่ความตั้งใจและความพยายามของโทโมยะซังและพนักงานทุกคน ในที่สุดผู้คนก็เปิดใจและเข้าใจในที่สุด
"บางคนก็แวะมาพูดคุยด้วยทุกวัน คุณป้าบางคนที่แวะมาช่วยก็มีครับ" ภาพลักษณ์ในแง่ลบหายไป กลายเป็นภาพของทุกคนที่ให้ความร่วมมือกันแทน
โทโมยะซังสงสัยมาตลอดว่าสิ่งที่เขาทำจะสามารถเปลี่ยนแปลงสังคมนี้ได้ไหมนะ จนวันหนึ่งที่เขาสวมชุดเกราะและเดินเที่ยวไปกับผู้พิการ อยู่ๆ ก็มีเด็กตัวน้อยเดินเข้ามาทักทายพูดคุยกับเขา นั่นทำให้เขารู้คำตอบขึ้นมา
ทำตัวให้เป็นที่สนใจ ให้ผู้คนได้เห็นและรับรู้ว่าตัวเขากำลังทำอะไร เพื่อจุดมุ่งหมายใด "ผมเริ่มรู้สึกว่าผมอาจจะเปลี่ยนแปลงโลกนี้ได้แล้วหละ"
ซามูไรเรวะ ฮีโร่แห่งคามาคุระ
โทโมยะซังผู้อยู่ในชุดเกราะซามูไรตลอด 365 วัน ผู้ฝันจะเป็นฮีโร่เพื่อปกป้องดินแดนแห่งนี้ เพื่อเพื่อนพ้องผู้พิการจะได้สามารถแสดงความสามารถของพวกเขาให้เป็นที่ประจักษ์
โทโมยะซังก็กำลังรับสมัครเพื่อนพ้องซามูไรเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับการทำงานของผู้พิการอีก ถ้าใครมีความคิดหรือความตั้งใจเหมือนกัน อย่ารอช้า ไปหาซามูไรเรวะแห่งคามาคุระได้เลย!
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง