เช่ารถขับเที่ยวทั้งครอบครัวจากสนามบินนาริตะ ตะลุยที่เที่ยวถูกใจทุกวัยในชิบะ! (Chiba)

ขับรถเที่ยวชิบะจากสนามบินนาริตะ สนุกกันทั้งครอบครัว!

เวลาออกทริปครอบครัวโดยเฉพาะครั้งไหนที่มีเด็กๆ ไปด้วย เรามักจะประสบปัญหาเรื่องการต้องแบกสัมภาระหลายอย่างระหว่างเดินทาง และยังต้องหาสถานที่ท่องเที่ยวที่เด็กๆ สามารถสนุกร่วมกับคนวัยอื่นได้ นอกจากนี้บางครั้งก็ยังต้องเผชิญกับปัญหาเรื่องพาหนะการเดินทาง เช่น ต้องไปต่อรถในพื้นที่ที่ไม่คุ้นเคยอีกต่างหาก

ใครที่อยากเที่ยวญี่ปุ่นกับครอบครัวอย่างราบรื่นขอแนะนำให้ลองเช่ารถยนต์ขับเที่ยวกันดูค่ะ แทนที่จะไปวุ่นวายรถติดในเมืองอย่างโตเกียว เราขอเสนอจังหวัดชิบะที่อยู่ติดกันแทน! เพียงแค่เช่ารถจากสนามบินนาริตะ (Narita Airport) แล้วก็ขับรถไปยังที่เที่ยวรอบๆ ได้ในเวลาไม่นานเลย

ในครั้งนี้เราจะมาแนะนำสถานที่เที่ยวเด็ดๆ ในชิบะสำหรับไปกับครอบครัวด้วยรถเช่ากันค่ะ เมื่อพร้อมแล้วก็มาวางแผนเที่ยวทั้งออนเซ็น ชายหาด และสำรวจธรรมชาติที่สามารถเพลิดเพลินได้พร้อมหน้าพร้อมตากับทุกคนในครอบครัวกัน!

ที่เที่ยวแนะนำสำหรับทริปครอบครัว!

1. สวนฟุนาบาชิแอนเดอร์เซน (Funabashi H.C. Andersen Park)

Picture courtesy of Funabashi Andersen Park

เมื่อเอ่ยถึงสวนสนุกในญี่ปุ่นแล้วหลายคนจะต้องนึกถึง ยูนิเวอร์แซลสตูดิโอเจแปน (Universal Studios Japan®) หรือ โตเกียวดิสนีย์แลนด์ (Tokyo Disneyland) กันอย่างแน่นอน แต่ สวนฟุนาบาชิแอนเดอร์เซน (Funabashi H.C. Andersen Park) ที่ตั้งอยู่ในเมืองฟุนาบาชิของจังหวัดชิบะแห่งนี้ก็เป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจยอดนิยมเช่นเดียวกัน ถึงขนาดว่าเคยติดอันดับธีมปาร์คยอดนิยมอันดับ 3 ของญี่ปุ่นในเว็บไซต์ TripAdvisor มาแล้ว

Picture courtesy of Funabashi Andersen Park

ภายในสวนแบ่งออกเป็น 5 โซน แต่ละโซนก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแตกต่างกันออกไป เช่น โซนเนินเทพนิยาย (Fairy Tale Hill Zone) มีกังหันลมและบ้านไร่สไตล์เดนมาร์ค และ โซนดินแดนเด็ก (Kids Kingdom Zone) ที่ทั้งเด็กและผู้ใหญ่สามารถสนุกร่วมกันได้อย่างไม่ต้องเคอะเขิน

นอกจากนี้ก็ยังสามารถเพลิดเพลินกับการชมดอกไม้และธรรมชาติ ร่วมกิจกรรมกลางแจ้งหลากหลายแบบ รวมถึงเล่นกับแพะและแกะแสนน่ารักได้ด้วย ถือเป็นที่เที่ยวที่ครบครันและกว้างใหญ่จนเที่ยวกันได้ทั้งวันเลย

การเดินทาง : ทางประตูทิศเหนือ จากสถานีมิซากิ (Misaki) ของรถไฟสายชินเคเซ (Shin-Keisei) นั่งรถบัสที่มุ่งหน้าไปยัง "เซโกะ เมดิค เบียวอิน (Secomedic Byoin)" ประมาณ 15 นาทีมาลงป้าย "แอนเดอร์เซนปาร์ค (Andersen Park)" แล้วเดินต่ออีก 1 นาที
*วิธีการเดินทางอื่นๆ สามารถดูได้จากเว็บไซต์ทางการ (มีแผ่นพับภาษาอังกฤษในเว็บไซต์)
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 900 เยน นักเรียนมัธยมปลาย 600 เยน นักเรียนประถมและมัธยมต้น 200 เยน เด็กอายุตั้งแต่ 4 ปีขึ้นไปแต่ไม่ถึงชั้นประถม 100 เยน
ลานจอดรถของสวนค่าจอดปกติ 500 เยน วันที่ 1 ธันวาคม - 15 มีนาคม 300 เยน

สวนสาธารณะฟุนาบาชิ อันเดอร์เซ็น

525 Kanehori-cho เมือง Funabashi จังหวัดชิบะ 274-0054

2. ริวกูโจ สปา โฮเทล มิคาสึกิ (Ryugujo Spa Hotel Mikazuki)

Picture courtesy of Ryugujo Spa Hotel Mikazuki

ถ้าแค่ชมวิวทะเลนั้นดูธรรมดาเกินไป ลองมาแช่ออนเซ็นพลางชมวิวไปด้วยเป็นไง! แต่สำหรับใครที่ไม่อยากแก้ผ้าแช่ออนเซ็น ลองแวะมาที่ ริวกูโจ สปา โฮเทล มิคาสึกิ (Ryugujo Spa Hotel Mikazuki) แห่งนี้กันเลยค่ะ

อควาปาร์ค (Aqua Park) สวนน้ำพร้อมเครื่องเล่นในร่มและ โอเชียนสปา (Ocean Spa) สระว่ายน้ำกลางแจ้ง ทั้งสองส่วนนี้สามารถใส่ชุดว่ายน้ำลงเล่นในสระน้ำอุ่นกันได้ทั้งครอบครัว

Picture courtesy of Ryugujo Spa Hotel Mikazuki

ริวกูโจ สปา โฮเทล มิคาสึกิ แบ่งเป็นอาคารหลัก อาคารใหม่ และอาคารสปา เพื่อจัดห้องพักให้เข้ากับความต้องการของผู้ใช้บริการอย่างครบครัน แต่ที่แนะนำที่สุดก็ต้องห้องพักแบบโอเชียนวิวที่สามารถชมวิวอ่าวโตเกียว (Tokyo Bay) และภูเขาไฟฟูจิได้ด้วย

ถ้าอยากแช่น้ำร้อนในบรรยากาศส่วนตัวก็ลองเลือกเป็นห้องพักที่มีบ่อแช่น้ำกึ่งกลางแจ้งในห้องพักก็ได้

การเดินทาง : นั่งรถชัทเทิลบัสจากสถานีคิซาราสึ (Kisarazu) ประมาณ 15 นาที
ค่าบริการสปา (แบบไม่เข้าพัก) :
วันธรรมดา - ผู้ใหญ่ 1,500 เยน เด็ก 1,100 เยน
วันเสาร์ อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ - ผู้ใหญ่ 2,000 เยน เด็ก 1,600 เยน
หลังเวลา 18:00 - ผู้ใหญ่ 1,300 เยน เด็ก 800 เยน
โรงแรมมีลานจอดรถแบบเสียค่าบริการ 500 เยน / คันสำหรับผู้เข้าพัก สำหรับผู้ใช้บริการสปาแบบไม่เข้าพักจอดรถฟรี 5 ชั่วโมง หลังจากนั้นเสียค่าบริการ 300 เยน / ชั่วโมง
*ในฤดูร้อน วันหยุดยาว และช่วงปีใหม่อาจมีราคาแตกต่างกัน

ริวกุโจ สปา โฮเทล เครสเซนต์

1-Kitahama-cho, Kisarazu-shi, Chiba 292-0006

3. ชายหาดโอกิโนะชิมะ (Okinoshima Beach)

Picture courtesy of pixta

เกาะโอกิโนะชิมะ (Okinoshima) เป็นเกาะร้างขนาดเล็ก เป็นส่วนหนึ่งของเมืองทาเทยามะ (Tateyama) ทางใต้ของจังหวัดชิบะ จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวใหญ่ในภูมิภาคคันโตเมื่อปี 1923 ทำให้แผ่นเปลือกโลกยกตัวขึ้นมาเหนือผืนน้ำทะเลจนเกิดทางเชื่อมระหว่างเกาะฮอนชู (แผ่นดินหลักของญี่ปุ่น) และชายหาดของเกาะนี้อย่างในปัจจุบัน น้ำทะเลบริเวณนี้สะอาดมาก ในบางปีได้รับการประเมินว่ามีคุณภาพดีในระดับสูงสุดไม่แพ้ทะเลของจังหวัดโอกินาว่าเลยนะ

Picture courtesy of pixta

นอกจากน้ำจะใสแจ๋วจนมองเห็นก้นทะเลได้แล้วคลื่นก็ไม่แรง จึงให้เด็กๆ ลงเล่นน้ำได้อย่างสบายใจหายห่วง บนเกาะอุดมสมบูรณ์ด้วยพืชนานาพันธุ์ ใต้ทะเลโดยรอบก็เป็นแหล่งปะการังมากมาย ขับรถมาจอดที่ลานจอดรถฟรีใกล้หาดได้เลย

ลองไปเดินเล่นเก็บเปลือกหอย เล่นน้ำทะเลกับเด็กๆ ผ่อนคลายท่ามกลางธรรมชาติที่สัมผัสได้ยากในชีวิตประจำวัน นี่จะต้องเป็นความทรงจำดีๆ อย่างแน่นอน

การเดินทาง :
รถบัส
นั่งรถบัสนิตโต (Nitto) จากสถานีเจอาร์ ทาเทยามะ ไปลงป้าย "ทาเทยามะโคคูไท (Tateyama-Kokutai)" แล้วเดินต่ออีกประมาณ 30 นาที
รถยนต์
นั่งรถยนต์จากทางแยกต่างระดับโทมิอุระ (Tomiura Interchange) บนถนนฟุตซือทาเทยามะ (Futtsu-Tateyama Road) ประมาณ 25 นาที (มีลานจอดรถ)

โอกิโนะชิมะ

294-0035 ฟูจิมิ เมืองทาเตยามะ จังหวัดชิบะ

โอกิโนชิมะเป็นเกาะที่ไม่มีคนอาศัยอยู่ตั้งอยู่ทางใต้สุดของอ่าวทาเตยามะ เกาะนี้เคยอยู่ห่างจากชายฝั่ง 500 ม. แต่เนื่องจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในค...

4. เมืองเก่าซาวาระ (Sawara)

Picture courtesy of pixta

ซาวาระ (Sawara) ตั้งอยู่ในเมืองคาโทริของจังหวัดชิบะ เป็นหนึ่งในสามเมืองเอโดะน้อย (Little Edo) ของภูมิภาคคันโตคู่กับเมืองคาวาโกเอะในจังหวัดไซตามะและเมืองโทจิกิในจังหวัดโทจิกิ กลุ่มอาคารสถาปัตยกรรมดั้งเดิมทำให้ที่นี่ยังคงอบอวลไปด้วยบรรยากาศในสมัยเอโดะ จึงถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำละครญี่ปุ่นหลายเรื่อง

Picture courtesy of pixta

แนะนำให้มาเดินเล่นบนถนนพลางชมอาคารบ้านเมืองเก่าๆ ของที่นี่กันดูค่ะ ตามทางยังมีคาเฟ่ ร้านจำหน่ายของฝาก และของทานเล่นอีกด้วย เพียงแค่ได้เดินเล่น แวะชมร้านต่างๆ ก็เพลินแล้ว

ลานจอดรถมีทั้งแบบฟรีและเสียค่าบริการ สำหรับรายละเอียดดูที่นี่ (ภาษาญี่ปุ่น)

การเดินทาง : จากสถานีเจอาร์ ซาวาระ (JR Sawara) ของสายนาริตะ (Narita) เดิน 15 นาที หรือนั่งรถบัสวนรอบเมืองซาวาระไปลงป้าย "จูเคบาชิ (Chukei-bashi)" แล้วเดินต่ออีก 1 นาที

ทิวทัศน์เมืองซาวาระ

5. ศาลเจ้าคาโทริจิงกู (Katori Jingu Shrine)

Picture courtesy of Katori City

ไม่ไกลจากซาวาระมีอีกสถานที่แนะนำคือ ศาลเจ้าคาโทริจิงกู (Katori Jingu Shrine) ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นหนึ่งใน 3 ศาลเจ้าแห่งดินแดนตะวันออก ร่วมกับศาลเจ้าคาชิมะจิงกู (Kashima Jingu Shrine) และศาลเจ้าอิคิซุ (Ikisu Shrine) ในจังหวัดอิบารากิ ว่ากันว่าในสมัยเอโดะ หลังจากไปสักการะศาลเจ้าอิเสะ (Ise Grand Shrine) แล้วผู้คนก็มักจะมาสักการะ 3 ศาลเจ้าแห่งดินแดนตะวันออกนี้ต่อ

เทพเจ้าที่สถิตอยู่ที่ศาลเจ้าคาโทริจิงกูคือเทพฟุตสึนุชิ โนะ โอคามิ (Futsunushi no okami) เทพผู้ปกปักรักษาประเทศ

Picture courtesy of Katori City

ด้านในศาลเจ้าร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ใหญ่ มีทั้งต้นสนญี่ปุ่นอายุมากกว่า 1,000 ปีและ ซัมบงซุกิ ต้นสนญี่ปุ่นหน้าตาแปลกที่มีลำต้นแยกออกเหมือนเป็น 3 ต้น มาสัมผัสกับพลังของธรรมชาติในบรรยากาศที่อบอวลไปด้วยความขลังกันค่ะ

การเดินทาง : นั่งรถบัสวนรอบเมืองจากสถานีเจอาร์ ซาวาระ (JR Sawara) รถไฟสายนาริตะ (Narita) มาลงป้ายคาโทริจิงกู (Katori-jingu)
*มีลานจอดรถฟรีให้บริการสำหรับผู้เดินทางมาโดยรถยนต์

คาโทริ จิงกู

1697 คาโตริ เมืองคาโทริ จังหวัดชิบะ 287-0017

6. ชายหาดคุจูคุริ (Kujukuri Beach)

Picture courtesy of pixta

ชายหาดคุจูคุริ (Kujukuri Beach) เป็นชายหาดริมฝั่งทะเลที่ยาวเป็นอันดับ 2 ของญี่ปุ่นด้วยความยาวรวมกว่า 66 กิโลเมตร ตั้งอยู่บนฝั่งตะวันออกของคาบสมุทรโบโซ (Boso Peninsula) ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของจังหวัดชิบะ ที่นี่ได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 100 ชายหาดชื่อดังของญี่ปุ่นเลยทีเดียว ถ้าใครขับรถจนเหนื่อยแล้วก็น่าแวะมาชมวิวทะเลฟังเสียงคลื่นที่นี่เพื่อชาร์จพลังกันดูค่ะ

Picture courtesy of pixta

แนวชายหาดของคุจูคุริเป็นทางยาวตรงที่แทบไม่มีโขดหินเลย เหมาะจะมาเล่นน้ำทะเลสุดๆ

นอกจากนี้หาดสึริกาซากิ (Tsurigasaki Beach) ส่วนใต้ของชายหาดคุจูคุริจะถูกใช้เป็นสถานที่จัดการแข่งขันกระดานโต้คลื่นในงานมหกรรมกีฬาโตเกียวโอลิมปิกและพาราลิมปิกปี 2020 อีกด้วยเพราะคลื่นดี ในฤดูร้อนก็มีผู้คนเดินทางมาเล่นกระดานโต้คลื่นและเล่นน้ำทะเลกันมากมาย

บริเวณหาดฟุโดโด (Fudodo Beach) หาดคาตาไค (Katakai Beach) และหาดซาคุตะ (Sakuta Beach) มีลานจอดรถให้บริการ สำหรับรายละเอียดสามารถดูได้ที่เว็บไซต์ทางการ

การเดินทาง : จากสถานีเจอาร์ นารุโตะ (JR Naruto) นั่งแท็กซี่ประมาณ 25 นาที หรือจากสถานีเจอาร์ โทกาเนะ (JR Tokane) นั่งรถบัสของบริษัทรถไฟคุจูคุริ (Kujukuri Tetsudo) คันที่ไปโมโตะสุกะ (Motosuka) มาลงป้าย "อุมิโนะเอกิ คุจูคุริ (Umi no Eki Kujukuri)"

สถานีทะเลคูจูคุริ

2347-98 Kozeki, Kujukuri-cho, Sambu-gun, ชิบะ 283-0102

ชวนขับรถเที่ยวชิบะ! บริการเช่ารถยนต์แสนสะดวกที่สนามบินนาริตะ

เราสามารถเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวที่ได้แนะนำกันไปอย่างสะดวกสบายได้ด้วยบริการเช่ารถยนต์จากเคาน์เตอร์บริการในสนามบินนาริตะ

เคาน์เตอร์บริการเช่ารถยนต์

เคาน์เตอร์บริการเช่ารถยนต์มีเฉพาะในเทอมินอล 1 และเทอมินอล 2 สำหรับใครที่ลงเครื่องที่เทอมินอล 3 ให้เดินทางต่อไปยังเทอมินอลอื่นที่มีเคาน์เตอร์บริการ และเพื่อความสะดวกรวดเร็วขอแนะนำให้จองล่วงหน้า จะได้ใช้เวลาในการดำเนินการน้อยลง

สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับบริษัทเช่ารถยนต์ที่มีเคาน์เตอร์บริการ สามารถดูได้จากเว็บไซต์ทางการของสนามบินนาริตะ

ข้อควรระวัง

บริการเช่ารถยนต์นอกจากจำเป็นต้องใช้เอกสาร เช่น พาสปอร์ต ในการดำเนินการแล้ว ในกรณีที่มีเด็กอายุต่ำกว่า 6 ปีก็ต้องสำรองที่นั่งสำหรับเด็ก (Child Seat) เอาไว้ด้วย เนื่องจากกฎหมายญี่ปุ่นกำหนดเอาไว้ว่าเด็กอายุต่ำกว่า 6 ปีต้องนั่งที่นั่งสำหรับเด็กขณะโดยสารรถยนต์

บริษัทแต่ละแห่งจะคิดค่าบริการแตกต่างกันไปตามขนาดรถและระยะเวลา ลองหาบริษัทที่สนใจกันล่วงหน้าก่อนก็ดีค่ะ (ราคาอ้างอิง : เริ่มต้น 1,080 เยน / 10 วัน)

เกี่ยวกับ One-way Rental (บริการคืนรถต่างจุด)

บริษัทเช่ารถยนต์เกือบทุกแห่งมีบริการ One-way Rental หมายความว่า แม้ว่าจะเช่ารถยนต์จากสำนักงานที่สนามบินนาริตะ ก็สามารถส่งคืนรถที่สำนักงานต่างสาขาได้ ขอเพียงเป็นบริษัทเดียวกันก็พอ แต่สำนักงานในบางพื้นที่อาจมีการชาร์จเงินเพิ่ม จึงขอแนะนำให้เช็คจากเว็บไซต์ทางการของแต่ละบริษัทก่อนจะดีที่สุด

บทส่งท้าย

สำหรับใครที่กำลังวางแผนเที่ยวกับครอบครัว ขอแนะนำให้ลองเช่ารถแล้วไปเที่ยวสัมผัสเสน่ห์ของชิบะกันค่ะ ระหว่างทางก็มีวิวสวยๆ ให้ดูไปตลอดทางเหมาะสำหรับการขับรถเที่ยวเองเป็นอย่างยิ่ง

ส่วนใครที่กำลังมองหาแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ใกล้สนามบินนาริตะก็อย่าลืมคลิกเข้าไปอ่านรวมบทความพิเศษเกี่ยวกับสนามบินนาริตะกันได้

มาสร้างความทรงจำแสนพิเศษร่วมกับครอบครัวกันค่ะ!

Written by Chien
Sponsored by Narita International Airport Promotion Association