เมืองมุราคามิ จังหวัดนีงาตะ: ทัวร์ชมตุ๊กตาฮินะในมาชิยะ พร้อมเพลิดเพลินกับกิจกรรม ที่เที่ยว และอาหารท้องถิ่น

3 ออนเซ็นสีทองแห่ง อาริมะออนเซ็น ที่ไปแช่แบบไม่ต้องค้างคืนก็ได้ (Arima onsen, Kobe)

บริการนี้รวมโฆษณาที่ได้รับการสนับสนุน
article thumbnail image

อาริมะออนเซ็น มีที่ให้แช่น้ำพุร้อนมากมาย ใครที่ "ไม่รู้จะไปที่ไหนดี" เราขอแนะนำ 3 แห่งที่ไปเช้าเย็นกลับได้ มีทั้งบ่อแช่สาธารณะ บ่อที่มีแหล่งตาน้ำของตัวเอง และบ่อที่อยู่ในที่พักที่เก่าแก่ที่สุดในอาริมะออนเซ็น มาดูกันเลย

วันที่ปรับปรุงล่าสุด :

อาริมะออนเซ็น

有馬カフェ

อาริมะออนเซ็น (Arima Onsen) เป็นแหล่งน้ำพุร้อนชื่อดังของภูมิภาคคันไซ ตั้งอยู่ในทำเลที่เข้าถึงได้อย่างสะดวกเพียง 1 ชั่วโมงด้วยรถบัสด่วนพิเศษจากโอซาก้าหรือ 1 ชั่วโมง 15 นาทีจากเกียวโต เมืองออนเซ็นแห่งนี้อบอวลไปด้วยบรรยากาศที่มีเสน่ห์จนอยากให้ลองไปกันครับ

有馬

คินเซ็น น้ำร้อนสีทอง ในอาริมะออนเซ็น

ในอาริมะออนเซ็นมีน้ำพุร้อนผุดขึ้นมาหลากหลายชนิด แต่ที่อยากให้ลองไปแช่มากๆ ก็คือ คินเซ็น ครับ

โดยปกติน้ำออนเซ็นจะใสเป็นส่วนมาก แต่คินเซ็นมีสีน้ำตาลแดงแบบที่เห็นในรูป ที่จริงแล้วน้ำจากต้นน้ำก็มีลักษณะโปร่งใสไร้สี แต่เพราะมีธาตุเหล็กผสมอยู่เยอะมาก เมื่อสัมผัสกับอากาศจึงเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่นทำให้เปลี่ยนสี

น้ำออนเซ็นที่ส่องประกายวิบวับเหมือนทอง จึงเป็นที่รู้จักกันในชื่อ "คินเซ็น" (คิน แปลว่าทอง) นอกจากนั้นยังมีโซเดียมผสมอยู่อย่างเข้มข้นจนเรียกได้ว่ามากเป็นอันดับหนึ่งของโลกเลย

คินเซ็นมีคุณสมบัติในการรักษาอุณหภูมิและสามารถฆ่าเชื้อต่างๆ ได้ นอกจากนั้นยังช่วยรักษาอาการหนาวสั่น อาการปวดกล้ามเนื้อ ทั้งยังดีต่อสุขภาพอีกด้วย ในอาริมะออนเซ็นมีแหล่งแช่ออนเซ็นอยู่มาก ในบทความนี้จะขอแนะนำแหล่งแช่ออนเซ็นแบบไปเช้าเย็นกลับ 3 แห่ง ที่สามารถเพลิดเพลินกับ "คินเซ็น" ได้ครับ

ในส่วนของวิธีการและมารยาทในการแช่ออนเซ็น อ่านเพิ่มเติมได้ที่บทความ "วัฒนธรรมและมารยาทการใช้ออนเซ็นและโรงอาบน้ำสาธารณะ" นี้ครับ

สารบัญ

1.คินโนะยุ (Kin No Yu) แลนด์มาร์กแห่งอาริมะออนเซ็น
2.คัมโปะโนะยาโดะ อาริมะ (Kanpo No Yado Arima) แช่ออนเซ็นจากตาน้ำแบบส่วนตัว
3.โกะโชโบ (Goshobo) ย้อนสู่อดีตในออนเซ็นที่เก่าแก่ที่สุดในอาริมะออนเซ็น

1. คินโนะยุ (Kin No Yu)
แลนด์มาร์กแห่งอาริมะออนเซ็น

ที่แรก คินโนะยุ (Kin No Yu) เรียกได้ว่าเป็นแลนด์มาร์กแห่งอาริมะออนเซ็นเลย ตั้งอยู่ใกล้กับทางเข้าเมืองออนเซ็นที่เป็นเนินลาดขึ้นไป จึงเป็นทำเลที่ใครๆ ก็มองเห็นได้

คินโนะยุ เป็นสถานที่แช่ออนเซ็นสาธารณะ ไม่ว่าใครก็สามารถเข้าได้ จึงได้รับความนิยมมากจากลูกค้าที่เดินทางมาแบบไปเช้าเย็นกลับ

Picture courtesy of Kin No Yu

นี่คือบ่อแช่ออนเซ็นของคินโนะยุครับ

ขออธิบายขั้นตอนก่อนจะแช่น้ำร้อนให้เข้าใจกันคร่าวๆ นะครับ เมื่อเราเข้าไปด้านในอาคารก็จะเอารองเท้าไปใส่ไว้ที่ล็อกเกอร์กันก่อน อย่าลืมพกกุญแจตู้ล็อกเกอร์ติดตัวไปด้วยนะ

จากนั้น ก็ไปซื้อตั๋วที่ตู้ขายตั๋วอัตโนมัติกัน มีภาษาอังกฤษ ภาษาเกาหลี และภาษาจีน (ตัวเต็ม, ตัวย่อ) ด้วย

ผู้ใหญ่ราคา 650 เยน (รวมภาษี) เด็กประถม 340 เยน (รวมภาษี) นอกจากนั้นยังมีจำหน่ายตั๋วร่วมสำหรับเข้า กินโนะยุ (Gin No Yu) ร้านพี่ร้านน้องที่อยู่ใกล้ๆ ราคา 850 เยน (รวมภาษี) ถ้าตั้งใจจะไปแช่ทั้งสองที่ ซื้อตั๋วนี้จะคุ้มกว่าค่ะ (ถ้าซื้อแยกกัน ราคาตั๋วที่กินโนะยุจะอยู่ที่ 550 เยน รวมแล้วก็ต้องจ่ายถึง 1,200 เยน)

เมื่อซื้อตั๋วเสร็จแล้ว ก็นำไปยื่นให้พนักงานที่เคาน์เตอร์ค่ะ บ่อออนเซ็นจะอยู่บนชั้น 2

ที่นี่มีผ้าขนหนูขายด้วย ผ้าเช็ดตัว 500 เยน ผ้าเช็ดหน้า 200 เยน เป็นเวอร์ชั่นพิเศษที่มีโลโก้ของคินโนะยุด้วย

บริเวณเคาน์เตอร์มีใบปลิวในภาษาต่างๆ (อังกฤษ, เกาหลี, จีนตัวย่อและตัวเต็ม) ที่รวบรวมข้อมูลเช่นวิธีและข้อควรระวังในการแช่ออนเซ็น

เมื่อเราขึ้นไปถึงชั้น 2 ก็จะเจอห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า ให้ถอดเสื้อผ้าออก และถือผ้าขนหนูเตรียมเข้าไปยังห้องแช่น้ำ หากนำเสื้อผ้าใส่ล็อกเกอร์เรียบร้อยแล้ว อย่าลืมเอากุญแจของล็อกเกอร์ตรงนี้ไปด้วยเด็ดขาด! ตรงกุญแจจะมีเชือกยางเอาไว้คล้องข้อมือได้ ไม่มีทางหายแน่นอน

อาบน้ำชำระร่างกายด้วยสบู่ให้เรียบร้อย จากนั้นก็ลงไปแช่คินเซ็น ออนเซ็นสีทองแห่งอาริมะให้สบายตัวกันเลย!

ผ้าขนหนูแนะนำให้ใช้เมื่อล้างตัวด้วยฝักบัวหลังขึ้นจากออนเซ็นแล้วจะดีกว่าครับ เพราะสีของน้ำอาจจะตกใส่ผ้าขนหนูได้

เมื่อขึ้นจากอ่างแล้ว ก็ไปนั่งพักผ่อนคลายกันต่อในห้องพักผ่อน ซึ่งอยู่ด้านหน้าเคาน์เตอร์ตรงชั้น 1 จะซื้อเครื่องดื่มจากตู้ขายของอัตโนมัติก็ได้ ที่เคาน์เตอร์ก็มีขายเครื่องดื่มอื่นๆ เช่น เบียร์ท้องถิ่นของอาริมะ และน้ำอัดลม

คินโนะยุ ยังมีอะชิยุ (บ่อน้ำร้อนแช่เท้า) ที่ข้างอาคารด้านนอกด้วย ตรงนี้สามารถเข้ามาใช้ได้ฟรีเลย

ถ้ามาแช่ตรงนี้ยังไงเท้าก็เปียกแน่นอน อย่าลืมพกผ้าขนหนูไปเผื่อด้วยนะครับ แล้วก็สีของน้ำจะติดผ้า ควรพกผ้าผืนเก่าหรือผืนที่สีตกก็ไม่เป็นไรนะครับ

คินโนะยุจะเปิดทำการตั้งแต่เวลา 8 โมงเช้า วันที่ไปเก็บข้อมูลนี่เป็นเวลาก่อนเปิดทำการ แต่ก็มีลูกค้ามายืนรอเตรียมเข้าอยู่หลายคนเลยครับ วันเสาร์อาทิตย์คนจะเยอะมากเป็นพิเศษ แนะนำให้ไปเร็วๆ จะดีกว่าครับ

2. คัมโปะโนะยาโดะ อาริมะ (Kanpo No Yado Arima)
แช่ออนเซ็นจากตาน้ำแบบส่วนตัว

เมื่อเลาะเลี้ยวขึ้นเนินของเมืองออนเซ็นไปถึงด้านบนสุดก็จะเจอกับที่ถัดไปของเราคือ คัมโปะโนะยาโดะ อาริมะ (Kanpo No Yado Arima) โรงแรมพร้อมออนเซ็นที่สามารถแช่ออนเซ็นแบบไปเช้าเย็นกลับได้ค่ะ

ที่นี่สูบน้ำพุร้อนขึ้นมาเองจากใต้ดินเลยทำให้ได้น้ำที่มีคุณภาพดี จึงได้รับความนิยมมาก

อย่างแรก ไปซื้อตั๋วที่ตู้ขายตั๋วอัตโนมัติตรงทางเข้าโรงแรมกันก่อน

ราคา (รวมภาษี) อายุ 12 ปีขึ้นไป 800 เยน, อายุ 6 ขวบถึง 11 ปี 400 เยน, ต่ำกว่า 5 ขวบ เข้าฟรี ในช่วงวันเสาร์อาทิตย์ วันหยุดนักขัตฤกษ์ หยุดปีใหม่ โกลเด้นวีค และช่วงโอบ้ง ราคาจะสูงขึ้น (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ส่วนข้อมูลด้านล่าง)

ซื้อตั๋วเรียบร้อยแล้ว ก็ไปเปลี่ยนเป็นรองเท้าสลิปเปอร์ที่ห้องเก็บรองเท้าตรงชั้น 1 และขึ้นลิฟท์ไปที่ชั้น 4 ยื่นตั๋วให้กับพนักงานตรงทางเข้าบ่อออนเซ็นใหญ่ (ในรูป)

Picture courtesy of Kanpo No Yado Arima

ความพิเศษของ คัมโปะโนะยาโดะ อาริมะ คือ เราจะได้แช่น้ำออนเซ็นจากตาน้ำที่โรงแรมสูบขึ้นมาเอง เรียกได้ว่าเป็นน้ำออนเซ็นที่มีคุณสมบัติดีเป็นอันดับหนึ่งในอาริมะออนเซ็นเลย

ในครั้งนี้ทางโรงแรมพาเรามาดูถึงจุดตาน้ำกันเป็นกรณีพิเศษ เป็นตาน้ำของภูเขาอาตาโกะภายในพื้นที่โรงแรมเอง ปกติแล้วจะไม่สามารถเดินเข้ามาดูได้ แต่สามารถมองเห็นได้จากโถงทางเดินอาคารโรงแรมชั้น 3 และชั้น 4

ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าน้ำออนเซ็นจำนวนมากที่เห็นในบ่อนั้นจะถูกสูบมาจากใต้ดินที่ลึกถึง 300 เมตรด้วยท่อเล็กๆ แค่อันเดียวเท่านั้น!

ท่อนี้จะถูกสลับเปลี่ยนทุกๆ 10 วัน เนื่องจากน้ำออนเซ็นมีความเข้มข้นของโซเดียมและเหล็กสูงมาก ถ้าไม่ขยันเปลี่ยนท่อจะขึ้นสนิมเอาครับ

น้ำพุร้อนออนเซ็นที่สูบขึ้นมาสดๆ ร้อนๆ ก็เกิดการออกซิเดชั่นและเริ่มเปลี่ยนสีหน่อยนึงแล้ว แต่นี่ก็ยังไม่เป็นน้ำออนเซ็นสีทองนี่นา!

เพื่อที่จะทำให้น้ำออนเซ็นกลายเป็น "สีทอง" สวยงาม เลยปล่อยให้น้ำไหลไปตามรางน้ำนี้เพื่อจะได้สัมผัสกับอากาศเต็มๆ และเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่น จนกลายเป็น "คินเซ็น" ที่สวยงามแบบที่เราเห็นกันครับ

คัมโปะโนะยาโดะ อาริมะ เป็นโรงแรมที่สามารถมาใช้ยริการแช่ออนเซ็นแบบไปเช้าเย็นกลับได้ มีร้านกาแฟให้นั่งจิบชากาแฟพักผ่อนสบายๆ เดินจากโรงแรมไปเพียง 10นาทีก็ถึงสถานีกระเช้าโรปเวย์ที่ขึ้นไปยังภูเขารกโกซัง เหมาะจะแวะตอนขากลับจากเที่ยวรกโกซังมากครับ

3. โกะโชะโบ (Goshobo)
ย้อนสู่อดีตในออนเซ็นที่เก่าแก่ที่สุดในอาริมะออนเซ็น

ที่สุดท้ายที่จะขอแนะนำคือ โกะโชะโบ (Goshobo) ที่พักที่เก่าแก่ที่สุดในอาริมะออนเซ็น จากที่ได้ฟังคำบอกเล่ามาที่นี่เปิดบริการในปี 1191 และอาคารแห่งนี้ก็ผ่านกาลเวลามา 100 กว่าปีแล้ว

เมื่อเข้าไปถึงล็อบบี้ ก็รู้สึกเหมือนได้เข้าไปสู่อีกโลกหนึ่งเลย ภายในที่ตกแต่งด้วยไม้ให้ความรู้สึกอบอุ่น และมีแสงไฟสีนวลช่วยเสริมบรรยากาศ

ถ้าจะแช่ออนเซ็นแบบไปเช้าเย็นกลับ ก็ให้ชำระเงินที่เคาน์เตอร์นี้ได้เลย พนักงานสามารถพูดภาษาอังกฤษได้

ออนเซ็นแบบไปเช้าเย็นกลับเปิดบริการระหว่างเวลา 11:00-14:00 ราคา 1,500 เยน (รวมค่าใช้สถานที่ และค่าเช่าผ้าขนหนูเช็ดมือ) เมื่อรวมภาษีและภาษีแช่น้ำไปอีก จะรวมเป็น 1,695 เยน

ออนเซ็นในโกะโชะโบมีรูปแบบที่เป็นเอกลักษณ์ เรียกว่าบ่อแช่น้ำกึ่งรวมชายหญิง คือจะมีแค่กำแพงเตี้ยๆ กั้นระหว่างบ่อชายและบ่อหญิงเท่านั้น

ถึงจะรู้สึกตื่นเต้นปนเขินหน่อยๆ แต่น้ำออนเซ็นคินเซ็นมีสีที่เข้มมาก ถ้านั่งแช่ลงไปในบ่อก็มองไม่เห็นแล้วครับ ถ้าไปเป็นคู่ก็น่าจะดีเลยเพราะได้แช่ด้วยกัน

เมื่อคลายความเหนื่อยล้าด้วยการแช่น้ำเรียบร้อยแล้ว ก็แนะนำให้ไปพักผ่อนต่อในซาลอน ที่นี่เคยใช้เป็นโถงเต้นรำสำหรับแขกที่มาเข้าพักเมื่อประมาณ 100 ปีก่อน

การตกแต่งภายในที่ยังคงไว้ไม่เปลี่ยนจากสมัยนั้น อย่างพื้นไม้ปาร์เก้ กระจกสีจากฝรั่งเศส แค่ได้มานั่งเห็นบรรยากาศอย่างนี้ก็เพลินแล้วครับ

ซาลอนเปิดบริการเป็นคาเฟ่ด้วย สามารถสั่งกาแฟมาดื่มได้ บนชั้นหนังสือก็มีหนังสือรวมภาพเกี่ยวกับการเดินทางและศิลปะวางไว้มากมาย หลังจากสบายตัวกับออนเซ็นแล้วก็มานั่งพักที่นี่กันให้สบายใจไปกับกาแฟหอมๆ และหนังสือสวยๆ ครับ

ระหว่างที่เดินอยู่ในโกะโชะโบ จะรู้สึกเหมือนกำลังเดินอยู่ในหอศิลป์เลยครับ เพราะอาคารทั้งหมดออกแบบโดยคุณวาตานุกิ ฮิโรสุเกะ ศิลปินผู้มากความสามารถทั้งด้านดีไซน์ นักเขียน ประติมากร และช่างปั้น ไม่ว่าจะไปตรงไหนก็มีผลงานของเขาวางอยู่ทั่วทุกหนทุกแห่งในอาคาร

有馬日帰り湯

ผลงานของเขาแอบซ่อนอยู่ตามที่ต่างๆ ในโกะโชโบ ราวกับว่าทั้งอาคารนี้คือผลงานศิลปะหนึ่งชิ้นก็ไม่ปาน

有馬日帰り湯

โกะโชะโบ ที่พักที่เก่าแก่ที่สุดในอาริมะออนเซ็น พร้อมบรรยากาศที่พบเจอได้ยากในชีวิตประจำวัน แค่มาแช่ออนเซ็นแบบไปเช้าเย็นกลับก็จะได้สัมผัสกับบรรยากาศเหล่านี้อย่างแน่นอน แต่ถ้าจะให้ดีต้องลองมาพักดูซักคืนครับ เชื่อว่าจะต้องเป็นความทรงจำที่สุดยอดแน่นอน

สร้างความทรงจำและช่วงเวลาพิเศษๆ ที่อาริมะออนเซ็น

ออนเซ็นที่แนะนำในครั้งนี้เป็นเพียงแค่ส่วนน้อยเท่านั้น ในอาริมะออนเซ็นยังมีแหล่งแช่ออนเซ็นที่แวะไปเช้าเย็นกลับและที่พักอื่นๆ อีกมากเลยครับ

จะไปเที่ยวเพื่อแช่น้ำแบบไปเช้าเย็นกลับก็สะดวก หรือจะไปแบบไม่รีบร้อน เที่ยวแบบสบายๆ ซักวันสองวันจะได้เพลิดเพลินกับอาริมะออนเซ็นยิ่งกว่าเดิมครับ


In cooperation with Kin No Yu, Kanpo No Yado, Goshobo

Written by

MATCHA Editer.

เนื้อหาในบทความนี้อ้างอิงจากการเก็บข้อมูลในช่วงเวลาที่เขียนบทความ อาจมีการเปลี่ยนแปลงของรายละเอียดสินค้า บริการ ราคาในภายหลังได้ กรุณาตรวจสอบกับสถานที่นั้นอีกครั้งก่อนการไปใช้บริการ
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง

อันดับ