Start planning your trip
เกร็ดความรู้ภาษาญี่ปุ่น "ไทยากิ - อิมากาวายากิ" ความเหมือนที่แตกต่าง
ขนมรูปปลาไทสอดไส้ถั่วแดงที่ตอนนี้รู้จักกันทุกคน แต่บางครั้งเราก็ไปเจอขนมแบบเดียวกันแต่เป็นรูปวงกลมธรรมดาที่ชื่อว่า อิมากาวะยากิ บางทียังมีโอบังยากิอีก แต่ละอย่างมันต่างกันยังไงมาดูกัน
ไทยากิ กับ อิมากาวะยากิ
ไทยากิ และ อิมากาวะยากิ เป็นของว่างสไตล์ชาวบ้านของญี่ปุ่น ทั้งคู่ทำมาจากแป้งสาลี สอดไส้ด้วยอังโกะ (ถั่วแดงกวน) และนำไปปิ้งจนด้านนอกสุกเป็นสีเหลืองทองกรอบอร่อย
อ้าว เหมือนกันขนาดนี้แล้วสรุปว่ามันต่างกันยังไงล่ะเนี่ย? เดี๋ยวเราจะมาเปิดเผยความแตกต่างระหว่างไทยากิและอิมากาวะยากิซึ่งเป็นขนมที่เหมือนกันอย่างกับแกะทั้ง 2 อย่างนี้กันค่ะ
ความแตกต่างระหว่างไทยากิและอิมากาวะยากิ
photo by PRtimes
ความแตกต่างที่ชัดเจนที่สุดระหว่างไทยากิและอิมากาวะยากิก็คือ รูปร่างหน้าตาของมันนี่แหละ ไทยากิจะเป็นรูปปลาไท แต่อิมากาวะยากิจะเป็นรูปวงกลม ส่วนเนื้อแป้งและไส้ถั่วแดงกวนข้างในจะเหมือนกันทั้งหมด
ปลาไท ... ชื่อภาษาไทยคือปลาจาน เป็นปลาในตระกูลปลากะพง
ความจริงแล้วขนมอิมากาวะยากิ เกิดขึ้นมาก่อนตั้งแต่สมัยเมจิ (ค.ศ. 1868 - 1912) หลังจากนั้นจึงมีขนมไทยากิตามมา
ประวัติศาสตร์ของไทยากิและอิมากาวะยากิ
ว่ากันว่าต้นกำเนิดของอิมากาวะยากิเริ่มขึ้นเมื่อราว 200 ปีก่อน โดยมีร้านแผงลอยจำหน่ายขนมปิ้งแถวสะพานอิมากาวะในเขตคันดะ ของจังหวัดโตเกียวนี่เอง ขนมแสนเรียบง่ายที่ทำจากแป้งสาลีสอดไส้ถั่วแดงกวนนี้กลายเป็นของว่างที่ได้รับความนิยมในหมู่ชาวบ้านมาก
ส่วนไทยากิก็มีทฤษฎีที่ฟังดูน่าเชื่อถือว่ามีต้นกำเนิดมาจากโตเกียวเหมือนกัน โดย "คัมเบะ เซอิจิโร่" ชาวโอซาก้าผู้เดินทางมาเปิดกิจการค้าขายในโตเกียวสมัยเมจิ รู้สึกกลุ้มใจที่ขนมอิมากาวะยากิของร้านตัวเองขายไม่ค่อยออก จึงคิดค้นขนมปิ้งรูปปลาไทขึ้นมา สำหรับชาวญี่ปุ่นแล้วปลาไทถือเป็นสิ่งมงคลที่รับประทานกันตามงานเฉลิมฉลองต่างๆ ขนมรูปปลาไทจึงกลายเป็นขนมในดวงใจของชาวบ้านในระยะเวลาไม่นาน
ร้านของเซอิจิโร่ก็ยังคงเปิดกิจการอยู่ในปัจจุบัน นั่นคือร้านNaniwa Sohonten (นานิวะ โซฮนเต็น) อยู่ที่อาซาบุจูบัง ในโตเกียวนี่เอง ที่นี่เป็นร้านในดวงใจของใครหลายคนในฐานะที่เป็นต้นกำเนิดแห่งขนมไทยากิ
ไทยากิ & อิมากาวะยากิสุดแปลกแหวกแนว
photo by PRtimes
ถึงแม้ว่าทั้งไทยากิและอิมากาวะยากิเป็นขนมญี่ปุ่นที่เน้นไส้ถั่วแดงกวนเป็นหลักก็จริง แต่หลังจากศตวรรษที่ 20 เป็นต้นมาก็เริ่มมีไส้อื่นๆ เพิ่มขึ้นมากมาย เช่น คัสตาร์ดครีม วิปครีม ช็อกโกแลต และแยม
ไทยากิสอดไส้ไส้กรอก ชีส และข้าวโพดนั้นเป็นที่นิยมสุดๆ นอกจากนี้ก็ยังมีไทยากิและอิมากาวะยากิสอดไส้เครื่องของโอโคโนะมิยากิ หรือเครื่องพิซซ่าด้วย เรียกได้ว่าเป็นอาหารฟิวชั่นเลยนะเนี่ย
สำหรับใครที่อยากลิ้มลองรสชาติแปลกใหม่แหวกแนวก็ขอแนะนำให้ลองไปที่ร้านGindai (กินได) ที่เมกุโระ ในโตเกียวเลยค่ะ มีไทยากิรสพิซซ่าด้วยค่ะ อีกที่ก็ร้านGin no an (กินโนะอัน) ในคิชิโจจิ โตเกียว มีไทยากิแป้งครัวซองต์ค่ะ โดยทางร้านได้เปิดสาขาไปทั่วญี่ปุ่นและต่างประเทศ รวมถึงประเทศไทยด้วยในชื่อร้าน Croissant Taiyaki
ถ้าเกิดใครมีโอกาสได้มาเที่ยวญี่ปุ่นก็อย่าลืมลองรสชาติให้หลากหลายตั้งแต่ไทยากิรสดั้งเดิมไปจนถึงไทยากิรสแปลกใหม่กันดูนะคะ!
ลองไปเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์กันดีกว่า!
photo by PIXTA
ในญี่ปุ่นมีสถานที่หนึ่งที่อยากแนะนำสำหรับใครที่อยากรู้เรื่องราวเกี่ยวกับไทยากิและอิมากาวะยากิให้มากขึ้น
นั่นก็คือพิพิธภัณฑ์อะซูกิ Azuki Museum ที่บริหารดูแลโดย Gozasoro (โกซาโซโร่) บริษัทผลิตขนมที่โด่งดังมาจากขนมอิมากาวะยากิ ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีธีมหลักเป็นถั่วแดงและถั่วแดงกวนซึ่งเป็นไส้หลักของขนมอิมากาวะยากิ เราสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของอิมากาวะยากิ เรื่องราวเกี่ยวกับถั่วแดงกวนของโปรดของคนญี่ปุ่น และสัมผัสประสบการณ์การทำขนมญี่ปุ่นได้ที่นี่
แถมเรายังสามารถช้อปปิ้งของฝากที่น่าสนใจ เช่น ที่ห้อยมือถือรูปอิมากาวะยากิและยางลบรูปอิมากาวะยากิได้ที่ร้านค้าภายในพิพิธภัณฑ์ได้ด้วย สำหรับใครที่สนใจก็อย่าลืมแวะมาดูกันนะคะ
日本への訪日外国人の方が、もっと増えますように!
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง