【รอบนอกโตเกียว】นั่งรถไฟสไตล์ย้อนยุคเที่ยวรอบจ.ชิบะ!
เพื่อนๆรู้มั้ยคะว่าใกล้สนามบินนาริตะเต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจของจ.ชิบะเพียบ! ในครั้งนี้เราจะพาทุกคนนั่งรถไฟขึ้นชื่อของชิบะทั้ง 3 สายประกอบด้วยโคมินาโตะ อิซุมิ และโจชิสัมผัสบรรยากาศดั้งเดิมแตกต่างจากโตเกียวกันค่ะ!
นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวโตเกียวส่วนใหญ่เมื่อนั่งเครื่องบินมาถึงญี่ปุ่นกันแล้วก็น่าจะรีบมุ่งหน้าไปช้อปปิ้งตามย่านร้านค้ากันก่อน แต่เพื่อนๆรู้มั้ยคะว่าบริเวณใกล้กับสนามบินนาริตะเต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวอันทรงเสน่ห์ของจ.ชิบะเพียบ! ในครั้งนี้เราจะพาเพื่อนๆนั่งรถไฟขึ้นชื่อของจ.ชิบะสัมผัสบรรยากาศดั้งเดิมแตกต่างจากโตเกียวกันค่ะ
Kominato Railway (รถไฟโคมินาโตะ)
ข้อมูลวิธีการเดินทางและตำแหน่งที่ตั้ง
เมืองอิจิฮาระในจ.ชิบะที่มี Kominato Railway (รถไฟโคมินาโตะ) วิ่งให้บริการแห่งนี้ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของจ.ชิบะซึ่งขึ้นชื่อเรื่องทัศนียภาพอันงดงาม ในฤดูใบไม้ผลิจะบานสะพรั่งไปด้วยดอกไม้มากมาย เช่น ดอกนะโนะฮานะ ซึ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวมาเยือนกันเป็นจำนวนมาก
ส่วนวิธีการเดินทางก็ง่ายนิดเดียว เพียงแค่นั่งรถไฟมาจากสนามบินนาริตะโดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งก็ถึงแล้ว ก่อนอื่นก็นั่งรถไฟไปยัง Chiba Station เพื่อเปลี่ยนขบวนเป็น JR Uchibō Line มาลงที่สถานีต้นทางของรถไฟโคมินาโตะอย่าง Goi Station
โดยขอแนะนำให้ซื้อตั๋วฟรีพาสนั่งรถไฟไม่อั้นตลอด 1 วันเลยจ้า... ราคาผู้ใหญ่ 1,800 เยน (เด็ก 900 เยน) / วัน เราสามารถลงรถไฟระหว่างทางเพื่อดื่มด่ำกับธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ห่างไกลจากใจกลางโตเกียวได้อย่างจุใจ
แนะนำรถไฟ
“รถไฟโคมินาโตะ” เป็นสายรถไฟขนาดเล็กที่ประกอบด้วยสถานีทั้งหมด 18 แห่งตลอดเส้นทางรถไฟยาว 39.1 กิโลเมตรซึ่งเริ่มดำเนินกิจการมาตั้งแต่ในปี 1925 โดยมีเอกลักษณ์อยู่ที่เป็นขบวนรถไฟสไตล์ย้อนยุคที่ไม่พึ่งพาพลังงานไฟฟ้าเลย สถานีปลายทางอย่าง Kazusa-Nakano Station เชื่อมต่อกับสถานีต้นทางของ รถไฟอิซุมิ ภายในขบวนรถไฟซึ่งอบอวลไปด้วยบรรยากาศสไตล์ย้อนยุคมักจะเนืองแน่นไปด้วยผู้โดยสารท้องถิ่นอยู่เป็นประจำ ทำให้เราได้เห็นบรรยากาศการขึ้น-ลงรถไฟของเหล่านักเรียนและเสียงหัวเราะอย่างร่าเริงกึกก้องไปทั่วทั้งขบวน นอกจากนี้ ในวันหยุดยังมีนักท่องเที่ยวและนักเดินป่ามาใช้บริการกันมากมายอีกด้วย
แหล่งท่องเที่ยวแนะนำเลียบทางรถไฟ
เพื่อนๆเตรียมพร้อมขึ้นรถไฟกันแล้วรึยังเอ่ย? ก่อนอื่นเรามาเริ่มจาก Kazusa-Tsurumai Station กันดีกว่า! ที่นี่เป็นสถานีรถไฟซึ่งไม่มีเจ้าหน้าที่คอยดูแลก็จริง แต่บอกเลยว่าอย่าดูถูกนะจ๊ะ... เพราะว่าที่นี่ได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 100 สถานีรถไฟประจำเขต คันโต เลยทีเดียว โดยถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำโฆษณาและละครมากมาย ไม่ว่าจะเป็น MV ของวงอาราชิหรือโฆษณาป๊อกกี้ของคาสุนาริ นิโนะมิยะก็ถ่ายทำกันที่นี่แหละ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้มันกลายเป็นสวรรค์ของเหล่าแฟนๆไปโดยปริยาย
ของเก่าที่เคยใช้งานจริงในสมัยก่อนที่ตั้งอยู่ภายในห้องเจ้าหน้าที่ของสถานีรถไฟไร้พนักงานประจำแห่งนี้ยังคงอยู่ในสภาพเดิมไม่เปลี่ยนแปลงให้ความรู้สึกถึงบรรยากาศย้อนยุคไปทั่วทั้งอาคาร
ส่วนสถานีถัดไปก็คือ Kazusa-Kubo Station นั่นเอง ที่นี่เป็นสถานีรถไฟสุดโหวงเหวงซึ่งในวันธรรมดามีผู้คนมาใช้บริการประมาณ 20 คน / วันเท่านั้นก็จริง แต่เมื่อย่างเข้าสู่ช่วงใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วงจะกลับกลายเป็นว่าเต็มไปด้วยเหล่าผู้ชื่นชอบการถ่ายรูปมากมายเชียวล่ะค่ะ ด้านข้างสถานีเป็นที่ตั้งของต้นแปะก๊วยสูงกว่า 20 เมตร ทำให้บริเวณโดยรอบกลายเป็นพรมสีเหลืองทองแสนงดงามของใบต้นแปะก๊วยซึ่งโปรยปรายลงมาด้วยแรงลม
ส่วนบริเวณใกล้กับ Takataki Station เป็นที่ตั้งของ Takataki Lake (ทะเลสาบทาคาทากิ) ในฤดูใบไม้ผลิ เราสามารถชมซากุระที่บานสะพรั่งเต็มต้นตรงริมทะเลสาบแห่งนี้ได้เลย
Ichiharakohan Museum (พิพิธภัณฑ์อิจิฮาระโคฮัง) ที่ตั้งอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟเป็นแหล่งเก็บสะสมผลงานศิลปะสมัยใหม่มากมาย แถมยังมีการจัดงานอีเว้นท์ให้เพลิดเพลินกับทั้งเด็กและผู้ใหญ่อีกต่างหาก
ภายใน Itabu Station เป็นที่ตั้งของ “ห้องน้ำ” สุดแปลกที่ไม่สามารถพบเห็นได้จากที่ไหนในโลกอย่างแน่นอน! โดยเป็นห้องน้ำหญิงที่ใหญ่ที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ ห้องน้ำโปร่งใสติดผ้าม่านกว้างกว่า 200 ตารางเมตรแห่งนี้ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกมากฝีมืออย่างอาจารย์โซซุเกะ ฟูจิโมโตะ ทำให้เราสามารถเพลิดเพลินกับธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ระหว่างการทำภารกิจส่วนตัวได้อย่างชิลล์ๆ บอกเลยว่าประสบการณ์สุดยอดแบบนี้หาจากที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว!
เมื่อลงรถไฟจาก Yōrōkeikoku Station มาก็จะพบกับน้องแมวสุดน่ารักออกมารอต้อนรับเหล่านักท่องเที่ยวอยู่แล้ว โดยเราสามารถถ่ายรูปไปอวดเพื่อนๆได้อย่างอิสระ แต่ระวังเอาไว้นิดนึงว่าอย่าใช้แฟลชทำให้น้องแมวตกใจกันนะจ๊ะ...
บริเวณใกล้กับสถานีรถไฟเป็นที่ตั้งของออนเซ็นเท้าฟรี (จำกัดเฉพาะผู้ที่มีตั๋วโดยสารรถไฟหรือตั๋วลานจอดรถเท่านั้น) ด้วยนะเออ... จึงเหมาะกับการมานั่งแช่เท้าผ่อนคลายให้อุ่นๆในช่วงฤดูหนาวและฤดูใบไม้ผลิเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากเราสามารถแช่เท้าพลางชมขบวนรถไฟแล่นเข้า-ออกสถานีได้ด้วย จึงรับรองได้เลยว่าแฮปปี้กันอย่างแน่นอน!
ที่อยู่
1-1-2 Goi Chuohigashi, Ichihara, Chiba
บริการwifi
ไม่ได้
ประเภทของบัตรเครดิต
ไม่ได้
สถานีใกล้ที่สุด
สถานีโกอิ (Goi) รถไฟโคะมินาโตะ (Kominato Railway)
วีธีการเดินทาง
นั่งรถไฟ JR สายอุจิโบ (Uchibo) จากสถานีชิบะ (Chiba) ประมาณ 25 นาที
เบอร์โทรศัพท์
0436-21-6773
HPทางการ
http://www.kominato.co.jp/
Isumi Railway (รถไฟอิซุมิ)
ข้อมูลวิธีการเดินทางและตำแหน่งที่ตั้ง
Isumi Railway (รถไฟอิซุมิ) เชื่อมต่อโดยตรงกับสถานีปลายทางของรถไฟโคมินาโตะอย่าง Kazusa-Nakano Station ส่วนเส้นทางรถไฟทอดยาวไปจนถึงฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกในจ.ชิบะ ถ้าเกิดใครต้องการเดินทางมาจากสนามบินนาริตะก็ง่ายนิดเดียวเพียงแค่นั่งรถไฟไปยัง Chiba Station เพื่อเปลี่ยนขบวนเป็น JR Sotobō Line มาลงที่สถานีต้นทางของรถไฟอิซุมิอย่าง Ōhara Station ก็เรียบร้อย
โดยขอแนะนำให้ซื้อตั๋วฟรีพาสนั่งรถไฟไม่อั้นตลอด 1 วันจะคุ้มสุดๆ ราคาผู้ใหญ่ 1,000 เยน (เด็ก 500 เยน) หรือในกรณีที่ซื้อตั๋วโดยสารที่ระลึกข้ามคาบสมุทรโบโซก็จะสามารถตระเวนเที่ยวตั้งแต่ Ōhara Station ไปจนถึง Goi Station ได้อย่างครอบคลุมเต็มอิ่มกันเลยทีเดียว ราคาผู้ใหญ่ 1,700 เยน (เด็ก 850 เยน)
แนะนำรถไฟ
สายรถไฟอิซุมิประกอบด้วยสถานีรถไฟทั้งหมด 14 แห่งตลอดระยะทางยาว 26.8 กิโลเมตรเท่านั้น ทัศนียภาพของทางเดินระหว่างไร่นาซึ่งทอดยาวตัดกันเลียบทางรถไฟเป็นอะไรที่งดงามมากจนถึงขนาดว่ามีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนกันมากมายเลยทีเดียว
รถไฟแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆประกอบด้วย “สายคิฮะ” สไตล์ย้อนยุคโชวะและ “สายอิซุมิ” ดีไซน์มูมิน ภายในขบวนรถไฟประดับตกแต่งอย่างเรียบง่ายให้ความรู้สึกราวกับย้อนกลับไปในสมัยก่อน ตอนที่เดินทางมาเก็บข้อมูลกันในครั้งนี้ก็มีเจ้าหน้าที่คอยเข้ามาสอบถามอย่างใจดีด้วยว่า “ได้รูปสวยๆบ้างรึยังครับ?” “ทริปครั้งนี้สนุกมั้ยครับ?” จึงบอกเลยว่ารู้สึกถึงความอบอุ่นซึ่งไม่สามารถสัมผัสได้จากรถไฟทั่วไปจริงๆค่ะ
นอกจากนี้ รถไฟอิซุมิก็ยังให้บริการรถไฟสาย “Sweets & Wine” และ “Japanese Sweets” ซึ่งเสิร์ฟขนมหวาน, ไวน์ และขนมญี่ปุ่นภายในขบวนรถไฟอีกด้วย เนื่องจากวิ่งให้บริการเป็นบางวันเท่านั้น สำหรับใครที่สนใจจึงจำเป็นต้องสอบถามล่วงหน้าโดยตรงก่อนเสมอ
แหล่งท่องเที่ยวแนะนำเลียบทางรถไฟ
Kuniyoshi Station เป็นหนึ่งในสถานีรถไฟที่ได้รับความนิยมมากที่สุดเลยก็ว่าได้ เนื่องจากบริเวณใกล้กับสถานีรถไฟเป็นที่ตั้งของทุ่งหญ้าที่ซ่อนของเหล่ามูมิน ที่นี่จึงกลายเป็นจุดถ่ายรูปไปโดยปริยาย
ส่วน Ōtaki Station เป็นสถานีรถไฟที่มีเจ้าหน้าที่ประจำอยู่แห่งเดียวของสายรถไฟนี้ บริเวณโดยรอบเรียกกันว่า “เอโดะน้อยแห่งโบโซ” โดยเริ่มเป็นที่จับตามองขึ้นมาเรื่อยๆหลังจากละครไทกะเรื่อง “Sanada Maru (ซานาดะมารุ)” ออกอากาศ ถ้าถามว่าทำไมก็เพราะว่า “Ōtaki Castle (ปราสาทโอตากิ)” ซึ่งสร้างโดย “ฮอนดะ ทาดาคัตสึ“ โชกุน 1 ใน 4 ขุนพลผู้เก่งกล้าแห่งตระกูลโทกุกาวะตั้งอยู่ที่นี่นั่นเอง โดยเราสามารถมองเห็นปราสาทโอตากิตั้งสูงตระหง่ายอยู่ไกลๆได้จากประตูหน้าของโรงเรียนประถมโอตากิเลย
เมื่อย่างเข้าสู่ช่วงต้นเดือนมิถุนายนของทุกปี บริเวณโดยรอบ Koyamatsu Station จะบานสะพรั่งไปด้วยดอกไฮเดรนเยียสวยงามมาก บรรดาผู้ชื่นชอบการถ่ายรูปจึงนิยมมายืนคอยรถไฟที่นี่เพื่อเก็บภาพดอกไฮเดรนเยียคู่กับขบวนรถไฟในฤดูกาลนี้กันเป็นจำนวนมาก
ที่อยู่
Ohara, Isumi, Chiba
บริการwifi
ไม่ได้
ประเภทของบัตรเครดิต
ไม่ได้
สถานีใกล้ที่สุด
สถานีโอฮาระ (Ohara Station) รถไฟอิซุมิ (Isumi Railway)
วีธีการเดินทาง
นั่งรถไฟ JR สายโซโตะโบ (Sotobo) จากสถานีชิบะ (Chiba) ประมาณ 1 ชั่วโมง 10 นาที
เบอร์โทรศัพท์
0470-82-2161
HPทางการ
https://www.isumirail.co.jp/
Chōshi Electric Railway (รถไฟโจชิ)
ข้อมูลวิธีการเดินทางและตำแหน่งที่ตั้ง
Chōshi Electric Railway (รถไฟโจชิ) คือ สายรถไฟที่วิ่งให้บริการภายในเขตโฮคุโซทางฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของจ.ชิบะ สำหรับผู้ที่ต้องการใช้บริการจำเป็นต้องเดินทางมายังโจชิก่อนโดยการนั่งรถไฟมาถึง Narita Station เพื่อเปลี่ยนขบวนเป็น JR Narita Line มาลงที่ Chōshi Station ระยะเวลาในการเดินทางรวมไม่เกิน 2 ชั่วโมง
โดยขอแนะนำให้ซื้อตั๋วนั่งรถไฟไม่อั้นตลอด 1 วันอีกเช่นเคย ราคาผู้ใหญ่ 700 เยน (เด็ก 350 เยน) / วัน บอกเลยว่าตั๋วมาพร้อมกับคูปองสำหรับแหล่งท่องเที่ยวเลียบทางรถไฟ, เครื่องรางนำโชคประจำท้องถิ่น และนูเระเซมเบ้ด้วยนะเออ...
แนะนำรถไฟ
สายรถไฟโจชิเป็นบริษัทรถไฟที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1923 โดยประกอบด้วยสถานีรถไฟขนาดเล็ก 10 แห่งตลอดระยะทาง 6.4 กิโลเมตร ถึงแม้ว่าจะเคยประสบปัญหาทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรงจนทำให้มีจำนวนผู้โดยสารลดลงมากก็ตาม แต่ก็ยังคงดำเนินกิจการต่อมาได้เรื่อยๆจนถึงทุกวันนี้ด้วยความช่วยเหลือสนับสนุนของผู้คนมากมายและของขึ้นชื่ออย่าง “นูเระเซมเบ้” ยอดนิยม
แหล่งท่องเที่ยวแนะนำเลียบทางรถไฟ
เมื่อเดินทางมาถึง Kannon Station กันแล้วก็จะพบกับอาคารสถานีรถไฟอันงดงามควรค่าแก่การชมให้ได้สักครั้ง โดยเป็นสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรปของประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ทำให้รู้สึกราวกับว่าอยู่ในยุโรปเลยทีเดียว ยังไงก็อย่าลืมถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกกันด้วยเนอะ
เมื่อเดินจากสถานีรถไฟต่อมาประมาณ 12 นาทีก็จะถึง “ท่าเรือประมงโจชิ” ขึ้นชื่อเรื่องปริมาณการจับปลาเป็นอันดับ 1 ในญี่ปุ่นแล้วล่ะค่ะ เราไม่ได้เพียงแค่สามารถชมบรรยากาศของท่าเรือประมงได้เท่านั้น แต่ยังสามารถดื่มด่ำกับอาหารทะเลสดใหม่อย่างข้าวหน้าอาหารทะเลได้ด้วย
สถานีถัดไปอย่าง Inuboh Station เป็นที่ตั้งของ Inubōsaki Lighthouse (ประภาคารอินุโบซากิ) ซึ่งได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 100 ประภาคารของโลก โดยเป็นประภาคารอิฐที่ได้รับการออกแบบโดยชาวอังกฤษ ถึงแม้เวลาจะล่วงเลยมามากกว่า 100 ปีแล้ว แต่ที่นี่ก็ยังคงตั้งเด่นเป็นสง่าคุ้มครองความปลอดภัยของเรืออยู่เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ค่าเข้าชม 200 เยน
ในที่สุดก็มาถึงสถานีปลายทางอย่าง Tokawa Station หรือเรียกกันอีกชื่อหนึ่งว่า “สถานีอาริกาโตะ (คำแสดงความขอบคุณในภาษาญี่ปุ่น)” กันแล้ว!
ภายในห้องพักผู้โดยสารมีม้านั่งไม้ยาวตั้งเอาไว้ให้บริการ เบาะรองนั่งบนเก้าอี้ล้วนเป็นของทำมือของเหล่าชาวบ้านท้องถิ่นทั้งนั้น แถมบนกำแพงยังมีการแปะข้อมูลของท้องถิ่นเอาไว้ด้วย ทำให้ที่นี่เป็นทั้งสถานีรถไฟและแหล่งพบปะพูดคุยกันของชาวบ้านในแห่งเดียวกัน
นอกจากนี้ บริเวณใกล้เคียงก็ยังเป็นที่ตั้งของ “Showa Nostalgia Museum (พิพิธภัณฑ์โชวะนอสทัลเจีย)” ภายใต้การบริหารของ Keiyo Towa Pharmaceutical อีกด้วย ภายในขบวนรถไฟจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันมากมายใน โชวะ ทำให้เราหวนนึกถึงความงดงามในสมัยก่อนขึ้นมาเลยทีเดียว ค่าเข้าชม 150 เยน
บทส่งท้าย
เป็นยังไงกันบ้างกับรถไฟทั้ง 3 สายในจ.ชิบะ...เพื่อนๆชอบรถไฟสายไหนกันบ้างเอ่ย? ตอนที่เดินทางมาเที่ยวญี่ปุ่นในครั้งต่อไปก็อย่าลืมแวะมาเปลี่ยนบรรยากาศสัมผัสเสน่ห์แห่งธรรมชาติอันยิ่งใหญ่และดื่มด่ำกับอาหารแสนอร่อยท่ามกลางบรรยากาศอันแสนอบอุ่นในจ.ชิบะกันดูนะคะ
Sponsored by สมาคมส่งเสริมสนามบินนานาชาตินาริตะ
บัญชีส่งเสริมการขายของ MATCHA สำหรับการโฆษณาองค์กรและรัฐบาลท้องถิ่น เรามุ่งมั่นที่จะให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านของเราอย่างสนุกสนาน
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง