ลิ้มลองคราฟท์เบียร์ต้นตำรับจากคานาซาว่าที่โอเรียนทอลบริววิ่ง

กิจกรรมเยี่ยมชมโรงงานและทดลองดื่มเบียร์

ที่นี่มีการจัดกิจกรรมเยี่ยมชมโรงงานและทดลองดื่มเบียร์เป็นปกติ โดยเปิดรับบุคคลทั่วไปทุกท่านที่จองเอาไว้ล่วงหน้า ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะได้ชมการผลิตเบียร์อย่างใกล้ชิดและสัมผัสถึงความหลากหลายและความสุดยอดของเบียร์โฮมเมดที่ไม่ได้ผลิตโดยผู้ค้ารายใหญ่ผ่านกิจกรรมดังกล่าว

“พิซซ่านโปลิตัน” กับแกล้มคู่เบียร์

ทางร้านเปิดทำการตั้งแต่เวลา 11.00 น. เมนูมื้อกลางวันและมื้อค่ำมีให้เลือกมากมายตามที่ระบุเอาไว้บนเมนู (มีคำแปลภาษาอังกฤษ) ไม่ว่าจะเป็นชีสรวม, มะกอก และไส้กรอก รวมถึงพิซซ่านโปลิตันที่อบในเตาอบชนิดพิเศษด้วย

ที่นี่เป็นร้านสุดวิเศษที่สามารถนั่งพูดคุยผ่อนคลายชิลล์ ๆ พลางชมผู้คนที่เดินผ่านไป-มาด้านนอกหน้าต่างได้ การตกแต่งภายในร้านแบบเพดานสูงซึ่งส่วนใหญ่ใช้วัสดุไม้กับหินและการเปิดให้แสงธรรมชาติสาดส่องเข้ามานั้นสร้างบรรยากาศให้ทั่วทั้งร้านดูสดใสร่าเริงสุด ๆ

หนึ่งในเสน่ห์ของที่นี่อยู่ที่บริการสุดอบอุ่นของพนักงานนี่แหละ พนักงานทุกคนมีนิสัยร่าเริงเป็นกันเอง แถมยังมีความพิถีพิถันและความตั้งใจอันแรงกล้าในการเสิร์ฟเบียร์แสนอร่อยให้ลูกค้าทุกท่านอีกด้วย

แล้วก็อย่าลืมฟังเพลงที่เปิดคลอภายในร้านกันด้วยนะจ๊ะ... ความหลากหลายของเบียร์และดนตรีสร้างบรรยากาศอันสดใสร่าเริงให้กับโอเรียนทอลบริววิ่งได้อย่างดีเยี่ยมเลยทีเดียว

คราฟเบียร์โฮมเมดมีรสชาติอย่างไร?

เนื่องจากวัฒนธรรมคราฟท์เบียร์เพิ่งเริ่มรับเข้ามาในประเทศญี่ปุ่นไม่นานมานี้เอง ทำให้คนญี่ปุ่นยังคงมีความเชื่อฝังใจอยู่ว่า “ไม่ว่าเบียร์แบบไหนก็เหมือนกันหมดนั่นแหละ” โอเรียนทอลบริววิ่งจึงอยากลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงความคิดเหล่านั้นนั่นเอง

สำหรับใครที่เดินทางมาที่ร้านจึงขอแนะนำให้ลองดื่มเบียร์ทั้ง 8 ชนิดเปรียบเทียบรสชาติกันและเรียนรู้ความแตกต่างทางรสชาติและความหลากหลายของวัฒนธรรมเบียร์กันดูเลยค่ะ ^^

แล้วก็อย่าลืมสังเกตตรงปากเครื่องกดเบียร์กันด้วยน้า... ด้ามจับตรงปากเครื่องทำมาจากวัสดุไม้ แถมดีไซน์ยังเปลี่ยนไปตามเบียร์แต่ละชนิดด้วย โดยเป็นผลงานของนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยศิลป์ภายในเมือง ส่วนลวดลายเป็นลายไม้มะฮอกกานีเหมือนกับเคาน์เตอร์บาร์

โอเรียนทอลบริววิ่งจำหน่ายเบียร์โฮมเมด 2 ชนิดประกอบด้วยไวเซ่น (เบียร์ขาว) และยูซุเอล (เบียร์ขาวใส่ส้มยูซุซึ่งเป็นของขึ้นชื่อประจำท้องถิ่น) ในครั้งนี้เราได้สั่งเบียร์ 2 ชนิดมานั่งจิบกันแบบชิลล์ ๆ ทั้งสองเมนูได้รสชาติผลไม้แบบเน้น ๆ เข้มข้น แต่มีรสสัมผัสเบา ๆ เหมาะกับการจิบคู่กับเมนูของทางร้านเป็นอย่างยิ่ง

ที่นี่ใช้ส้มยูซุที่เก็บเกี่ยวสดใหม่จากภายในท้องถิ่น แถมในอนาคตยังวางแผนใช้ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรของท้องถิ่นให้มากขึ้นอีกด้วย

ย่านโรงน้ำชาฮิกาชิชายะที่ตั้งของโอเรียนทอลบริววิ่ง

โอเรียนทอลบริววิ่งตั้งอยู่ตรงใจกลางเมืองคานาซาว่าภายใน ย่านโรงน้ำชาฮิกาชิชายะ ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดาย่านโรงน้ำชาเก่าแก่หลายแห่ง อาคารบ้านเรือนสไตล์ตึกแถวหน้าต่างทรงตารางสี่เหลี่ยม, พื้นหิน และตรอกแคบยาวให้บรรยากาศราวกับย้อนกลับไปในสมัยก่อนเลยทีเดียว คิดไม่ถึงเลยนะเนี่ยว่าที่นี่จะมีร้านค้าและคาเฟ่สมัยใหม่กับเค้าด้วย

บรรยากาศที่ผสมผสานกันระหว่างความใหม่และความดั้งเดิมอย่างลงตัวดึงดูดผู้คนมากมายให้เดินทางมาเที่ยวเมืองคานาซาว่า

โอเรียนทอลบริววิ่งแห่งนี้ใช้ มาจิยะ ที่สร้างขึ้นเกือบ 100 ปีก่อนเป็นสถานที่ตั้งร้าน แต่เดิมแล้วที่นี่เคยเป็นที่อยู่อาศัยของช่างฝีมือและพ่อค้ามาก่อน โดยผ่านมือของผู้คนมากมายหลายอาชีพมาแล้วไม่ว่าจะเป็นอาชีพผลิตกระดาษญี่ปุ่นและอาชีพผลิตน้ำแข็งจนกลายมาเป็นโรงหมักคราฟท์เบียร์อย่างในปัจจุบัน

ตัวสถาปัตยกรรมแทบไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงอะไรเลย โดยมีเพียงแค่การซ่อมแซมบริเวณชั้น 2F เท่านั้นเพื่อเป็นการรักษาคุณค่าทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของอาคาร รวมถึงเพื่อให้อาคารดูกลมกลืนกับสภาพแวดล้อมบริเวณโดยรอบด้วย

ได้เวลาชนแก้ว!

เป็นยังไงกันบ้างเอ่ย? เห็นแบบนี้ก็ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรมากแล้วเนอะ ยังไงเพื่อน ๆ ก็ลองแวะมาลิ้มลองคราฟท์เบียร์ต้นตำรับจากเมืองคานาซาว่าที่บริวผับของโอเรียนทอลบริววิ่งกันให้ได้นะคะ ^^ เอ้า...ชนแก้ว!

※ เนื้อหาภายในบทความนี้แปลมาจาก บทความภาษาอังกฤษ และนำมาเรียบเรียงใหม่