ใกล้สนามบินนาริตะ! เที่ยวมินามิโบโซ ครบทั้งอาหารทะเล ออนเซ็นและวิวสวยที่จังหวัดชิบะ (Chiba)
มาถึงสนามบินนาริตะแล้วอย่าพึ่งเข้าโตเกียว! ลองมาเที่ยว “มินามิโบโซ” ทางใต้ของชิบะกัน ที่นี่เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวโตเกียวห่างจากสนามบินนาริตะไม่ถึง 2 ชั่วโมง เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวสัมผัสประสบการณ์ที่ไม่สามารถหาได้จากในตัวเมืองมากมาย!
มินามิโบโซ (Minamiboso) โซนสัมผัสธรรมชาติและอาหารทะเลในชิบะ (Chiba)
มินามิโบโซ (Minamiboso) เป็นชื่อเรียกโซนภาคใต้ของจังหวัดชิบะมาตั้งแต่สมัยโบราณ ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวรอบนอกโตเกียวที่อัดแน่นไปด้วยเสน่ห์ซึ่งหาไม่ได้จากในตัวเมือง ที่นี่ตั้งอยู่ทางใต้สุดของคาบสมุทรโบโซ (Boso Peninsula) ที่ยื่นออกสู่ทะเล จึงมีทั้งอาหารทะเลสดใหม่ มาจิบกาแฟพลางชมทะเล และแช่ออนเซ็นสบายๆ กันได้ที่นี่
หากออกจากสนามบินนาริตะแล้วมุ่งหน้าเข้าโตเกียวเลยจะพลาดประสบการณ์ดีๆ ที่หาในตัวเมืองไม่ได้นะ!
ใครที่อยากเพลิดเพลินกับแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ ตั้งแต่ที่ชมวิวทะเล ทุ่งดอกไม้ ใบไม้แดงแสนสวย และอาหารทะเลแสนอร่อยก็บอกเลยว่าต้องลองแวะมาเที่ยวที่มินามิโบโซแห่งนี้กันดู ในครั้งนี้เราจะมานำเสนอสถานที่ท่องเที่ยวและอาหารแนะนำของมินามิโบโซและเมืองอิจิฮาระ (Ichihara) ที่ตั้งอยู่ตรงใจกลางจังหวัดชิบะกันค่ะ!
6 แหล่งท่องเที่ยวห้ามพลาดในมินามิโบโซ!
มินามิโบโซเต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์และสถานที่เที่ยวลับๆ ที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักมากมาย ในบรรดาสถานที่เหล่านั้นเราคัดมา 6 สถานที่แนะนำห้ามพลาดมาแนะนำกัน จะมีที่ไหนกันบ้าง เรามาดูกันเลยดีกว่า!
1. หุบเขาโยโรเคโคคุ (Yoro Keikoku Ravine)
Picture courtesy of pixta
หุบเขาโยโรเคโคคุ (Yorokeikoku Ravine) เป็นแหล่งชมใบไม้เปลี่ยนสีขึ้นชื่อ เมื่อย่างเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงของทุกปี ทั่วทั้งหุบเขาจะย้อมไปด้วยสีแดงดึงดูดให้แฟนๆ ผู้ชื่นชอบใบไม้เปลี่ยนสีเดินทางมาชมกันเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะทัศนียภาพของใบไม้เปลี่ยนสีที่มีฉากหลังเป็น น้ำตกอาวามาตะ (Awamata Falls) หนึ่งในน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในชิบะเป็นอะไรที่งดงามมาก
Picture courtesy of Otaki Town
ฤดูกาลอื่นๆ นอกจากฤดูใบไม้เปลี่ยนสีก็มีเสน่ห์ไม่แพ้กัน บริเวณโดยรอบมีเส้นทางเดินป่าให้เราได้เพลิดเพลินกับการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาลพลางฟังเสียงน้ำไหลของแม่น้ำ แถมเลียบหุบเขายังมีแหล่งออนเซ็นที่เรียงรายไปด้วยที่พักมากมายถึง 10 กว่าแห่ง ช่วยผ่อนคลายความเหนื่อยล้าจากการเดินได้อีกต่างหาก
การเดินทาง :
จากสถานีคาซุซะนากาโนะ (Kazusa Nakano) นั่งรถบัสทันโช (Tansho Bus) มาลงป้าย "อาวามาตะ โนะ ทากิ (Awamata no Taki)"
ในกรณีที่เช่ารถหรือนั่งแท็กซี่มาจากสนามบินนาริตะจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที (อาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับสภาพการจราจร)
2. รถไฟโคะมินาโตะ (Kominato Railway) และรถไฟอิซุมิ (Isumi Railway)
Picture courtesy of Kominato Railway
รถไฟโคะมินาโตะ (Kominato Railway) เป็นรถไฟที่วิ่งให้บริการระหว่างสถานีโกอิ (Goi) ในเมืองอิจิฮาระใจกลางจังหวัดชิบะ จนถึง สถานีคาซุสะนากาโนะ (Kazusa Nakano) เมืองโอตากิในเขตอิซุมิเป็นระยะทาง 39.1 กิโลเมตร ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมีนาคมจะมีขบวนรถไฟนำเที่ยว ซาโตะยามะ โท-รกโกะ (Satoyama Torocco) ที่สามารถชมทัศนียภาพนอกขบวนรถไฟได้วิ่งให้บริการ นอกจากนี้ก็ยังตรงกับฤดูกาลของดอกนาโนะฮานะด้วย ในช่วงเวลาดังกล่าวเราจึงจะได้ชมภาพอันงดงามราวกับพรมสีเหลืองทอดยาวไปตลอดทาง
การใช้บริการรถไฟโท-รกโกะจำเป็นต้องจองล่วงหน้า สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จากเว็บไซต์ทางการ
การเดินทาง : นั่งรถไฟ JR สายอุจิโบ (Uchibo) จากสถานีชิบะ (Chiba) ประมาณ 25 นาที ลงที่สถานีโกอิ (Goi)
ที่อยู่
1-1-2 Goi Chuohigashi, Ichihara, Chiba
บริการwifi
ไม่ได้
ประเภทของบัตรเครดิต
ไม่ได้
สถานีใกล้ที่สุด
สถานีโกอิ (Goi) รถไฟโคะมินาโตะ (Kominato Railway)
วีธีการเดินทาง
นั่งรถไฟ JR สายอุจิโบ (Uchibo) จากสถานีชิบะ (Chiba) ประมาณ 25 นาที
เบอร์โทรศัพท์
0436-21-6773
HPทางการ
http://www.kominato.co.jp/
Picture courtesy of Isumi Railway
ส่วนรถไฟอิซุมิ (Isumi Railway) เป็นรถไฟที่วิ่งให้บริการระหว่างสถานีโอฮาระ (Ohara) ในเมืองอิซุมิ จนถึง สถานีคาซุซะนากาโนะ (Kazusa Nakano) รวม 14 สถานีเป็นระยะทางราว 27 กิโลเมตร เลียบทางรถไฟมีดอกไม้นานาพันธุ์บานสะพรั่งอย่างแสนงดงาม โดยเฉพาะในฤดูใบไม้ผลิตามเส้นทางรถไฟจะเต็มไปด้วยดอกซากุระและดอกนาโนะฮานะออกดอกอวดโฉมกันเหมือนในรูปด้านบนเลย
การเดินทาง : นั่งรถไฟ JR สายโซโตะโบ (Sotobo) จากสถานีชิบะ (Chiba) ประมาณ 1 ชั่วโมง 10 นาที ลงที่สถานีโอฮาระ (Ohara Station)
ที่อยู่
Ohara, Isumi, Chiba
บริการwifi
ไม่ได้
ประเภทของบัตรเครดิต
ไม่ได้
สถานีใกล้ที่สุด
สถานีโอฮาระ (Ohara Station) รถไฟอิซุมิ (Isumi Railway)
วีธีการเดินทาง
นั่งรถไฟ JR สายโซโตะโบ (Sotobo) จากสถานีชิบะ (Chiba) ประมาณ 1 ชั่วโมง 10 นาที
เบอร์โทรศัพท์
0470-82-2161
HPทางการ
https://www.isumirail.co.jp/
3. ภูเขาโนโคกิริยามะ (Mount Nokogiri)
Picture courtesy of pixta
ภูเขาโนโคกิริยามะ (Mount Nokogiri) แห่งนี้มักมีภาพปรากฏบนปกหนังสือนำเที่ยวจนเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของการท่องเที่ยวของจังหวัดชิบะไปแล้ว เราสามารถเดินเท้าหรือนั่งกระเช้าลอยฟ้าขึ้นเขาก็ได้ จากบนยอดเขาสามารถมองเห็นไปถึงภูเขาไฟฟูจิและโตเกียวสกายทรีได้เลยทีเดียว
แต่เดิมแล้วภูเขาโนโคกิริยามะเคยเป็นเหมืองหินมาก่อน หินโบชูอิชิคุณภาพสูงที่ขุดได้จากที่นี่ถูกนำไปใช้เป็นวัสดุก่อสร้างสถานที่สำคัญอย่างศาลเจ้ายาซุคุนิ (Yasukuni Shrine) และมหาวิทยาลัยวาเซดะ เราสามารถเห็นร่องรยการจุดเจาะหินได้ตลอดทางขึ้นเขา
ด้านทิศใต้ของภูเขาโนโคกิริเป็นที่ตั้งของวัดนิฮนจิ (Nihon-ji Temple) มีพระใหญ่ไดบุตสึปางนั่ง เป็นพระพุทธรูปหินที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น และยังมีผาหินสลักรูปเจ้าแม่กวนอิม เฮียคุชาคุคันนง (Hyakushaku Kannon) ขนาดยักษ์แบบในรูปด้านบนอีกด้วย
สำหรับผู้ที่ไม่กลัวความสูงก็ขอท้าให้ลองไปที่ผาส่องนรก จุดชมวิวที่เป็นแหลมยื่นออกมาบนหน้าผาที่เรียกกันว่า จิโกคุโนโซคิ (Jigoku Nozoki) ซึ่งแปลได้ว่า "แอบมองนรก" จากตรงนี้สามารถมองเห็นไปถึงภูเขาไฟฟูจิและชมอ่าวโตเกียว (Tokyo Bay) ได้ รับรองว่าทัศนียภาพอันงดงามด้านล่างนี้ควรค่าแก่การชมด้วยตาตัวเองสักครั้งแน่นอน
การเดินทาง :
เดินมาจากสถานีฮามาคานายะ 15 นาทีหรือจากสถานีโฮตะ 45 นาที
*กระเช้าลอยฟ้าเดินจากสถานีฮามาคานายะประมาณ 8 นาที
ในกรณีที่เช่ารถหรือนั่งแท็กซี่มาจากสนามบินนาริตะจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที (อาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับสภาพการจราจร)
ค่าเข้าชม : 600 เยน *เด็กอายุ 4 - 12 ปี 400 เยน ในกรณีที่มาโดยรถยนต์จำเป็นต้องจ่ายค่าที่จอดรถเพิ่มเติม
4. ตลาดเช้าคัตสึอุระ (Katsuura Morning Market)
Picture courtesy of Katsuura City
ตลาดเช้าคัตสึอุระ (Katsuura Morning Market) จัดขึ้นเกือบทุกวันตั้งแต่เวลา 6 โมงเช้า ตลอดสองฝั่งข้างทางเรียงรายไปด้วยร้านขายอาหารทะเลสดใหม่ถึงขนาดเรียกกันว่าเป็น 1 ใน 3 ตลาดเช้าที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นร่วมกับตลาดเช้าวาจิมะ (Wajima Morning Market) ในจังหวัดอิชิคาวะและตลาดเช้าทาคายามะ (Takayama Morning Market) ในจังหวัดกิฟุเลยทีเดียว
ตลาดเช้าแห่งนี้มีขายกับข้าวและของแห้งฝีมือชาวบ้านท้องถิ่น ขอแนะนำให้ลองมาเพลินไปกับบรรยากาศคึกคักของตลาดที่มีร้านค้ากว่า 70 ร้านและสนุกกับการพบปะพูดคุยกับผู้คนท้องถิ่นกันนะคะ
การเดินทาง : เดินจากสถานีเจอาร์ คัตสึอุระ (JR Katsuura) ประมาณ 10 นาที
5. อุบาระ ริโซเคียว (Ubara Risokyo)
สำหรับใครที่อยากถอยห่างจากความวุ่นวายในตัวเมือง มานั่งชมทะเลอย่างเงียบๆ ก็ขอแนะนำให้แวะมาเที่ยว อุบาระ ริโซเคียว (Ubara Risokyo) กันเลยค่ะ ที่นี่ถูกเรียกว่าริโซเคียว (เมืองในอุดมคติ) จากการที่เคยมีแผนทำเป็นเขตบ้านพักตากอากาศในช่วงต้นสมัยไทโช
อุบาระริโซเคียวเป็นแหล่งชมทัศนียภาพอันงดงามที่แม้แต่คนญี่ปุ่นเองก็ไม่ค่อยมีใครรู้จัก ในวันที่อากาศแจ่มใสก็เหมาะกับการมาเดินเล่นชมวิว หรือแม้แต่ในวันที่อารมณ์ขุ่นหมองก็ลองมารับลมทะเลให้จิตใจสดชื่นแจ่มใสขึ้นค่ะ
การเดินทาง : เดินจากสถานีเจอาร์ อุบาระ (Ubara) สายโซโตะโบ (Sotobo) 7 นาที
6. สวนสาธารณะกลางน้ำคัตสึอุระไคจู (Katsurakaichu Park)
สวนสาธารณะกลางน้ำคัตสึอุระไคจู (Katsurakaichu Park) เดินมาจากอุบาระ ริโซเคียวประมาณ 10 นาที มีหอชมวิวกลางทะเลไกลจากชายฝั่ง 60 เมตร เราสามารถชมทัศนียภาพอันงดงามได้จากบนท้องทะเล รวมถึงสามารถชมทัศนียภาพใต้ท้องทะเลที่มีเหล่าปลาทะเลแหวกว่ายได้จากกระจกหน้าต่างใต้น้ำด้วย
ทั้งเด็กและผู้ใหญ่สามารถเพลิดเพลินไปกับการชมเหล่าปลาใต้ทะเลและฝูงปลาที่ว่ายเวียนมาในแต่ละฤดูกาล
การเดินทาง : เดินจากสถานีอุบาระ (Ubara) สายโซโตะโบ (Sotobo) ประมาณ 15 นาที
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 960 เยน นักเรียนประถมและมัธยม 470 เยน เด็กอายุตั้งแต่ 4 ปีเป็นต้นไปแต่ไม่ถึงชั้นประถม 210 เยน
ชวนลิ้มลองอาหารรสเลิศของมินามิโบโซ!
สำหรับใครที่มี "อาหาร" เป็นหนึ่งในเป้าหมายของการท่องเที่ยวก็ห้ามพลาดอาหารแสนอร่อยของมินามิโบโซที่เราจะมาแนะนำกันต่อไปนี้เลย เพราะว่าเราจะได้ชิมเมนูที่หาทานทั่วไปได้ยากกัน!
อาหารทะเล
เมื่อเอ่ยถึงอาหารทะเลญี่ปุ่นหลายคนจะต้องนึกถึงฮอกไกโดขึ้นมาแน่ๆ แต่อาหารทะเลของมินามิโบโซก็อร่อยขนาดที่สายกินหลายคนลงทุนเดินทางมาเพื่อทานกันเลยทีเดียว
แถมปลาทะเลที่จับได้จากโซนโซโตะโบ ทางฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกและโซนอุจิโบ ทางฝั่งอ่าวโตเกียวก็เป็นคนละชนิดกันอีก สำหรับแถบนี้แล้วนอกจากอาหารทะเลจะสดใหม่แล้ว ยังราคาถูกด้วยเมื่อเทียบกับในตัวเมือง อาหารทะเลเด็ดๆ ที่สามารถจับได้ในมินามิโบโซ ได้แก่ กุ้งมังกรญี่ปุ่น ปลาบุริ หอยเป๋าฮื้อ และปลาคินเมะได
คัตสึอุระทันทันเมน (Katsuura Tantanmen)
คัตสึอุระตันตันเม็ง (Katsuura Tantanmen) เป็นอาหารเกรดบี (อาหารชาวบ้านทั่วไป) ที่มีรสเผ็ดชวนให้ติดใจ โดยเป็นราเม็งในน้ำซุปโชยุราดน้ำมันพริกสูตรพิเศษ โรยหน้าด้วยหอมใหญ่สับ และโปะด้วยเนื้อหมู
แต่เดิมแล้วคัตสึอุระตันตันเม็งเป็นเมนูสำหรับชาวประมงและอามะซัง (ผู้หญิงที่ทำอาชีพดำน้ำงมหอย) ในท้องถิ่น ว่ากันว่าชาวประมงที่กลับมาจากการออกเรืออันแสนหนาวเหน็บช่วงหน้าหนาวจะทานเพื่อช่วยให้ร่างกายอบอุ่น
ในปี 2015 เมนูนี้ได้รับรางวัลชนะเลิศในงานมหกรรมอาหารเกรดบีของญี่ปุ่นหรือ B-1 Grand Prix ด้วย เลยทำให้คัตสึอุระตันตันเม็งโด่งดังขึ้นในฐานะเมนูท้องถิ่นของแถบนี้ไปเลย แต่ละร้านที่เสิร์ฟเมนูนี้ก็มีวิธีการทำและรสชาติของน้ำมันพริก ชนิดของเส้น และการปรุงรสเป็นเอกลักษณ์ของตนเอง เข้าสิบร้านก็เหมือนได้ชิมสิบรสชาติเลย
ของหวานและของฝากจากถั่วลิสง
ชิบะเป็นแหล่งปลูกถั่วลิสงที่มีปริมาณการผลิตออกสู่ตลาดมากถึง 80% ทั่วญี่ปุ่น ที่นี่จึงเป็นแหล่งรวมเมนูจากถั่วลิสงมากมายหลายแบบไม่ว่าจะเป็นของคาว ของหวาน และของฝาก เราจะได้ชิมถั่วลิสงในแบบต่างๆ ที่ไม่เคยทานมาก่อน
โดยเฉพาะครีมเนยถั่ว (Peanuts Cream) ของที่นี่ส่วนใหญ่จะคัดเอาถั่วลิสงคุณภาพสูงมาใช้ มีให้เลือกซื้อหลายแบบทั้งแบบหวาน แบบไม่ใส่น้ำตาล แบบบดหยาบ และแบบบดละเอียด ถ้าจะให้แนะนำขอเลือกเป็นครีมเนยถั่วแบบไม่มีน้ำตาล รสสัมผัสเนียนและได้กลิ่นหอมของถั่วลิสงเต็มๆ
บทส่งท้าย
ขอเชิญหลบหนีจากผู้คนวุ่นวายในตัวเมืองมาสัมผัสออนเซ็น ลิ้มลองอาหารทะเลแสนอร่อย และชมทัศนียภาพอันงดงาม
ที่จังหวัดชิบะนี้เต็มไปด้วยสถานที่น่าเที่ยวมากมาย หากมีโอกาสมาลงเครื่องที่สนามบินนาริตะล่ะก็ ลองแวะมาสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษของชิบะกัน!
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
Written by Chien
Sponsored by Narita International Airport Promotion Association
บัญชีส่งเสริมการขายของ MATCHA สำหรับการโฆษณาองค์กรและรัฐบาลท้องถิ่น เรามุ่งมั่นที่จะให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านของเราอย่างสนุกสนาน
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง