เมืองมุราคามิ จังหวัดนีงาตะ: ทัวร์ชมตุ๊กตาฮินะในมาชิยะ พร้อมเพลิดเพลินกับกิจกรรม ที่เที่ยว และอาหารท้องถิ่น

15 สิ่งน่าทำในจังหวัดซากะ มาถ่ายรูปวิวสวยๆ กินอาหารอร่อยๆ และช้อปปิ้งที่เอาท์เล็ท!

บริการนี้รวมโฆษณาที่ได้รับการสนับสนุน
article thumbnail image

จังหวัดซากะอยู่ตอนเหนือของเกาะคิวชู มีเทศกาลบอลลูนเฟสต้าหลากสีสัน วิวนาขั้นบันไดสวยๆ พรีเมียมเอาท์เล็ท อาหารทะเลและเนื้อซากะอร่อยๆ รวมทั้งกิจกรรมต่างๆ มากมายที่หาจากที่อื่นไม่ได้!

วันที่ปรับปรุงล่าสุด :

มาดูวิวสวยๆ บุกเอาท์เล็ท กินอาหารอร่อยๆ ที่ซากะกัน!

佐賀

Picture courtesy of Saga Prefectural Tourism Federation

วิวที่หาดูได้เฉพาะที่นี่ เช่น เทศกาลบอลลูนหลากสีสัน เสาโทริอิลอยกลางน้ำ และนาขั้นบันได สถานที่สุดฮิตติดเทรนด์อย่างพรีเมียมเอาท์เล็ทและห้องสมุดสวยๆ รวมถึงอาหารรสเลิศที่มาญี่ปุ่นแล้วห้ามพลาดอย่างอาหารทะเลสดๆ และเนื้อวากิว

ทั้งหมดนี้พบได้ที่จังหวัดซากะบนเกาะคิวชู มาดูกันว่ามีอะไรน่าทำและทำได้ในจังหวัดซากะบ้าง!

จังหวัดซากะอยู่ที่ไหน?


ก่อนอื่นมารู้จักที่ตั้งของซากะกัน จังหวัดซากะอยู่ตอนเหนือของเกาะคิวชู ทิศตะวันออกติดกับจังหวัดฟุกุโอกะที่เป็นประตูสู่เกาะคิวชู ทิศตะวันตกติดกับจังหวัดนางาซากิที่บ้านเมืองเต็มไปด้วยเสน่ห์และมีสวนสนุกเฮาส์ เทน บอช (Huis Ten Bosch)

หมุดสีเหลืองคือสนามบินนานาชาติคิวชู-ซากะ (Kyushu Saga International Airport)

นี่คือสถานที่ที่จะแนะนำในบทความนี้ จะเห็นได้ว่าเป็นพื้นที่ค่อนข้างกว้างเลย

จังหวัดซากะแบ่งเป็นหลายพื้นที่ เช่น บริเวณเมืองซากะ (Saga) ที่มีอำเภอเมืองอยู่, บริเวณเมืองคารัตสึ (Karatsu) ซึ่งเป็นเมืองริมทะเล บริเวณอาริตะ (Arita) และทาเคโอะ (Takeo) ที่มีชื่อเสียงเรื่องเครื่องปั้นดินเผาอาริตะ (Aritayaki) และบริเวณเมืองโทซุ (Tosu) ที่มีพรีเมียมเอาท์เล็ท เป็นต้น

จังหวัดนี้มีรถไฟและรถบัสแต่เที่ยวรถอาจมีน้อย และสถานที่ท่องเที่ยวบางแห่งก็อยู่ไกลจากสถานี ถ้าเป็นไปได้ อยากแนะนำให้เช่ารถขับ

วิธีเดินทางมาซากะ : มีเที่ยวบินตรงจากไต้หวันด้วย!

佐賀

Picture courtesy of Saga Prefectural Tourism Federation

จังหวัดซากะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เดินทางจากไต้หวันมาได้ง่ายมากๆ เพราะมีเที่ยวบินตรงจากไต้หวันมาสนามบินนานาชาติคิวชูซากะโดยสายการบิน Tiger Air อาทิตย์ละ 2 เที่ยวบิน

จุดเริ่มต้นของการเที่ยวจังหวัดซากะอยู่ที่สถานี JR ซากะ (JR Saga) จากสนามบินมีรถบัสลีมูซีนเข้าเมือง ดังนั้นให้นั่งรถบัสมาตั้งต้นที่สถานี JR ซากะก่อน จากสนามบินนั่งรถบัสมาสถานีซากะใช้เวลา 35 นาที (600 เยน)

ถ้าไม่ได้นั่งเที่ยวบินตรง ขอแนะนำให้เริ่มต้นจากสนามบินฟุกุโอกะ (Fukuoka Airport) จากสนามบินฟุกุโอกะนั่ง Express Bus มาที่สถานีซากะใช้เวลา 1 ชั่วโมง 15 นาที (1,230 เยน) และสามารถเดินทางต่อไปที่เมืองคารัตสึได้โดยนั่งรถไฟใต้ดินต่อเดียวใช้เวลา 1 ชั่วโมงครึ่ง (1,170 เยน)

15 สิ่งที่น่าทำที่ซากะ

มาเริ่มกันเลยว่า ถ้าไปเที่ยวซากะมีที่เที่ยวไหนต้องไปให้ได้ และมีอะไรต้องทำให้ได้บ้าง!

1. ชมการแข่งขัน Saga International Balloon Fiesta ที่มีพลังและสีสันคัลเลอร์ฟูล : เมืองซากะ

佐賀

Picture courtesy of Saga Prefectural Tourism Federation

มีบอลลูนยักษ์หลากสีเรียงรายอยู่ริมแม่น้ำ! นี่เป็นการแข่งขันบอลลูนนานาชาติ Saga International Balloon Fiesta ซึ่งจัดขึ้นทุกปีในช่วงปลายเดือนตุลาคม - ต้นเดือนพฤศจิกายน

การแข่งขันมีบอลลูนกว่า 100 ลูกลอยไปมาบนฟ้า จึงเป็นวิวที่เหมาะถ่ายรูปลงอินสตาแกรมมากๆ การแข่งขันนี้เริ่มจัดขึ้นตั้งแต่ปี 1980 ทุกๆ ปีจะมีคนมากกว่า 8 แสนคนมารวมตัวกันที่นี่

佐賀

Picture courtesy of Saga Prefectural Tourism Federation

วิธีเดินทางมาไม่ยุ่งยาก นั่งรถไฟ 5 นาทีจากสถานี JR ซากะ (JR Saga) มาลงที่สถานีบอลลูนซากะ (Balloon Saga) ก็ถึงสถานที่จัดงานเลย เราสามารถชมการแข่งขันได้ที่ริมแม่น้ำคาเซะ (Kase River) เพราะฉะนั้นเตรียมเสื่อหรือแผ่นรองนั่งไปด้วยนะ

พิพิธภัณฑ์บอลลูน

佐賀

Picture courtesy of Saga Prefectural Tourism Federation

ถึงจะไปช่วงนอกงานเทศกาลบอลลูนก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะเราสามารถสัมผัสบรรยากาศงานเทศกาลได้ที่พิพิธภัณฑ์บอลลูนซากะ (SAGA Balloon Museum) มีโปรแกรมจำลองการบิน (Flight Simulator) ที่ทำให้เรารู้สึกเหมือนเป็นคนขับบอลลูนซึ่งได้รับความนิยมมากด้วย

2. ชื่นชมสถาปัตยกรรมสีแดงสดแสนสวยที่ศาลเจ้ายูโทคุอินาริ (Yutoku Inari Shrine) : เมืองคาชิมะ (Kashima)

佐賀

Picture courtesy of Saga Prefectural Tourism Federation

ผู้คนมากมายต่างประทับใจกับรูปลักษณ์ภายนอกอันงดงามหรูหราที่ล้อมรอบด้วยธรรมชาติสีเขียว ศาลเจ้ายูโทคุอินาริสร้างขึ้นในปี1687 เป็น 1 ใน 3 ศาลเจ้าอินาริที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น โดยอีก 2 แห่งคือศาลเจ้าฟุชิมิอินาริ (Fushimi Inari Shrine) ในจังหวัดเกียวโต และศาลเจ้าคาซามะอินาริ (Kasama Inari Shrine) ในจังหวัดอิบารากิ

佐賀

Picture courtesy of Saga Prefectural Tourism Federation

อาคารศาลเจ้าในปัจจุบันได้รับการบูรณะเมื่อปี 1957 โดยมีอาคารศาลเจ้าหลักสีแดงสดเด่นสะดุดตา บริเวณโดยรอบมีธรรมชาติสวยงามให้ดูตลอดทั้ง 4 ฤดู เช่น เดือนเมษายนมีดอกสึสึจิ (Tsutsuji) และดอกฟูจิหรือวิสทีเรีย (Fuji, Wisteria) ส่วนเดือนตุลาคมมีดอกคอสมอส (Cosmos)


3. มาเก็บภาพโทริอิกลางทะเลที่ดูราวกับโลกแห่งความฝันที่ศาลเจ้าโออุ (Ouo Shrine) : ทาระ (Tara)

佐賀

Picture courtesy of Saga Prefectural Tourism Federation

เราสามารถชมเสาโทริอิศักดิ์สิทธิ์กลางทะเลนี้ได้ที่ศาลเจ้าโออุ ชื่อของศาลเจ้ามีอักษรคันจิ 魚 ที่แปลว่า "ปลา" อยู่ด้วย จึงเป็นศาลเจ้าที่คนมักมาขอพรให้จับปลาได้ปริมาณมาก

ทำไมถึงมีเสาโทริอิอยู่กลางทะเล? ว่ากันว่าเมื่อประมาณ 300 ปีก่อน มีเจ้าหน้าที่ดูแลหมู่บ้านคนหนึ่งถูกทิ้งไว้บนเกาะ แต่รอดชีวิตกลับมาได้ด้วยการขี่หลังปลา จึงสร้างศาลเจ้ากับเสาโทริอิกลางทะเลเพื่อตอบแทนบุญคุณ

佐賀

Picture courtesy of Saga Prefectural Tourism Federation

ลักษณะของเสาโทริอิที่มองเห็นจะต่างกันตามน้ำขึ้นน้ำลง ช่วงน้ำขึ้นเต็มที่สูงส่วนบนของเสาโทริอิจะจมอยู่ในทะเล แต่ช่วงน้ำลงจะมองเห็นเสาโทริอิทั้งหมด ในทาระที่มีศาลเจ้าอุโอตั้งอยู่นี้ยังมีอาหารทะเลสดๆ อย่างปูทาเคซาคิ (Takezaki) และหอยนางรมให้ลองลิ้มชิมรสอีกด้วย

4. อิ่มอร่อยจนลืมไม่ลงกับอาหารท้องถิ่นเมืองซากะ!

ขอแนะนำเมนูอาหารเมืองซากะที่หิวแล้วต้องกินให้ได้แบบหมดเปลือก! จังหวัดซากะหันหน้าสู่ทะเลทั้งทิศเหนือและทิศใต้ จึงมีอาหารทะเลอุดมสมบูรณ์มาก และที่ห้ามพลาดคือเนื้อวัวซากะเนื้อวากิวขึ้นชื่อ

"เนื้อซากะ (Saga Beef) และเนื้ออิมาริ (Imari Beef)" เนื้อวากิวขึ้นชื่อ : เมืองซากะและเมืองอิมาริ

佐賀

Picture courtesy of Saga Prefectural Tourism Federation

จังหวัดซากะมีเนื้อวากิวอยู่ 2 ชนิดคือเนื้อซากะ (Saga Beef) และเนื้ออิมาริ (Imari Beef) ทั้งสองชนิดเป็นเนื้อที่มีคุณภาพทั้งคู่แค่ต่างกันตรงชื่อเรียกตามสถานที่เลี้ยงเท่านั้น

จุดเด่นของเนื้อสองชนิดนี้คือเนื้อแดงอ่อนนุ่มและมีไขมันแทรกเยอะ รสชาติหวานเข้มข้น ไม่ว่าจะเอาไปทำสเต็กหรือชาบุชาบุก็ลิ้มรสความอร่อยนั้นได้อย่างเต็มที่

ในบริเวณใกล้ๆ สถานีซากะ เราสามารถลิ้มรสเนื้อซากะได้ที่ร้าน Kira Saka Honten ส่วนในบริเวณเมืองอิมาริก็มีร้านดังอย่าง Steak Restaurant SHO ที่มีเนื้ออิมาริส่งตรงจากฟาร์มมาให้ลองชิมรสชาติกัน

ปลาหมึก : โยบุโคะ (Yobuko)

佐賀

Picture courtesy of Saga Prefectural Tourism Federation

ปลาหมึกเป็นของขึ้นชื่อในพื้นที่โยบุโคะที่ติดทะเล ปลาหมึกสดตัวใสแจ๋วที่ยังดิ้นแม้อยู่บนจานซาชิมิ!

佐賀

จากซื้อหอยเม่นสดๆ สุดถูกที่ "ตลาดเช้าโยบุโคะ" 1 ใน 3 ตลาดเช้าที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น

ในโยบุโคะมีหลายร้านให้เราเลือกกินปลาหมึก แต่อยากให้ลองไปที่ตลาดเช้าโยบุโคะ แน่นอนว่ามีปลาหมึก รวมทั้งเมนูอื่นๆ ให้ตะลุยกินเยอะแยะไปหมดอย่างขนมจีบปลาหมึกที่มีส่วนผสมของปลาหมึกด้วย ตลาดเปิดช่วงเช้าทุกวันตั้งแต่ 7:30 - 12:00 น. ยกเว้นวันที่ 1 มกราคม


เต้าหู้ต้มน้ำพุร้อน : อุเระชิโนะออนเซ็น (Ureshino Onsen)

佐賀

จากเต้าหู้เดือดปุดๆ! มากินเต้าหู้ต้มน้ำพุร้อนที่แสนอร่อยของอุเระชิโนะ จังหวัดซากะ ร้าน "ซากะฮิระคาวะยะ" กันเถอะ

เต้าหู้ต้มน้ำพุร้อนเป็นเมนูขึ้นชื่อของอุเระชิโนะออนเซ็น (Ureshino Onsen) ซึ่งอยู่ทางใต้ของจังหวัดซากะ ปกติแล้วเมนูเต้าหู้ต้มคือการเอาเต้าหู้ไปต้มในน้ำร้อน แต่ที่อุเระชิโนะซึ่งเป็นย่านออนเซ็นจะใช้น้ำพุร้อนต้มเต้าหู้!

จากส่วนประกอบในน้ำพุร้อนทำให้เต้าหู้ละลายเป็นน้ำซุปข้นรสชาติกลมกล่อม มาแช่ออนเซ็นและเอร็ดอร่อยกับเต้าหู้ต้มน้ำพุร้อนกันนะ


5. ชมพระอาทิตย์ตกดินที่นาขั้นบันได : เมืองคารัตสึ

佐賀

Picture courtesy of Saga Prefectural Tourism Federation

นาขั้นบันไดคือนาที่ปลูกขึ้นไปเป็นขั้นเหมือนบันได ที่ซากะมีนาขั้นบันไดอยู่หลายแห่งแต่ขอยกที่สวยๆ มาแนะนำสัก 2 แห่งให้รู้จักกัน

นาขั้นบันไดฮามาโนะอุระ (Hamanoura Rice Terraces) มีนาข้าวน้อยใหญ่รวม 283 ผืน ในเดือนพฤษภาคมน้ำจะเต็มนาทำให้เห็นพระอาทิตย์ตกดินสะท้อนกับผิวน้ำดูสวยโรแมนติกจนได้รับเลือกให้เป็น "สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของคู่รัก"

佐賀

Picture courtesy of Saga Prefectural Tourism Federation

และอีกที่คือนาขั้นบันไดโออุระ (Oura Rice Terraces) ที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่และมีนาถึง 1,000 ผืนเรียงกันอย่างสวยงาม ทั้งฮามะโนะอุระและโออุระก็มีจุดชมวิวที่มองเห็นผืนนาทั้งหมดได้ ทั้งสองแห่งเหมาะที่จะขับรถมาจากเมืองคารัตสึ

6. Arita Porcelain Park พระราชวังที่ลองทำเครื่องปั้นดินเผาอาริตะได้!? : อาริตะ

佐賀

Picture courtesy of Saga Prefectural Tourism Federation

ภายนอกดูโดดเด่นเหมือนพระราชวังนี้ ความจริงคือ Arita Porcelain Park ธีมพาร์คที่เราจะได้สัมผัสประสบการณ์ต่างๆ เกี่ยวกับเครื่องปั้นดินเผาอาริตะ (อาริตะยากิ) ซึ่งเป็นหัตถกรรมท้องถิ่นของซากะ

ภายในอาคารเลียนแบบมาจากพระราชวังซวิงเกอร์ (Zwinger Palace) ของประเทศเยอรมัน เป็นอาคารจัดแสดงผลิตภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผาอาริตะ นอกจากอาคารนี้แล้วยังมีอีกหลายอาคารที่สามารถสัมผัสเสน่ห์ของเครื่องปั้นดินเผาอาริตะได้อย่างเต็มที่ เช่น ร้านจำหน่ายเครื่องปั้นดินเผาอาริตะ สตูดิโอทำกิจกรรมเครื่องปั้นดินเผา และโนโบริกามะ (เตาเผาที่มีลักษณะเป็นขั้นบันได) ที่มีความยาวถึง 55 เมตร

ยังมีโรงกลั่นเหล้าของบริษัทโรงกลั่นซึ่งเป็นผู้บริหารสวนแห่งนี้อยู่ข้างๆ จึงสามารถไปทัศนศึกษาโรงกลั่น (ต้องจองล่วงหน้า) และยังชิมสาเกญี่ปุ่นได้ฟรีที่ร้านขายของฝากภายในสวนได้ด้วย

7. ล่องเรือสำราญสู่ถ้ำศักดิ์สิทธิ์ "ถ้ำนานะสึกามะ (Nanatsugama Caves)" : โยบุโกะ

佐賀

จาก "ผจญภัยในถ้ำนานะสึกามะแห่งเมืองคาราสึ ความงามตามธรรมชาติที่สร้างโดยคลื่น"

ขึ้นเรือสำราญที่มีเอกลักษณ์ในรูปทรงปลาหมึกแล้วล่องเข้าสู่ถ้ำศักดิ์สิทธิ์ด้วยกัน?

佐賀

จาก "ผจญภัยในถ้ำนานะสึกามะแห่งเมืองคาราสึ ความงามตามธรรมชาติที่สร้างโดยคลื่น"

ถ้ำนานะสึกามะ (Nanatsugama Caves) อยู่ริมทะเลทางเหนือของจังหวัดซากะ เป็นที่ขึ้นชื่อเรื่องวิวหินผารูปทรงสวยแปลกตา ในอดีตภูเขาไฟระเบิดพ่นลาวาไหลออกมาแล้วเย็นตัวลงและแข็งอย่างรวดเร็วด้วยน้ำทะเล ทำให้เกิดหินผารูปทรงซับซ้อนสวยแปลกตา

เรือรูปปลาหมึกชื่อ "อิคะมารุ (Ikamaru)" แล่นจากโยบุโกะทุกวันไม่มีวันหยุดและไม่จำเป็นต้องจองล่วงหน้า (อาจงดออกเรือเนื่องจากสภาพคลื่นลม)


8. ดื่มด่ำกับวิวใบไม้เปลี่ยนสีที่ "ป่าแห่งศิลปะสิ่งแวดล้อม" : เมืองคารัตสึ

佐賀

Picture courtesy of Saga Prefectural Tourism Federation

ถ้ามาเที่ยวซากะช่วงฤดูใบไม้ร่วง สถานที่ที่อยากให้ไปคือ "ป่าแห่งศิลปะสิ่งแวดล้อม (Kankyo Geijutsu no Mori)"

วิวใบไม้เปลี่ยนสีของที่นี่สวยตระการตาเหมือนที่วัดริรุโคอิน (Rirukoin Temple) ในเกียวโต ในวัดนี้มีต้นคาเอเดะ (ต้นเมเปิ้ล) ที่เปลี่ยนสีอย่างสวยงามมากถึง 1 หมื่นต้น!

ไม่เพียงแต่ในฤดูใบไม้เปลี่ยนสีเท่านั้น แต่เมื่อเข้าสู่ช่วงผลิใบใหม่ในเดือนเมษายน - พฤษภาคม บริเวณนี้จะปกคลุมด้วยสีเขียวสดชื่น จึงเป็นจุดที่เหมาะกับคนที่ต้องการสัมผัสกับธรรมชาติทั้งกายและใจ

9. ช็อปปิ้งที่โทซุพรีเมียมเอาท์เล็ท (Tosu Premium Outlets) : เมืองโทซุ (Tosu)

佐賀

Picture courtesy of Saga Prefectural Tourism Federation

ทั่วญี่ปุ่นมีพรีเมียมเอาท์เล็ททั้งหมด 9 แห่ง หนึ่งในนั้นอยู่ที่เมืองโทซุ (Tosu) จังหวัดซากะ ที่นี่มีร้านค้าราว 150 ร้าน ทั้งแฟชั่น สินค้าเบ็ดเตร็ด และร้านอาหารต่างๆ ให้ได้อัพเดตเทรนด์ใหม่ๆ กัน

ในเดือนมกราคมและสิงหาคมของทุกปี มีงานลดราคาด้วย! ถ้ามุ่งเป้ามาที่นี่ในช่วงนี้ก็ดีนะ

10. อ่านหนังสือพร้อมจิบสตาร์บัคส์ที่หอสมุดเมืองทาเคโอะ (Takeo City Library) : เมืองทาเคโอะ

佐賀

Picture courtesy of Kyushu Tourism Promotion Organization

ที่นี่คือหอสมุดเมืองทาเคโอะ (Takeo City Library) ด้วยดีไซน์ที่สวยจนไม่คิดว่านี่คือหอสมุดประจำเมือง จึงได้รับความสนใจอย่างมากจากผู้คนทั่วญี่ปุ่น

หนังสือเรียงรายอยู่ในพื้นที่เปิดโล่งโปร่งสบายถึงชั้น 2 แถมยังมีร้านกาแฟสตาร์บัคส์อยู่ภายในด้วย จึงเป็นสถานที่ซึ่งคนรักหนังสือต้องลองมาสักครั้ง ถึงไม่ใช่ชาวเมืองทาเคโอะก็ใช้บริการได้ ข้อควรระวังของที่นี่คือห้ามถ่ายรูปภายในอาคารนะ

นอกจากนี้ยังมีทาเคโอะออนเซ็นอยู่ในระยะทางที่เดินไปได้ จะลองใช้เวลาแบบเก๋ๆ อย่างมาอ่านหนังสือผ่อนคลายที่หอสมุดหลังจากแช่ออนเซ็นแล้วก็ดีนะ


11. พักจิบชาในบรรยากาศที่ล้อมรอบด้วย "อาริตะยากิ" : อาริตะ

佐賀

Picture courtesy of Kyushu Tourism Promotion Organization

อาริตะยากิ (Aritayaki) คือเครื่องปั้นดินเผาที่ผลิตขึ้นมาในอาริตะ จังหวัดซากะและพื้นที่รอบๆ ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังระดับโลก มีเครื่องปั้นดินเผาหลากหลายรูปแบบตั้งแต่ของใช้ในชีวิตประจำวันไปจนถึงงานศิลป์ เช่น เครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร และงานศิลปะหัตถกรรม

佐賀

Picture courtesy of Kyushu Tourism Promotion Organization

มีการแบ่งกระบวนการผลิตไว้อย่างชัดเจน เช่น "การขึ้นรูป" โดยนำดินมาปั้นขึ้นเป็นรูปร่าง "การลงลาย" โดยใช้อุปกรณ์วาดภาพเขียนลวดลายต่างๆ ลงไป และปิดท้ายด้วย "การเผา (อบด้วยเตาเผา)" ล้วนผ่านมือช่างฝีมือที่เชี่ยวชาญต่างกันไปในแต่ละขั้นตอน

มีร้านขายอาริตะยากิหลายร้าน แต่ร้านที่มีเอกลักษณ์คือ Gallery Arita ภายในร้านรายรอบไปด้วยแก้วกาแฟที่เป็นอาริตะยากิมากถึง 2,000 ชุด แถมถ้าสั่งเครื่องดื่มร้อนก็จะเลือกเสิร์ฟในแก้วที่ชอบได้อีกด้วย


12. เดินลอดโรมงไปแช่น้ำพุร้อนที่ทาเคโอะออนเซ็น (Takeo Onsen) : เมืองทาเคโอะ

佐賀

Picture courtesy of Kyushu Tourism Promotion Organization

ทาเคโอะออนเซ็นเป็นบ่อน้ำพุร้อนที่มีประวัติยาวนานถึง 1,300 ปี รู้จักกันในนามบิจินโนะยุหรือน้ำร้อนของคนงาม เพราะน้ำพุร้อนของที่นี่มีความเป็นด่างอ่อนๆ ช่วยเก็บกักความชุ่มชื้นและอ่อนโยนต่อผิวมาก สัญลักษณ์ของที่นี่คือโรมง (Romon ประตูใหญ่ที่สร้างเหมือนอาคาร 2 ชั้น) ที่เห็นในรูป มีลักษณะเป็นอาคารสีสันสดใสที่สร้างโดยไม่ใช้ตะปูแม้แต่ตัวเดียวทำให้ผู้มาเยือนต่างพากันประทับใจ

佐賀

Picture courtesy of Saga Prefectural Tourism Federation

หลังประตูใหญ่นี้มีโรงอาบน้ำสาธารณะ 3 แห่ง สามารถมาแช่ออนเซ็นแบบไปเช้าเย็นกลับได้ นอกจากโรงอาบน้ำสาธารณะแล้วยังมีบ่อส่วนตัวให้เช่าเหมาได้ด้วย โทโนซามะยุ (Tonosamayu) เป็นบ่อส่วนตัวดีไซน์หรูลายตารางหมากรุกที่อยากให้ลงแช่ดูสักครั้ง


13. เยียวยาจิตใจด้วยดอกไม้หลากชนิดที่สวนมิฟุเนะยามะ ราคุเอ็น (Mifuneyama Rakuen) : เมืองทาเคโอะ

佐賀

Picture courtesy of Saga Prefectural Tourism Federation

สวนมิฟุเนะยามะ ราคุเอ็น (Mifuneyama Rakuen) ) เป็นสวนที่เปิดให้เราได้สัมผัสความงามของดอกไม้ทั้ง 4 ฤดู และมีสิ่งน่าสนใจให้ดูตลอดทั้งปี เช่น ดอกซากุระในฤดูใบไม้ผลิ ไลท์อัพใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง

ดอกไม้ที่มีชื่อเสียงที่สุดคือดอกสึสึจิ (Tsutsuji) ในช่วงกลางเดือนถึงปลายเดือนเมษายนของทุกปีจะมีดอกสึสึจิถึง 2 แสนดอกเบ่งบานสวยงาม ภาพดอกสึสึจิที่มีหน้าผาอันทรงพลังทอดยาวอยู่เบื้องหลังช่างเป็นวิวที่ควรค่าแก่การมาชมมาก


14. ปีนหอคอยสู่ยอดปราสาทคารัตสึ (Karatsu Castle) : เมืองคารัตสึ

佐賀

Picture courtesy of Kyushu Tourism Promotion Organization

ปราสาทคารัตสึ (Karatsu Castle) เป็นสัญลักษณ์ของบริเวณคารัตสึ สร้างขึ้นเมื่อปี1608 และเท็นชุคาคุ (*1) ที่มีอยู่ได้รับการบูรณะในปี1966

ปราสาทหันหน้าเข้าทะเล (อ่าวคารัตสึ) ดังนั้นเมื่อปีนขึ้นไปบนหอคอยก็จะเห็นวิวเกาะต่างๆ กลางทะเล ทุกปีในช่วงปลายเดือนเมษายน - ต้นเดือนพฤษภาคมจะมีดอกฟูจิหรือดอกวิสทีเรียสีม่วงบานสวยผสานกับหอคอย

*1: เท็นชุคาคุ (หอคอย)....อาคารที่สูงที่สุดในปราสาทญี่ปุ่น เป็นสัญลักษณ์ของปราสาทนั้นๆ


15. ขอดวงโชคลาภที่ศาลเจ้าโฮโต (Hoto Shrine) : เมืองคารัตสึ

佐賀

Picture courtesy of Saga Prefectural Tourism Federation

ชื่อศาลเจ้าโฮโตเขียนด้วยอักษรคันจิที่แปลว่า "ถูกรางวัล" จึงเป็นศาลเจ้าที่ขึ้นชื่อว่าถ้ามาขอพรแล้วจะถูกล็อตเตอรี่ ที่มาของศาลเจ้าแห่งนี้คือสร้างขึ้นในปี 1574 เพื่ออุทิศให้แก่โนซากิ สึนาโยชิ (Nozaki Tsunayoshi) ผู้ปกป้องชาวบ้านจากโจรสลัด

ศาลเจ้าแห่งนี้มีเครื่องราง (Omamori) ต่างๆ อย่าง "เครื่องรางถูกรางวัลแน่นอน" และ "เครื่องรางนำโชคด้านการเงิน" ถ้าต้องการเสริมดวง ก็แวะมาที่ศาลเจ้าแห่งนี้ให้ได้นะ

ศาลเจ้าโฮโตอยู่บนเกาะทาคาชิมะ (Takashima Island) ใช้เวลาเดินทางโดยเรือจากเมืองคารัตสึประมาณ 10 นาที

มาเที่ยวซากะกัน

จากที่ได้พาเที่ยวมาจนถึงตรงนี้ จะเห็นว่ามีสิ่งน่าสนใจ แหล่งช็อปปิ้ง และจุดถ่ายรูปมากมายที่น่าไปเยี่ยมชมในจังหวัดซากะ

ถ้ามาเที่ยวเกาะคิวชูก็ลองแวะมาเที่ยวจังหวัดซากะกันด้วยนะ!

Written by

MATCHA Editer.

เนื้อหาในบทความนี้อ้างอิงจากการเก็บข้อมูลในช่วงเวลาที่เขียนบทความ อาจมีการเปลี่ยนแปลงของรายละเอียดสินค้า บริการ ราคาในภายหลังได้ กรุณาตรวจสอบกับสถานที่นั้นอีกครั้งก่อนการไปใช้บริการ
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง

อันดับ

ไม่พบบทความ