Start planning your trip

จ.ชิบะเต็มไปด้วยของอร่อยซึ่งเป็นที่รู้จักกันเฉพาะในหมู่ผู้คนท้องถิ่นมากมาย! ในครั้งนี้เราจะมาเปิดเผยอาหารท้องถิ่นของชิบะและงานอีเว้นท์อาหารเฉพาะฤดูกาลจากการสืบเสาะของฝ่ายบรรณาธิการเว็บไซต์ MATCHA กันค่ะ
หลายคนน่าจะเคยประสบปัญหางงเต๊กเวลามีคนถามว่า “ของอร่อยที่สามารถหาทานได้ในจ.ชิบะมีอะไรบ้าง?” กันใช่มั้ยเอ่ย? แต่ความจริงแล้วในจ.ชิบะเต็มไปด้วยของอร่อยซึ่งเป็นที่รู้จักกันในหมู่ผู้คนเฉพาะกลุ่มเพียบเลยทีเดียว ในครั้งนี้เราจะมาเปิดเผยข้อมูลลับเรื่องของอร่อยประจำท้องถิ่นและงานอีเว้นท์อาหารเฉพาะฤดูกาลของจ.ชิบะกันค่ะ
ความจริงแล้ว “สนามบินนาริตะ” ซึ่งเป็นประตูสู่ญี่ปุ่นนั้นตั้งอยู่ในจ.ชิบะ ดังนั้น เมื่อเดินทางมาถึงสนามบินนาริตะแล้วนั่งรถไฟออกมาอีกหน่อยเดียว เราก็จะสามารถดื่มด่ำกับของอร่อยได้ทันทีที่ถึงญี่ปุ่นแล้วล่ะค่ะ!
“ท่าเรือประมงโจชิ” คือ ท่าเรือประมงที่ตั้งอยู่ในเมืองโจชิทางฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของจ.ชิบะบริเวณทิศตะวันออกสุดของเขตคันโต เนื่องจากตั้งอยู่บริเวณจุดตัดของกระแสน้ำโอยาชิโอะ (กระแสน้ำเย็น) และกระแสน้ำคุโรชิโอะ (กระแสน้ำอุ่น) ที่นี่จึงเป็นแหล่งรวมสัตว์ทะเลมากมายหลากหลายสายพันธุ์และเป็นท่าเรือขึ้นชื่อเรื่องปริมาณการจับปลามากเป็นอันดับ 1 ของญี่ปุ่นติดต่อกันถึง 6 ปีซ้อน
เราสามารถเดินเยี่ยมชมตลาดภายในท่าเรือประมงโจชิได้อย่างอิสระ ส่วนเมนูยอดนิยมก็จะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก “ข้าวหน้าอาหารทะเล” แสนอร่อยของโรงอาหารภายในตลาดปลานั่นเอง
โรงอาหาร “Maiwai (ไมไว)” ภายใต้การบริหารของสมาคมท่าเรือประมงโจชิโดยตรงแห่งนี้เสิร์ฟเมนูอาหารแสนอร่อยจากปลาทะเลสดใหม่สุดยอดส่งตรงจากท่าเรือประมงโจชิกันแบบวันต่อวัน
เมื่อเห็นรูปร่างหน้าตาน่ารับประทานของข้าวหน้าอาหารทะเลซึ่งโปะหน้าด้วยปลามากุโระ, ปลาโอ, ปลาหมึก, ไข่, ต้นหอม, ไข่ปลาแซลมอน และใบกระเพราแบบเน้นๆแล้วถึงกับละสายตาไม่ได้ไปชั่วขณะหนึ่งเลยทีเดียว! ไม่ว่าใครได้ลิ้มลองปลาสดใหม่เหล่านี้ก็จะต้องฟินไปทั้งวันกันอย่างแน่นอน!
โรงอาหารตั้งอยู่ริมท่าเรือประมง เมื่อถึงเวลาอาหารที่นี่ก็จะคึกคักไปด้วยลูกค้าท้องถิ่นมากมายเลยทีเดียว
ถ้าเกิดใครเลือกที่นั่งริมหน้าต่างก็จะสามารถชมบรรยากาศของทะเลสีน้ำเงินและนกนางนวลสีขาวได้อย่างชิลล์ๆ รับรองว่าใครได้ลิ้มลองอาหารทะเลที่นี่ก็ต้องรู้สึกแบบเดียวกันว่า “ถ้าเกิดแบบนี้ไม่เรียกว่าสดก็ไม่มีอะไรสดอีกแล้ว!!”
เอื้อเฟื้อภาพโดย:สมาคม one-katsuura
จ.ชิบะแห่งนี้ล้อมรอบด้วยทะเลทั้ง 3 ด้าน จึงทำให้มีผู้คนท้องถิ่นประกอบอาชีพเป็นชาวประมงกันเยอะมากตามไปด้วย เนื่องจากชาวประมงและอามะซัง (※1) เป็นอาชีพที่ต้องทำงานกับทะเล ย้อนกลับไปเมื่อ 50 ปีก่อนจึงเกิดเมนูสำหรับอบอุ่นร่างกายอันหนาวเหน็บอย่าง “คัตสึอุระทันทันเมน” ขึ้นมาภายในเมืองแห่งชาวประมง “คัตสึอุระ” และยังคงรับประทานกันทั่วไปจนถึงทุกวันนี้ โดยปกติแล้วมักจะใส่น้ำมันงารสเผ็ดลงในน้ำซุปโชยุในปริมาณมากและใช้ท็อปปิ้งเป็นเนื้อหมูบดและหอมใหญ่ซอยละเอียด
ร้านติดธงสีแดงตามภาพเป็นร้านจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ “คัตสึอุระทันทันเมน” ภายในเมืองคัตสึอุระมีทั้งหมดประมาณ 40 สาขาด้วยกัน โดยเราจะได้เพลิดเพลินกับรูปร่างหน้าตาและรสชาติสุดเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันไปตามแต่ละร้าน
เว็บไซต์หลัก “เลือดร้อน!! กองเรือคัตสึอุระทันทันเมน” (ภาษาญี่ปุ่น):http://katsutan-sendan.com/
※1 : อามะซัง……ผู้หญิงดำน้ำหาหอยหาปลาในทะเล
ไฮไลท์อีกอย่างหนึ่งของคัตสึอุระก็คือ Katsuura morning market (ตลาดเช้าคัตสึอุระ) สำหรับสัมผัสวิถีชีวิตของชาวเมืองท้องถิ่นอายุกว่า 400 ปีนั่นเอง ภายในตลาดเรียงรายไปด้วยพืชผักจากบนภูเขาและอาหารทะเลสดใหม่จากทะเลในคัตสึอุระ หลังจากช้อปปิ้งภายในตลาดเช้ากันจนจุใจแล้วก็ต้องแวะไปลิ้มลอง “คัตสึอุระทันทันเมน” กันหน่อยแล้วล่ะค่ะ
Choshi Electric Railway (รถไฟโจชิ) ที่วิ่งให้บริการภายในจ.ชิบะขึ้นชื่อเรื่องเป็นสายรถไฟที่สั้นเป็นอันดับต้นๆของญี่ปุ่น โดยมีระยะทางรวมเพียงแค่ 6.4 กิโลเมตร ระยะทางจากสถานีต้นทางจนถึงสถานีปลายทางใช้เวลาเดินทางเพียงแค่ 20 นาทีเท่านั้นเอง
แต่เดิมแล้วผู้ใช้บริการหลักๆเป็นชาวเมืองท้องถิ่นซะส่วนใหญ่ หลังจากประสบปัญหาทางเศรษฐกิจจนมีจำนวนผู้ใช้บริการลดน้อยลงอย่างมากก็เกือบจะทำให้เจ๊งไปเลยทีเดียว
ส่วนฮีโร่ผู้กอบกู้วิกฤติดังกล่าวโดยการชดเชยรายรับของสายรถไฟจนสามารถยืนหยัดมาได้จนถึงทุกวันนี้ก็คือ “นูเระเซมเบ้แห่งสายรถไฟโจชิ” นั่นเอง หลังจากวิกฤติจนเกือบต้องปิดกิจการเป็นที่พูดถึงกันบนโลกอินเตอร์เน็ต การช่วยเหลือสนับสนุนก็หลั่งไหลกันมามากมายด้วยการอุดหนุนนูเระเซมเบ้นี่แหละ จากการที่เป็นต้นเหตุให้สายรถไฟโจชิฟื้นตัวกลับมาเปิดให้บริการต่อได้อีกครั้งหนึ่งจึงทำให้ “นูเระเซมเบ้” กลายเป็นของอร่อยในตำนานของจ.ชิบะไปโดยปริยาย
Inubo Station ของสายรถไฟโจชิไม่ได้เป็นเพียงแหล่งจำหน่าย “นูเระเซมเบ้” หลักเท่านั้น แต่เรายังสามารถลงมือย่างเซมเบ้ด้วยตัวเองได้ด้วยนะเออ...
เซมเบ้ โดยทั่วไปทำโดยการย่างและชุบซอสโชยุซ้ำๆ หลังจากนั้นก็นำไปตากแห้งและบรรจุใส่ถุง
แต่สำหรับ “นูเระเซมเบ้” จะนำเซมเบ้ที่ผ่านการย่างจนพองแล้วไปชุบซอสโชยุก่อนบรรจุใส่ถุงเลย จึงทำให้ซอสโชยุซึมลึกเข้าสู่เนื้อเซมเบ้และได้รสสัมผัสนุ่มลิ้น เซมเบ้ที่ซึมซับซอสโชยุเป็นอย่างดีสามารถกัดให้หักได้อย่างง่ายดาย แถมเรายังสามารถเพลิดเพลินกับกลิ่นหอมของโชยุที่กระจายไปทั่วทั้งปากได้อีกต่างหาก
ถ้าเกิดใครได้ลิ้มลองนูเระเซมเบ้เพียงสักคำก็จะรู้เหตุผลได้อย่างชัดเจนเลยว่าทำไมนูเระเซมเบ้ถึงสามารถกอบกู้สายรถไฟโจชิได้สำเร็จ
หลังจากดื่มด่ำกับของอร่อยในตำนานกันไปแล้วก็รีบมุ่งหน้าต่อไปยัง "Chikyu no marukumieru oka Observatory Paviliion "(จุดชมวิวจิคิวโนะ มารุคุมิเอรุโอกะ) กันเลยดีกว่า~ เราสามารถสัมผัสถึงความกลมของโลกใบนี้ได้ที่นี่เลย นอกจากนี้ก็ยังสามารถชมวิวพระอาทิตย์ยามเย็นอันงดงามจาก Inubōsaki Lighthouse (ประภาคารอินุโบซากิ) ที่ตั้งอยู่ใกล้กันได้อีกด้วย บอกเลยว่าสุดยอดทั้งคู่...ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวงจ้า!
เมื่อเอ่ยถึงผลไม้ที่สามารถหาทานได้ตั้งแต่ฤดูหนาวจนถึงฤดูใบไม้ผลิในญี่ปุ่นก็ต้องยกให้สตรอว์เบอร์รีลูกกลมสีแดงแจ๋อย่างแน่นอน! จ.ชิบะมีพื้นที่กว้างใหญ่โดยไม่ได้โดดเด่นเฉพาะเรื่องอาหารทะเลสดใหม่เท่านั้น แต่ยังก้าวหน้าด้านเกษตรกรรมอีกด้วย ภายในจ.ชิบะมีการเพาะปลูกสตรอว์เบอร์รีเอาไว้ทั่วทุกแห่ง โดยเฉพาะทาเทยามะทางตอนใต้ของจ.ชิบะนั้นเจริญรุ่งเรืองด้านการเพาะปลูกสตรอว์เบอร์รีเป็นอย่างมาก
เนื่องจากที่นี่ปลูกสตรอว์เบอร์รีเอาไว้ในเรือนกระจก เราจึงสามารถเก็บเกี่ยวสตรอว์เบอร์ได้ยาวๆตั้งแต่เดือนมกราคมไปจนถึงเดือนพฤษภาคม นอกจากจะได้สตรอว์เบอร์รีลูกแดงใหญ่แล้วก็ยังไม่ใช้ยาฆ่าแมลงเลยอีกด้วย
โดยมีการจัดกิจกรรมเก็บเกี่ยวสตรอว์เบอร์รีสายพันธุ์จากทั่วญี่ปุ่นแบบบุฟเฟ่ต์เป็นเวลา 30 นาทีเต็ม เราจะได้เพลิดเพลินกับรสชาติ 2 แบบทั้งผลสตรอว์เบอร์รีแบบเพียวๆและผลสตรอว์เบอร์รีราดนมข้นหวาน การได้ค้นหาสตรอว์เบอร์รีหน้าตาน่ารับประทานภายในเรือนกระจกที่อบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของสตรอว์เบอร์รีให้ความรู้สึกราวกับว่ากำลังตามล่าหาสมบัติเลยทีเดียว โอย~ ความฟินของการได้ลิ้มลองสตรอว์เบอร์รีจากต้นโดยตรงเป็นอะไรที่ผู้ชื่นชอบสตรอว์เบอร์รีต้องกรี๊ดกร๊าดกันอย่างแน่นอน
“คิซาราสึ” คือ เมืองที่ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกตอนกลางของจ.ชิบะ หลายคนน่าจะเคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับเมืองคิซาราสึแห่งนี้จากละครเรื่อง “Kisarazu Cat's Eye” กันมาบ้างแล้ว ที่นี่เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของหอยบากาไก (อาโอยากิ) และหอยอาซาริขึ้นชื่อ โดยมีให้เห็นกันมากมายบริเวณริมชายฝั่งทะเลที่สามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรมเก็บหอยช่วงน้ำลงได้ ในฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน เราจึงจะได้เห็นบรรยากาศของพ่อแม่ลูกมานั่งยองๆหาหอยกันเป็นประจำทุกปี
บางคนอาจคิดว่า “อ้าว...ซื้อเอาที่ตลาดไม่ง่ายกว่าเหรอ?” แต่บอกเลยว่าผิดถนัด! เพราะว่าหอยอาซาริของคิราซาสึนั้นมีเนื้อหนากว่าหอยอาซาริของแห่งอื่น นอกจากนี้ก็ยังสามารถเก็บได้ง่ายในราคาสุดคุ้มกว่าซื้อเองอีกด้วย ทุกคนจึงยอมมานั่งแหวกทรายหาหอยกันอย่างขะมักเขม้นแบบนี้นั่นเอง!
เมื่ออ่านมาจนถึงตรงนี้แล้วหลายคนคงอดไม่ได้ที่จะอยากออกทริปไปดื่มด่ำกับของอร่อยถึงจ.ชิบะกันให้เร็วที่สุด เนื่องจากจ.ชิบะมีพื้นที่กว้างใหญ่มาก นอกจากไฮไลท์ที่เราได้แนะนำกันไปแล้วก็ยังมีแหล่งท่องเที่ยวและอาหารท้องถิ่นอื่นๆอีกมากมาย ยังไงตอนเดินทางมาเที่ยวญี่ปุ่นครั้งหน้าก็อย่าลืมแวะมาเที่ยวชิบะแบบจัดเต็มกันดูนะคะ
Sponsored by สมาคมส่งเสริมสนามบินนานาชาตินาริตะ
บทความโดย
東京に出てきて8年目です。