Start planning your trip
“โอซาเมะ โนะ ไดชิ” งานอีเว้นท์ประจำปีของวัดนิชิอาไรไดชิ
“นิชิอาไรไดชิ” แห่งนี้เป็นวัดขึ้นชื่อที่เกี่ยวข้องกับพระคูไค ในครั้งนี้เราจะพาทุกคนไปร่วมงานเทศกาลที่ใหญ่ที่สุดประจำปี “โอซาเมะ โนะ ไดชิ” พร้อมกับเหล่าผู้เข้าพักของเอมเบลมโฮสเทลนิชิอาไรเพื่อสัมผัสวัฒนธรรมญี่ปุ่นอันลึกซึ้งกันค่ะ
ไฮไลท์ประจำเขตอาดาจิในโตเกียวที่ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวงเลยก็คือ Nishiarai Daishi (นิชิอาไรไดชิ) ที่มีประวัติความเป็นมาอันยาวนานแห่งนี้นั่นเอง โดยเป็นวัดแห่ง ดอกไม้ ขึ้นชื่อที่สามารถเพลิดเพลินกับดอกไม้ทั้ง 4 ฤดูกาลได้ตลอดทั้งปีภายในพื้นที่อันแสนกว้างใหญ่ เราไม่เพียงแค่สามารถเดินเล่นภายในวัดได้เท่านั้น แต่ยังขอแนะนำงานอีเว้นท์และงานเทศกาลของวัดอย่าง “เอ็นนิจิ (※1)” ที่จัดขึ้นในวันที่ 21 เป็นประจำทุกเดือนอีกด้วย โดยภายในงานมักจะคึกคักไปด้วยผู้คนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวต่างถิ่นมากมายที่เดินทางมาเพื่อสัมผัสงานอีเว้นท์สุดคึกคักโดยเฉพาะ
ในครั้งนี้เราก็ได้เข้าร่วม Osame no Daishi (โอซาเมะ โนะ ไดชิ) งานเทศกาลใหญ่ประจำเดือนของวัดพร้อมกับเหล่านักท่องเที่ยวชาวต่างชาติกันมาด้วยล่ะค่ะ ^^ เดี๋ยวเรามาชมภาพบรรยากาศกันหน่อยดีกว่า~
และไกด์ประจำทริปของเราในครั้งนี้ก็คือพนักงานของ Emblem Hostel Nishiarai (เอมเบลมโฮสเทลนิชิอาไร) ที่ตั้งอยู่ในนิชิอาไรนั่นเอง
※1:เอ็นนิจิ……งานเทศกาลของวัดที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกเดือน โดยในวันงานจะเต็มไปด้วยร้านแผงลอยมากมาย ทำให้มีผู้คนแวะเวียนมากราบไหว้สักการะที่วัดมากกว่าปกติ
“นิชิอาไรไดชิ” คืออะไร?
บรรยากาศงานโยซาโคอิเฟสต้าที่จัดขึ้นภายในวัดนิชิอาไรไดชิในฤดูร้อนปี 2016
นิชิอาไรไดชิ หรือ “โซจิจิ” คือ วัดที่พระโคโบไดชิ (※2) สร้างขึ้นระหว่างการเดินทางแสวงบุญใน ภูมิภาคคันโต โดยมีชื่อเสียงในฐานะที่เป็น “ยาคุโยเคะไดชิ” ซึ่งช่วยปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย
ในวันที่ 21 ของทุกเดือนถือเป็นวันงานเทศกาลแห่งโคโบไดชิ ซึ่งจะมีการจัดงานเทศกาลขึ้นภายในวัด เนื่องจากในวันนี้จะมีผู้คนเดินทางมาสักการะศาลเจ้ามากกว่าปกติและภายในบริเวณวัดจะเต็มไปด้วยร้านจำหน่ายของขึ้นชื่อประจำนิชิอาไรมากมาย จึงเหมาะกับนักท่องเที่ยวที่อยากรู้เรื่องราวเกี่ยวกับนิชิอาไรให้มากขึ้นสุดๆ
งานอีเว้นท์ประจำวัดวันสุดท้ายของปี (21 ธันวาคม) เรียกว่า “โอซาเมะ โนะ ไดชิ” ซึ่งเป็นวันที่คึกคักที่สุดในรอบปีเลยก็ว่าได้
※2:โคโบ ไดชิ (พระคูไค : ปี 774 - 835) ……ผู้ก่อตั้งนิกายชินงอนซึ่งมีศาสนิกชนผู้ศรัทธามากมายในปัจจุบัน โดยเป็นพระสงฆ์ผู้ทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจเพื่อเผยแผ่พุทธศาสนาไปอย่างกว้างขวาง
พาแขกชาวต่างชาติเข้าร่วมงานโอซาเมะ โนะ ไดชิ!
เอาล่ะ งั้นเรามาชมบรรยากาศภายในงานกันเลยดีกว่าค่ะ ^^
จากภาพเป็นนักท่องเที่ยวแขกของเอมเบลมโฮสเทลที่ต้องการเข้าร่วมงานโอซาเมะ โนะ ไดชิ ลืมบอกว่างานอีเว้นท์นี้ไม่จำเป็นต้องเป็นลูกค้าของโฮสเทลเท่านั้น เพราะว่าบุคคลทั่วไปก็สามารถเข้าร่วมได้จ้า...
ผู้เข้าร่วมงานมารวมตัวกันที่ล็อบบี้ของโฮสเทลกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา ก่อนอื่นต้องดูแผนที่กันก่อนเพื่อเช็คตำแหน่งที่ตั้งของวัดนิชิอาไรไดชิซึ่งเป็นจุดมุ่งหมายของเราในครั้งนี้ เนื่องจากขากลับจะปล่อยอิสระให้กลับกันเอง นักท่องเที่ยวทุกคนจึงต่างพยายามจดจำเส้นทางกันอย่างขะมักเขม้นเลยทีเดียว
เมื่อเช็คเส้นทางเรียบร้อยแล้วก็เริ่มออกเดินทางได้!
เมื่อเดินไปสักพักประมาณ 15 นาที เราก็มาถึง “โชเอไค” ย่านร้านค้าที่ตั้งอยู่เลียบถนนที่เชื่อมไปยังวัดนิชิอาไรไดชิแล้วล่ะค่ะ ทุกคนดูสนอกสนใจในบรรยากาศของ “Asakaya (อาซาคายะ)” ร้านจำหน่าย เซมเบ้ ซึ่งเป็นของขึ้นชื่อประจำท้องถิ่นจึงต่างแวะซื้อติดไม้ติดมือกันมาคนละชิ้นสองชิ้น ถึงแม้จะเรียกรวมๆว่า “เซมเบ้” แต่ความจริงแล้วทางร้านจำหน่ายเซมเบ้มากมายหลากหลายแบบเชียวล่ะค่ะ เราจึงสามารถสัมผัสกับวัฒนธรรมอาหารการกินเฉพาะของนิชิอาไรได้ที่นี่เลย
ต่อจากร้านเซมเบ้ก็มาถึงร้าน “Mameya (มาเมยะ)” กันบ้าง ที่นี่จำหน่ายถั่วมากมายหลายประเภทซึ่งมีรสชาติแตกต่างกันออกไป บอกเลยว่าครั้งนี้ไม่ได้มีให้ชมเท่านั้น แต่ยังชิมได้ด้วยนะเออ...
ที่นี่มีจำหน่ายถั่วคั่วด้วย คุณหลุยส์จากประเทศเวเนซุเอลาถึงกับรีบซื้อถั่วแสนอร่อยกลับไปเป็นของฝากแทบไม่ทัน โดยกล่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า “ผมได้มา 10 กล่องในราคา 500 เยนเท่านั้นเอง!”
ในครั้งนี้เราก็ได้แวะไปดู ตุ๊กตาดารุมะ ที่ร้านจำหน่ายของฝากกันมาด้วย โดยมีพนักงานของเอมเบลมโฮสเทลคอยอธิบายเกี่ยวกับ “ดารุมะ” ให้ฟังอย่างละเอียด
ร้านค้าของโชเอไคส่วนใหญ่เปิดให้บรรดาผู้ที่สัญจรผ่านไป-มาสามารถสอดส่องเข้ามาดูบรรยากาศการทำงานภายในร้านได้อย่างอิสระ เช่น ร้านจำหน่ายเซมเบ้นั้นเราสามารถชมบรรยากาศการย่างเซมเบ้แบบนี้ได้จากนอกร้านเลย
บรรดาแขกชาวต่างชาติถึงกับประทับใจในฝีมือของคุณลุง-คุณป้ากันทุกคนเลยทีเดียว
นอกจากนี้ ที่นี่ก็ยังเต็มไปด้วยสินค้าแปลกใหม่มากมายอีกต่าหาก ทำให้เราแทบไม่ได้เดินต่อกันซะทีเพราะว่ามัวแต่สนใจร้านค้าข้างทางอยู่นี่แหละ 555+ จึงถือว่าเราได้สัมผัสบรรยากาศของเมืองนิชิอาไรกันแบบชิลล์ๆฟินสุดๆ
ก่อนถึงโบสถ์หลักเล็กน้อย สายตาก็พลันจับจ้องไปเห็น รูปปั้นจิโซ เกลือ โดยเป็นพระพุทธรูปจิโซสุดแปลกที่ทั้งตัวอาบไปด้วยเกลือ
ตรงนี้ได้ผู้คนท้องถิ่นแสนใจดีมาช่วยอธิบายเกี่ยวกับวิธีการสักการะรูปปั้นจิโซด้วยล่ะค่ะ ชาวบ้านบอกว่าให้หยิบเกลือบริเวณเท้าของรูปปั้นจิโซมาถูที่ตัวรูปปั้นตรงส่วนที่เจ็บป่วยของตัวเอง เนื่องจากเชื่อกันว่าจะช่วยให้ส่วนที่ถูเกลือหายเจ็บป่วยเป็นปลิดทิ้งนั่นเอง คุณหลุยส์ไม่รอช้ารีบทำตามทันที!
ในที่สุดทุกคนก็เดินทางมาถึงด้านหน้าโบสถ์หลักกันซะที! ถึงตรงนี้ก็อาบควันธูปชำระล้างร่างกายให้บริสุทธิ์กันก่อนเลยจ้า...
หลังจากที่ทุกคนได้รับฟังวิธีการกราบไหว้สักการะวัดกันเรียบร้อยแล้วต่างก็ไหว้พระผู้คุ้มครองประจำวัดที่โบสถ์หลักกันอย่างพร้อมเพรียง
อุตส่าห์เดินทางมาถึงวัดนิชิอาไรไดชิกันทั้งทีก็ต้องลองเสี่ยง เซียมซี กันซักหน่อย คุณราเชลชาวออสเตรเลียเสี่ยงเซียมซีได้ “ไดคิจิ (โชคดีสุดๆ)” ด้วยล่ะค่ะ โอ้โห โชคดีมาก!
คุณราเชลบอกว่า “ฉันจะเก็บไว้เป็นของที่ระลึกที่ได้มาวัดนิชิอาไรไดชิแห่งนี้ค่ะ”
หลังจากไหว้พระกันเสร็จเรียบร้อยแล้วต่างก็แวะชมร้านแผงลอยเพื่อชิมอาหารสุดแปลกและสัมผัสบรรยากาศของงานโอซาเมะ โนะ ไดชิ
สุดท้ายก็ไม่พลาดที่จะถ่ายรูปที่ระลึกร่วมกัน
ในครั้งนี้เราได้ค้นพบวัฒนธรรมญี่ปุ่นและประสบการณ์ใหม่ๆในนิชิอาไรกันมากมาย รอยยิ้มของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติช่วยถ่ายทอดความสนุกสนานของงานวัดและวัดนิชิอาไรไดชิออกมาได้เป็นอย่างดี
บทส่งท้าย
เป็นยังไงกันบ้างเอ่ย? สำหรับใครที่วางแผนเดินทางมาเที่ยวเขตอาดาจิก็อย่าลืมแวะมาที่วัดนิชิอาไรไดชิแห่งนี้กันด้วยนะคะ ^^ โดยเฉพาะวันจัดงานอีเว้นท์ประจำเดือนของวัดเป็นอะไรที่ทั้งสนุกสนานและคึกคักกันอย่างแน่นอน
ถ้าเกิดใครอยากมาเที่ยวงานอีเว้นท์ประจำวัดนิชิอาไรไดชิกับเพื่อนชาวต่างชาติสามารถติดต่อไปยัง Emblem Hostel Nishiarai (เอมเบลมโฮสเทลนิชิอาไร) ได้เลยจ้า...
อ่านเพิ่มเติมได้ที่:
สัมผัสวัฒนธรรม ญป กับคนท้องถิ่น!! ได้ที่「Emblem hostel Nishiarai」
ตะลุย「คาวาซากิไดชิ」 วัดที่มีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมถึง3ล้านคน ภายใน 3 วันที่คาวาซากิกัน!
ตลาดโคโบชิ•เกียวโต—มาหาของดีที่ซ่อนไว้ในตลาดโคโบที่เปิดเฉพาะวันที่ 21 กันเถอะ!
เป็นบรรณาธิการที่ MATCHA ตั้งแต่ปี 2016 ความหลงใหลของฉันในละครโนะและศิลปะการแสดงของประเทศญี่ปุ่นคือสิ่งที่นำฉันมาที่นี่ เรื่องทุกอย่างที่ฉันเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่นทุกวันคือสิ่งที่ทำให้ฉันอยู่ที่นี่
ฉันเรียนรู้การจัดดอกไม้อิเคบานะ (Ikenobo School) และพิธีสามัคคี (Omote Senke) ตั้งแต่ปี 2012 งานเขียนเรื่องสั้นและบทวิจารณ์ละครที่ฉันเขียนนอกเวลาทำงานสามารถอ่านได้ในเว็บไซต์วรรณกรรมรวม "บังกุ คิงโย"
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง