【จังหวัดมิยาซากิ】เพลิดเพลินไปกับทั้งภูเขาและท้องทะเล! ออกสำรวจมนต์เสน่ห์แห่งธรรมชาติที่ยังไม่ถูกค้นพบ

วิธีสมัครบัตรเครดิตในญี่ปุ่น เอกสารที่ต้องใช้ และบัตรที่อยากแนะนำ

บริการนี้รวมโฆษณาที่ได้รับการสนับสนุน
article thumbnail image

แนะนำบัตรที่น่าสนใจและวิธีสมัครบัตรเครดิตสำหรับคนต่างชาติในญี่ปุ่น บัตรไหนมีสิทธิพิเศษอย่างไร ต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง ไปดูกัน!

บทความโดย

miho

東京

เกิดที่ไต้หวัน ปัจจุบันกำลังอาศัยอยู่ที่โตเกียว เป็นบรรณาธิการหลักของเว็บไซต์ของ MATCHA ที่เน้นเกี่ยวกับไฮลิฟสไตล์ทายว้าวสำหรับชาวไต้หวัน ในอดีต曾เป็นบรรณาธิการของนิตยสารแฟชั่นญี่ปุ่น ติวเข้าเรียนภาษาญี่ปุ่นในโรงเรียนมัธยมส่วนตัวในไทเป, เป็นล่ามสำหรับบริษัทไชเซโดะและบริษัทอื่นๆ จากญี่ปุ่นและไต้หวัน มีประสบการณ์ในการเขียนโฆษณาเกี่ยวกับการท่องเที่ยวเชิงหน้าใน เพจ Facebook 'Tokyo beyond studying abroad' 東京、不只是留學(留学だけじゃなくて)จำนวนผู้ติดตามมีจำนวน 120,000 คน เป็นบล็อกเกอร์ที่มีผู้อ่านจากไต้หวัน ฮ่องกง และญี่ปุ่น โดยผู้อ่านในเพียง 70% ของสาวสมาชิก ฉันมีบทความที่พิจารณาเกี่ยวกับสถานที่และร้านค้าในอดีตมากกว่า 300 แห่ง เขียนเกี่ยวกับแนวโน้มล่าสุด สถานที่ที่ไม่ค่อยได้รับการนำเสนอ และวัฒนธรรมแบบดั้งเดิม เผยแพร่หนังสือเล่มที่ 6 เกี่ยวกับญี่ปุ่นในไต้หวันและเอเชีย Facebook → https://www.facebook.com/filmmiho/ Instagram → @mihowang47

more

วิธีทำบัตรเครดิตสำหรับคนต่างชาติในญี่ปุ่น

เมื่อพูดถึง "บัตร" ที่ขาดไม่ได้สำหรับการใช้ชีวิตในญี่ปุ่น ก็คงหนีไม่พ้น บัตรไซริว บัตรประกันสุขภาพ บัตร ATM และบัตรเครดิตนั่นเอง

หลายคนอาจจะคิดว่าไม่จำเป็นต้องมีบัตรเครดิตก็ได้ ใช้แค่บัตรเดบิตก็พอแล้ว แต่การจับจ่ายซื้อของด้วยบัตรเครดิตนั้นมักจะได้แต้ม ไมล์สะสม หรือสิทธิพิเศษ เมื่อดูโดยรวมจะพบว่าการใช้บัตรเครดิตประหยัดคุ้มค่ากว่า

ในบทความนี้เราขอแนะนำวิธีทำบัตรเครดิตและบัตรเครดิตที่อยากแนะนำสำหรับชาวต่างชาติที่อาศัยในญี่ปุ่นกันค่ะ!

ข้อมูลหรือเอกสารที่จำเป็นต้องใช้มีอะไรบ้าง

หากจะไปสมัครจำเป็นต้องพกพาสปอร์ต บัตรไซริว (หรือบัตรประจำตัวที่มีรูปถ่าย เช่น ใบขับขี่) บัตรประกันสุขภาพ และบัตร ATM ของบัญชีที่จะใช้ตัดเงิน นอกจากนั้นอาจมีเอกสารอื่นๆ แตกต่างกันไปแต่ละบัตรและเจ้า

หากสมัครผ่านอินเตอร์เน็ตมักจะต้องกรอกรายละเอียดปลีกย่อยด้วยตัวเอง เช่น รายได้ต่อปี (เน็นชู - 年収) สถานที่อยู่และระยะเวลาที่อยู่ จำนวนพนักงานในบริษัทที่ทำงานอยู่ ไปจนถึงเงินทุนจดทะเบียน และอื่นๆ

บัตรเครดิตที่แนะนำ

ชื่อบัตร ค่าธรรมเนียมรายปี ระบบสะสมแต้ม
Rakuten Card ฟรี 1%
EPOS Card ฟรี 0.5%
Lumine Card ฟรีในปีแรก ตั้งแต่ปีที่ 2 ปีละ 1,048 เยน 0.2%
MUJI Card ฟรี ตั้งแต่ 0.1% ขึ้นไป
JAL Card ฟรีในปีแรก ตั้งแต่ปีที่ 2 ปีละ 2,200 เยน 2%

บัตรเครดิตในญี่ปุ่นนั้นนอกจากจะออกโดยธนาคารแล้ว ยังมีบริษัทอื่นๆ ที่ให้บริการบัตรอีก เช่น มารุอิ (Marui), EPOS, Credit Saison

เมื่อมีตัวเลือกเยอะ อาจจะทำให้ยิ่งสับสน เราจึงขอแนะนำบัตรเครดิตที่ชาวต่างชาติสมัครค่อนข้างง่ายตามรายชื่อในตารางด้านบน

บัตรเครดิตที่ออกโดยธนาคารนั้นมักจะมีการตรวจสอบที่เข้มงวด และชาวต่างชาติที่พึ่งมาอยู่ญี่ปุ่นใน 1-2 ปีแรกมักจะไม่ผ่านการตรวจสอบนั้น เราจึงแนะนำให้ทำบัตรเครดิตที่แนะนำในบทความนี้ และจ่ายเงินตรงตามเวลาเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือเสียก่อน จะช่วยให้ผ่านการสมัครบัตรเครดิตของสถาบันการเงินได้ง่ายขึ้นค่ะ

สำหรับผู้ที่อาจไม่ได้อยู่ในญี่ปุ่นเป็นระยะยาว เช่น นักเรียน หรือพึ่งมาญี่ปุ่นไม่นาน ก็ลองสมัครจากบัตรเหล่านี้เลยค่ะ

1. Rakuten Card

วิธีสมัคร Rakuten บัตรเครดิตทำง่ายสำหรับคนต่างชาติในญี่ปุ่น

ภาพจากบทความ : วิธีสมัคร Rakuten บัตรเครดิตทำง่ายสำหรับคนต่างชาติในญี่ปุ่น

บัตรเครดิต Rakuten Card คือบัตรที่ออกโดยกลุ่มบริษัท Rakuten ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับออนไลน์เจ้าใหญ่ของญี่ปุ่น ค่อนข้างดังในหมู่คนต่างชาติเพราะสมัครผ่านง่าย

บัตรนี้มียอดเงินจำกัดที่ปีละ 1 ล้านเยน ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี และจะได้แต้ม 1 แต้มทุกๆ การใช้จ่าย 100 เยน แต้ม 1 แต้มสามารถใช้แทนเงิน 1 เยน ความพิเศษมของบัตรนี้คือหากใช้ซื้อของในเว็บไซต์ของ Rakuten จะได้แต้มเพิ่มสูงสุดถึง 3 เท่าเลยทีเดียว

นอกจากนี้หากใช้บัตรนี้ชำระค่าใช้จ่ายในการไปเที่ยวต่างประเทศหรือค่าเดินทางไปสนามบิน จะได้รับสิทธิประกันการเดินทางต่างประเทศสูงสุดมูลค่า 20 ล้านเยนด้วย

สมัครบัตร Rakuten Card (ภาษาญี่ปุ่น)

 

2. EPOS Card

丸井卡epos card

บัตรเครดิต EPOS Card เป็นบัตรที่ออกโดยบริษัทในเครือ Marui Group ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในกิจการห้างสรรพสินค้ามารุอิ (Marui) หากสมัครที่ห้างมีโอกาสที่จะได้รับการตรวจสอบเสร็จสิ้นและรับบัตรได้ภายในวันนั้นเลยด้วย
บัตรนี้ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี และยังได้คูปองสำหรับใช้ในห้างมูลค่า 2,000 เยนอีกด้วย

เมื่อใช้บัตรกับร้านที่ร่วมในเครือ VISA จะได้รับ 1 แต้มทุกการใช้จ่าย 200 เยน รวมถึงมีโอกาสพิเศษจากห้างมารุอิ เช่น สิทธิเข้าร่วมการช้อปปิ้งลดราคาพิเศษ 10% เฉพาะสมาชิกบัตรเท่านั้นซึ่งจัด 4 ครั้งใน 1 ปี หากใครซื้อของที่มารุอิบ่อยๆ ถือว่าเป็นบัตรที่ควรมีเลยค่ะ

ดูรายละเอียดและสมัครบัตร EPOS Card (ภาษาญี่ปุ่น)

 

3. Lumine Card

lumine card

บัตรเครดิต Lumine Card คือบัตรที่ออกโดยกลุ่มบริษัท Lumine ที่มีกิจการห้างสรรพสินค้าติดกับสถานีรถไฟลูมิเนะ (Lumine)

บัตรนี้ฟรีค่าธรรมเนียมรายปีแค่ปีแรกเท่านั้น ส่วนปีที่ 2 เป็นต้นไปจะต้องชำระค่าธรรมเนียมปีละ 1,048 เยน (รวมภาษีแล้ว) จุดเด่นอีกข้อของ Lumine Card คือสามารถเชื่อมกับบัตร View Card ของ JR East ได้ ทำให้สามารถใช้เป็นบัตร Suica ขึ้นรถไฟและใช้เป็นตั๋วเดือนรถไฟได้ด้วย

การใช้จ่ายที่ห้าง Lumine และร้านอื่นๆ ที่ร่วมรายการกับ JR East ทุก 100 เยนจะได้รับแต้ม "JRE POINT" 1 แต้ม แต้มนั้นสามารถนำไปแลกบัตรของขวัญสำหรับใช้ที่ Lumine และอื่นๆได้ นอกจากนี้ยังมีประกันการเดินทางในประเทศญี่ปุ่นวงเงินสูงสุด 10 ล้านเยน และประกันการเดินทางต่างประเทศวงเงินสูงสุด5 ล้านเยนให้ผู้ถือบัตรอีกด้วย

ข้อดีอีกอย่างคือแคมเปญซื้อสินค้าใน Lumine ได้ลดราคา 10% ซึ่งจะจัดปีละ 4 ครั้งค่ะ

ดูรายละเอียดและสมัครบัตร Lumine Card (ภาษาญี่ปุ่น)

 

4. MUJI Card

無印良品MUJI CARD

บัตรเครดิต MUJI Card คือ บัตรที่บริษัทบัตรเครดิต Credit Saison ร่วมมือกับร้านมูจิ (MUJI) โดยหากสมัครผ่านจะไดรับแต้มสำหรับใช้ที่ MUJI ได้มูลค่า 1,000 เยนเลย แถมยังมีโอกาสได้รับแต้มสูงสุดปีแรก 2,500 เยนและปีที่สอง 1,500 เยน

บัตรไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี และมีระบบแต้มโดยจะได้รับแต้ม 1 แต้มเมื่อใช้จ่าย 1,000 เยนหรือจะได้แต้ม 3 แต้มเมื่อใช้จ่ายในร้านของ MUJI 1,000 เยน แต้มสามารถใช้แทนเงินได้ โดยคิด 1 แต้มเป็น 1 เยน และหลังจากเดือนเกิดจะได้รับแต้ม 500 แต้มอีกด้วย!

นอกจากนี้ยังมีสิทธิพิเศษ เช่น ได้รับส่วนลด 10% เฉพาะสมาชิกในช่วงเซลล์ "MUJI Week" ซึ่งจัดหลายครั้งต่อปี

ดูรายละเอียดและสมัครบัตร MUJI Card (ภาษาญี่ปุ่น)

 

5. JAL Card

บัตรเครดิต JAL Card คือบัตรที่ออกโดย Japan Airline หรือ JAL เป็นบัตรที่แนะนำสำหรับผู้ที่ใช้บริการเครื่องบินเดินทางบ่อยๆ

บัตรนี้ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปีในปีแรก ตั้งแต่ปีที่ 2 เป็นต้นไปจะมีค่าธรรมเนียมปีละ 2,200 เยน (รวมภาษีแล้ว) เมื่อใช้บัตรจับจ่ายทุก 200 เยนจะได้รับไมล์ 1 ไมล์ และสามารถนำไมล์นี้ไปแลกตั๋วเครื่องบินได้ (ตามเงื่อนไขของการแลก) อย่างเช่น เที่ยวบินภายในญี่ปุ่นจะใช้ไมล์ราว 6,000 ไมล์ขึ้นไปต่อ 1 เที่ยว หากสะสมไมล์ได้มากกว่า12,000 ไมล์ จะสามารถแลกเที่ยวบินไปกลับภายในประเทศญี่ปุ่นได้ (แต่ละพื้นที่ใช้ไมล์ไม่เท่ากัน)

หลังได้รับบัตรแล้วเมื่อใช้บริการ JAL ครั้งแรกจะได้รับไมล์อีก 1,000 ไมล์ หลังจากนั้นจะได้รับไมล์ 1,000 ไมล์เมื่อใช้บริการสายการบิน JAL ครั้งแรกของแต่ละปีด้วย

ดูรายละเอียดและสมัครบัตร JAL Card (ภาษาญี่ปุ่น)

จับจ่ายใช้สอยอย่างคุ้มค่าด้วยบัตรเครดิต

การใช้บัตรเครดิตจับจ่ายอย่างระมัดระวังจะช่วยให้เราช้อปปิ้งได้อย่างคุ้มค่าด้วยส่วนลด สิทธิพิเศษ และแต้มสะสมต่างๆ

มาสมัครบัตรเครดิตสำหรับใช้ในญี่ปุ่นกัน!

บทความโดย

miho

東京

เกิดที่ไต้หวัน ปัจจุบันกำลังอาศัยอยู่ที่โตเกียว เป็นบรรณาธิการหลักของเว็บไซต์ของ MATCHA ที่เน้นเกี่ยวกับไฮลิฟสไตล์ทายว้าวสำหรับชาวไต้หวัน ในอดีต曾เป็นบรรณาธิการของนิตยสารแฟชั่นญี่ปุ่น ติวเข้าเรียนภาษาญี่ปุ่นในโรงเรียนมัธยมส่วนตัวในไทเป, เป็นล่ามสำหรับบริษัทไชเซโดะและบริษัทอื่นๆ จากญี่ปุ่นและไต้หวัน มีประสบการณ์ในการเขียนโฆษณาเกี่ยวกับการท่องเที่ยวเชิงหน้าใน เพจ Facebook 'Tokyo beyond studying abroad' 東京、不只是留學(留学だけじゃなくて)จำนวนผู้ติดตามมีจำนวน 120,000 คน เป็นบล็อกเกอร์ที่มีผู้อ่านจากไต้หวัน ฮ่องกง และญี่ปุ่น โดยผู้อ่านในเพียง 70% ของสาวสมาชิก ฉันมีบทความที่พิจารณาเกี่ยวกับสถานที่และร้านค้าในอดีตมากกว่า 300 แห่ง เขียนเกี่ยวกับแนวโน้มล่าสุด สถานที่ที่ไม่ค่อยได้รับการนำเสนอ และวัฒนธรรมแบบดั้งเดิม เผยแพร่หนังสือเล่มที่ 6 เกี่ยวกับญี่ปุ่นในไต้หวันและเอเชีย Facebook → https://www.facebook.com/filmmiho/ Instagram → @mihowang47

more
เนื้อหาในบทความนี้อ้างอิงจากการเก็บข้อมูลในช่วงเวลาที่เขียนบทความ อาจมีการเปลี่ยนแปลงของรายละเอียดสินค้า บริการ ราคาในภายหลังได้ กรุณาตรวจสอบกับสถานที่นั้นอีกครั้งก่อนการไปใช้บริการ
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง

อันดับ

ไม่พบบทความ