Start planning your trip
เที่ยวฮอกไกโดไม่ต้องเช่ารถขับที่โอบิฮิโระ กิจกรรมหิมะสบายๆ ของอร่อยเพียบ!
ใครว่าเที่ยวฮอกไกโดต้องเช่ารถขับเท่านั้น! แนะนำโรงแรมใกล้สถานี JR นั่งรถบัสเดินทางไปเล่นกิจกรรมหิมะแบบเบาๆ สบายๆ แถมเมืองนี้ของอร่อยเพียบ! ทั้งบุตะด้ง ขนม นม เนย ชีส
โอบิฮิโระ (Obihiro) ในฮอกไกโด เต็มที่กับหิมะและวิวตระการตา ของอร่อยเพียบ!
ฮอกไกโดคงเป็นหนึ่งในเป้าหมายของหลายคนที่อยากไปสัมผัสกับความหนาวและหิมะอย่างเต็มที่ในฤดูหนาว
และคงมีหลายคนเช่นกันที่ถอดใจไม่ออกไปเที่ยวไกลจากซัปโปโร (Sapporo) เพราะได้ยินมาว่าเที่ยวฮอกไกโดต้องเช่ารถขับถึงจะเที่ยวสนุก
การขับรถในต่างประเทศต้องใช้ความกล้าเหมือนกัน แถมยิ่งเป็นการขับรถในฤดูหนาวที่มีหิมะอีก คงทำให้ยิ่งกังวลเข้าไปใหญ่
แต่วันนี้เราจะมานำเสนอเมืองโอบิฮิโระในฤดูหนาวที่ไม่จำเป็นต้องเช่ารถขับก็เที่ยวได้!
ที่นี่มีทั้งวิวตระการตาของฤดูหนาว กิจกรรมหิมะสบายๆ ที่เด็กๆ หรือคนไม่เก่งกีฬาก็เล่นได้ แถมด้วยของอร่อยมากมาย
เมืองโอบิฮิโระเป็นเมืองหลักของกิ่งอำเภอโทกาจิ (Tokachi) ห่างจากซัปโปโรด้วยรถไฟด่วนพิเศษ (Limited Express) ราว 3 ชั่วโมงไปทางตะวันออก โดยลงรถไฟที่สถานี JR โอบิฮิโระได้เลย
หน้าสถานีมีท่ารถบัสอยู่ หากพักโรงแรมแถวสถานีก็ใช้รถบัสเดินทางไปเที่ยวได้ แถมมีร้านของอร่อยมากมายบริเวณสถานีอีก
ความอร่อยของเมืองนี้มาจากการเป็นเมืองเกษตรกรรมและปศุสัตว์ขนาดใหญ่ ถึงขนาดเป็นฉากหลักของการ์ตูนเรื่อง Silver Spoon การ์ตูนดังระดับรางวัลที่เล่าถึงชีวิตของนักเรียนและอาชีพผู้ทำเกษตรกรรมและปศุสัตว์
ในฤดูหนาวมีหิมะตกค่อนข้างมาก อุณหภูมิอาจต่ำได้ถึงราว 0 ถึง -15 องศาในช่วงที่หนาวที่สุดอย่างเดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ ในตรงนี้ต้องระวังนิดนะคะ
ขอบอกว่าบทความนี้รีวิวจากประสบการณ์ตรงของตัวเอง ตัดสินใจเลือกร้านและของมารีวิวยากมากๆ โดยเฉพาะของกิน เพราะอร่อยทั้งนั้น!
สารบัญ
-
- สนุกกับฤดูหิมะง่ายๆ พร้อมชมทิวทัศน์ ปรากฏการณ์น่าตื่นตา
- สถานที่เที่ยวอื่นๆ ที่ฤดูหนาวก็น่าไป
- โอบิฮิโระ เมืองแห่งของกินสุดอร่อย!
- รวมสถานที่ซื้อของฝากแสนสะดวก
- โรงแรมแนะนำ "Hotel NUPKA"
สนุกกับฤดูหิมะง่ายๆ พร้อมชมทิวทัศน์ ปรากฏการณ์น่าตื่นตา
เล่ากันตามตรงพื้นที่แถวโอบิฮิโระเป็นที่ราบ จึงไม่มีลานสกีให้ไปเล่นกีฬาฤดูหนาวกัน แต่หลายท่านๆ รวมถึงผู้เขียนด้วยเวลาไปเที่ยวแดนหิมะ เราก็ไม่ได้อยากเล่นอะไรใช้ฝีมืออย่างสกี สโนว์บอร์ด อะไรพวกนี้หรอก แค่อยากสัมผัสหิมะ แล้วเล่นอะไรง่ายๆ สบายๆ มากกว่า
โอบิฮิโระเป็นตัวเลือกที่ดีมากๆ เพราะมีกิจกรรมที่ได้สนุกกับหิมะง่ายๆ แถมได้ชมทิวทัศน์งดงามอลังการที่เกิดจากทั้งมนุษย์และรังสรรค์โดยธรรมชาติค่ะ
1. ปั่นจักรยาน Fat bike บนพื้นหิมะ
ประสบการณ์สัมผัสลมหนาวท่ามกลางทุ่งหิมะแบบง่ายๆ ที่จะแนะนำอย่างแรกก็คือการปั่นจักรยานค่ะ แต่จักรยานธรรมดาออกจะปั่นบนพื้นเกล็ดหิมะลำบาก
เราแวะไปที่ Tokachi Nature Center เพื่อเช่าจักรยานล้อกว้างที่เรียกกันว่า Fat bike ไปปั่นบนลานกว้างฝั่งตรงข้ามศูนย์ซึ่งมีการทำเนินสูงต่ำไว้ให้ปั่นกันสนุกๆ ด้วย
สำหรับผู้ไม่คุ้นเคยการปั่นจักรยานบนหิมะ อาจจะทำให้รู้สึกเหนื่อยกว่าที่คิด เราก็อาจจะสลับปั่นจักรยานกับการนั่งพัก หรือนั่งปั้นหิมะเล่นที่ข้างๆ ลานจักรยานก็ได้ค่ะ
การเดินทาง : นั่งรถบัสจากท่ารถบัสหน้าสถานี JR โอบิฮิโระสาย 45 ลงที่ป้าย Tokachigawa Onsen (十勝川温泉) หรือ Dai Ichi Hotel (第一ホテル) ใช้เวลาประมาณ 25-30 นาที
ค่าใช้จ่าย : ชั่วโมงละ 500 เยน
2. ล่องแก่งบนหิมะ!? กับ Snow rafting
อีกกิจกรรมสนุกกับหิมะโดยที่ไม่ต้องใช้ฝีมือ สนุกได้ตั้งแต่เด็กยันผู้ใหญ่ ผู้เขียนขอแนะนำให้ไป "ล่องแก่งบนหิมะ" กัน !?
กิจกรรม Snow rafting คือการนำแพยางเหมือนที่ใช้ในการล่องแก่งมาผูกติดกับรถสโนว์โมบิล เพื่อให้สโนวโมบิลลากตัวแพยางให้ไหล หมุนไปตามพื้นหิมะลื่นๆ บางทีก็ลากขึ้นเนินแล้วปล่อยให้แพยางลอยล่องกับอากาศมาถึงพื้น
Snow Rafting นั้นสนุกง่ายเพราะไม่ต้องทำอะไร แค่ขึ้นไปนั่งให้เจ้าหน้าที่มาลากแพเราไป ได้อารมณ์เหมือนเล่นเครื่องเล่นในสวนสนุก
แต่ข้อดีมากๆ ของกิจกรรมนี้คือ เราสามารถบอกคนขับให้ปรับระดับความตื่นเต้นหวาดเสียวได้ตามใจชอบ เช่น หากเป็นกรุ๊ปเที่ยวเพื่อนวัยรุ่น อาจจะบอกให้คนขับจัดเต็ม แต่ถ้าเป็นครอบครัวที่มีเด็กอายุน้อยหน่อย ก็อาจจะให้ขับสโนว์โมบิลไม่เร็วมากก็ได้
กิจกรรมนี้จัดขึ้นที่ลานของจุดพักรถมิจิโนะเอกิ การ์เดนสปา โทกาจิออนเซ็น (Michi no Eki Garden Spa Onsen - 道の駅 ガーデンスパ十勝川温泉) แต่ต้องติดต่อเรื่องกิจกรรมที่ Tokachi Nature Center สถานที่เดียวกับที่ดูแลเรื่องปั่นจักรยาน Fat bike บนหิมะค่ะ
เนื่องจากเป็นจุดพักรถจึงมีทั้งร้านขนม ร้านอาหาร และมีออนเซ็นเท้าให้ใช้บริการด้วย!
การเดินทาง : (การเดินทางไป Tokachi Nature Center) นั่งรถบัสจากท่ารถบัสหน้าสถานี JR โอบิฮิโระสาย 45 ลงที่ป้าย Tokachigawa Onsen (十勝川温泉) หรือ Dai Ichi Hotel (第一ホテル) ใช้เวลาประมาณ 25-30 นาที
ค่าใช้จ่าย : ผู้ใหญ่คนละ 700 เยน เด็กคนละ 600 เยน (ควรโทรไปติดต่อล่วงหน้า)
3. ปรากฎการณ์ที่ธรรมชาติเสก เห็ดน้ำแข็งและฟองสบู่ใต้น้ำแข็ง
หากนั่งรถมาจนถึงทะเลสาบนุกาบิระ (Nukabira Lake) เราจะสามารถไปสัมผัสกับปรากฎการณ์สวยงามตื่นตาที่ธรรมชาติเป็นผู้เสกขึ้นมาได้ค่ะ
กิจกรรมนี้จะต้องติดต่อที่ Higashitasetu Nature Guide Center เพื่อร่วมเดินทางไปกับไกด์ค่ะ เราจะได้สวมรองเท้าสโนว์ชู เดินลุยหิมะไปจนถึงเหนือทะเลสาบนุกาบิระที่กลายเป็นน้ำแข็ง เราจะได้พบกับ "เห็ดน้ำแข็ง" แสนน่ารักกระจัดกระจายอยู่
ตัวจริงของเห็ดน้ำแข็งนั้นคือหิมะและน้ำแข็งที่จับตัวบนตอไม้กลางทะเลสาบจนมีรูปร่างคล้ายกับดอกเห็ดสีขาวสวยงาม รูปร่างของเห็ดแต่ละดอกจึงแตกต่างกันไป ไม่มีเหมือนกันแม้แต่ดอกเดียวหรือวันเดียว
อีกความมหัศจรรย์ที่จะได้ชมคือ "ไอซ์บับเบิ้ล" เป็นฟองอากาศจำนวนมากใต้ผืนทะเลสาบน้ำแข็ง เป็นกิจกรรมที่คนไทยอยางเราคงไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะได้เดินชมลวดลายงามแปลกตาระหว่างเดินไปบนทะเลสาบ
ความสนุกที่สุดของกิจกรรมนี้คือเมื่อไกด์อธิบายเสร็จว่าฟองอากาศเหล่านี้คือก๊าซที่ผุดขึ้นมา แต่หนีไปไหนไม่ได้เพราะผืนน้ำกลายเป็นน้ำแข็งไปเสีย จากนั้นไกด์จะแนะนำให้เราลองขุดหิมะที่ปกคลุมทะเลสาบอยู่ เพื่อค้นหากลุ่มของไอซ์บับเบิ้ลด้วยตัวเราเอง!
กิจกรรมอื่นๆ ที่น่าสนใจยังมีอีกเพียบ แนะนำให้ติดต่อจองทัวร์ก่อนได้ทางโทรศัพท์หรืออีเมล์ค่ะ
เนื่องจากเดินทางมาค่อนข้างไกล บริเวณนี้เป็นเมืองออนเซ็นด้วย ใครจะพักที่นี่สักคืนก็ไม่เลวนะคะ
การเดินทาง : นั่งรถบัสจากท่ารถบัสหน้าสถานี JR โอบิฮิโระ สาย 51 ลงที่ป้าย Nukabira onsen koen mae (ぬかびら温泉公園前) แล้วเดินต่ออีก 2 นาที รวมใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 50 นาที
ค่าใช้จ่าย : ผู้ใหญ่ 4,000 เยน เด็กประถม 3,000 เยน (โดยปกติมีเครื่องกันหนาวต่างๆ ให้เช่า แต่ในปัจจุบัน กุมภาพันธ์ 2021 ให้ยืมเพียงรองเท้าเนื่องจาก COVID-19)
4. เมืองหิมะ บ้านน้ำแข็งอิกลูเหนือทะเลสาบน้ำแข็ง
นอกจากทะเลสาบนุกาบิระด้านบนแล้ว ยังมีอีกไฮไลท์หนึ่งในฤดูหนาวของโทกาจิ ก็คือที่ทะเลสาบชิการิเบตสึ (Shikaribetsu Lake) ซึ่งเมื่อทะเลสาบปกคลุมด้วยน้ำแข็ง คราวนี้เป็นฝีมือของมนุษย์ที่จะสร้างเมืองหิมะ บ้านน้ำแข็งอิกลูอยู่เหนือทะเลสาบให้คนไปเที่ยวกันในชื่อ "ทะเลสาบชิการิเบตสึ โคะทัน (Lake Shikaribetsu Kotan)"
หมู่บ้านน้ำแข็งแห่งนี้มีอาคารเด่นๆ ที่ทำจากน้ำแข็งและหิมะทั้งหมด คือ
Ice Bar อาคารด้านหน้าสุด ที่ตกแต่งภายในอย่างสวยงาม ให้เราเข้าไปสั่งเครื่องดื่มใส่แก้วที่ทำจากน้ำแข็ง และมีกิจกรรมให้ลองสลักทำแก้วน้ำแข็งเองด้วย
อาคารที่พัก Ice Lodge ที่สามารถค้างคืนได้จริง (หากตอนกลางคืนทนหนาวไม่ไหว สามารถไปนอนในโรงแรมได้)
โบสถ์น้ำแข็ง Ice Chapel จะตกแต่งด้านในให้งดงามเหมือนโบสถ์และใช้งานแต่งงานจริงด้วย
และออนเซ็นกลางทุ่งน้ำแข็ง สามารถลงไปแช่น้ำร้อนท่ามกลางความหนาว หรือจะแช่แค่ส่วนขาด้วบบริการออนเซ็นเท้า (อาชิยุ) ก็ได้
หมู่บ้านแสนสวยนี้จะปรากฎขึ้นในฤดูหนาวที่ทะเลสาบเป็นน้ำแข็งเท่านั้น (ประมาณกุมภาพันธ์ - มีนาคม) จึงห้ามพลาดแวะไปสัมผัสโลกน่าตื่นตาจากฝีมือของมนุษย์กัน!
การเดินทาง : นั่งรถบัสจากท่ารถบัสหน้าสถานี JR โอบิฮิโระ สาย 51 ลงที่ป้าย Lake Shikaribetsu (然別湖 / 然別湖畔温泉) ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 40 นาที (มีข้อมูลรถบัสที่ค่อนข้างละเอียดเป็นภาษาอังกฤษที่เว็บไซต์นี้)
ค่าใช้จ่าย : ค่าเข้าฟรี เครื่องดื่มใน Ice Bar แก้วละ 500 เยนขึ้นไป หากอยากใส่แก้วน้ำแข็งมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม 1,000 เยน
สถานที่เที่ยวอื่นๆ ที่ฤดูหนาวก็น่าไป
1. ศาลเจ้าโอบิฮิโระ (Obihiro Shrine)
ศาลเจ้าโอบิฮิโระ (帯廣神社) เป็นศาลเจ้าขนาดใหญ่ที่อยู่ในบริเวณตัวเมือง ที่นี่มีจุดเด่นตรงเซียมซีสุดน่ารักเป็นรูปปลาแซลมอนและรูปนกตัวน้อยสีขาวที่ชื่อว่า "ชิมาเอะนากะ" หรือนกติ๊ดหางยาวญี่ปุ่น เจ้านกตัวเล็กสีขาวแสนน่ารักนี้พบได้ในศาลเจ้าโอบิฮิโระ (แล้วแต่ฤดูกาลและช่วงเวลา) ความน่ารักของเจ้านกตัวนี้เคยเป็นกระแสในอินเตอร์เน็ตจนได้ชื่อว่าเป็น "ภูตหิมะ" เลยทีเดียวค่ะ
เสน่ห์ของการมาเยือนศาลเจ้าในฤดูหนาวของเมืองทางเหนือก็คือการได้เก็บภาพอันงดงามและทรงพลังในแบบญี่ปุ่น ศาลเจ้าที่ดูเคร่งขรึมท่ามกลางหิมะขาวโพลนทำให้เราต้องทึ่งในความงามและน่าศรัทธาแน่นอน
การเดินทาง : นั่งรถบัสจากท่ารถบัสหน้าสถานี JR โอบิฮิโระได้หลายสาย เช่น 1, 32, 41, 51, 70 และอื่นๆ ลงที่ป้าย Obihiro-jinja Mae (帯広神社前) หรือ Nishi Nijo Itchome) หรือ Higashi Sanjo Roku Chome) แล้วเดินต่ออีกราวๆ 7 นาที รวมใช้เวลาประมาณ 20 นาที
* ป้าย Obihiro-jinja Mae จะถึงหน้าศาลเจ้าเลย แต่จำนวนรถมีน้อย
2. สถานีแห่งความสุข (Kofuku Eki)
สถานีแห่งความสุข (幸福駅) เป็นอดีตสถานีที่ใช้งานจริง แต่สายรถไฟถูกยกเลิกไป บริเวณสถานีจึงกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเนื่องจากชื่อสถานี "โคฟุกุ" นั้นมีความหมายดีๆ ว่า "ความสุข" นั่นเอง
ตัวอาคารสถานีจะมีคนมาแปะตั๋วจำลองพร้อมเขียนขอพร และมีชานชาลาให้ถ่ายรูป
ที่นี่มาเที่ยวได้ตลอดปี แต่แนะนำให้มาในช่วงฤดูหนาวด้วย เพราะพอมีหิมะขาวๆ ตกลงมาจะยิ่งทำให้ถ่ายรูปสวยมากๆ ค่ะ
การเดินทาง : นั่งรถบัสจากท่ารถบัสหน้าสถานี JR โอบิฮิโระ สาย 60 ลงที่ป้าย Kofuku (幸福) แล้วเดินต่ออีก 5 นาที รวมใช้เวลาประมาณ 45-50 นาที
โอบิฮิโระ เมืองแห่งของกินสุดอร่อย!
1. ข้าวหน้าหมูย่างบุตะดง (Butadon) ของดังประจำเมือง!
เมนูชื่อดังประจำเมืองที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือข้าวสวยร้อนๆ โปะด้วยหมูย่างซอสที่แต่ละร้านต่างมีสูตรลับเฉพาะของตนเอง เป็นเมนูดังขนาดมีร้านที่ไทยเลย
แต่ถ้ามาถึงโอบิฮิโระทั้งทีก็ต้องไปชิมรสชาติของแท้ให้ได้นะคะ!
โอบิฮิโระ ฮาเกะเท็น (Obihiro Hageten)
โอบิฮิโระ ฮาเกะเท็นถือเป็นร้านข้าวบุตะดงที่ดังที่สุดในหมู่คนไทยก็ว่าได้ มีสาขาที่สถานี และอีกสาขาในย่านร้านอาหารที่เดินจากโรงแรมที่เราแนะนำครั้งนี้ได้ใน 5 นาที
นอกจากเมนูบุตะด้งรสชาติเข้มข้นแล้วยังดังในฐานะร้านเท็มปุระด้วย จึงสามารถลิ้มรสเซ็ทบุตะด้งกับเท็มปุระได้อีกต่างหาก
การเดินทาง : สาขาหลักเดินจากสถานี JR โอบิฮิโระราว 5 นาที มีสาขาที่สถานีด้วย
ค่าใช้จ่าย : บุตะด้งราคาตั้งแต่ 1,000 เยนขึ้นไป
อย่างที่บอกว่าบุตะด้งแต่ละร้านมีสูตรของตนเอง หากได้มาเยือนจะลองหาหลายๆ ร้านทานมากกว่ามื้อเดียวก็ดีนะ! รสชาติเค็มหวานของเนื้อหมูย่างซอส รับรองว่าถูกใจคนไทยแน่นอน
ตามร้านของฝากทั้งหลายมีขายทั้งน้ำซอสสำเร็จรูปให้ใครที่ติดใจเอากลับไปทำกินเองที่บ้าน และมีของน่าสนใจอย่างคุกกี้หรือชอคโกแลตรสบุตะดงด้วย
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
2. นม เนย ชีส โยเกิร์ต
นอกจากไร่สวนแล้วที่นี่ยังมีฟาร์มวัวเยอะ ผลิตนมได้อร่อยเข้มข้นระดับประเทศ ผลิตภัณฑ์จากนม ทั้ง เนย ชีส โยเกิร์ต และพวกขนมที่นำนม เนย ชีส ไปทำจึงพลอยอร่อยมากไปด้วย
เราสามารถหาซื้อชีสหลากหลายประเภทและวิธีการผลิต ไม่ว่าจะเป็นชีสเชดด้า (Cheddar Chesse) เกาด้า (Gouda) มอสซาเรลลา (Mozzarella) ครีมชีส ไปจนถึงชีสที่ถ้าไม่ใช่ขาชีสอาจไม่คุ้นนักอย่าง บรี (Brie) กามองแบร์ (Camembert) ราเคล็ตต์ (Raclette) คาชิโอคาวัลโล (Caciocavallo) และอื่นๆ
และยังมีชีสที่ใส่เทคนิคเฉพาะของโรงบ่ม เช่น ใส่ปรุงแต่งด้วยซากุระ กระเทียม วาซาบิ มิโซะ และอื่นๆ
นอกจากจะซื้อตามซุปเปอร์มาร์เก็ตหรือตามร้านผลิตภัณฑ์เกษตรแล้ว พวกร้านอาหาร อิซากายะ ก็มีเมนูที่ใส่ชีสเยอะ
ที่อยากแนะนำมากๆ คือซาลาเปาไส้ชีสฮาปิมัง (Hapiman - ハピマン) ชิ้นละแค่ 360 เยน แต่พอกัดแล้วชีสเข้มข้นจะยืดออกมา ในรูปนี่ก็อุ่นไฟแรงไปนิดจนชีสด้านในทะลักออกมา! ก่อนกินแนะนำให้เตรียมถ่ายวีดีโอให้พร้อมไว้เลยนะคะ
สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายของฝาก หรือร้านขายอาหารในสนามม้าบังเอก็มีขายพร้อมทานเลย
3. เค้กและของหวานต่างๆ
อย่างที่เกริ่นไปด้านบนว่า พอนม เนยอร่อย เอาไปทำขนมก็ยิ่งอร่อยไปด้วย
โอบิฮิโระมีขนมหวานที่นิยมเป็นของฝากสุดๆ แม้แต่คนในญี่ปุ่นด้วยกันหลักๆ สองเจ้าคือ "รคคะเท" และ "ริวเก็ตสึ" แต่ยังมีขนมอร่อยอื่นๆ ทั้งเค้ก ขนมปัง คุกกี้ พุดดิ้ง ไอศครีม ขนมญี่ปุ่นอย่าง โดรายากิ ไทยากิ อีกมากมายไม่หวาดไม่ไหว
รคคะเท (Rokkatei - 六花亭)
รคคะเท ร้านขนมเก่าแก่ที่หากนับตั้งแต่เริ่มกิจการครั้งแรกก็มีอายุเกือบ 100 ปีแล้ว และมีขนมชื่อดังระดับประเทศที่จะพูดว่าใครมาโอบิฮิโระต้องซื้อก็ไม่เกินจริงเท่าไหร่นักค่ะ
สุดยอดขนมนั้นก็คือ "มารุเซบัตเตอร์แซนด์ (Marusei Butter Sandwich)" เป็นบิสกิตสูตรเฉพาะขนาบไส้ครีมนมฮอกไกโด 100% ผสมกับไวท์ชอคโกแลตและลูกเกด
ผู้เขียนก็แนะนำขนมตัวนี้แหละค่ะ รสชาติเข้มข้นจัดจ้านและหอมมากๆ แต่ตัวครีมจะมีกลิ่นพวกเหล้ารัม บรั่นดีอยู่ในนั้น ได้รสชาติอร่อยสไตล์ผู้ใหญ่
สำหรับเด็กหรือคนไม่ชอบกลิ่นเหล้า ก็มีขนมในซีรี่ยส์เดียวกันเป็นคุกกี้ คาราเมล และบัตเตอร์เค้กให้เลือกทานได้เช่นกัน
ในร้านมีขนมแบบฝรั่งและญี่ปุ่น รวมถึงคาเฟ่ให้ทานอาหารและขนมได้ด้วย และยังมีมีขายขนมแบบเป็นชิ้นๆ ด้วย หากใครอยากชิมหลายอย่าง ก็ลองเลือกซื้อไปลองได้เต็มที่
การเดินทาง : สาขาหลักเดินจากสถานี JR โอบิฮิโระ 7 นาที
ค่าใช้จ่าย : ขนมราคาชิ้นละประมาณ 100 กว่าเยนขึ้นไป มารุเซบัตเตอร์แซนด์ราคาชิ้นละ 130 เยน
ริวเก็ตสึ (Ryugetsu - 柳月)
ส่วนริวเก็ตสึเป็นหนึ่งในร้านขนมเก่าแก่ของโอบิฮิโระที่มีอายุยาวนานกว่า 70 ปี มีขนมและของฝากชื่อดังชื่อ "ซัมโปโรกุ (Sanporoku)" เป็นเค้กบามคูเฮนหรือเค้กขอนไม้เคลือบชอคโกแลตบางๆ หั่นแบ่งชิ้นเหมือนฟืนเป็นชิ้นๆ มีตั้งแต่ไซส์ใหญ่ไปจนแบ่งชิ้นเล็กๆ ทานง่าย แจกง่าย นอกจากรสดั้งเดิมแล้วยังมีรสตามฤดูกาลอีกด้วย
ตัวเนื้อเค้กหอมหวานแถมได้ความอร่อยจากชอคโกแลตที่รสไม่จัดเกินไป ไม่ได้กลบความอร่อยของตัวเค้กเลยค่ะ
นอกจากนี้ยังมีขนมทั้งคุกกี้ เค้ก แบบฝรั่ง และขนมสไตล์ญี่ปุ่นอีกหลายอย่าง
ขนมที่ชอบเป็นส่วนตัวอีกอย่างคือ "อันบาตะซัน (Anbatasan)" หมายถึงขนมคุกกี้อบหอมๆ สอดไส้ด้วยครีมเนยและถั่วแดง แม้แต่คนที่ไม่ชอบถั่วแดงก็ยังทานได้ เป็นรสชาติที่ผสมผสานระหว่างญี่ปุ่นและขนมฝรั่งกันอย่างดีค่ะ
ข้อดีอีกอย่างของร้านนี้คือที่ร้านมีขายขนมแบบเป็นชิ้นๆ เหมือนร้านรคคะเทด้วย
การเดินทาง : สาขาหลักเดินจากสถานี JR โอบิฮิโระ 10 นาที
ค่าใช้จ่าย : ขนมราคาชิ้นละประมาณ 100 กว่าเยนขึ้นไป ซัมโปโรกุราคาชิ้นละ 130 เยน
Tokachi Toteppo Factory
ร้านโทกาจิ โทเท็ปโปะ แฟคตอรี่ (十勝トテッポ工房) เป็นอีกหนึ่งร้านขนมที่ดังเรื่องชีสเค้ก และยังมีขนมเค้ก คุกกี้แบบอื่นๆ อีกหลายอย่างที่รับประกันความอร่อยอีกแล้ว
แต่ถ้าได้มาในช่วงฤดูหนาว ผู้เขียนอยากชวนแวะไปที่ร้านเร็วหน่อยเพื่อซื้อเค้กเฉพาะฤดูกาลสุดน่ารัก "ชิมาเอะนากะเค้ก (シマエナガケーキ)"
เป็นมูสชีสเค้กสีขาวใช้วัตถุดิบชีสจากโทกาจิสอดไส้ซอสบลูเบอร์รี่ แต่งหน้าตาเป็นตัวกลมๆ ปากนิดจมูกหน่อย เลียนแบบหน้าตาของนกชิมาเอะนากะ ที่พบเจอได้ที่ศาลเจ้าโอบิฮิโระค่ะ ด้วยความน่ารักและรสชาติอร่อย ทำให้เค้กสุดพิเศษนี้ในแต่ละวันขายหมดไวมากเลยค่ะ
การเดินทาง : เดินจากสถานี JR โอบิฮิโระ 10 นาที
ค่าใช้จ่าย : ขนมราคาชิ้นละประมาณ 100 กว่าเยนขึ้นไป เค้กกุราคาชิ้นละราวๆ 300 กว่าเยนขึ้นไป
นอกจากนี้ยังมีขนมอื่นๆ ที่ชิมมาแล้วพูดได้แค่ว่าเลิศรสอร่อยล้ำ! ทั้งไอศครีมเจลาโต้ ซอฟต์ครีม พุดดิ้ง มันหวานอบ (สวีทโปเตโต้) ขนมปังสไตล์ญี่ปุ่น และขนมปังสไตล์ฝรั่ง โดรายากิ และอื่นๆ
ใครมาขอว่าอย่าลังเลที่จะชิม! เพราะมีให้ชิมหลายอย่างมาก ลังเลเดี๋ยวจะเวลาจะไม่พอกินนะ
4. ผักสดอร่อยจนต้องตกใจ
โอบิฮิโระอาจไม่มีผลไม้ชื่อดังประจำจังหวัด แต่ที่นี่เป็นแหล่งผลิตอาหารสุดอร่อยแห่งหนึ่งของญี่ปุ่นโดยเฉพาะในเรื่องของผัก
หลายคนอาจจะคิดว่าถึงจะอร่อย แต่ก็ผัก มันจะขนาดไหนกันเชียว?
ผู้เขียนจึงอยากท้าทายให้มาลองด้วยตัวเองว่าอันอร่อยจนต้องตกใจ!
ผักที่อยากแนะนำมีทั้งหน่อไม้ฝรั่ง ข้าวโพด ฟักทอง หัวลิลลี่ (ยูริเนะ - ゆり根) วาซาบิภูเขา (ยามะวาซาบิ - 山わさび) มันนากาอิโมะ (長いも) ฯลฯ ซึ่งจะแตกต่างไปตามฤดูกาล
แน่นอนว่าผลิตภัณฑ์จากผักเหล่านี้ ถั่ว แป้งสาสี หรือแม้แต่ไวน์จากองุ่นของพื้นที่นี้ก็ล้วนแต่เป็นของอร่อยสมกับเป็นเมืองผู้ผลิตอาหาร
บริเวณรอบสถานีฝั่งตะวันออก เราสามารถหาร้านอิซากายะที่เสิร์ฟอาหารทั้งแบบญี่ปุ่นและแบบฝรั่งโดยใช้ผักจากท้องถิ่นเหล่านี้
อิซากายะแม้จะมีภาพลักษณ์เป็นร้านดื่มเหล้า แต่จริงๆ เราสามารถเข้าไปใช้บริการทั้งครอบครัวโดยไม่จำเป็นต้องดื่มก็ได้นะ
คิตะโนะยะไต (Kita no Yatai) และ โทกาจิโนะนางายะ (Tokachi no Nagaya)
ย่านที่น่าสนใจคือร้านอาหารที่เรียงรายกันเรียกว่าคิตะโนะยะไต (北の屋台) หมายถึง "แผงลอยของเมืองเหนือ" และโทกาจิโนะนางายะ (十勝乃長屋) หมายถึง "ห้องแถวของโทกาจิ" ซึ่งจะเป็นร้านอิซากายะเล็กๆ เรียงกันได้บรรยากาศกินดื่มแบบใกล้ชิดกับคนท้องถิ่น
เมื่อเข้าไปนั่งบางทีคนในร้านอาจจะทักทายชวนเราคุยด้วยนะ!
การเดินทาง : เดินจากสถานี JR โอบิฮิโระ 5 นาที
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
Sweet Cafe Toskachina
ร้านอาหารและขนมทอสคาจิน่าร้านนี้เป็นร้านในเครือร้านขนมชื่อดังริวเก็ตสึ ที่นี่มีขายทั้งขนมและอาหารฝรั่ง อย่างพาสต้าที่มีชีสมาฝนให้สดๆ ที่โต๊ะก็อร่อยมาก
แต่ที่ผู้เขียนประทับใจสุดๆ คือเมนูมันฝรั่งผัดเนยที่ใช้มันฝรั่งพันธุ์อินกะโนะเมะซาเมะ (Inka no Mezame - インカのめざめ)
เป็นเมนูที่เพียงแค่นำมันพันธุ์นี้ไปผัดกับเนย แต่กลับมีรสชาติทั้งหวานหอมของมันไม่แพ้ขนม แถมด้วยรสเค็มจากการผัดเนย
เป็นเมนูที่ทำให้รู้สึกถึงความล้ำลึกของ "มันฝรั่ง" ที่ในจุดขายผักบางร้านในโอบิฮิโระแค่มันฝรั่งอย่างเดียวก็มีสินค้าวางมากกว่า 4-5 พันธุ์ที่แตกต่างทั้งสี ขนาด และรสชาติแล้ว
การเดินทาง : นั่งรถบัสจากท่ารถบัสหน้าสถานี JR โอบิฮิโระ สาย 21 ลงที่ Nishi 17-jo 6-chome (西17条6丁目) เดินอีก 3 นาที รวมใช้เวลาประมาณ 25 นาที
ค่าใช้จ่าย : พาสต้าตั้งแต่ 890 เยนขึ้นไป มันฝรั่งอินกะโนะเมะซาเมะผัดเนย 500 เยน
รวมสถานที่ซื้อของฝากแสนสะดวก
1. ห้างสรรพสินค้าฟูจิมารุ (Fujimaru)
ห้างสรรพสินค้าฟูจิมารุนั้นเดินจากสถานี JR โอบิฮิโระแค่ราว 7 นาที ถ้าเดินจากโรงแรมที่แนะนำในคราวนี้ยิ่งใกล้ขึ้นอีก
ที่นี่เป็นห้างสรรพสินค้าเก่าแก่ประจำเมืองที่คนในท้องถิ่นผูกพัน มีอายุมานานกว่า 100 ปีแล้วหากนับตั้งแต่สมัยเริ่มเปิดเป็นร้านเสื้อผ้าในโอบิฮิโระ
แต่จะชั้นขายเสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้สำหรับชาวเมือง แต่ที่อยากแนะนำคือชั้นใต้ดินที่เป็นซุปเปอร์มาร์เก็ตและขนม ซึ่งมีโซนผลิตภัณฑ์จากโอบิฮิโระ โทกาจิ และฮอกไกโด ไม่ว่าจะเป็นไอศครีม เบียร์ ไวน์ นม เนย ชีส แยม ขนมพุดดิ้ง โดรายากิ ผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์ แกงกะหรี่สำเร็จรูป ฯลฯ
การเดินทาง : เดินจากสถานี JR โอบิฮิโระราว 7 นาที
2. สถานี JR โอบิฮิโระ
อาคารร้านค้าที่เชื่อมกับสถานีโอบิฮิโระทั้งซ้ายขวาต่างมีทั้งร้านอาหาร ร้านขนม และร้านขายของฝาก ตรงทางเข้าสถานีเองก็ยังมีร้านขายของฝากอีกร้านหนึ่งเช่นกัน
ของฝากที่นี่ก็เต็มไปของของดีของอร่อยประจำเมืองและสินค้าดัง โซนร้านขนมและร้านอาหารฝั่งตะวันออกมีเป็นร้านมีชื่อเสียงทั้งขนมปังมาซุยะ และร้านขนม Cranberry มีซอฟท์ครีมราด "แยมนมสด" ให้ลองชิม และมีร้านสาขาของบุตะดงชื่อดังฮาเกะเท็นด้วย
อาคารฝั่งตะวันตกมีทั้งร้านขายของดีส่งตรงจากเกษตรกรผู้ผลิต และยังมีร้านร้อยเยนให้ซื้อของเผื่อกรณีฉุกเฉิน เช่น พวกอุปกรณ์คลายหนาว
นอกจากนี้ยังมีศูนย์บริการข้อมูลนักท่องเที่ยวให้ไปเก็บข้อมูลกัน มีเอกสารมากมายทั้งภาษาญี่ปุ่นและภาษาต่างชาติให้เลือกตามสไตล์การเที่ยวค่ะ
3. โทคาจิมุระ (Tokachimura) ข้างสนามม้าบังเอ
สนามม้าบังเอ (Banei Horse Racing) หรือสนามม้าโอบิฮิโระ (Obihiro Racecourse) เป็นหนึ่งในสถานที่เที่ยวพลาดไม่ได้ของโอบิฮิโระเช่นกัน เนื่องจากมีการจัดแข่งม้าแบบที่เคยใช้ในสมัยบุกเบิกฮอกไกโด ซึ่งเป็นการแข่งม้าแบบเฉพาะตัวที่มีแค่ที่เดียวในโลก
แต่ติดกับสนามม้าบังเอคือ "โทคาจิมุระ" แหล่งรวมร้านขายผลผลิตทางการเกษตร ร้านขนม ร้านกาแฟ ร้านข้าวบุตะดง เอาไว้ด้วยกัน
ในร้านขายผลผลิตทางการเกษตรนั้นมีทั้งผัก นม ชีส โยเกิร์ต ขนม เบียร์ ไวน์ และผลิตภัณฑ์แปรรูปจากผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ของโอบิฮิโระและโทกาจิไว้ให้เลือกซื้อเป็นของฝากมากมาย
การเดินทาง : นั่งรถบัสจากท่ารถบัสหน้าสถานี JR โอบิฮิโระได้หลายสาย เช่น 2, 17, 32 ลงที่ Obihiro Keibajomae (帯広競馬場前) ใช้เวลาประมาณ 10 นาที
4. สนามบินโทกาจิโอบิฮิโระ (Tokachi–Obihiro Airport)
หากใครจะเดินทางไปโตเกียวต่อ (หรือนาโงย่าที่จะมีเที่ยวบินในบางฤดูกาล) ลองใช้บริการสนามบินโทกาจิโอบิฮิโระ แทนการนั่งรถไฟกลับไปซัปโปโรเพื่อต่อเครื่องบินนะคะ
ชั้น 2 ของสนามบินมีร้านขายของฝากอยู่ รวมถึงร้านของขนมยอดนิยมทั้งรคคะเท ริวเก็ตสึ ของฝากชื่อดังอื่นๆ แม้แต่ Royce, ชิโรอิโคอิบิโตะ หรือมันฝรั่งจากะปกกุรุ (Jaga Pokkuru) รวมถึงมีร้านอาหารให้นั่งรอเวลาพร้อมทานเมนูขึ้นชื่อได้
เมื่อตรวจความปลอดภัยเข้าไปด้านในแล้วยังมีร้านของฝากเล็กๆ อีก 2 ร้านให้ได้ช็อปกันจนถึงวินาทีสุดท้ายค่ะ
การเดินทาง : นั่งรถบัสจากท่ารถหน้าสถานี JR โอบิฮิโระ จะมีรถที่เขียนว่า For Tokachi Obihiro Airport เลย ใช้เวลาประมาณ 38 นาที
โรงแรมแนะนำ "Hotel NUPKA"
ที่พักที่เราเลือกใช้บริการครั้งนี้คือโรงแรม Hotel NUPKA ซึ่งเดินทางสะดวกมากๆ จากสถานี JR โอบิฮิโระ เพียงออกจากสถานีด้วยทางออกทิศเหนือทางใดก็ได้ เดินต่ออีก 6 นาทีเราก็จะพบทางเข้าโรงแรมเป็นคาเฟ่ดูทันสมัย ฝั่งตรงข้ามถนนหน้าโรงแรมยังมีร้านสะดวกซื้อ LAWSON ทำให้มองหาโรงแรมง่ายมากด้วยค่ะ
โรงแรมพึ่งเปิดในปี 2016 ถือว่ายังไม่เก่า ภายในสะอาดสะอ้าน มีห้องพักทั้งแบบห้องนอนรวม (Dormitory) สไตล์โฮสเทล และห้องแบบส่วนตัวพร้อมห้องน้ำ ห้องอาบน้ำในตัว ที่ไซส์เตียงสำหรับนอนคนเดียวก็กว้างขวาง กลิ้งสบายมาก
ตัวโรงแรมอยู่ใจกลางย่านร้านอาหารและอิซากายะ แถมยังใกล้ร้านขนมกับห้างสรรพสินค้าฟูจิมารุ รับรองว่าหาของกินและของฝากได้สบายแน่นอนค่ะ
การเดินทาง : เดินจากสถานี JR โอบิฮิโระ 6 นาที
จองห้องพัก Hotel NUPKA ผ่าน booking.com
เช่ารถหรือไม่เช่ารถ ก็เที่ยวโอบิฮิโระในฮอกไกโดได้ทั้งนั้น!
สถานที่เราแนะนำในบทความนี้สามารถเดินทางไปด้วยรถบัสจากท่ารถบัสที่หน้าสถานี JR โอบิฮิโระได้หมด เราจึงแนะนำให้เลือกพักโรงแรมบริเวณหน้าสถานี จะได้สะดวกในการเที่ยว แถมยังหาซื้อของกิน ขนม ของฝากได้อย่างสะดวกอีกด้วย
สถานที่เที่ยวที่อยู่ในตัวเมือง หากเดินทางกันสัก 2-3 คน จะนั่งแท็กซี่ก็คุ้มเหมือนกัน
แต่สิ่งที่ต้องระวังเรื่องรถบัสคือในรถบัสโอบิฮิโระอาจไม่เยอะนัก โดยส่วนใหญ่หากไม่ใช่ในตัวเมืองเลย อาจจะมีรถแค่ 1-2 คันต่อชั่วโมง ในการเที่ยวจึงต้องระมัดระวังเรื่องเวลา
และขอแนะนำให้พักในโอบิฮิโระอย่างน้อย 1-2 คืนเป็นต้นไป เพื่อให้เที่ยวได้อย่างเต็มที่ค่ะ
หากใครมั่นใจในฝืมือการขับรถ การเช่ารถเที่ยวฮอกไกโดและโอบิฮิโระก็สะดวกสบายเช่นกัน แต่ขอให้ระมัดระวังทั้งเรื่องกฏจราจรกับการขับรถท่ามกลางหิมะนะคะ
เที่ยวญี่ปุ่นคราวหน้า มาพลิกความคิดที่ว่าต้องเช่ารถเท่านั้นถึงจะเที่ยวฮอกไกโดได้ แล้วลองมาใช้เวลาค้างคืนที่โอบิฮิโระกันไหม!
สาวชาวบางกอกที่มาหลงอยู่ในโตเกียวมาแล้วหลายปี แต่ยังแพ้รถไฟในเวลา Rush Hour ลัลล้ากับการทำงาน ว่างๆ ก็แว่บไปเที่ยว ชิมของอร่อย เที่ยวติ่งตามรอย
ชอบบรรยากาศของศาลเจ้าเป็นพิเศษ สนใจวัฒนธรรมญี่ปุ่น รวมไปถึง Pop culture~♥
เจอแมวเป็นไม่ได้ ต้องทักทายเหมียวๆ ใส่ประจำ
มีประสบการณ์แปลมากกว่า 10 ปี (เราจะไม่พูดเรื่องอายุ ...) ชอบงานขีดๆ เขียนๆ เลยมาเป็นบรรณาธิการเว็บไซต์
Facebook / Twitter ส่วนตัวที่เขียนเกี่ยวกับญี่ปุ่นเป็นงานอดิเรก ปัจจุบัน (12/2019) มีผู้ติดตามอย่างละราวๆ 40,000 คน ก็เรียกว่าเป็นบล๊อกเกอร์ตัวจ้อยๆ ได้ ... ล่ะมั้ง?
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง