ดื่มด่ำกับของหวานและชาชั้นดีของเซ็นไดที่ร้านโอฉะโนะอิเกตะ สาขาใหญ่อิจิบังโจ (Ocha no Igeta Ichibancho Honten)

ร้านชาที่คุณจะได้เพลิดเพลินกับทั้ง 4 ฤดูกาลของญี่ปุ่น

ชาเป็นเครื่องดื่มที่อยู่คู่กับคนญี่ปุ่นมาตั้งแต่หลายร้อยปีก่อน และทุกวันนี้ก็ยังมีคนมากมายที่นิยมดื่มเป็นประจำทุกวัน

ร้านขายชามีมากมายทั่วทุกภูมิภาคของญี่ปุ่น แต่ครั้งนี้เราขอแนะนำร้านชาเก่าแก่ในตัวเมืองเซ็นได จังหวัดมิยางิ ที่เปิดมาตั้งแต่ปี 1920 และเป็นร้านที่ทุกคนในท้องถิ่นรู้จักมักคุ้นอย่างดี ร้าน โอฉะโนะอิเกตะ (Ocha no Igeta) สาขาใหญ่อิจิบังโจ ร้านนี้ขึ้นชื่อในเรื่องการคัดสรรชาชนิดต่างๆ ที่เหมาะกับการดื่มในแต่ละฤดูกาล แม้แต่ชาวบ้านในท้องถิ่นหลายคนก็ยังตั้งตารอซื้อ บ้างก็มาถามว่ามีชาของฤดูใบไม้ร่วงวางขายแล้วหรือยังกันล่วงหน้าเลย

นอกจากชาก็ยังมีของหวานที่ใช้วัตถุดิบจากเซ็นไดวางขายด้วย ถ้าใครอยากชิมของหวานขึ้นชื่อของเซ็นไดยิ่งไม่ควรพลาด ในบทความนี้เราจะมาแนะนำสินค้าห้ามพลาดของร้านโอฉะโนะอิเกตะ รับรองว่าถูกใจทั้งมือใหม่ที่อยากลองดื่มชา นักดื่มชาตัวยง หรือคนที่อยากเพลิดเพลินกับของหวานขึ้นชื่อสไตล์เซ็นไดไปพร้อมๆ กับดื่มชาอย่างแน่นอน

ใบชาหลากชนิดให้เลือกสรร

ภายในร้านเรียงรายไปด้วยขนมและชามากมายหลายสิบชนิดจนลังเลไม่รู้จะซื้ออันไหนกลับไปดี เราเลยช่วยเลือกสินค้าที่เหมาะสมกับทั้งมือใหม่ที่อยากลองดื่มชา ไปจนถึงคอชาตัวยงที่อยากดื่มด่ำกับรสชาติของชาอย่างเต็มที่เอาไว้ให้แล้วค่ะ

"ชาซองขนาดเล็ก" สำหรับมือใหม่ที่อยากลองดื่มชา

สำหรับใครที่เป็นมือใหม่ยังไม่เคยซื้อหรือดื่มชาที่ญี่ปุ่นมาก่อน ขอแนะนำชาเซ็นฉะแบบซอง น่ารักแล้วยังราคาเบาๆ สบายกระเป๋าแค่ซองละ 108 เยน (ราคารวมภาษี)

เซ็นฉะเป็นชาที่นิยมดื่มอย่างแพร่หลายมากที่สุดชนิดหนึ่งในญี่ปุ่น

บนซองชามีทั้งรูปแมว รูปดอกไม้ พร้อมคำพูดแสดงความขอบคุณในภาษาญี่ปุ่น อย่างในภาพนี้มีเขียนว่า "Itsumo Arigatou (ขอบคุณที่ช่วยเหลือมาโดยตลอด)" และ "Arigato (ขอบคุณ)" ซื้อติดไม้ติดมือกลับไปเป็นของฝากให้กับคนสำคัญก็ได้ค่ะ

ส่วนชิ้นนี้ที่มีแพคเกจจิ้งน่ารักๆ ลวดลายสไตล์ญี่ปุ่นคือ ชาเซ็นฉะแบบบรรจุ 3 ห่อ (ราคารวมภาษี 410 เยน) นอกจากเซ็นฉะแล้วก็ยังมีวะโคฉะ (ชาดำญี่ปุ่น) ซึ่งมีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ของญี่ปุ่น หรือชาชนิดพิเศษอย่างคมบุฉะ (ชาจากสาหร่ายคมบุ) ไปจนถึงชามะลิ มีมากมายหลายสิบชนิดให้เลือกกันอย่างจุใจ

"ใบชา" สำหรับผู้ที่รักการดื่มชาเป็นพิเศษ

ใบชานี้ทำมาจากใบของพืชตระกูลสึบากิ (Tsubaki หรือ คาเมลเลีย Camellia) ที่ผ่านการนึ่งและนวดหลายต่อหลายครั้ง ระหว่างนั้นถ้าเพิ่มหรือลดกระบวนการเข้าไปก็จะทำให้ได้รสชาติของชาที่แตกต่างตามไปด้วย ในภาพด้านบนเป็นใบชาแบรนด์ "คิคุซุย (Kikusui)" ที่ร้านโอฉะโนะอิเกตะผลิตเอง รสชาติของชาจะต่างกันไปตามสีของแต่ละซอง

ซองสีฟ้าที่อยู่ด้านซ้ายสุดเป็นใบชาที่ไม่ผ่านกรรมวิธีมากนักเพื่อให้คงกลิ่นหอมของใบชาที่เด็ดมาใหม่ๆ ส่วนซองสีม่วง (ลำดับที่ 2 จากซ้ายมือ) เป็นใบชาที่ผ่านความร้อนสูง ทำให้สามารถเพลิดเพลินกับกลิ่นหอมได้เป็นพิเศษ

สำหรับใครที่อยากดื่มชารสอร่อยเป็นพิเศษแนะนำซองสีครีม (ลำดับที่ 2 จากขวามือ) ส่วนซองสีแดงขวาสุดนั้นเป็นชารสกำลังดี ดื่มอร่อย ส่วนเรื่องราคาไม่ว่าจะเป็นแบบไหนก็จำหน่ายที่ประมาณ 1,000 เยนต่อปริมาณ 100 กรัม

ตอนที่เรามาเยือนในช่วงเดือนกันยายนมี "อาคิฉะบิโยริ (Akicha Biyori)" (100 กรัม ราคารวมภาษี 1,080 เยน) ชาที่เด่นเรื่องความหอม เป็นสินค้าพิเศษเฉพาะช่วงฤดูใบไม้ร่วงวางขายด้วย ทางร้านวางจำหน่ายสินค้าที่มีเฉพาะแต่ละฤดูกาลเนื่องจากมีความตั้งใจอยากให้ทุกคนที่มาเยือนได้สัมผัสกับฤดูต่างๆ ของญี่ปุ่นผ่านชา

สำหรับวิธีการชงนั้นก็ง่ายๆ แค่ใส่ใบชาประมาณ 2 ช้อนโต๊ะลงในกา หลังจากนั้นก็เติมน้ำร้อน ทิ้งไว้ประมาณ 1 นาที จึงค่อยๆ เทน้ำชาใส่ถ้วยชาหรือแก้วดื่ม

ขนมหวานที่เข้ากันดีกับชาก็ไม่ควรพลาด!

ขนมหวานของร้านโอฉะโนะอิเกตะเองก็ไม่น้อยหน้าน้ำชาแต่อย่างใด มีทั้งขนมหวานที่ทำจากชาและของฝากอร่อยๆ ที่เหมาะสำหรับทานคู่กับชาให้เลือกมากมาย แม้ว่าจะมีขนมหวานชั้นเลิศที่เปรียบเสมือนตัวแทนจากเซ็นไดมากมาย แต่ครั้งนี้เราได้คัดเลือกขนมสุดพิเศษ 4 ชนิดมาแนะนำกันค่ะ

1. "คิคุฟุคุ (Kikufuku)" ไดฟุกุต้นตำรับยอดฮิตอันดับ 1

ของหวานยอดฮิตอันดับหนึ่งของร้านต้องยกให้ "คิคุฟุคุ" ซึ่งเป็นไดฟุกุที่ทางร้านทำเอง มีทั้งหมด 4 รสชาติ ได้แก่ มัทฉะนามะครีม, โฮจิฉะ, ซุนดะ (ถั่วแระญี่ปุ่นบด) และนามะครีม นอกจากนี้ยังมีรสพิเศษที่ขายตามฤดูกาลต่างๆ เพิ่มมาอีกด้วย

รสยอดฮิตอันดับ 1 อย่างมัทฉะนามะครีม (ราคารวมภาษี 123 เยนต่อชิ้น) เมื่อกัดเข้าไปความหวานหอมจากถั่วแดงจะกระจายไปทั่วปาก ไม่มีรสขมของชาเขียวมัทฉะแต่อย่างใด คนรักของหวานไม่ควรพลาด

ที่ร้านมีแบบแช่แข็งจำหน่ายด้วย จะทิ้งไว้ให้ละลายก่อนแล้วทานหรือจะทานแบบแข็งๆ เหมือนไอศกรีมตอนที่อากาศร้อนๆ ก็อร่อยดี ราคาประมาณ 150 เยน แต่ละรสราคาจะแตกต่างกันเล็กน้อย

2. "ซุนดะโมจิ (Zunda Mochi)" ของฝากขึ้นชื่อของเซ็นได

ถ้าพูดถึงเซ็นไดก็จะนึกถึงของขึ้นชื่ออย่าง "ซุนดะ" ขึ้นมาทันที ซุนดะก็คือถั่วแระญี่ปุ่นบดนั่นเอง ที่ร้านนี้ก็มีซุนดะโมจิหรือโมจิไส้ถั่วแระญี่ปุ่นบดขนาดพอดีคำวางขายอยู่ด้วยเช่นกัน

ซุนดะโมจิโดดเด่นด้วยรสสัมผัสที่กรุบๆ เมื่อกัดเข้าไปรสชาติของถั่วแระญี่ปุ่นจะกระจายไปทั่วปาก ถึงแม้ว่าจะหวาน แต่ก็ไม่หวานจนแสบคอ รสชาติเบาๆ ทำให้กินได้เรื่อยๆ ไม่เลี่ยน

ซุนดะโมจิ 4 ชิ้น ราคา 594 เยน 8 ชิ้น ราคา 1,080 เยน และ 15 ชิ้น ราคา 1,944 เยน (ราคารวมภาษี)

3. "ปุจิซุนดะพาร์เฟ่ต์ (Puchi Zunda Parfait)" ฟินคูณสองกับซุนดะและมัทฉะ

ขนมอีกอย่างที่ไม่ควรพลาดคือ "ปุจิซุนดะพาร์เฟ่ต์" (ราคารวมภาษี 350 เยน) ไอศรีมชาเขียวที่มั่นใจได้ในรสชาติเพราะร้านขายชาทำเอง มาคู่กับซุนดะโมจิของดีประจำเซ็นได แต่เมนูนี้มีจำนวนจำกัดในแต่ละวัน ถ้าใครตั้งใจจะมาทานเมนูนี้โดยเฉพาะแนะนำให้รีบมากันเร็วหน่อยนะคะ

นอกจากนี้ก็ยังมีเมนู "ปุจิคิคุฟุคุพาร์เฟ่ต์ (Puchi Kikufuku Parfait)" ซึ่งเปลี่ยนจากซุนดะเป็นไดฟุกุ "คิคุฟุคุ" แทน (ราคารวมภาษี 350 เยน)

4. "ซุนดะโมจิกับมัทฉะ (Zundamochi & Matcha Set)" สาวกมัทฉะต้องลอง

เซ็ตนี้เราจะได้เพลิดเพลินกับรสชาติของซุนดะโมจิกับชาเขียวชามัทฉะต้นตำรับแท้ๆ รสหวานของโมจิมาเจอกับรสขมเล็กน้อยของชาเขียว เป็นอะไรที่ลงตัวสุดๆ เซ็ตนี้ราคารวมภาษี 500 เยน

นอกจากมียังมีของหวานอื่นๆ อย่าง ซุนดะเชค (Zunda Shake) หรือพาร์เฟ่ต์สไตล์ญี่ปุ่นอีกมากมาย สามารถสั่งขนมได้จากหน้าร้านเลย ภายในร้านมีโซนคาเฟ่สำหรับคนที่อยากจะนั่งทานสบายๆ ภายในร้าน หรือจะซื้อไปเดินทานก็ได้

ร้านขายของฝากและร้านฝากท้องในที่เดียวกัน

ร้านโอฉะโนะอิเกตะตั้งอยู่ติดกับย่านการค้า Vlandome (วลันโดม) ซึ่งมีหลังคาตลอดทาง ไม่ต้องกลัวแดดร้อนหรือฝนตก

สินค้าต่างๆ ที่แนะนำไปในบทความนี้บางส่วนสามารถหาซื้อได้ที่ด้านหน้าสถานีเซ็นได (Sendai) รถไฟ JR หรือบริเวณภายในสถานีรถไฟชินคันเซ็น (Shinkansen) แต่ถ้าอยากเลือกซื้อของฝากจากเซ็นไดอย่างจุใจเพื่อนำไปฝากคนสำคัญของคุณขอเชิญที่ "ร้านโอฉะโนะอิเกตะ สาขาใหญ่อิจิบังโจ" นะคะ

Igeta Seicha Co., Ltd. ร้านหลัก Ichibancho

In cooperation with Ocha no Igeta Ichibancho Honten