Start planning your trip
ช็อคโกแลตทำเองกับมือ! เวิร์คช็อปทำดิบช็อคโกแลตที่ Emblem Hostel Nishiarai
ถ้าอยากให้ช็อคโกแลตที่ทำเองกับคนที่เราชอบ หรือผู้หลักผู้ใหญ่ที่เคารพ ลองทำช็อคโกแลตดิบที่ดีต่อสุขภาพกันดูไหม? 「ช็อคโกแลตดิบ」(Raw Chocolate) ที่มีสารอาหารครบถ้วนจากโกโก้เป็นอาหารเพื่อสุขภาพที่เป็นที่จับตามอง เราจะแนะนำคลาสสอนทำช็อคโกแลตที่「Emblem Hostel N
ที่ญี่ปุ่นมีธรรมเนียมการมอบช็อคโกแลตให้กับเพื่อน หรือผู้ใหญ่ที่เคารพในวันวาเลนไทน์ สาวญี่ปุ่นที่มักจะทำช็อคโกแลตเองให้คนที่ตัวเองชอบก็มีไม่น้อยเลยค่ะ
ที่ญี่ปุ่นจะหาซื้อเซ็ทอุปกรณ์ทำช็อคโกแลตได้ง่าย ๆ ตามซุปเปอร์มาร์เก็ต แม้แต่นักท่องเที่ยวก็สามารถเริ่มทำช็อคโกแลตสวย ๆ น่ารัก ๆ กันได้ค่ะ แต่ถ้าใครอยากทดลองทำช็อคโกแลตแบบจริงจังกันเลย แนะนำให้ลองเข้าร่วมเวิร์คช็อปทำช็อคโกแลตที่ญี่ปุ่นดูค่ะ ในการทำเวิร์คช็อปนี้อาจจะทำให้เพื่อน ๆ ได้เพื่อนใหม่ด้วยก็ได้นะ!
ในบทความนี้ เราจะแนะนำเวิร์คช็อปที่คนญี่ปุ่นและชาวต่างชาติจะได้ร่วมทำช็อคโกแลตด้วยกันที่ 「Emblem Hostel Nishiarai」กันค่ะ ในคลาสวันที่ 13 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีการทำดิบช็อคโกแลต (Raw Chocolate) ที่ว่ากันว่าดีต่อสุขภาพกันด้วยค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง:
สัมผัสวัฒนธรรม ญป กับคนท้องถิ่น!! ได้ที่「Emblem hostel Nishiarai」
อาจารย์ที่สอนทำช็อคโกแลตก็คือ คุณริกะผู้รู้ลึกรู้จริงเกี่ยวกับ Raw Food และเป็นสตาฟของ Emblem Hostel Nishiarai
ช็อคโกแลตดิบ คืออะไร?
ดิบช็อคโกแลต (Raw Chocolate) หมายถึงช็อคโกแลตที่ทำขึ้นโดยใช้วิธีที่ไม่ผ่านความร้อน (ทุกขั้นตอนใช้อุณหภูมิต่ำกว่า 48℃) การทำจะต่างจากช็อคโกแลตทั่วไป ตรงที่ใช้เมล็ดโกโก้ที่ไม่ผ่านการบดมาก่อน โดยใช้เมล็ดโกโก้ทั้งเม็ดเลย สารอาหารที่อยู่ในเมล็ดโกโก้ (Anandamide และ Phenylethylamine ที่เป็นสารอาหารแห่งความสุข) จะไม่สูญสลายไปด้วยความร้อน ทำให้ช็อคโกแลตดิบเป็นของกินที่ดีต่อร่างกายและหัวใจค่ะ
เรียนทำช็อคโกแลตดิบแบบไม่ใช้ไฟ
สำหรับส่วนผสมในการทำดิบช็อคโกแลต ได้แก่ โกโก้บัตเตอร์ดิบ และครีมโกโก้ดิบที่สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายของออร์แกนิค ส่วนความหวานในช็อคโกแลตของเราวันนี้ใช้น้ำเชื่อมเมเปิ้ลค่ะ
อันดับแรก ละลายเนยโกโก้ด้วยอุณหภูมิต่ำ แล้วนำไปผสมกับครีมโกโก้ดิบ
ลำดับต่อไป นำภาชนะไปซ้อนบนถ้วยที่มีน้ำแข็งบรรจุไว้ เราจะคนจนช็อคโกแลตเหลว ๆ แข็งตัวขึ้น พอช็อคโกแลตแข็งตัวแล้วก็นำกลับไปซ้อนบนภาชนะบรรจุน้ำร้อนอุณหภูมิ 35℃ แล้วละลายให้เหลวอีกครั้ง
ขั้นตอนการทำกลับไปกลับมาหลาย ๆ ครั้งนี้ เรียกว่า Tempering ซึ่งช่วยให้วัตถุดิบในช็อคโกแลตผสมเข้ากันได้ดี และได้เป็นช็อคโกแลตที่มีความนุ่มนวลออกมาค่ะ
มาทำ Tempering ด้วยกัน!
คนที่เข้าร่วมเวิร์คช็อปด้วยก็จะมีส่วนช่วยคนช็อคโกแลตบนภาชนะใส่น้ำแข็งและน้ำร้อน ขั้นตอนนี้ต้องควบคุมอุณหภูมิให้ดี โดยน้ำร้อนต้องมีอุณหภูมิไม่มากไปกว่า 40℃ ด้วยค่ะ
พอช็อคโกแลตเริ่มเยิ้มแล้ว คราวนี้เราก็จะมานำช็อคโกแลตลงแม่พิมพ์แล้วนำไปแช่เย็นสักพัก
ระหว่างที่รอให้ช็อคโกแลตจับตัวเป็นรูปร่าง ทุกคนก็จะล้อมวงนั่งคุยกัน พร้อมฟังคุณริกะอธิบายให้ฟังเกี่ยวกับ Raw Food วันที่เราไปทำช็อคโกแลตดิบมานี้มีคนมาจากหลากหลายประเทศ และมาจับเข่าเม้าท์กันสนุกเลยว่าแต่ละประเทศทำอะไรกันบ้างในวันวาเลนไทน์
ลองชิมช็อคโกแลตดิบ! รสชาติเป็นยังไงนะ?
หลังจากนำช็อคโกแลตไปแช่ตู้เย็นไว้กว่า 20 นาที เราก็ได้ช็อคโกแลตหน้าตานวล ๆ สวยงามน่ากินออกมาแล้ว ลองชิมเข้าไปชิ้นหนึ่งก็ได้กลิ่นหอมของโกโก้ เป็นรสชาติที่เข้มข้นมากเลยล่ะค่ะ
ส่วนที่เหลือก็บรรจุลงห่อให้สวยงามแล้วเอากลับบ้านได้ จะเอาไปมอบเป็นของขวัญต่อยังได้เลยค่ะ
สุดท้ายนี้
ดิบช็อคโกแลตที่ได้สารอาหารสูงสุดจากเมล็ดโกโก้ เป็นสิ่งที่ได้รับการจับตามองว่าเป็นของกินเพื่อสุขภาพ เป็นเวิร์คช็อปที่จะได้เรียนรู้วิธีการทำช็อคโกแลตร่วมไปกับผู้เข้าร่วมคนอื่น ๆ การได้ลองทำช็อคโกแลตในเทศกาลวาเลนไทน์หรือไวท์เดย์ในช่วงที่มาญี่ปุ่นคงจะเป็นความทรงจำที่น่าจดจำไม่น้อยเลย เชิญให้ลองมาทำช็อคโกแลตกันดูค่ะ
เป็นบรรณาธิการที่ MATCHA ตั้งแต่ปี 2016 ความหลงใหลของฉันในละครโนะและศิลปะการแสดงของประเทศญี่ปุ่นคือสิ่งที่นำฉันมาที่นี่ เรื่องทุกอย่างที่ฉันเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่นทุกวันคือสิ่งที่ทำให้ฉันอยู่ที่นี่
ฉันเรียนรู้การจัดดอกไม้อิเคบานะ (Ikenobo School) และพิธีสามัคคี (Omote Senke) ตั้งแต่ปี 2012 งานเขียนเรื่องสั้นและบทวิจารณ์ละครที่ฉันเขียนนอกเวลาทำงานสามารถอ่านได้ในเว็บไซต์วรรณกรรมรวม "บังกุ คิงโย"
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง