ชำระเงินสะดวกรวดเร็วในญี่ปุ่น! มาเจาะลึกการจ่ายเงินแบบแคชเลส (ไร้เงินสด) กัน

จ่ายเงินสะดวกรวดเร็วด้วยวิธีการแคชเลส

Photo by Pixta

ใครที่พึ่งย้ายมาอยู่ญี่ปุ่นใหม่ๆ อาจจะมีปัญหาเรื่องจำธนบัตรและเหรียญไม่ได้ว่าแบบไหนมีมูลค่ากี่เยน ทำให้เวลาจ่ายเงินวุ่นวายและเสียเวลา

ในญี่ปุ่นนั้นหลายสถานที่ยังต้องชำระด้วยเงินสดอยู่ แต่ไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ญี่ปุ่นได้เร่งผลักดันให้ญี่ปุ่นกลายเป็นสังคมแคชเสล (cashless) หรือสังคมไร้เงินสด ทำให้เกิดวิธีการจ่ายเงินแบบใหม่มากมายรวมถึงบัตรเครดิต เงินอิเล็กทรอนิกส์ การชำระเงินผ่านมือถือ และอื่นๆ

การชำระเงินแบบแคชเลสจะช่วยให้ไม่ต้องควานหาเหรียญมาชำระเงิน และทำให้การจ่ายเงินสะดวกสบายขึ้นมาก

2 วิธีหลักในการชำระเงินแบบแคชเลสในญี่ปุ่น

Photo by Pixta
วิธีการชำระเงินแบบแคชเลสในญี่ปุ่นนั้นมีด้วยกัน 2 วิธีการ คือการ "ชำระด้วยบัตร" เช่นการใช้บัตรเครดิต และ "ชำระด้วยมือถือ" ผ่านแอปพลิเคชั่นต่างๆ ในสมาร์ทโฟน

วิธีการชำระด้วยบัตรมีข้อดีคือมีร้านที่ชำระเงินวิธีนี้ได้เยอะ หากมีบัตรเครดิตก็สามารถใช้ซื้อของออนไลน์ ใช้ซื้อของจากต่างประเทศได้ด้วย หากเป็นบัตร IC นอกจากจะใช้ขึ้นรถไฟได้แล้วยังใช้ซื้อของตามร้านค้าใกล้เคียงสถานีได้เช่นกัน จุดเด่นของการชำระด้วยบัตรก็คือการใช้ได้หลากหลายนี่ล่ะ

ส่วนการชำระเงินด้วยมือถือสมาร์ทโฟนมีข้อดีตรงที่ไม่จำเป็นต้องคอยพกบัตร แต่มีสมาร์ทโฟนที่ลงแอปพลิเคชั่นแล้วเครื่องเดียวก็จบ วิธีการเติมเงินนั้นมีหลากหลายทั้งการเติมผ่านบัตรเครดิตและอื่นๆ

เรามาดูรายละเอียดของแต่ละวิธีกันค่ะ

ประเภทและจุดเด่นของการชำระด้วยบัตร

บัตรเครดิต

Photo by Pixta

บัตรเครดิตเป็นวิธีชำระเงินที่คุ้นเคยแม้แต่ในต่างประเทศ หากกำหนดให้ตัดเงินผ่านธนาคารแล้ว เมื่อถึงเวลาจะมีการชำระเงินที่ใช้ไปผ่านบัญชีธนาคารโดยอัตโนมัติ บริการที่ใช้ได้อย่างแพร่หลายในญี่ปุ่นคือของ VISA และ Mastercard

นอกจากบัตรเครดิตของธนาคารแล้วยังมีหลายบริษัทที่มีบัตรเครดิตให้บริการ ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้าอย่าง Lumine ผู้ให้บริการด้านขนส่งมวลชนเช่น ANA หรือ JR บริษัทขายสินค้าออนไลน์อย่าง Rakuten ฯลฯ บัตรเครดิตของธนาคารนั้นมักจะมีการพิจารณาอย่างเข้มงวดก่อนอนุมัติ แต่มีบัตรบางบริษัทที่พิจารณาอนุมัติให้ชาวต่างชาติในญี่ปุ่นง่ายกว่า เช่น Rakuten Card หรือ EPOS Card เป็นต้น

บัตรโดยสารแบบ IC

ภาพจากบทความ "น่ารักน่าน่าสะสม! เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยของ IC Card รถไฟในญี่ปุ่น"

บัตรโดยสายแบบ IC คือบัตรแบบพรีเพดที่ต้องทำการเติมเงินเข้าไปในบัตร IC ก่อนการใช้งาน สามารถออกบัตรได้ตามเครื่องขายตั๋วที่สถานีรถไฟ โดยปกติแล้วจะใช้ในการขึ้นรถไฟหรือรถบัสแต่ยังสามารถใช้จับจ่ายร้านอื่นๆ ที่รับบัตรได้ด้วย

บัตรที่เป็นที่รู้จักได้แก่ บัตร Suica ที่ออกโดยบริษัท JR EAST บัตร PASMO ที่ออกโดยบริษัทรถไฟเอกชนและบริษัทรถบัสในภูมิภาคคันโต ส่วนทางฝั่งตะวันตกของญี่ปุ่นมีทั้งบัตร ICOCA และ SUGOCA ฯลฯ บัตร IC เหล่านี้ใช้ได้เกือบทั่วประเทศญี่ปุ่น

Photo by Pixta

Suica และ PASMO นั้นมีบริการในรูปแบบแอปพลิเคชั่นในสมาร์ทโฟนด้วย หากลงแอปพลิเคชั่นไว้ ก็ไม่จำเป็นต้องพกบัตรโดยสารด้วยซ้ำ แต่ไม่ใช่โทรศัพท์มือถือจะใช้งานวิธีนี้ได้ทุกรุ่น แนะนำให้ตรวจสอบข้อมูลก่อนการใช้งานค่ะ

บัตรเดบิต

Photo by Pixta

บัตรเดบิตคือบัตรที่จะตัดเงินจากบัญชีธนาคารทันทีที่เรานำบัตรไปใช้จ่าย เมื่อเทียบกับบัตรเครดิตที่เป็นการรวมยอดเงินที่ใช้ทั้งหมดไปชำระทีหลังแล้ว บัตรเดบิตที่ตัดเงินทันทีจะช่วยป้องกันปัญหาการใช้เงินเกินตัวได้ดีกว่า

บัตรเดบิตออกโดยธนาคารและบริษัทอื่นๆ เช่นเดียวกับบัตรเครดิต แต่บัตรเดบิตของญี่ปุ่นนั้นมักมีวิธีการใช้งานต่างจากบัตรเดบิตในต่างชาติ เช่น ส่วนใหญ่แล้วไม่สามารถใช้บัตรเดบิตกดเงินจาก ATM ได้ 

ประเภทและจุดเด่นของการชำระด้วยมือถือ

Photo by Pixta

การชำระเงินผ่านแอปพลิเคชั่นในสมาร์ทโฟนยังแยกได้เป็นอีก 2 แบบ คือ การจ่ายเงินผ่านการอ่าน QR code ด้วยการเปิดแอปพลิเคชั่นแล้วอ่าน QR code ของทางร้าน และแบบจ่ายผ่านการแสดงบาร์โค้ด โดยเปิดบาร์โค้ดในแอปพลิเคชั่นให้ทางร้านอ่านข้อมูล

แอปพลิเคชั่นที่เราจะแนะนำต่อไปนี้เป็นแอปพลิเคชั่นยอดนิยม ร้านไหนรับชำระเงินด้วยมือถือก็มักจะรับจากแอปพลิเคชั่นเหล่านี้ แนะนำให้ดาว์นโหลดเอาไว้หากจะใช้การชำระเงินทางมือถือค่ะ

PayPay

PayPay (เพย์เพย์) เคยเป็นที่ฮือฮาจากแคมเปญแคชแบคก้อนโตในอดีต

จุดเด่นคือมีร้านที่ใช้ได้เยอะ นอกจากซุปเปอร์ขนาดไหน ร้านสะดวกซื้อแล้ว แม้แต่ร้านกิจการขนาดกลางและเล็กในท้องถิ่นยังมีร้านที่ใช้ได้ค่อนข้างมากหากเทียบกับบริการเจ้าอื่น
วิธีใช้คือเติมเงินผ่านบัญชีธนาคารหรือบัตรเครดิตเข้าไปในบัญชี PayPay แล้วนำไปใช้จ่ายได้เลย หากเลือกเติมเงินผ่านบัตรเครดิตก็จะเหมือนได้ใช้บัตรเครดิต ซื้อก่อน จ่ายทีหลังอีกด้วย

RakuPay (楽天ペイ)

บริการชำระเงินจากบริษัท Rakuten ที่มีกิจการใหญ่อย่างเว็บซื้อสินค้าออนไลน์ สำหรับสมาชิก Rakuten อยู่แล้ว สามารถใช้งานได้เลยโดยใช้แค่ username และ password เท่านั้น

ร้านที่ใช้ชำระเงินได้ส่วนใหญ่จะเป็นร้านที่มีเครือข่ายสาขาอย่างร้านสะดวกซื้อ ร้านขายยา และอื่นๆ มีวิธีเติมเงินหลากหลายทั้งการใช้บัตรเครดิต (และมักมีสิทธิพิเศษสำหรับบัตรเครดิตของ Rakuten) เติมเงินจากแต้ม Rakuten Super Point หรือเติมเงินจากสกุลเงินอิเลคโทรนิคส์ Rakuten Cash

LINE Pay

บริการชำระเงินที่บริษัทแอปพลิเคชั่นแชทอย่าง LINE เป็นผู้ให้บริการ สามารถใช้จ่ายที่ร้านสะดวกซื้อเจ้าใหญ่ ร้านขายยา ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้า และอื่นๆ แถมยังใช้ซื้อของออนไลน์เช่นเว็บ  ZOZOTOWN ฯลฯ ได้อีกด้วย

วิธีการใช้คือต้องเติมเงินเข้าบัญชี LINE Pay โดยผ่านบัญชีธนาคารหรือบัตรเครดิต หากใช้บัตรเครดิตจาก LINE Pay เองก็สามารถใช้ก่อน แล้วรวมเงินจ่ายทีหลังรวดเดียวผ่านบัตรได้

บริการจ่ายเงินผ่านบริษัทเครือข่ายมือถือ

บริษัทเครือข่ายมือถือเจ้าใหญ่ก็เปิดบริการชำระเงินผ่านมือถือกับเขาเหมือนกัน อย่าง NTT Docomo มีบริการ d barai (d払い) บริษัท KDDI มีบริการ au PAY สามารถรวมส่วนที่ใช้จ่ายไปชำระเงินทีเดียวรวมกับค่าบริการโทรศัพท์มือถือได้เลย

แม้จะไม่ได้ใช้โทรศัพท์ของค่ายนั้นๆ แต่ก็สามารถสมัครใช้งานเฉพาะบริการชำระเงินได้ บริการของเครือข่ายมือถือนั้นสามารถนำไปใช้ชำระเงินได้ตามร้านสะดวกซื้อ ร้านขายยา และร้านอื่นๆ เหมือนกับบริการชำระเงินผ่านมือถือของเจ้าอื่น

บริการแคชเลสของต่างประเทศส่วนหนึ่งก็ใช้ได้

บางร้านในญี่ปุ่นสามารถชำระด้วยบริการแคชเลสของต่างประเทศได้ โดยเฉพาะบริการชำระผ่านมือถือที่ชาวจีนใช้กันเยอะทั้ง Alipay และ WeChatPay รวมถึงบัตรของ UnionPay ด้วย ร้านที่ใช้ได้มักเป็นห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ร้านขายยา แต่ร้านที่ใช้บริการได้กำลังเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ

บริเวณเคานเตอร์ชำระเงินของร้านมักจะมีติดเครื่องหมายของบริการที่ใช้ชำระเงินได้อยู่ ลองสังเกตกันดูนะคะ

ซื้อของสะดวกสบายด้วยการจ่ายเงินแบบแคชเลส

Photo by Pixta

ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ชำระเงินด้วยเงินสดเป็นหลัก แต่ตอนนี้เริ่มมีวิธีการชำระเงินแบบแคชเลสแพร่หลายขึ้นแล้ว

เราเองก็มาเตรียมวิธีการชำระเงินวิธีการต่างๆ และเลือกใช้ตามสถานการณ์เพื่อความสะดวกและคุ้มค่าที่สุดกันเถอะ!

Main photo by Pixta