Start planning your trip

จังหวัดชิบะอยู่ติดกับโตเกียว เต็มไปด้วยสถานที่ที่น่าสนใจทั้งทะเล ธรรมชาติ สวนสนุกยอดนิยม แหล่งช็อปปิ้ง วิวที่สวยงามจนยากที่จะลืม เที่ยวทั้งหมดนี้ในทริป 1 วันจากโตเกียวได้! เรารวมข้อมูลสถานที่แนะนำ วิธีการเดินทางและอื่นๆ ไว้ที่นี่แล้ว!
photo by Pixta (รูปขวาบน, ด้านล่าง)
จังหวัดชิบะมีสนามบินนาริตะคอยต้อนรับนักท่องเที่ยวมากมายจากหลากหลายประเทศ สามารถเดินทางจากสถานีโตเกียว (Tokyo Station) โดยรถไฟด่วนพิเศษหรือชัทเทิลบัสเพียง 1 ชั่วโมง จึงเป็นสถานที่ที่เหมาะสุดๆ กับวันเดย์ทริป
จังหวัดชิบะยังเป็นที่รู้จักในฐานะจังหวัดที่มีโตเกียวดิสนีย์รีสอร์ตซึ่งมีนักท่องเที่ยวคับคั่งตลอดปีและเอาท์เล็ทมอลล์ขนาดใหญ่ ถ้าเดินทางไปอีกนิดก็จะพบกับธรรมชาติที่สวยงามและอุดมสมบูรณ์ เช่น แนวชายฝั่งทะเลกว้างใหญ่และป่าเขาที่ช่วยเยียวยาจิตใจ เป็นต้น
บทความนี้ขอแนะนำจังหวัดชิบะโดยแบ่งเป็น 5 บริเวณอย่างบริเวณรอบสนามบินนาริตะซึ่งมีวัด ศาลเจ้าชื่อดัง และบ้านเรือนที่มีกลิ่นอายดั้งเดิม หรือบริเวณหุบเขาโยโร (Yorokeikoku)ที่มีวิวธรรมชาติสวยงามเหมาะกับการถ่ายรูป
มารู้จักจุดเด่นของแต่ละพื้นที่เพื่อนำไปใช้ในการวางแผนท่องเที่ยวกัน!
จังหวัดชิบะอยู่ทางทิศตะวันออกของโตเกียว เป็นคาบสมุทรยื่นออกไปในมหาสมุทรแปซิฟิก มีพื้นที่ประมาณ 5,000 ตารางกิโลเมตร ซึ่งใหญ่กว่าโตเกียว 2 เท่า ดังนั้นขอแนะนำให้เช่ารถเพื่อข้ามพื้นที่และเดินทางรอบชิบะจะดีกว่า
วิธีเดินทางจากโตเกียวมีทั้งรถไฟและรถบัสด่วนหลากหลายเส้นทาง ยังสามารถไปเมืองยอดนิยมอย่างนาริตะ (Narita) และ คิซาราซุ (Kisarazu) ใช้เวลาเดินทางเที่ยวเดียวประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งโดยรถไฟ
จาก "เมนูอร่อยสำหรับสายมังสวิรัติและวีแกน ที่โตเกียวดิสนีย์รีสอร์ต"
โตเกียวดิสนีย์แลนด์และโตเกียวดิสนีย์ซีที่ผู้คนทั่วโลกหลากหลายช่วงอายุหลงรัก ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาทีจากสถานีโตเกียว (Tokyo) สาย JR เคโย (JR Keiyo Line) ลงสถานีไมฮามะ (Maihama) ที่อยู่ใกล้ที่สุด เมื่อออกจากสถานีก็สัมผัสได้ถึงโลกของดิสนีย์ทันที
รอบๆ บริเวณมีโรงแรมเยอะเลยจึงเหมาะที่จะพักเพื่อเริ่มต้นทริป ลองวางแพลนช่วงครึ่งแรกไปเที่ยวโตเกียวดิสนีย์รีสอร์ต และครึ่งหลังไปเที่ยวในจังหวัดชิบะก็น่าสนใจดีนะ
สิ่งน่าสนใจในบริเวณโตเกียวดิสนีย์รีสอร์ต
รูปซ้าย : Picture courtesy of Inae, รูปขวา : photo by Pixta
บริเวณรอบสนามบินนาริตะถือว่าเป็นประตูเข้าสู่ประเทศญี่ปุ่นที่มีนักเดินทางมาเยือนร่วม 40 ล้านคนต่อปี ถึงจะมีอิมเมจความเป็นนานาชาติสูงแต่ก็ยังมีชื่อว่าเป็นย่านที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานเช่นกัน
ย่านร้านค้าคึกคักรอบวัดและศาลเจ้าต่างๆ อย่างวัดนาริตาซังชินโชจิที่ผู้คนนับถือกันมาตั้งแต่อดีต หรือศาลเจ้าคาโทริจิงกู ปัจจุบันก็ยังคงกลิ่นอายของสมัยเอโดะอยู่
สิ่งน่าสนใจในบริเวณสนามบินนาริตะ
photo by Pixta
เมืองคิซาราซุอยู่ทางตะวันตกของจังหวัดชิบะหันหน้าไปทางอ่าวโตเกียว มีสิ่งน่าสนใจหลากหลายประเภท เช่น เอาท์เล็ทพาร์คยอดนิยม, เขาโนโคกิริ และวิวริมทะเลแปลกตาไม่ซ้ำใคร
เนื่องจากมีทางด่วนโตเกียวเบย์ อควาไลน์ (Tokyo Bay Aqua Line) ที่ตัดข้ามอ่าวโตเกียวเชื่อมเมืองคิซาราซุกับเมืองคาวาซากิของจังหวัดคานากาวะ จึงขับรถจากโตเกียวมาได้สะดวกมาก ระหว่างทางมีจุดพักรถ "อุมิโฮตารุ (Umihotaru)" ที่มองเห็นวิวกลางคืนของอ่าวโตเกียวได้สุดลูกหูลูกตา จึงมีผู้คนเดินทางมาที่นี่เพื่อชมวิวช่วงพลบค่ำและเช้าตรู่
สิ่งน่าสนใจในบริเวณเมืองคิซาราซุและเขาโนโคกิริ
รูปซ้ายบน,ขวาล่าง : photo by Pixta, รูปขวาบน : Picture courtesy of TRAYCLE Market&Coffee, ซ้ายล่าง : Picture courtesy of Kamogawa Sea World
หุบเขาโยโรตั้งอยู่ใกล้ใจกลางคาบสมุทรโบโซ (Boso Peninsula) ที่ยื่นไปในทะเล เป็นพื้นที่ที่ยังมีธรรมชาติสวยงามอุดมสมบูรณ์ จากหุบเขาสามารถเดินทางต่อไปที่คาโมะกาวะ เมืองชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกที่นอกจากจะมีอควาเรียมชื่อดังแล้วยังได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติอีกด้วย
ทริปสั้นๆ นี้ใช้เวลาเดินทางจากโตเกียวประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งด้วยรถยนต์ หรือประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่งด้วยรถไฟ ถ้าค่อนข้างมีเวลาขอแนะนำให้นั่งรถไฟไปเพราะจะได้ชมวิวชนบทสวยๆ จากบนรถไฟท้องถิ่นโคมินาโตะ (Kominato Railway)ด้วย!
สิ่งน่าสนใจในบริเวณหุบเขาโยโรและเมืองคาโมะกาวะ
รูปบน : photo by Pixta รูปล่าง : Pictures courtesy of INUBOW TERASU TERRACE
เมืองโชชิมีพื้นที่ยื่นลงไปในมหาสมุทรแปซิฟิก และมีชื่อเสียงว่าเป็นท่าเรือประมงชั้นนำของญี่ปุ่นที่มีปริมาณการจับสัตว์น้ำมาก ลองมาเที่ยวที่นี่พร้อมเพลินเพลินกับหาดทรายสวยๆ ทอดตัวยาวอย่างหาดคุจูคุริกันนะ
เมืองนี้เหมาะมากสำหรับทริปทะเลแบบจัดเต็ม! ไม่ว่าจะมากินอาหารทะเลอร่อยๆ ถูกปาก หรือมาเล่นน้ำและโต้คลื่นในฤดูร้อน เดินทางจากสถานีโตเกียวมาสถานีโชชิด้วยรถไฟใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง ถ้าเป็นรถไฟ JR ด่วนพิเศษขบวนชิโอะไซ (JR Limited Express Shiosai) จะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง หรือเดินทางมาด้วยรถบัสด่วนของเคเซบัส (Keisei Bus) จะมาถึงอย่างสะดวกสบายด้วยระยะเวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
สิ่งน่าสนใจในบริเวณเมืองโชชิและหาดคุจูคุริ
บริเวณโตเกียวดิสนีย์รีสอร์ต |
รูปจาก "ทริปครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ! กิจกรรมสนุกๆ กับลูกๆ ในโตเกียวดิสนีย์แลนด์"
ตั้งแต่เปิดบริการในปี 1983 โตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland) ก็เป็นสวนสนุกที่คนทั่วโลกหลงรัก และในปี 2001 โตเกียวดิสนีย์ซี (Tokyo Disneysea) ก็เปิดให้บริการ สวนสนุกทั้งสองแห่งเรียกรวมกันว่า "โตเกียวดิสนีย์รีสอร์ต"
โรงแรมบางแห่งในบริเวณนี้มีบริการรถรับส่งถึงสวนสนุกแต่ละแห่งของโตเกียวดิสนีย์รีสอร์ตจึงสะดวกมากๆ ถ้าเข้าพักแถวนี้แล้วออกไปเที่ยว สถานีไมฮามะ (Maihama Station) ที่อยู่ใกล้สุดก็มีศูนย์การค้า IKSPIARI ที่เชื่อมตรงกับสถานีเลย จะแวะช็อปปิ้งหรือกินข้าวเที่ยงที่นี่ก็เหมาะนะ
photo by Pixta
สวนฟุนาบาชิแอนเดอร์เซนเป็นสวนจำลองภูมิทัศน์ของประเทศเดนมาร์คมาอยู่ที่เมืองฟุนาบาชิ จังหวัดชิบะ
ที่นี่แบ่งพื้นที่เป็น 5 โซน แต่ละโซนมีบรรยากาศแตกต่างกัน เช่น โซนผาดโผนและโซนธรรมชาติให้ผู้ใช้บริการสนุกได้ตามใจชอบ กังหันลมอันใหญ่และดอกไม้สีสันต่างๆ ที่สร้างขึ้นโดยช่างฝีมือทำให้รู้สึกเหมือนก้าวเข้าสู่โลกของนิทานเลย
สวนขนาดใหญ่แห่งนี้มีเรื่องสนุกให้ทำมากมาย แม้แต่ผู้ใหญ่ก็มีหัวใจกลับมาเป็นเด็ก! จะเล่นเครื่องเล่นผาดโผนขนาดใหญ่ก็ดี หรือปิ้งบาร์บีคิวในสวนที่เต็มไปด้วยธรรมชาติก็ได้ มีเรื่องสนุกให้ทำขนาดนี้แต่ค่าเข้าแค่ 900 เยนเอง คุ้มมาก
Picture courtesy of Ekoin
Picture courtesy of Ekoin
วัดเอโคอิน (Ekoin Temple) สร้างขึ้นในปี 1657 ที่กรุงโตเกียว มีวัดสาขาอยู่ที่เมืองอิจิคาวะ (Ichikawa) จังหวัดชิบะ
เมื่อก้าวผ่านประตูสีแดงเข้มจะเจออาคารวัดที่ทันสมัยรอบล้อมด้วยธรรมชาติสีเขียว ลักษณะพิเศษของวัดแห่งนี้คือในพื้นที่วัดมี Cafe Terrace ที่เปิดให้ผู้มาสักการะทั่วไปได้ใช้บริการ!
เดิมที่อาคารนี้สร้างขึ้นเพื่อใช้ในกิจกรรมทางศาสนา ในช่วงเว้นว่างจากกิจกรรมจะปรับเป็นคาเฟ่ การจิบกาแฟขณะชมสวนที่ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี จะทำให้จิตใจสงบขึ้นได้ กาแฟร้อนคัดพิเศษ (500 เยน) รีฟิลได้ตามสะดวก
คาเฟ่หยุดทุกวันพฤหัส แต่อาจหยุดในวันอื่นๆ ตามกำหนดการของวัด ดังนั้นก่อนไปควรเช็คที่เว็บไซต์ทางการก่อนนะ
บริเวณสนามบินนาริตะ |
photo by Pixta
ในแต่ละปีมีคนมาสักการะร่วม 10 ล้านคน โดยมีคนจากทั่วประเทศญี่ปุ่นเดินทางมาสักการะช่วงปีใหม่ประมาณ 3 ล้านคน
photo by Pixta
สถานีที่อยู่ใกล้วัดนาริตาซังชินโชจิที่สุดคือสถานีนาริตะ (Narita) รถไฟ JR กับรถไฟสายเคเซ (Keisei Line) ถนนจากสถานีนาริตะถึงวัดประมาณ 800 เมตร มีร้านค้าเรียงรายคอยต้อนรับผู้สักการะอย่างคึกคักตั้งแต่อดีต
มีร้านต่างๆ มากมายทั้งร้านเมนูปลาไหล อาหารขึ้นชื่อของนาริตะ, ร้านของที่ระลึกสไตล์ญี่ปุ่นอย่างพวกงานไม้ไผ่, คาเฟ่ขนมญี่ปุ่นอย่างชาเขียวและขนมอันมิตสึ (Anmitsu ขนมหวานใส่ถั่วแดงกวนและผลไม้ราดด้วยน้ำเชื่อม) ทำให้ผู้มาสักการะรู้สึกสนุกสนาน ร้านที่เรียงรายเหล่านี้มีหลายหลังเป็นอาคารสไตล์ญี่ปุ่นโบราณทำให้นึกถึงเรื่องราวในอดีตเหมือนได้ย้อนเวลา มีเสน่ห์น่าหลงใหลมาก
photo by Pixta
รอบโตเกียวมีเมืองที่เรียกกันว่า "โคเอโดะ (Koedo เอโดะน้อย)" อยู่หลายแห่ง เมืองเหล่านี้ยังมีคฤหาสน์ขุนนางเก่าและวิวเมืองโบราณหลงเหลืออยู่ ทำให้รู้สึกถึงกลิ่นอายของสมัยเอโดะ เมืองซาวาระในจังหวัดชิบะก็เป็นหนึ่งในนั้น
ในสมัยเอโดะ เมืองซาวาระ (Sawara) รุ่งเรืองจากการเป็นเมืองแห่งการขนส่งทางน้ำ มีร้านค้าและมาจิยะ (บ้านแบบเก่าที่มีหน้าร้านไว้ขายของ) มากมายเรียงรายอยู่ริมแม่น้ำโอโนะกาวะ (Onogawa) ราวกับทั้งเมืองเป็นเขตอนุรักษ์ทางประวัติศาสตร์ ถ้าได้มาเที่ยวเมืองซาวาระ ขอแนะนำให้ลองนั่งเรือลำน้อยชมวิวสวยๆ ริมแม่น้ำดูนะ ใช้เวลาประมาณ 30 นาที (ค่าคอร์สล่องเรือชมเมือง: 1,300 เยน)
เดือนมิถุนายนช่วงดอกไอริสและไฮเดรนเยียบาน รวมถึงเดือนกรกฎาคมและตุลาคมที่มีงานเทศกาลขนาดใหญ่ จะเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวมากันคับคั่ง ถ้าต้องการมาเที่ยวแบบสบายๆ แนะนำให้มาหลังเดือนตุลาคมที่ความร้อนก็เริ่มผ่อนคลายจะดีกว่า
Picture courtesy of Inae
Picture courtesy of Inae
อินาเอะ (Inae) คาเฟ่สไตล์ญี่ปุ่นที่อยากให้แวะชิมระหว่างเดินเล่นในเมืองซาวาระ
ร้านนี้ได้นำมาจิยะที่สร้างขึ้นเมื่อกว่า 130 ปีก่อนมารีโนเวทใหม่ เป็นคาเฟ่พร้อมทั้งแกลลอรี่และร้านขายของขึ้นชื่อของเมืองด้วย ภายในบริเวณร้านมีอาคารสไตล์ตะวันตกและโกดังที่มีสวนเชื่อมต่อกัน ทำให้สัมผัสถึงไลฟ์สไตล์ในสมัยก่อนของเมืองนี้
Picture courtesy of Inae
เมนูยอดฮิตประจำร้านคือน้ำแข็งไสที่กินได้ตลอดปี การตกแต่งที่สวยงามคือความลับของความฮิต เซ็นไซ (ซุปถั่วแดงร้อน) ที่ขายเฉพาะฤดูหนาวเป็นขนมญี่ปุ่นแบบร้อนที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
photo by Pixta
ว่ากันว่าศาลเจ้าเก่าแก่น่าเคารพนี้สร้างขึ้นเมื่อ 634 ปีก่อนคริสตกาล ศาลเจ้าแห่งนี้บูชาเทพฟุสึนุชิโนะโอมิยะ (Futsunushi no Okami) เทพแห่งสงคราม ซึ่งเชื่อกันว่าสามารถเสริมดวงการแข่งขันได้ โดยเดินรอบวิหารหลัก 1 รอบแล้วจะได้รับพลังนั้นมา
ภายในบริเวณศาลเจ้ามีต้นสนที่ลำต้นแยกออกมาเป็น 3 ต้น ซึ่งเป็นจุดเสริมดวงยอดนิยมเช่นกัน ลำต้นกลางมีโพรงใหญ่อยู่ ว่ากันว่าถ้าขอพรตรงนี้จะได้รับพร หลายคนถ่ายรูปต้นสนนำไปตั้งเป็นวอลเปเปอร์มือถือ ดังนั้นอย่าลืมถ่ายรูปเป็นที่ระลึกสักใบนะ!
บริเวณเมืองคิซาราซุ (Kisarazu) และเขาโนโคกิริ (Mt. Nokogiri) |
photo by Pixta
เอาท์เล็ทขนาดยักษ์ที่รวบรวมร้านดังจากทั่วโลกเอาไว้ มีแบรนด์ดังมากกว่า 300 ร้านตั้งแต่สินค้าแฟชั่น อุปกรณ์เอาท์ดอร์ ไปถึงของใช้ในชีวิตประจำวัน พื้นที่ทั้งหมดมีมากถึง 215,000 ตารางเมตร!
คาเฟ่กับร้านอาหารก็มีให้บริการจึงเป็นจุดที่สายช็อปปิ้งพลาดไม่ได้ มีรถบัสวิ่งตรงจากสถานีโตเกียว, ชินจูกุ และชิบุยะ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง (ค่ารถประมาณ 1,300 เยน/เที่ยว) ค่ารถและค่าธรรมเนียมการจองจะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับจุดขึ้นรถ ตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ทางการของเคเซบัส (Keisei Bus)
photo by Pixta
สถานที่หนึ่งในเมืองคิซาราซุ จังหวัดชิบะ มีเสาไฟฟ้าจำนวนนับไม่ถ้วนปักเรียงรายในหาดโคลนทอดยาวสู่อ่าวโตเกียวเป็นระยะทางร่วม 1 กิโลเมตร เรียกได้ว่าเหมือนฉากหนึ่งในภาพยนตร์เรื่องมิติวิญญาณมหัศจรรย์ (Spirited Away) ของสตูดิโอจิบลิเลย สถานที่นั้นคือหาดเอกาวะ
โดยเฉพาะในช่วงก่อนพระอาทิตย์ตก จะได้เห็นวิวแนวเสาไฟฟ้ากับโรงไฟฟ้าที่อยู่ใกล้ๆ คู่กับท้องฟ้ายามเย็น ภาพที่น่ามหัศจรรย์นี่แหละคือจุดขายของที่นี่ ว่ากันว่ายิ่งในวันที่คลื่นลมสงบ ผิวน้ำจะสะท้อนภาพเหมือนกระจกเงา คล้ายกับจุดชมวิวที่ทะเลเกลือซาลาร์ เด อูยูนี (Salar de Uyuni) ของประเทศโบลิเวีย
นอกจากช่วงน้ำลงตั้งแต่กลางเดือนมีนาคม - กรกฎาคมแล้วหาดจะปิดไม่ให้เข้าเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ มีลานจอดรถใกล้ๆ หาดเป็นจุดชมวิว การเดินทางสามารถนั่งแท็กซี่จากสถานี JR อิวาเนะ (JR Iwane) สถานีที่ใกล้ที่สุด ใช้เวลาประมาณ 10 นาที
photo by Pixta
จุดชมวิวในชิบะที่มีชื่อเสียงพอๆ กับหาดเอกาวะคือน้ำตกโนมิโซะและถ้ำคาเมะอิวะ จุดชมวิวนี้อยู่ในสวนชิมิซุ เคริว (Shimizu Stream Square) เมืองคิมิตสึ เป็นสวนธรรมชาติที่อยู่ไม่ไกลจากหุบเขาโยโร
น้ำตกที่อยู่ในสวนไหลผ่านถ้ำลงมา ในช่วงเช้าตรู่แสงอาทิตย์จะสาดลงมาในถ้ำจนมองดูเหมือนน้ำตกแสงอาทิตย์! โดยเฉพาะในเช้าตรู่ของเดือนมีนาคมและกันยายนผิวน้ำจะสะท้อนกับแสงอาทิตย์ดูเหมือนเป็นรูปหัวใจ ส่วนในช่วงต้นฤดูร้อนจะมีหิ่งห้อยเริงระบำแถวริมน้ำ และช่วงฤดูใบไม้ร่วงใบไม้จะเปลี่ยนสีอย่างสวยงาม
การเดินทางจากสถานีโตเกียวนั่งรถบัสด่วน Axie Express Bus ประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง มาลงที่ป้ายรถบัส Kimitsu Furusato Bussankan หน้าจุดพักรถ Fureai Park Kimitsu แล้วนั่งแท็กซี่ต่อประมาณ 5 นาที มาลงที่สวนชิมิซุ เคริว
ผาส่องนรก (photo by Pixta)
เขาโนโคกิริสามารถเดินทางจากใจกลางเมืองมาได้สะดวก เป็นภูเขาที่คนเริ่มปีนเขาหรือครอบครัวสามารถพาเด็กๆ มาปีนได้อย่างสบายใจ บนยอดเขามีวัดนิฮงจิ (Nihonji Temple) อายุกว่า 1,300 ปี ที่นี่เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถมาสักการะพระพุทธรูปหินขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นได้
เมื่อเดินจากสถานี JR ฮามะคานายะ (JR Hamakanaya) สถานีรถไฟที่ใกล้ที่สุดประมาณ 10 นาที จะมีกระเช้าลอยฟ้าขึ้นไปบนยอดเขาของผาส่องนรก (Jigoku Nozoki) ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่ห้ามพลาด! ที่นี่สามารถมองเห็นเส้นขอบฟ้ากว้างไกลสุดลูกหูลูกตา และจากปลายชะง่อนหินยังมองลงไปที่หน้าผาสูงชันได้ด้วย น่าเร้าใจเต็มสิบไปเลย
photo by Pixta
มาเธอร์ฟาร์ม (Mother Farm) เป็นที่รู้จักว่าเป็นฟาร์มท่องเที่ยวชั้นนำของภูมิภาคคันโต มีสัตว์มากมาย เช่น แกะ, อัลปาก้า (Alpaca สัตว์ขนปุยคอยาวจากเทือกเขาแอนดีสในทวีปอเมริกาใต้), ม้า และกระต่าย สามารถให้อาหารและสัมผัสสัตว์ต่างๆ ได้อย่างใกล้ชิด หัวใจคุณจะได้รับการเยียวยาเมื่อได้เห็นความน่ารักของสัตว์ต่างๆ แบบใกล้ๆ อย่างแน่นอน!
ภายในฟาร์มยังมีทุ่งดอกไม้ที่กว้างใหญ่เป็นจุดถ่ายรูป อย่างดอกนาโนะฮานะ (Nanohana) ในฤดูใบไม้ผลิ, ดอกซัลเวีย (Salvia) ในฤดูร้อน ดอกไม้ต่างๆ ตามฤดูกาลจะบานสะพรั่งพร้อมกันราวกับพรม และมีสวนสตรอเบอร์รี่กับบลูเบอร์รี่ให้เก็บกินกันอีกด้วย มีกิจกรรมเยอะแยะให้เล่นสนุกได้ทั้งวันเลย
จากสถานีโตเกียวนั่งรถบัสด่วนมาลงสถานี JR คิมิสึ (JR Kimitsu) ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วต่อรถบัสสาย “มาเธอร์ฟาร์ม” (ค่ารถ: ผู้ใหญ่ 720 เยน / เด็ก 360 เยน)
บริเวณหุบเขาโยโร (Yoro Keikoku) และเมืองคาโมะกาวะ (Kamogawa) |
photo by Pixta
หุบเขาโยโร (Yoro Ravine) ตั้งอยู่ใกล้ใจกลางคาบสมุทรโบโซที่ยื่นไปในทะเลทางตอนใต้ของจังหวัดชิบะ เป็นจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่มีชื่อเสียง และมีเส้นทางเดินป่าชมธรรมชาติระยะทาง 2 กิโลเมตร รอบน้ำตก 5 สาย สามารถชมน้ำตกน้อยใหญ่ต่างๆ ได้อย่างใกล้ชิดท่ามกลางทางเดินที่ห้อมล้อมด้วยธรรมชาติ แทบไม่อยากเชื่อเลยว่าจะมีธรรมชาติที่สวยและทรงพลังขนาดนี้อยู่ใกล้เมืองใหญ่อย่างโตเกียว!
หุบเขาโยโรนี้มีออนเซ็นชื่อโกริยาคุโนะยุ: สวนชมน้ำตก หมู่บ้านสุขภาพ (Goriyaku no Yu: Takimi-en kenkoumura) (ค่าเข้า 1,100 เยน) หากได้แช่บ่อน้ำร้อนกลางแจ้งด้วยความรู้สึกปลดปล่อย จะช่วยคลายความเหนื่อยล้าจากการท่องเที่ยวออกไปหมด ออนเซ็นแห่งนี้มีร้านอาหารด้วยจึงเหมาะที่สุดที่จะเป็นจุดพักผ่อนจากการเดินเขา
จากสถานีโตเกียวนั่งรถไฟผ่านสถานีโกะอิ (Goi) ไปสถานีโยโรเคโคคุ (Yoro Keikoku) ซึ่งอยู่ใกล้ที่สุด ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง จากสถานีโกะอิจะได้นั่งรถไฟสไตล์เรโทร รถไฟโคมินาโตะด้วย!
photo by Pixta
รถไฟโคมินาโตะวิ่งอยู่ในเมืองอิชิฮาระ (Ichihara) จังหวัดชิบะเป็นหลัก รถไฟท้องถิ่นขบวนสีแดง - ครีมน่ารัก ขบวนรถไฟสไตล์เรโทรนี้สร้างขึ้นในราวปี 1961 - 1977 ปัจจุบันหาดูแทบไม่ได้แล้ว
ริมทางรถไฟสายนี้ยังมีวิวชนบทแสนสงบให้เห็นอยู่มาก การได้ดูวิวแบบนี้จากหน้าต่างรถไฟก็เป็นจุดน่าสนใจยิ่ง โดยเฉพาะในช่วงกลางเดือนมีนาคม - ต้นเดือนพฤษภาคมจะมีดอกนาโนะฮานะสีเหลืองสะดุดตาบานเต็มไปหมด
และที่มีชื่อเสียงเป็นพิเศษเลยคือเส้นทางระหว่างสถานีซาโตมิ (Satomi) ถึงสถานีสึคิซาคิ (Tsukizaki) ในเดือนเมษายนดอกซากุระจะเริ่มบาน รถไฟขบวนนี้ที่วิ่งท่ามกลางเหล่าดอกไม้ ช่างมีเสน่ห์มากยิ่งนัก
photo by Pixta
เมื่อพูดถึงรถไฟที่มีเสน่ห์สไตล์เรโทรแล้วล่ะก็ รถไฟอิซุมิที่วิ่งอยู่ในเมืองอิซุมิ จังหวัดชิบะก็ได้รับความนิยมเช่นกัน รถไฟสายนี้เชื่อมกับรถไฟสายโคมินาโตะที่สถานีคาซุซานาคะ (Kazusanaka) การเที่ยวแบบนั่งรถไฟสองสายเชื่อมกันก็เป็นไอเดียที่ดีอยู่นะ
รถไฟสายนี้มีระยะทางรวม 27 กิโลเมตร ช่วงฤดูใบไม้ผลิจะมีดอกนาโนฮานะบานตามเส้นทางยาวถึง 15 กิโลเมตร จะดูจากหน้าต่างรถไฟก็สวย แต่ก็มีหลายคนแวะลงกลางทางไปถ่ายรูปดอกนาโนะฮานะคู่กับขบวนรถไฟ
นอกจากนี้ยังมีสิ่งน่าสนใจอื่นอีกตามสถานีต่างๆ เช่น ย่านเมืองเก่าที่สถานีโอทาคิ (Otaki), วิวทุ่งนากว้างที่สถานีนิตตาโนะ (Nittano) สำหรับใครที่อยากแวะเที่ยวกลางทางก็มีบัตร 1 Day Free Pass (ราคาวันธรรมดา: 1,200 เยน, ราคาวันหยุด: 1,500 เยน) ขึ้นลงรถได้ตามใจด้วย สะดวกจังเลย
Picture courtesy of Kamogawa Sea World
ในปี 2020 อควาเรียมแห่งนี้ได้เปิดให้บริการครบ 50 ปีพอดี ที่นี่ดังเรื่องโชว์สัตว์ทะเลอย่างโลมา, แมวน้ำ และสัตว์อื่นๆ โดยเฉพาะโชว์เร้าใจเต็มสิบจากราชาทะเลอย่างวาฬเพชฌฆาต! ในญี่ปุ่นหาดูได้ที่คาโมะกาวะซีเวิร์ล (Kamogawa Sea World)ที่เดียวเท่านั้น
Picture courtesy of Kamogawa Sea World
และยังมีวาฬเบลูก้าที่ชวนให้นึกว่าเป็นโลมาสีขาว ด้วยความน่ารักทำให้มันเป็นมาสคอตของอควาเรียมแห่งนี้ มีรถชัทเทิลบัส (ฟรี) จากสถานี JR อาวะคาโมะกาวะ (JR Awa-Kamogawa) มาที่อควาเรียมด้วย
photo by Pixta
นาขั้นบันได (Tanada) คือการปลูกข้าวนาดำเป็นแนวขั้นบันไดบนทางลาดชันของภูเขาและหุบเขา เป็นภูมิปัญญาในการทำเกษตรกรรมตามแนวเขาและพื้นที่ลาดเอียง คนจำนวนไม่น้อยจึงเดินทางมาที่นี่เพื่อถ่ายรูปวิวสวยงามนี้
โอยามะเซนไมดะเป็นนาขั้นบันไดที่อยู่ใกล้โตเกียวที่สุด จากสถานี JR อาวะคาโมะกาวะที่อยู่ใกล้ที่สุดให้นั่งรถบัสมาลงที่ป้ายโคซุกะ (Kozuka) แล้วเดินต่อประมาณ 20 นาที ช่วงเดือนเมษายน - พฤษภาคมจะมีน้ำเต็มนา ท้องนาจะสะท้อนกับท้องฟ้าเกิดเป็นกระจกน้ำหลายบานกระจายไปทั่ว ช่างเป็นภาพที่สวยงามมาก!
และยังมีร้านอาหารบ้านๆ สไตล์ญี่ปุ่นโบราณอยู่ใกล้ด้านบนสุดของนาขั้นบันได "กอมเบ คาเฟ่นาขั้นบันได (Tanada Cafe Gombei)" ที่สามารถกินอาหารเมนูเส้นที่ปรุงจาก "ชิคโคะ (Chikko)" เส้นซึ่งทำจากข้าว อาหารที่กินได้แค่พื้นที่นั้นก็เป็นรสชาติสำคัญของการท่องเที่ยวเหมือนกัน
photo by Pixta
เมืองคาสึอุระ (Katsuura) จังหวัดชิบะมีหาดทรายทอดยาวและน้ำทะเลใสสะอาดลงเล่นได้ และยังสามารถสนุกกับทะเลได้ตลอดปีที่สวนใต้ทะเลคัตสึอุระหรือคัตสึอุระ ไคจู พาร์ค (Katsura Kaichu Park)
เมื่อเดินจากสถานี JR อุบาระ (JR Ubara) ประมาณ 15 นาที จะเห็นหอคอยสีขาวโผล่ขึ้นมาจากกลางทะเล ชั้นบนของหอนี้เป็นจุดชมวิว เมื่อลงไปชั้นใต้ดินจะสามารถชมวิวใต้ทะเลได้เหมือนอยู่ในเรือดำน้ำ!
ปลาที่แหวกว่ายในทะเลให้ความรู้สึกต่างจากในอควาเรียม จึงเป็นจุดที่แม้แต่ผู้ใหญ่ก็อดไม่ได้ที่จะตื่นเต้นมากไปด้วย บริเวณใกล้ๆ กันมีจุดชมวิวอุบาระริโซเคียว (Ubara Risokyo) ที่มองเห็นมหาสมุทรแปซิฟิกกว้างสุดลูกหูลูกตา
Picture courtesy of TRAYCLE Market&Coffee
คาเฟ่และร้านมัลติแบรนด์นี้เปิดขึ้นตามแนวคิดของเจ้าของที่ "อยากเริ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับแฟร์เทรด (Fair Trade การค้าที่เป็นธรรม) และระบบนิเวศวิทยา" ทางร้านจำหน่ายของกระจุกกระจิกที่มีรสนิยมและคัดสรรมาอย่างดีโดยใช้ระบบแฟร์เทรดคืนกำไรให้ผู้ผลิต
Picture courtesy of TRAYCLE Market&Coffee
คาเฟ่ตั้งอยู่ที่เมืองทาเทยามะ (Tateyama) จังหวัดชิบะ เป็นอาคารทรงยุโรปอายุกว่า 100 ปี ในบรรยากาศชวนคิดถึง
Picture courtesy of TRAYCLE Market&Coffee
นอกจากเมนูของคาเฟ่จะมีทั้งภาษาอังกฤษและภาษาญี่ปุ่นแล้ว ภรรยาเจ้าของยังเชี่ยวชาญภาษาอังกฤษ และเป็นร้านที่ใจดีกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เมนูแนะนำคือมัฟฟินกากถั่วเหลืองที่ดีต่อร่างกายและแฟร์เทรดคอฟฟี่ (Fair Trade Coffee) บริการกันแบบนี้รู้สึกอบอุ่นไปจนถึงหัวใจเลย!
บริเวณเมืองโชชิ (Choshi) และหาดคุจูคุริ (Kujukuri Beach) |
photo by Pixta
หาดคุจูคุริอยู่ทางทิศตะวันออกของจังหวัดชิบะ ทอดยาวตลอดชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกระยะทางประมาณ 66 กิโลเมตร เป็นสถานที่ใฝ่ฝันของคนที่ชอบว่ายน้ำและโต้คลื่น นอกจากกิจกรรมทางทะเลในบริเวณใกล้เคียงยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ อย่าง "หอชมวิว จิคิวโนะมารุกุมิเอรุโอกะ (Chikyu no Maruku Mieru Oka Ocean View Observatory หอชมวิวที่สามารถเห็นความกลมของโลกได้) " จุดชมวิวที่มองเห็นเส้นขอบฟ้าได้สุดลูกหูลกตา และหอชมวิวอินุโบซาคิ ที่มีชื่อเสียงระดับโลก
หรือถ้าอยากเอร็ดอร่อยกับอาหารทะเลสดๆ เพิ่งขึ้นจากน้ำล่ะก็ ขอแนะนำ "อุมิโนะเอคิ คุจูคุริ (Umi no Eki Kujukuri)" ที่มีท่าเรือประมงคาตะไค (Katakai Fish Port) ซึ่งจับปลาอิวาชิได้จำนวนมากอยู่ตรงหน้าเลย ที่นี่โด่งดังว่าเป็นฟู้ดคอร์ทที่สามารถกินอาหารท้องถิ่นของคุจูคุริได้และเป็นศูนย์ขายอาหารทะเลที่ส่งตรงจากท่าเรือ
Picture courtesy of INUBOW TERASU TERRACE
หอชมวิวอินุโบซาคิเป็นเหมือนจุดแสดงตำแหน่งปลายสุดทางตะวันออกของจังหวัดชิบะ อินุโบซากิมีชื่อเสียงว่าเป็นจุดแรกที่เห็นพระอาทิตย์ขึ้นในญี่ปุ่น จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ถ้ามาเที่ยวเมืองโชชิก็อยากให้แวะมามากๆ
เมืองอินุโบซากินี้มีสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังแห่งใหม่เพิ่มขึ้นเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2019 คืออินุโบว เทราสุ เทอร์เรซ (INUBOW TERASU TERRACE)
Picture courtesy of INUBOW TERASU TERRACE
อาคารสองชั้นหันหน้าเข้าทะเลเป็นคาเฟ่ เบเกอรี่ และร้านมัลติแบรนด์ที่รวมสินค้าคัดพิเศษของเมืองโชชิไว้อย่างครบครัน มีสินค้าหลากหลายที่เหมาะเป็นของฝากอย่างโชชิเบียร์ (Choshi Beer) เบียร์ท้องถิ่น!
ชั้น 2 เป็นระเบียงที่ดูพระอาทิตย์ขึ้นสวยๆ และท้องทะเลกว้างใหญ่ได้ ขอแนะนำให้แวะมาเที่ยวกันนะ
อาหารรสเลิศที่ห้ามพลาดในชิบะ! |
photo by Pixta
จังหวัดชิบะล้อมรอบด้วยทะเลจึงเป็นพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์และพรั่งพร้อมไปด้วยความสุขจากทะเล หนึ่งในนั้นคือเมืองโชชิที่หันหน้าสู่มหาสมุทรแปซิฟิกและมีท่าเรือระดับแนวหน้าของญี่ปุ่น เราจะได้พบเมนูต่างๆ ที่ใช้อาหารทะเลสดใหม่ในร้านอาหารใกล้ท่าเรือ
ฮามะเมชิ (Hamameshi) ก็เป็นหนึ่งในร้านนั้น ข้าวหน้าปลาดิบหรือไคเซ็นด้ง (Kaisen Don) ที่ปลาดิบพูนจนแทบล้นออกจากชามเป็นเมนูประจำร้านนี้ ข้าวหน้าสามสีหรือซังโชคุด้ง (Sanshoku Don) มีปลามากุโระโปะด้วยราคา 1,600 เยน ชุดอาหารเช้าแค่ 500 เยนเอง ดีมากๆเลย
ไมไว (Maiwai) ร้านของสหกรณ์การประมงโชชิ (Choshi Fisheries Cooperative Association) ก็ดังเรื่องไคเซ็นด้ง มีทั้งปลามากูโระ ฮิราเมะ อาจิ และปลาตามฤดูกาลอื่นๆ หลากหลายชนิดเรียงรายอยู่ในชาม ราคา 1,980 เยน ภายในร้านโล่งกว้างมองเห็นทะเลโชชิก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ได้รับความนิยม
photo by Pixta
ทันทันเม็งของเมืองคัตสึอุระมีรสชาติแตกต่างจากรสชาติดั้งเดิมของจีนที่เป็นรสงา และโดดเด่นตรงที่ใส่หัวหอม, น้ำมันงารสเผ็ด และหมูสับ ทันทันเม็งของจีนจะไม่มีซุป แต่จุดเด่นของที่นี่คือกินคู่กับซุปมิโสะหรือซุปโชยุได้
ที่คัตสึอุระมีร้านราเม็งหลายร้าน มีร้านดังที่สุดคือร้านเอซาวะ (Ezawa) ต้นตำรับทันทันเม็งสไตล์คัตสึอุระ ร้านที่บุกเบิกทันทันเม็งสไตล์คัตสึอุระนี้ ว่ากันว่า ความนิยมของร้านเริ่มมาจากเมื่อเหล่าชาวประมงในเมืองท่าคัตสึอุระที่กลับจากทะเล ได้กินทันทันเม็งนี้แล้วรู้สึก "ร่างกายอบอุ่นจัง"
นอกจากนี้ร้านโคดามะ ร้านอาหารสำหรับครอบครัวชื่อดังในพื้นที่ ก็มีชื่อเรื่องทันทันเม็งเช่นกัน ความอร่อยเผ็ดร้อนนี้อร่อยจนหยุดไม่ได้!
Nagomi Yoneya’s Peanut Monaka
ของดีประจำจังหวัดชิบะที่พลาดไม่ได้คือถั่วลิสง (Rakkasei) 80% ของถั่วลิสงที่ผลิตในประเทศญี่ปุ่นมาจากจังหวัดชิบะ ในจังหวัดจึงมีเนยถั่วและขนมที่ทำจากถั่วลิสงจำหน่ายมากมาย
ของที่อยากแนะนำให้ซื้อเป็นของฝากคือ"ขนมโมนากะถั่วลิสง (Peanut Monaka)" ของร้านนาโกมิโนะโยเนยะ (Nagomi-Yoneya) บนถนนนาริตะโอโมเตะซังโด (Naritasan Omotesando Road) ถั่วลิสงต้มหวานบดสอดไส้อยู่ในเวเฟอร์รูปเปลือกถั่วลิสงเป็นสินค้าอีกชิ้นที่ดูน่ารัก
เป็นอย่างไรบ้างกับการแนะนำจังหวัดชิบะที่มีเสน่ห์อัดแน่นเต็มไปหมด จังหวัดนี้มีหลากหลายสิ่งให้เที่ยวชมแตกต่างกันตามเส้นทางที่เลือก สถานที่ที่อยากไป และฤดูกาล สามารถเลือกสนุกได้ตามต้องการเลย
มาเที่ยวโตเกียวแล้วมาสนุกที่ชิบะกันให้ได้นะ
Main image courtesy of Pixta
Written by
อาศัยอยู่ที่โตเกียว งานอดิเรกของฉันคือท่องเที่ยวและชื่นชมงานศิลปะ ฉันมองหาอาหารอร่อยๆ และหลังจากใช้ชีวิตในกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เป็นเวลาห้าปี ฉันก็ค้นพบความอร่อยของหม้อไฟ