Start planning your trip
ชิมอาหารท้องถิ่นของชาวไอนุในโอบิฮิโระ จังหวัดฮอกไกโด ที่ร้านปงจิเซะ (Ponchise)
ไอนุคือชาวเผ่าท้องถิ่นของฮอกไกโดที่วัฒนธรรมกำลังจะสูญหายไป ในเมืองโอบิฮิโระ ฮอกไกโด มีร้านอาหารที่เราจะได้ชิมอาหารพื้นบ้านของชาวไอนุกัน ปงจิเซะ (Ponchise) เป็นร้านอิซากายะแบบง่ายๆ ดำเนินกิจการโดยคุณแม่ลูกครึ่งไอนุ ไปลองชิมรสชาติแท้ๆ อันน่าสนใจกันเลย!
"ไอนุ" ชนเผ่าท้องถิ่นของฮอกไกโดที่อาจจะสูญหายไป
Photo by Pixta
ชาวเผ่าไอนุ (Ainu) เป็นชาวเผ่าท้องถิ่นของฮอกไกโด แต่ปัจจุบันนี้ชาวไอนุมีจำนวนน้อยลงเรื่อยๆ ความเจริญที่เข้ามาค่อยๆ ทำให้ภาษาและวัฒนธรรมเลือนหายไป
ญี่ปุ่นเองก็ไม่ได้นิ่งดูดาย และเริ่มสนับสนุนวัฒนธรรมของชาวไอนุให้คงอยู่ต่อไป อย่างเช่นสร้างอุโปะโปยซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์และสวนไอนุแห่งชาติ (Upopoy National Ainu Museum and Park) ขึ้น
แต่หากใครได้มาเยือนฮอกไกโด นอกจากอุโปะโปยแล้ว เรายังอยากแนะนำให้เดินทางไปทางตะวันออกที่เมืองโอบิฮิโระ เมืองนี้นอกจากจะดังเรื่องอาหารอร่อย ยังมีร้านอาหารแบบอิซากายะที่เสิร์ฟเมนูของชาวไอนุให้ได้ลิ้มรสกัน!
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
ร้านอาหารปงจิเซะ (Ponchise) ชิมฝีมือคุณแม่ลูกครึ่งไอนุ
ปงจิเซะเป็นร้านอาหารแบบอิซากายะหรือร้านเหล้าแบบญี่ปุ่นที่ตั้งอยู่ในย่านคิตะโนะยะไต (Kita no Yatai)
คำว่ายะไตนั้นหมายถึงร้านแผงลอย แต่เนื่องจากฮอกไกโดมีอากาศหนาวเย็น แทนที่จะเป็นแผงลอยโล่งๆ จึงมีการตั้งกำแพงเป็นร้านอย่างง่ายๆ ขึ้นในฤดูหนาว และถอดกำแพงออกได้ในฤดูที่อากาศอบอุ่นขึ่น
เมนูในร้านปงจิเสะมีทั้งอาหารจากประเทศในอาเซียนเนื่องจากความสนใจของเจ้าของร้าน นอกจากนี้ยังมีเมนูอาหารไอนุหลายอย่าง เนื่องจากตัวเจ้าของร้านนั้นเป็นลูกครึ่งชาวไอนุนั่นเอง
รสชาติอาหารที่คุ้นเคยตั้งแต่เด็กจึงถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาอีกครั้งให้ผู้คนได้ลองชิมอาหารที่หาลองลิ้มรสได้ยากในปัจจุบัน
โปเนะโอฮาอุ (Poneohau) ซุปกระดูกน่าทึ่ง!
ชามแรกที่เราสั่งมากินคือโปเนะโอฮาอุ เป็นอาหารที่มีชื่อเป็นภาษาไอนุไม่คุ้นหู ตัวจริงของมันคือซุปกระดูกหมูกับผักที่เป็นอาหารในครัวเรือนของชาวไอนุ
หน้าตาที่เห็นก็น่าทึ่งแล้ว ความท้าทายของเราก็คือจะแทะเนื้อตามกระดูกอย่างไร บางทีอาจจะถึงต้องลงมือจับกระดูกด้วยมือเลยนะ!
เป็นอาหารที่รู้สึกได้ถึงความเป็นอารยธรรมเก่าแก่ที่อาจจะดูมีความดิบอยู่
โมจิมันกับซอสสมุนไพรหวาน
ตัวแป้งโมจินั้นเป็นแป้งผสมกับมัน นำไปจี่ให้สุกได้สีเกรียมๆ นิด เนื้อจะมีความเหนียวนุ่มมาก
ทานกับซอสสีดำซึ่งเป็นซอสหวานๆ ทำจากพืชสมุนไพรคิฮาดะ (Kihada) หรือที่คนไทยเชื้อสายจีนจะเรียกว่าอึ่งแปะ มีกลิ่นเป็นเอกลักษณ์ ได้รสหวานปนขมนิดๆ พร้อมกันอย่างน่าประหลาดใจ
เมะฟุน (Mefun) เนื้อติดเลือดปลาแซลมอน
เมะฟุนหมายถึงชิไอ (Chiai) หรือเนื้อส่วนที่มีเลือดอยู่เยอะในตัวปลาในภาษาญี่ปุ่นปกติ ที่ร้านเสิร์ฟเมะฟุนของปลาแซลมอนสดใหม่
เนื้อจากเป็นเนื้อส่วนที่มีเลือดอยู่เยอะ กลิ่นและรสค่อนข้างแรง อาจจะมีทั้งคนชอบและไม่ชอบได้ค่ะ
ชิมเหล้าแบบไอนุ เหล้าหมักชิเคเรเบะ (Shikebere)
ชาวไอนุดื่มเหล้าขาวโดยนำเปลือกไม้ของต้นคิฮาดะ (อึ่งแปะ) ลงไปหมักด้วยเป็นเหล้าคิฮาดะ แต่มีเหล้าอีกชนิดที่หมักกับผลของต้นคิฮาดะแทน เรียกว่าเหล้าชิเคเรเบะ
เลือกได้ว่าจะดื่มแบบออนเดอะร็อคเพียวๆ หรือชงผสมกับน้ำเปล่า โซดา หรือโทนิค
ขอเตือนไว้ก่อนเลยว่าเป็นเหล้าขาวแรงเหมือนกัน และมีกลิ่นแนวสมุนไพรอยู่จากผลของคิฮาดะ คนไอนุนั้นมีความเชื่อว่าต้นคิฮาดะเป็นยาสมุนไพรที่ดีต่อร่างกายค่ะ
อาหารไอนุที่ได้ลองทานในวันนี้ต้องบอกว่ามีรสชาติเฉพาะตัวและแตกต่างจากอาหารญี่ปุ่นที่เรารู้จักกันมาก
หากใครเป็นสายกิน ไมอยากให้พลาดมาลองชิมอาหารหายากแบบนี้ค่ะ!
พบการกินแซลมอนแบบชาวไอนุที่สนามบินโทกาจิโอบิฮิโระ!
ก่อนจะจบการแนะนำอาหารไอนุเพียงเท่านี้ ผู้เขียนอยากแนะนำเพิ่มสำหรับใครที่ใช้บริการสนามบินโทกาจิโอบิฮิโระ (Tokachi–Obihiro Airport) สำหรับบินภายในประเทศญี่ปุ่นิ เช่น บินกลับโตเกียวจากโอบิฮิโระ
ภายในสนามบินมีร้านอาหารชื่อ Heart Field อยู่ ซึ่งเมนูอื่นๆ ก็จะเป็นเมนูอาหารญี่ปุ่นทั่วไปและบุตะด้ง ข้าวหน้าหมูย่างเมนูดังของโอบิฮิโระ แต่ในหมวดกับกับแกล้มจะมีเมนูปลาแซลมอนแบบไอนุที่เรียกว่า "แซลมอนรุอิเบะ (Salmon Ruibe)" ราคา 750 เยนอยู่ค่ะ
แซลมอนรุอิเบะ คือ แซลมอนที่ถูกนำไปผ่านกระบวนการ "รุอิเบะ" ในภาษาไอนุหมายถึงการทำแช่เย็นให้แข็งก่อนแล้วค่อยละลายเพื่อนำมาทาน เป็นวิธีการถนอมอาหารเพื่อผ่านหน้าหนาวอันยะเยือกของฮอกไกโด
แซลมอนรุอิเบะจะมาเป็นแซลมอนแช่แข็งที่เริ่มละลาย หั่นเป็นชิ้นซาชิมิ วิธีทานก็เหมือนกับซาชิมิเลย
แต่เราจะได้รสสัมผัสที่แปลกกว่าตอนทานแซลมอนซาชิมิสดๆ เนื้อที่เย็นแข็งจะค่อยๆ ละลายในปากพร้อมกับความหวานและความอร่อยของไขมันปลาแซลมอน
อาหารญี่ปุ่นไม่ได้มีแบบเดียว ไปเที่ยวไหนอย่าลืมลองชิมอาหารถิ่นนะ
การไปเที่ยวแล้วได้กินอาหารอร่อยๆ คงเป็นความสุขของหลายๆ คน
แต่อาหารญี่ปุ่นไม่ได้มีแค่แบบเดียวเท่านั้น ยังมีอาหารท้องถิ่นของแต่ละภูมิภาค แต่ละเมือง ไปจนถึงของชาวเผ่าไอนุที่วัฒนธรรมอาจจะเลือนหายไป
หากได้ไปเที่ยวญี่ปุ่นเมื่อไหร่ อย่าลืมลองความอร่อยที่หากินได้แค่ในพื้นที่นั้นด้วยนะคะ!
สาวชาวบางกอกที่มาหลงอยู่ในโตเกียวมาแล้วหลายปี แต่ยังแพ้รถไฟในเวลา Rush Hour ลัลล้ากับการทำงาน ว่างๆ ก็แว่บไปเที่ยว ชิมของอร่อย เที่ยวติ่งตามรอย
ชอบบรรยากาศของศาลเจ้าเป็นพิเศษ สนใจวัฒนธรรมญี่ปุ่น รวมไปถึง Pop culture~♥
เจอแมวเป็นไม่ได้ ต้องทักทายเหมียวๆ ใส่ประจำ
มีประสบการณ์แปลมากกว่า 10 ปี (เราจะไม่พูดเรื่องอายุ ...) ชอบงานขีดๆ เขียนๆ เลยมาเป็นบรรณาธิการเว็บไซต์
Facebook / Twitter ส่วนตัวที่เขียนเกี่ยวกับญี่ปุ่นเป็นงานอดิเรก ปัจจุบัน (12/2019) มีผู้ติดตามอย่างละราวๆ 40,000 คน ก็เรียกว่าเป็นบล๊อกเกอร์ตัวจ้อยๆ ได้ ... ล่ะมั้ง?
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง