เที่ยวธรรมชาติใกล้โตเกียวแบบไปเช้าเย็นกลับที่เขาสึคุบะ (Mount Tsukuba) จังหวัดอิบารากิ

"เขาสึคุบะ" ภูเขาที่คนญี่ปุ่นคุ้นเคยมาตั้งแต่สมัยก่อน

เขาสึคุบะ (Mount Tsukuba) เป็นภูเขาในจังหวัดอิบารากิที่มี 2 ยอด เป็นภูเขาที่ชาวญี่ปุ่นคุ้นเคยและผูกพันมาตั้งแต่อดีตไม่ต่างจากภูเขาที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นอย่าง "ฟูจิ" จนมีการกล่าวว่า "ฟูจิแห่งตะวันตก สีคุบะแห่งตะวันออก"

เขาสึคุบะสูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 877 เมตร บนภูเขามีทั้งเคเบิ้ลคาร์ โรปเวย์ และทางสำหรับเดินขึ้นเขา ถึงไม่มีอุปกรณ์ปีนเขาอะไรไปก็สามารถเพลิดเพลินได้ครับ

บริเวณกลางเขาเป็นที่ตั้งของ "ศาลเจ้าสึคุบะซัน (Tsukubasan Shrine)" ที่มีชื่อเสียงในการขอพรด้านความรักความสัมพันธ์ แนะนำสำหรับผู้ที่สนใจในธรรมชาติและชอบเที่ยวชมวัดศาลเจ้าต่างๆ ครับ

ในครั้งนี้จะขอแนะนำตัวอย่างวิธีการเดินทางตั้งแต่โตเกียวไปจนถึงยอดเขาสึคุบะเลยครับ

วิธีการเดินทางจากโตเกียวไปยอดเขาสึคุบะ

1. จากสถานีโตเกียว ไปสึคุบะเซนเตอร์

วิธีที่สะดวกที่สุดคือนั่งรถบัสด่วนพิเศษ Expressway Bus จากสถานีโตเกียวไปจนถึงเขาสึคุบะเลยครับ

ค่าโดยสารเที่ยวเดียวราคารวมภาษี 1,180 เยน เราจะไปลงรถที่ท่ารถ "สึคุบะเซนเตอร์ (Tsukuba Center)" เฉลี่ยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงถึงครับ ตั๋วโดยสารสามารถซื้อได้ที่จุดจำหน่ายตั๋ว Expressway Bus ที่อยู่บริเวณทางออก Yaesu Minami Exit ของสถานีโตเกียว จุดขึ้นรถก็อยู่ในบริเวณใกล้เคียงกัน

ที่จริงจะมีตั๋วแบบพิเศษ Tsukubasan Story ticket (ตั๋วเที่ยวโตเกียวและเขาสึคุบะ) ด้วยตั๋วใบเดียวนี้สามารถใช้โดยสารรถบัสด่วนพิเศษ Expressway Bus, รถชัทเทิลบัส, โรปเวย์ และเคเบิ้ลคาร์ ทั้งขาไปและกลับระหว่างโตเกียวและเขาสึคุบะได้เลยครับ

ราคารวมภาษีของตั๋วผู้ใหญ่อยู่ที่ 4,000 เยน เด็ก 2,000 เยน ถ้าคิดว่าต้องเสียค่ารถชัทเทิลบัสและโรปเวย์อื่นๆ อีกด้วยแล้ว ถือว่าตั๋วพิเศษนี้คุ้มค่ากว่าเกือบ 1,000 เยนเลยนะครับ ตั๋วนี้ซื้อได้ที่จุดจำหน่ายตั๋ว Expressway Bus เช่นกัน

2. จากท่ารถสึคุบะเซนเตอร์ ไปยังศาลเจ้าสึคุบะซัน

พอลงที่ท่ารถสึคุบะเซนเตอร์แล้ว ให้เปลี่ยนไปขึ้นรถชัทเทิลบัส จากป้ายที่เขียนว่า "Mt. Tsukuba 1"

ค่าโดยสาร 720 เยน หย่อนเงินลงในตู้ค่าโดยสารที่อยู่ด้านข้างคนขับตอนจะลงจากรถบัสครับ

ในรถโดยสารจะมีประกาศแนะนำเกี่ยวกับเมืองสึคุบะและเขาสึคุบะให้ฟัง มีภาษาอังกฤษด้วยนะครับ ระหว่างชมวิวเมืองสึคุบะและเขาสึคุบะจากบนรถก็นั่งฟังไปเพลินๆ ได้ครับ

3.จากหน้าศาลเจ้าสึคุบะซัง ไปยังสถานีมิยาวากิ

เมื่อลงจากรถบัสแล้ว จะเดินต่อไปยังสถานีเคเบิ้ลคาร์กัน จากป้ายจอดรถบัสจะมองเห็นเสาประตูโทริอิสีแดงขนาดใหญ่ ให้ลอดโทริอินี้และเดินตามทางขึ้นเนินเลยครับ

เป็นถนนเส้นเดียวไม่มีทางแยกอะไร ไม่ต้องกลัวหลงนะครับ เดินไปเรื่อยๆ จะเจอลานเปิดกว้างๆ ที่เรียงรายไปด้วยโรงแรมและร้านขายของฝาก

ให้เดินต่อไปอีกนิดจะเจอบันไดหินกับเสาประตูโทริอิแบบในรูป จากจุดนี้เข้าไปก็จะเป็นเขตศาลเจ้าสึคุบะซัน เดินเข้าไปเลยครับเพื่อไปยังจุดขึ้นโรปเวย์

ภายในศาลเจ้าสึคุบะซันมีบันไดหินและทางลาดเยอะ ถ้าจะถ่ายรูประหว่างเดินก็ระวังกันนิดนึงนะครับ

เมื่อขึ้นบันไดหินไปจนสุดทาง ก็จะเห็นอาคารสักการะของศาลเจ้าสึคุบะ

ศาลเจ้าแห่งนี้เป็นที่ประทับของเทพเจ้าสามีภรรยาที่มีนามว่า สึคุบะโอะ โนะโอคามิ และ สึคุบะเมะ โนะโอคามิ ทำให้ที่นี่มีชื่อเสียงเรื่องการช่วยรักษาความสัมพันธ์ของสามีภรรยา และการผูกสัมพันธ์ ถ้ามาแล้วก็มาสักการะกันนะครับ

ส่วนจุดขึ้นเคเบิ้ลคาร์ไปยอดเขา ให้เราหันหน้าเข้าอาคารสักการะ แล้วไปทางซ้ายครับ เดินไปตามทางที่มีต้นไม้ร่มรื่นจนเจอซุ้มประตูโค้งสีฟ้า พอเข้าไปก็เลี้ยวซ้าย จะเจอสถานีเคเบิ้ลคาร์ "สถานีมิยาวากิ (Miyawaki)"

4. จากสถานีมิยาวากิ นั่งเคเบิ้ลคาร์ไปยังยอดเขา

เราจะเห็นอาคารสถานีเป็นแบบนี้ครับ เดินเข้าไปตรงหลังคาสีแดงทางฝั่งซ้ายของรูป ขึ้นบันไดไปหน่อยจะมีเครื่องจำหน่ายตั๋วและจุดขึ้นเคเบิ้ลคาร์

เครื่องจำหน่ายตั๋วรองรับหลายภาษาครับ มีทั้งภาษาอังกฤษ ภาษาจีน ภาษาเกาหลี สามารถเปลี่ยนภาษาได้โดยกดด้านบนซ้ายของจอ

ตั๋วโดยสารจะมี 2 ประเภท คือ ตั๋วไปกลับและตั๋วเที่ยวเดียว แนะนำให้ซื้อตั๋วไปกลับ (ราคารวมภาษี 1,050 เยน) ขากลับจะได้ไม่ต้องเสียเวลารอซ์้อตั๋วครับ

จุดขึ้นเคเบิ้ลคาร์จะอยู่ทางขวาของเครื่องจำหน่ายตั๋ว เราก็ไปรอต่อแถวขึ้นตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ครับ เคเบิ้ลคาร์จะมีอยู่ 2 แบบ คือ "ขบวนโมมิจิ" สีแดง กับ "ขบวนวากาบะ" สีเขียว

ถ้านั่งเคเบิ้ลคาร์แล้ว เป้าหมายก็อยู่แค่เอื้อมครับ นั่งชมวิวนอกหน้าต่างไปเพลินๆ แป๊บเดียวเดี๋ยวก็ถึงยอดเขาสึคุบะแล้วครับ

เมื่อออกจากสถานีก็จะเป็นสถานที่ที่เรียกว่า "มิยูกิกะฮาระ (Miyukigahara)"

ทอดสายตามองที่ราบคันโตจาก มิยูกิกะฮาระ

เมื่อออกจากสถานีสึคุบะซันโจ สถานีบนยอดเขาสึคุบะแล้ว เบื้องหน้าคือ มิยูกิกะฮาระ จุดที่สามารถทอดสายตามองทิวทัศน์ของที่ราบคันโต ที่ราบที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นจากทางเหนือจรดใต้ที่รวมถึงโตเกียวด้วย!

จะถ่ายรูปก็สวย หรือจะลองใช้กล้องส่องทางไกลหยอดเหรียญ 100 เยนส่องดูวิวก็ได้

บนยอดเขามีร้านค้าร้านอาหารให้บริการด้วย ได้ทานอาหารท่ามกลางอากาศบริสุทธิ์เป็นอะไรที่สดชื่นมาก

ทิวทัศน์แสนงามจาก "จุดชมวิวโคมะ"

ทิวทัศน์จากมิยูกิกะฮาระก็ว่าสวยแล้ว แต่ถ้าขึ้นไปที่ "จุดชมวิวโคมะ" ก็จะได้เห็นทิวทัศน์ที่งามขึ้นไปอีกครับ จุดชมวิวโคมะอยู่ติดกับสถานีสึคุบะซันโจเลย

จากในจุดชมวิวชั้น2 ให้เดินขึ้นบันไดเวียนไปอีก จะขึ้นไปสู่จุดชมวิวบนดาดฟ้า บันไดจะค่อนข้างแคบ ระมัดระวังเวลาขึ้นและลงกันนะครับ

ดาดฟ้าของจุดชมวิวเป็นรูปวงกลม ชมวิวได้รอบทิศ 360 องศาเลยครับ ในวันที่อากาศดีๆ ท้องฟ้าปลอดโปร่ง เราจะสามารถมองเห็นที่ราบคนโตได้ทั้งหมดเลย

ดีไม่ดีก็อาจจะมองเห็นโตเกียวสกายทรี ภูเขาไฟฟูจิ และ คาสุมิกะอุระ ทะเลสาบที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของญี่ปุ่นในจังหวัดอิบารากิด้วยนะครับ

ข้อควรระวังเวลาลงเขา

ตอนลงจากภูเขา ขอให้ย้อนกลับไปด้วยวิธีการเดียวกับตอนที่มา เพียงแต่จะต้องระวังเรื่องเวลาครับ

รถบัสรอบสุดท้ายจากศาลเจ้าสึคุบะซัน ที่จะกลับไปท่ารถสึคุบะเซนเตอร์คือเวลา 17:10 แนะนำให้ขึ้นเคเบิ้ลคาร์ลงเขาจากสถานีสึคุบะซันโจ อย่างช้าที่สุดเวลา 16:00 ครับ

จากท่ารถสึคุบะเซนเตอร์ให้ไปขึ้นรถที่ป้าย "หมายเลข 7" เพื่อนั่งรถกลับสถานีโตเกียวครับ

ข้อควรระวังในการขึ้นเขาสึคุบะ

การไปเที่ยวที่เขาสึคุบะไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ปีนเขาอะไรครับ แต่เพราะมีทางลาดชันและบันไดเยอะ แนะนำให้สวมรองเท้าและเสื้อผ้าที่เคลื่อนไหวสะดวก และอุณหภูมิบนเขาจะค่อนข้างเย็นเนื่องจากอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลมาก เผื่อเสื้อสำหรับสวมทับไว้สัก 1 ตัวเพื่อความสบายใจครับ

ส่วนในหน้าร้อนให้ระวังโรคลมแดดครับ เตรียมเครื่องดื่มติดตัวไว้ให้พร้อม ภายในบริเวณภูเขาห้ามทำให้เกิดประกายไฟ รวมถึงห้ามสูบบุหรี่ด้วยครับ

เตรียมตัวกันให้พร้อมแล้วไปสนุกกับการขึ้นเขาสึคุบะกันครับ

ภูเขาสึคุบะ

Tsukuba เมือง Tsukuba จังหวัด Ibaraki 300-4352

ความร่วมมือในการเก็บข้อมูล：ศาลเจ้าสึคุบะซัง, การรถไฟท่องเที่ยวสึคุบะ