เมืองมุราคามิ จังหวัดนีงาตะ: ทัวร์ชมตุ๊กตาฮินะในมาชิยะ พร้อมเพลิดเพลินกับกิจกรรม ที่เที่ยว และอาหารท้องถิ่น

13 สถานที่เที่ยวที่ต้องไปและของอร่อยในจังหวัดฟุกุอิ เที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับจากคานาซาวะได้

บริการนี้รวมโฆษณาที่ได้รับการสนับสนุน
article thumbnail image

จังหวัดฟุกุอิมีสิ่งที่น่าสนใจมากมาย เช่น ทิวทัศน์งดงามของผาโทจินโบ และเอจิเซ็นคานิซึ่งเป็นของอร่อยในฤดูหนาว ไปเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับจากคานาซาวะที่เที่ยวสุดฮิตได้ ขอแนะนำให้ไปเที่ยวพร้อมกันเลย บทความนี้ขอแนะนำสถานที่เที่ยวห้ามพลาด ของอร่อยรสเลิศและตัวอย่างเส้นทางท่องเที่ยว

วันที่ปรับปรุงล่าสุด :

จังหวัดฟุกุอิ (Fukui)


จังหวัดฟุกุอิตั้งอยู่ในภูมิภาคโฮคุริคุ (Hokkoku Region) ของญี่ปุ่น อยู่ติดทะเล จากเหนือจรดใต้มีลักษณะเรียวยาว ทำให้ทางเหนือกับทางใต้มีภาษาและวัฒนธรรมต่างกัน ทางเหนือติดกับจังหวัดอิชิคาวะ (Ishikawa) ซึ่งเป็นที่ตั้งของคานาซาวะ (Kanazawa) เป็นสถานที่ซึ่งมีวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ของภูมิภาคโฮคุริคุฝังรากลึกอยู่ ส่วนทางใต้อยู่ใกล้กับเกียวโต (Kyoto) มากจึงได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมของภูมิภาคคันไซ (Kansai Region) มาตั้งแต่อดีต

จังหวัดฟุกุอิยังเป็นพื้นที่ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาลทั้งสี่อย่างชัดเจน จึงมีวัตถุดิบประกอบอาหารตามฤดูกาลที่อร่อยมากมาย เช่น อุนิ (หอยเม่นทะเล) และหอยนางรมในฤดูร้อน และปูและปลาปักเป้าในฤดูหนาว

สารบัญ

การเดินทางไปยังจังหวัดฟุกุอิ

สถานี JR ฟุกุอิ (JR Fukui) เป็นจุดเริ่มต้นในการเดินทางที่แสนสะดวก สามารถนั่งรถไฟและรถบัสจากทิศทางต่างๆ มาได้มากมาย

福井駅

จากบทความเรื่อง “สาวกไดโนเสาร์ห้ามพลาด! ไปถ่ายรูปกับไดโนเสาร์และเช็คอินที่สถานี JR ฟุกุอิกัน” (ภาษาจีน)

ที่ผ่านมาจังหวัดฟุกุอิมีการขุดพบฟอสซิลไดโนเสาร์มากมาย ดังนั้น ที่ลานด้านหน้าสถานีรถไฟจึงมีการจัดวางหุ่นไดโนเสาร์เคลื่อนไหวได้ขนาดเท่าของจริง รอยเท้า (จำลอง) และศิลปะภาพลวงตาลวดลายไดโนเสาร์เพื่อเป็ฯการประชาสัมพันธ์ด้วย

ตอนกลางคืนมีการประดับไฟไลต์อัพที่สวยงามน่าประทับใจมากด้วย ทำให้ที่นี่เป็นจุดท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ซึ่งทำให้นักท่องเที่ยวต่างอดถ่ายรูปกันไม่ได้

จากคานาซาวะ

ひがし茶屋街

ย่านฮิกาชิชายะ (Higashi Chaya) Photo by Pixelta

คานาซาวะในจังหวัดอิชิคาวะเป็นสถานที่ซึ่งอยากให้แวะไปเที่ยวคู่กันกับจังหวัดฟุกุอิในฐานะแหล่งท่องเที่ยวในภูมิภาคโฮคุริคุ (Hokuriku Region) สามารถนั่งรถไฟด่วนพิเศษของ JR ได้แก่ รถไฟด่วนพิเศษธันเดอร์เบิร์ด (Thunderbird Limited Express) และรถไฟด่วนพิเศษชิราซากิ (Shirasagi Limited Express) จากสถานีคานาซาวะ (Kanazawa) ถึงสถานีฟุกุอิ (Fukui) ได้ในเวลาราว 50 นาทีโดยไม่ต้องเปลี่ยนขบวน (ที่นั่งแบบจอง 3,070 เยน)

ส่วนรถยนต์ก็จะใช้เวลาเดินทางราว 1 ชั่วโมง ดังนั้นขอแนะนำให้เช่ารถในการเดินทางจะสะดวกมากๆ MATCHA ขอมอบคูปองส่วนลด 10% ในการเช่ารถของ Nippon Rent-A-Car สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ อย่าลืมนำไปใช้กันนะ

MATCHA ขอมอบคูปองส่วนลด 10% แก่ท่านผู้อ่าน เพื่อจอง Nippon Rent-A-Car

จากโตเกียว

ปัจจุบันไม่ยังมีรถไฟชินคันเซ็นที่วิ่งตรงจากสถานีโตเกียวไปยังจังหวัดฟุกุอิ หากต้องการเดินทางไปยังสถานีฟุกุอิ ให้ขึ้นรถไฟ JR โฮคุริคุชินคันเซ็น (JR Hokuriku Shinkansen) ไปยังคานาซาวะ จากนั้นเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟด่วนพิเศษต่อไปยังสถานีฟุกุอิ (ราคารวมราว 16,000 เยน)

หรือจะขึ้นรถไฟชินคันเซ็นสายโทไคโด (Tokaido Shinkansen) หรือสายซันโย (Sanyo Shinkansen) ไปเปลี่ยนรถไฟด่วนพิเศษที่สถานีไมบาระ (Maibara) ในจังหวัดชิกะ (Shiga) ต่อไปที่สถานีฟุกุอิ (ราคารวมราว 14,000 เยน) ระยะเวลาในการโดยสารทั้งสองเส้นทางราว 3.5 - 4 ชั่วโมง ดังนั้นขอแนะนำให้เลือกจากค่าโดยสารและจุดที่รถไฟผ่าน

อย่างไรก็ตาม ในฤดูใบไม้ผลิปี 2024 จะมีการขยายเส้านทางรถไฟสาย JR โฮคุริคุชินคันเซ็น (JR Hokuriku Shinkansen) และมีกำหนดเปิดให้บริการที่สถานีรถไฟของฟุกุอิและสึรุกะ (Tsuruga) ในจังหวัดฟุกุอิ หากเปิดให้บริการ ก็จะสามารถโดยสารรถไฟชินคันเซ็นจากโตเกียวตรงไปยังจังหวัดฟุกุอิได้

แต่สำหรับท่านที่ต้องการเดินทางในราคาถูก ขอแนะนำให้โดยสารรถบัส

จากโตเกียวถึงฟุกุอิใช้เวลาราว 7 - 8 ชั่วโมง มีราคาค่าโดยสารหลากหลายตั้งแต่ราว 3,000 เยนถึง 10,000 เยนขึ้นไป เช่น เมื่อค้นหาที่เว็บไซด์ WILLER TRAVEL ราคาค่าโดยสารเดือนพฤษภาคม 2023 ในวันธรรมดาต่ำสุดคือ 3,800 เยน

หากเดินทางด้วยรถบัสเที่ยวกลางคืน ส่วนใหญ่จะออกจากโตเกียวราว 21:00 - 23:00 น. มาถึงฟุกุอิราว 7:00 - 8:00 น. ในเช้าวันถัดไป

รถบัสอาจไม่สะดวกสบายเท่ารถไฟชินคันเซ็น แต่ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ มีบริการรถบัสที่สะดวกสบายมากขึ้นเรื่อยๆ เช่น มีบริการห้องน้ำ ที่นั่งปรับเอนได้ ปลั๊กไฟ และ Wi-Fi ฟรี

รถบัสสายตรงไปยังฟุกุอิมีจะให้บริการที่ทางออกยาเอซึ (Yaesu) ของสถานี JR โตเกียว (JR Tokyo) และสถานีขนส่งชินจูกุ (Busta Shinjuku) ที่ทางออกทิศใต้ของสถานี JR ชินจูกุ (JR Shinjuku) จุดจอดปลายทางหลักๆ ในฟุกุอิคือทางออกตะวันออกของสถานีฟุกุอิ

จองรถบัสด่วน: WILLER TRAVEL

จากโอซาก้าหรือนาโกย่า

大阪

Picture courtesy of Osaka Government Tourism Bureau/JNTO

หากต้องการเดินทางจากโอซาก้า (Osaka) ไปฟุกุอิ ให้ขึ้นรถไฟ JR Thunderbird Limited Express จากสถานีโอซาก้า (Osaka) หรือสถานีชินโอซาก้า (Shin-Osaka) ใช้เวลาราว 2 ชั่วโมง (5,940 เยนสำหรับที่นั่งแบบจอง) รถไฟขบวนนี้ยังแล่นผ่านสถานีต่างๆ เช่น สถานีซาเบเอะ (Sabae) และสถานีสึรุกะซึ่งมีจุดท่องเที่ยวมากมาย

หากเดินทางจากนาโกย่า (Nagoya) ใช้รถไฟชินคันเซ็นสายโทไคโดหรือสายซันโย แล้วเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟด่วนที่สถานีไมบาระ ใช้เวลาทั้งหมดราว 1 ชั่วโมง 40 นาที (ราคารวมราว 6,000 เยน)

โฮคุริคุอาร์ชพาส (Hokuriku Arch Pass)

สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ขอแนะนำ Hokuriku Arch Pass บัตรฟรีพาสซึ่งเป็นการดำเนินการร่วมกันระหว่าง JR East กับ JR West ใช้เดินทางจากโตเกียวหรือโอซาก้าไปยังภูมิภาคโฮคุริคุอย่างฟุกุอิและคานาซาวะ อีกทั้งยังสามารถเดินทางจากโตเกียวผ่านภูมิภาคโฮคุริคุไปยังคันไซได้ หรือจะเดินทางย้อนกลับก็ได้เช่นกัน

ใช้โดยสารรถไฟโฮคุริคุชินกันเซ็น (ระหว่างโตเกียวกับคานาซาวะ) รวมทั้งรถไฟด่วนพิเศษ รถไฟด่วน และรถไฟธรรมดา (รวมถึงรถไฟกึ่งด่วนพิเศษและรถไฟ Rapid) ของ JR East และ JR West สำหรับที่นั่งแบบจอง (Reserved Seat) และในที่นั่งแบบอิสระ (Non-Reserved Seat) โดยไม่จำกัดเที่ยวเป็นเวลา 7 วัน

นอกจากนี้ยังสามารถใช้กับรถไฟโตเกียวโมโนเรล (Tokyo Monorail) และรถไฟโนโตะ รถไฟโนโตะ (Noto Railway) ระหว่างสถานีนานาโอะกับสถานีวาคุระออนเซ็นในจังหวัดอิชิคาวะ (Nanao-Wakura Onsen) สามารถซื้อฟรีพาสนี้ได้ทางออนไลน์ผ่านเว็บจำหน่ายตั๋ว หรือไปซื้อที่เคาน์เตอร์ให้บริการที่สถานีรถไฟหลักของ JR East และ JR West ในญี่ปุ่น แต่หากซื้อที่ร้านค้าที่ JR ระบุหรือตัวแทนจำหน่ายในต่างประเทศ ราคาจะถูกกว่า 1,000 เยน

Hokuriku Arch Pass (สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ)
ราคา / สถานที่จำหน่าย ในต่างประเทศ ● ราคา
แบบติดต่อกัน: 7 วัน 24,500 เยน
● สถานที่จำหน่าย
เว็บจำหน่ายตั๋ว / ร้านค้าที่ JR ระบุหรือตัวแทนจำหน่ายในต่างประเทศ
ราคา / สถานที่จำหน่าย ในญี่ปุ่น ● ราคา
แบบติดต่อกัน: 7 วัน 25,500 เยน
● สถานที่จำหน่าย
เว็บจำหน่ายตั๋ว / เคาน์เตอร์ให้บริการที่สถานีรถไฟหลักของ JR East และ JR West
ข้อควรระวัง ฟรีพาสนี้ไม่สามารถใช้กับรถไฟชินคันเซ็นสายโทไคโด (Tokaido) หรือสายซันโย (Sanyo)
เว็บไซต์ทางการ (ภาษาอังกฤษ) https://www.westjr.co.jp/global/en/ticket/hokuriku-arch-pass/

ชื้อผ่าน KLOOK ได้ง่ายๆ!
คลิกที่นี่เพื่อซื้อตั๋วโดยสาร Hokuriku Arch Pass

แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่ห้ามพลาด!

ขอแนะนำสถานที่เที่ยวต่างๆ ในจังหวัดฟุกุอิ เช่น จุดชมวิวสวยและจุดท่องเที่ยงเชิงประวัติศาสตร์ ฟุกุอิมีสถานที่เที่ยวกระจายอยู่ทั่วจังหวัด ดังนั้นควรตัดสินใจล่วงหน้าว่าจะไปที่ใด แล้ววางแผนการเดินทางและที่พัก

หากต้องการตระเวนเที่ยวสถานที่ต่างๆ การเดินทางโดยรถยนต์จะสะดวกกว่าการนั่งรถไฟหรือรถบัส

Matcha優惠券_NIPPON RENT-A-CAR

1. เมืองพักแรมคุมากาวะที่ยังหลงเหลืออยู่ในเส้นทางซาบะไคโด

熊川宿

Picture courtesy of © Fukui Prefecture & Fukui Prefectural Tourism Federation

อ่าววากาซะ (Wakasa Bay) ซึ่งทอดยาวจากฟุกุอิถึงเกียวโต เป็นหนึ่งในท่าเรือชั้นนำของจังหวัดฟุกุอิ ซึ่งมีอาหารทะเลอุดมสมบูรณ์มาตั้งแต่อดีต ในสมัยเอโดะเป็นฐานการขนส่งทางเรือที่สำคัญ ซึ่งใช้ในการขนส่งสินค้าต่างๆ จากทั่วญี่ปุ่นไปเกียวโต

เนื่องจากอ่าววากาซะมีการจับปลาซาบะได้มาก ถนนที่เชื่อมระหว่างอ่าววากาซะกับเกียวโตจึงได้รับการเรียกขานว่า เส้นทางซาบะไคโด (Saba Kaido) และมีการสร้างเมืองพักแรมหลายแห่งบนเส้นทางนี้ หนึ่งในนั้นคือเมืองพักแรมคุมากาวะ (Kumagawa-juku) ซึ่งอยู่ติดกับจังหวัดชิกะ (Shiga) นั้นจะมีความคึกคักเป็นพิเศษ

นอกจากนี้ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเขตอนุรักษ์กลุ่มอาคาร สถาปัตยกรรม และสิ่งปลูกสร้างดั้งเดิมทรงคุณค่า (Important Preservation Districts for Groups of Traditional Buildings) ของญี่ปุ่น ถนนยาวราว 1 กิโลเมตรแห่งนี้เรียงรายไปด้วยอาคารเก่าที่ดูเด่นด้วยหลังคากระเบื้องและหน้าต่างไม้ขัดแตะ

鯖サンド

Picture courtesy of Saba Cafe

เมื่อพูดถึงเส้นทางซาบะไคโดะ ก็ต้องนึกถึงร้านอาหารมากมายที่ให้บริการเมนูปลาบะ อย่างซูชิและปลาซาบะย่าง เป็นต้น แต่หากต้องการเพลิดเพลินกับเมนูปลาซาบะในคาเฟ่เก๋ๆ แล้ว ขอแนะนำแซนด์วิชปลาซาบะที่ร้านซาบะคาเฟ่ (Saba Cafe)

แซนวิชปลาซาบะทำจากหอมใหญ่และเนื้อปลาซาบะแบบจัดเต็มประกบด้วยขนมปังโฮมเมด (ราคารวมภาษี 1,450 เยน * เสิร์ฟพร้อมสลัดและมันฝรั่ง) เพิ่มรสชาติด้วยซอสลับสูตรพิเศษซึ่งมีความเผ็ดร้อนจากคันนัมบะ (Kannamba) เครื่องปรุงรสซึ่งใช้ชิชิยุซึ (Shishi Yuzu) ที่ปลูกได้เฉพาะท้องถิ่นนี้

鯖カフェ

Picture courtesy of Saba Cafe

ทางร้านยังมีระเบียงเปิดโล่งที่กว้างขวางและบรรยากาศดี หากจะเดินทางไปยังเมืองพักแรมคุมากาวะ ให้ขึ้นรถบัสประจำทางจากสถานีโอมิอิมาซุ (Omi-Imasu) ซึ่งเป็นสถานีที่ใกล้ที่สุด ใช้เวลาราว 30 นาที


2. โทจินโบ หน้าผาสูงชันที่ทรงพลัง

東尋坊

Picture courtesy of © Fukui Prefecture & Fukui Prefectural Tourism Federation

ผาโทจินโบ (Tojinbo Cliff) เป็นโขดหินแนวหน้าผาติดทะเลที่เกิดจากหินภูเขาไฟที่ปะทุเมื่อราว 12 ล้านปีก่อน ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นอนุสรณ์ทางธรรมชาติที่สำคัญของญี่ปุ่น ดังนั้น เพื่อป้องกันภูมิทัศน์อันงดงามนี้ จึงไม่มีการสร้างราวจับหรือรั้วไว้ แน่นอนว่าเราสามารถเดินไปที่ด้านข้างของหน้าผาได้ แต่อันตรายมาก ดังนั้น ขอให้ใช้ความระมัดระวังในขณะเดิน และแนะนำให้สวมรองเท้าผ้าใบเดินที่เดินสบายๆ ด้วย

นอกจากนี้ หากต้องการชื่นชมพื้นผิวโขดหินที่งดงามดั่งงานศิลป์ ขอแนะนำให้นั่งเรือสำราญ เอกสิทธิ์เฉพาะผู้ที่นั่งเรือเท่านั้นที่จะได้ชมกำแพงโขดหินอันทรงพลังแบบใกล้ๆ ได้ ค่าทัวร์ 30 นาที ผู้ใหญ่ 1,500 เยน เด็ก 750 เยน

3. เมกาเนะมิวเซียม พิพิธภัณฑ์ที่รวมแว่นตาต่างๆ ไว้

ว่ากันว่ากว่า 90% ของกรอบแว่นตาที่ผลิตในญี่ปุ่นผลิตที่จังหวัดฟุกุอิ โดยเฉพาะเมืองซาเบเอะ (Sabae) ซึ่งเป็นที่รู้จักในนามเมืองแห่งแว่นตา มีบริษัทแว่นตาอยู่หลายแห่ง

めがねミュージアム

Picture courtesy of Megane Musuem

เมกาเนะมิวเซียมหรือพิพิธภัณฑ์แว่นตา (Megane Musuem) ในซาเบเอะ เป็นอาคารคอมเพล็กซ์ซึ่งแว่นตาต่างๆ มากมายจัดแสดง โดยเราจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับประวัติและวิธีทำแว่นตาผ่านนิทรรศการ และถ้ามีแว่นตาที่อยากได้จริงๆ ก็สามารถซื้อได้ที่ร้านค้าด้วย มีแว่นตาต่างๆ ราว 3,000 รายการจากผู้ผลิตแว่นตาในจังหวัด ดังนั้น อาจได้เจอแว่นตาที่ถูกใจก็ได้นะ

นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมสัมผัสประสบการณ์การทำแว่นตาและสายรัดแว่นตาด้วย การได้ลองทำของที่ระลึกชิ้นเดียวในโลกก็น่าสนุกนะ

4. ปราสาทเอจิเซ็นโอโนะ ปราสาทบนท้องฟ้า

大野城

Picture courtesy of © Fukui Prefecture & Fukui Prefectural Tourism Federation

ปราสาทเอจิเซ็นโอโนะ (Echizen Ono Castle) ซึ่งตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางพื้นที่แอ่งกระทะโอโนะ (Oono Basin) เป็นปราสาทลึกลับที่ดูราวกับลอยอยู่บนท้องฟ้าในยามที่ถูกปกคลุมด้วยทะเลหมอก

เขาอินุ (Mt. Inu) ทางทิศตะวันตกของปราสาทเป็นจุดถ่ายรูปสวย ช่วงเดือนตุลาคมถึงเดือนเมษายนเป็นช่วงที่มักมีทะเลหมอก นักท่องเที่ยวมากมายมักจะพกล้องถ่ายรูปมาถ่ายรูปกันในช่วงรุ่งสางจนถึงราว 09:00 น.

ว่ากันว่าเดือนพฤศจิกายนเป็นเดือนที่มักมีทะเลหมอก นอกจากนี้ หากวันไหนอากาศมีความชื้นสูงและอุณหภูมิต่างกันมากๆ วันรุ่งขึ้นก็มีความเป็นได้ที่จะมีหมอกให้เห็นค่อนข้างมาก อย่างไรก็ตาม ว่ากันว่าในหนึ่งปีสามารถเห็นทะเลหมอกได้เพียง 10 ครั้ง ดังนั้นหากได้เจอทะเลหมอกก็ถือว่าโชคดีมากๆ เลย

เมืองโอโนะซึ่งเป็นที่ตั้งของปราสาทยังคงมีบรรยากาศของเมืองรอบปราสาทหลงเหลืออยู่ เกษตรกรในท้องถิ่นจะนำพืชผลที่เก็บเกี่ยวสดใหม่และผลิตภัณฑ์แปรรูปมาจำหน่ายที่ชิจิเค็นอาซาอิจิหรือตลาดเช้าชิจิเค็น (Shichiken Morning Market) ซึ่งเปิดมานานกว่า 400 ปี

福井県

Picture courtesy of © Fukui Prefecture & Fukui Prefectural Tourism Federation

นอกจากนี้ ชาวเมืองโอโนะมีวัฒนธรรมที่ซื้อและสนับสนุนาภาพวาดของศิลปินที่ยังไม่เป็นที่รู้จัก และ COCONO Art Place จึงจัดแสดงนิทรรศการและกิจกรรมต่างๆ เพื่อส่งต่อวัฒนธรรมศิลปะที่ฝังรากอยู่ในเมืองนี้ไปสู่คนรุ่นหลังด้วย

แกลเลอรีเป็นบ้านเก่าที่นำมาปรับปรุงใหม่ ให้มีคาเฟ่ในอาคารด้วย ดังนั้นจึงเป็นสถานที่ซึ่งเหมาะกับการแวะมาเดินเล่น



5. วัดเอเฮจิ ช่วยทำจิตใจให้บริสุทธิ์

永平寺

Picture courtesy of วัด Daihonzan Eihei-ji Temple

วัดเอเฮจิ (Eihei-ji Temple) เป็นโดโจสำหรับปฏิบัติธรรมนั่งสมาธิสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 13 ปัจจุบันที่นี่ยังคงมีพระสงฆ์ที่เรียกว่าอุนซุยหรือพระผู้ปฏิบัติธรรมอย่างเข้มงวดทุกวัน

ภายในวัดมีธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ มีต้นไม้ยักษ์อายุกว่า 700 ปีแผ่กิ่งก้านสาขา มีอาคารขนาดใหญ่และขนาดเล็กราว 70 หลัง เช่น บุตสึเด็น (พระอุโบสถ) และฮัตโต (หอเทศนาธรรม) กระจายอยู่ทั่ววัด มีอาคารอันทรงคุณค่าหลายแห่ง รวมทั้งสถานที่ซึ่งห้ามการสนทนาส่วนตัวโดยเด็ดขาด และพื้นที่ที่ห้ามเข้า ดังนั้นขอให้ระมัดระวังกันด้วย

永平寺

Picture courtesy of วัด Daihonzan Eiheiji

หากไปเที่ยววัดเอเฮจิต้องแวะชมซันโชคาคุซึ่งมีจิตรกรรมภาพวาดบนเพดานอันงดงามถึง 230 ภาพให้ได้นะ ภาพดอกไม้และนกสีสันสดใสที่วาดโดยจิตรกร 144 คนจะทำให้ผู้ได้ชมหลงใหลจนลืมเวลา

นอกจากดอกไม้และนก ยังมีภาพสัตว์ 5 ชนิด เช่น กระรอก สิงโต สิงโตขาว และปลาคาร์ปด้วย ว่ากันว่าหากหาทั้งหมดได้แล้วอธิษฐาน ความปรารถนาจะเป็นจริง แวะไปชมภาพและซาบซึ้งกับศิลปะกันนะ

6. ศาลเจ้าเคฮิจิงกู รับพลังจากน้ำศักดิ์สิทธิ์

氣比神宮

Picture courtesy of © Fukui Prefecture & Fukui Prefectural Tourism Federation

ศาลเจ้าเคฮิจิงกู (Kehi Jingu Shrine) เป็นศาลเจ้าเก่าแก่ในเมืองสึรุกะ (Tsuruga) ชาวเมืองสึรุกะมักเรียกกันอย่างคุ้นเคยว่า "เคซัง"

เมื่อผ่านประตูโทริอิแล้วเดินไปตามทาง จะพบกับน้ำผุดซึ่งเป็นสถานที่รับพลังเสริมดวงของศาลเจ้าเคฮิจิงกู ตอนที่การซ่อมแซมศาลเจ้าเมื่อปี 702 ได้พบน้ำผุดนี้ ซึ่งเรียกขานกันว่า โจเมซุย (น้ำศักดิ์ที่ดื่มแล้วอายุยืน) เชื่อกันว่าการจิบน้ำนี้เพียงจิบเดียวจะทำให้มีสุขภาพแข็งแรงตลอดทั้งปี

気比の松原

Picture courtesy of © Fukui Prefecture & Fukui Prefectural Tourism Federation

ใช้เวลาเดินราว 15 นาทีจากสถานี JR สึรุกะ (JR Tsuruga) ซึ่งเป็นสถานีที่ใกล้ที่สุด ศาลเจ้าอยู่ใกล้อ่าวสึรุกะ (Tsuruga Bay) และเคฮิโนะมัตสึบาระ (Kehi no matsubara) ป่าสนที่ทอดยาวไปตามหาดทรายสีขาว ความงามตามฤดูกาลของที่นี่จะช่วยเยียวยาจิตใจของผู้มาเยือน

ยังมีสถานที่น่าแวะต่างๆ อีก เช่น โกดังอิฐแดงทสึรุกะ (Tsuruga Red Brick Warehouse) ซึ่งสามารถซื้อหาของอร่อยและของที่ฝากในท้องถิ่น และถนนทสึรุกะมิวเซียม (Tsuruga Museum Street) ซึ่งสามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์เมืองย้อนยุค

7. อาวาระออนเซ็น ที่สนุกกับการสวมชุดยูกาตะได้

あわら温泉

Picture courtesy of © Fukui Prefecture & Fukui Prefectural Tourism Federation

อาวาระออนเซ็น (Awara Onsen) เป็นพื้นที่ออนเซ็นที่อยู่ทางเหนือสุดของจังหวัดฟุกุอิ มีที่พักออนเซ็นราว 30 แห่ง เนื่องจากมีแหล่งน้ำพุร้อนมากมายหลากหลาย ทำให้สรรพคุณของน้ำพุร้อนในแต่ละเรียวกังต่างกัน

หลังแช่ออนเซ็นแล้ว แวะไปลองสวมชุดยูกาตะที่ย่านยาไตมูระ ยูเคมูริ โยโกะโจ (Yataimura Yukemuri Yokocho) ที่อยู่ด้านหน้าสถานีรถไฟยูโนะมาจิบนพื้นที่ใจกลางอาวาระออนเซ็นกัน ที่นี่มีร้านอิซากายะสไตล์ญี่ปุ่น 9 แห่งที่ประดับโคมไฟสีแดง สามารถเพลิดเพลินกับยากิโทริ (ไก่ย่างญี่ปุ่น) โอเด้ง และอื่นๆ คู่กับสาเกในบรรยากาศสบายๆ เหมือนนั่งดื่มที่บ้านได้

สถานีใกล้ที่สุดที่ไปถึงเมืองออนเซ็นแห่งนี้คือสถานีอาวาระยูโนะมาจิ (Awara Yunomachi) รถไฟเอจิเซ็น (Echizen Railway) แต่ยังสามารถไปเมืองออนเซ็นโดยนั่งรถบัสจากสถานี JR อาวาระออนเซ็น (JR Awara Onsen) ได้ด้วย

8. คานาสึโซซาคุโนะโมริ จุดชมงานศิลป์ท่ามกลางธรรมชาติ

金津創作の森

ศิลปิน: อาโอกิ โนเอะ ชื่อผลงาน: Tamahagane-III ช่างภาพ: ยามาโมโตะ ทาดาซึ

คานาสึโซซาคุโนะโมริหรือป่าสร้างสรรค์แห่งคานาสึ (Kanaz Forest of Creation) อยู่ใกล้กับอาวาระออนเซ็น เป็นจุดชมงานศิลป์ที่สร้างสรรค์ขึ้นท่ามกลางธรรมชาติในพื้นที่กว้างใหญ่ราว 20 เฮกตาร์ นอกจากอาร์ตคอร์ (Art Core) พิพิธภัณฑ์ศิลปะแล้ว บริเวณนี้ยังเต็มไปด้วยสตูดิโอศิลปะของนักสร้างสรรค์ และสตูดิโอที่สามารถสัมผัสประสบการณ์การทำเครื่องปั้นดินเผา งานหัตถกรรมจากไม้ไผ่ และเทคนิคการย้อมผ้าบาติกแบบดั้งเดิมโดยใช้ขี้ผึ้ง

หากเดินตามเส้นทางเดินไป จะพบกับผลงานกลางแจ้งมากมายที่สร้างสรรค์ขึ้นเพื่อให้ผู้คนได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติ ลองแวะไปใช้เวลาอันยอดเยี่ยมสัมผัสกับงานศิลป์ท่ามกลางธรรมชาติกัน

สามารถนั่งแท็กซี่จากสถานี JR อาวาระออนเซ็นซึ่งเป็นสถานีที่ใกล้ที่สุด ใช้เวลาราว 10 นาที หากเช่ารถมา ให้ออกจากทางด่วนที่ทางออกคานาซึ (Kanazu IC) ไปราว 5 นาที

Matcha優惠券_NIPPON RENT-A-CAR

9. พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ประจำจังหวัดฟุกุอิ ดื่มด่ำกับโลกแห่งไดโนเสาร์

恐竜博物館

พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ประจำจังหวัดฟุกุอิ (The Fukui Prefectural DINOSAUR MUSEUM) มีกำหนดการเปิดให้บริการอีกครั้งเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2023

นอกจากจะจัดแสดงโครงกระดูกไดโนเสาร์ 44 ตัวแล้ว ยังมีลานกว้างซึ่งสามารถสัมผัสฟอสซิลของไดโนเสาร์ไทแรนโนซอรัสของจริง และพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์กลางแจ้งซึ่งสามารถสัมผัสประสบการณ์การขุดฟอสซิลไดโนเสาร์ในสถานที่จริงที่ค้นพบฟอสซิลไดโนเสาร์ได้ เป็นสถานที่เที่ยวซึ่งสามารถดื่มด่ำกับโลกของไดโนเสาร์ด้วยการมอง ได้ยิน และสัมผัส

มีการขุดพบฟอสซิลไดโนเสาร์มากมายในจังหวัดฟุกุอิ ถึงขนาดตั้งชื่อไดโนเสาร์ที่มีการพบฟอสซิลด้วยชื่อฟุกุอิด้วย เช่น ฟุกุอิซอรัส และฟุกุอิแรปเตอร์ มีรถบัสไปถึงพิพิธภัณฑ์ โดยออกจากสถานีคัตสึยามาะ (Katsuyama) ซึ่งเป็นสถานีที่ใกล้ที่สุด (ค่าโดยสาร: ผู้ใหญ่ 300 เยน เด็ก 200 เยน)

10. อิจิโจดานิ อาซากุระชิ อิเซกิ เมืองรอบปราสาทในยุคเซ็นโกคุที่ได้รับการฟื้นคืนชีวิต

一乗谷朝倉氏遺跡

Picture courtesy of © Fukui Prefecture & Fukui Prefectural Tourism Federation

ยุคเซ็นโกคุ (ช่วงศตวรรษที่ 15 - 16) เป็นยุคสมัยแห่งความวุ่นวายที่เหล่าผู้มีอำนาจในพื้นที่ต่างๆ ของญี่ปุ่นสู้รบกัน อิจิโจดานิ อาซากุระชิ อิเซกิ หรือซากโบราณสถานอิจิโจดานิของตระกูลอาซากุระ (Ichijodani Asakura Family Site) เป็นที่ตั้งของปราสาทอิจิโจดานิและเมืองรอบปราสาทของตระกูลอาซากุระ ซึ่งปกครองพื้นที่นี้ในยุคเซ็นโกคุ

เป็นเวลากว่า 400 ปีที่ซากโบราณสถานแห่งนี้ถูกฝังอยู่ใต้ดินและทราย ปัจจุบันมีการขุดพบเกือบสมบูรณ์แล้ว และมีการบูรณะบ้านพักซามูไรและบ้านเรือนที่ชาวเมืองสมัยนั้นอาศัยอยู่

ที่ซากคฤหาสน์ของอาซากุระ โยชิคาเกะ ผู้ปกครองอิจิโจดานิ มีประตูคารามง (Karamon) ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของซากคฤหาสน์แห่งนี้ยังคงตั้งอยู่ในสภาพเดิม ในฤดูใบไม้ผลิตสามารถชมความงดงามนี้คู่กับดอกซากุระที่บานสะพรั่งที่ด้านข้างประตูนี้ได้

ทุกเดือนสิงหาคมจะมีการจัดเทศกาลเอจิเซ็น เซ็นโกคุ (Echizen Sengoku Festival) ซึ่งสามารถชมการแสดงใช้อาวุธฮินาวาจู (ปืนคาบศิลา) ในช่วงเวลาดังกล่าวจะมีการจัดงานเทศกาลเอจิเซ็นอาซากุระมังโทยะ (Echizen Asakura Mantoya) ซึ่งจะมีการจุดเทียนราว 15,000 เล่มในยามค่ำกลางคืน ทำให้บรรยากาศดูโรแมนติกมาก

จากสถานีฟุกุอิ ให้ขึ้นรถบัสด่วนพิเศษไปอิจิโจดานิ อาซากุระ (Ichijodani Asakura Express Bus) บนรถบัสเคฟุกุ (Keifuku Bus) ราว 20 นาที ก็จะถึงป้ายรถบัสฟุเก็นมาชินามิ (Fukenmachinami) ซึ่งเป็นบริเวณศูนย์กลางของซากโบราณสถานแห่งนี้

ของอร่อยรสเลิศที่ห้ามพลาดในฟุกุอิ

จังหวัดฟุกุอิซึ่งอยู่ติดทะเล ถือเป็นขุมทรัพย์ของอาหารทะเลแสนอร่อย เช่น ปลาซาบะและปู นอกจากนี้ยังมีอาหารท้องถิ่นอร่อยที่ขึ้นชื่อมากมาย เช่น เอจิเซ็นโอโรชิโซบะ (Echizen Oroshi Soba) และ ซอสคัตสึด้ง (Sauce Katsudon) ขอแนะนำข้อมูลความอร่อยที่ต้องลองเมื่อไปที่จังหวัดฟุกุอิ

11. เอจิเซ็นโซบะ โซบะที่มีเอกลักษณ์ของฟุกุอิ

越前おろしそば

Picture courtesy of © Fukui Prefecture & Fukui Prefectural Tourism Federation

แต่ละท้องถิ่นทั่วญี่ปุ่นมีวิธีรับประทานโซบะที่หลากหลายแบบ จังหวัดฟุกุอิเองก็ขึ้นชื่อเรื่องการผลิตโซบะที่รังสรรค์ขึ้นจากน้ำที่สุดแสนอร่อย

เอจิเซ็นโซบะคือโซบะประเภทหนึ่งที่โรยหน้าเส้นโซบะเย็นที่มีเนื้อสัมผัสแน่นด้วยหัวไชเท้าขูดและคัตสึโอะบุชิ (ปลาโอขูดฝอย) บางแห่งเสิร์ฟโดยใส่หัวไชเท้าขูดในสึยุโซบะ (น้ำซุปเข้มข้นสำหรับจุ่มโซบะรับประทาน) ความเผ็ดของหัวไชเท้าและกลิ่นหอมๆ ของคัตสึโอะบุชิเข้ากันได้ดีกับโซบะ ช่วยกระตุ้นความอยากอาหารได้ดี

ร้านอามิดะโซบะ สาขาฟุกุโนะอิ (AMIDA SOBA Fukunoi) ตั้งอยู่หน้าสถานีฟุกุอิ เป็นร้านโซบะยอดฮิตที่ใช้แป้งโซบะ 100% เมนูยอดฮิตคือโอโรชิโซบะซัมไม (Oroshi Soba Zammai ราคารวมภาษี 1,700 เยน) สามารถเพลิดเพลินกับสึยุ 3 แบบ ได้แก่ สึยุที่ใส่หัวไช้เท้าขูด สึยุที่ใส่วาซาบิ และสึยุที่ใส่โทโรโระ (มันยามะอิโมะบด ซึ่งจะมีลักษณะหนืดเหลว)

12. "ซอสคัตสึด้ง" แสนอร่อย

ソースカツどん

Picture courtesy of © Fukui Prefecture & Fukui Prefectural Tourism Federation

คัตสึด้งในประเทศญี่ปุ่น คือข้าวหน้าหมูทอด (คัตสึ) ราดน้ำซุปดาชิที่ผสมไข่ แต่ซอสคัตสึด้งของจังหวัดฟุกุอิเป็นข้าวหน้าหมูทอดที่ราดด้วยซอส ที่น่าสนใจอีกอย่างคือแต่ละร้านจะมีรสชาติและการตกแต่งที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง

ว่ากันว่า ต้นตำรับผู้รังสรรค์เมนูซอสคัตสึด้งนี้ คือร้านยุโรป-เค็น สาขาโชฮนเต็น (Europe-Ken Sohonten) ร้านอาหารตะวันตก สาขาใหญ่ใกล้สถานีฟุกุอิ

ซอสคัตสึด้ง (ราคารวมภาษี 1,130 เยน) ที่ร้านนี้ขนาดใหญ่จุใจ โดยใช้หมูทอด 3 ชิ้นวางบนข้าว หมูทอดใช้หมูสไลด์บางๆ หมักกับซอสสูตรลับที่เข้ากับข้าวสวยมากๆ

13. เอจิเซ็นกานิ ราชาของรสชาติแห่งฤดูหนาว

越前ガニ

Picture courtesy of © Fukui Prefecture & Fukui Prefectural Tourism Federation

ที่ญี่ปุ่น ซุไวกานิหรือปูหิมะตัวผู้จะมีการติดชื่อแบรนด์ทางการค้าตามสถานที่จับได้ และปูหิมะที่จับได้ในจังหวัดฟุกุอิจะเรียกว่าเอจิเซ็นกานิหรือปูเอจิเซ็น

ส่วนปูหิมะตัวเมียจะเรียกว่าเซโกะกานิหรือปูเซโกะ ฤดูจับปูจะเริ่มในวันที่ 6 พฤศจิกายน โดยการจับปูเอจิเซ็นจะสิ้นสุดในวันที่ 20 มีนาคมของปีถัดไป ส่วนการจับปูเซโกะสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคมของปีถัดไป

せいこ丼

Picture courtesy of © Fukui Prefecture & Fukui Prefectural Tourism Federation

ปูเอจิเซ็นมีเนื้อเด้งและอัดแน่นไปด้วยรสอูมามิ สามารถรับประทานได้หลากหลายวิธี เช่น ต้มหรือย่าง ส่วนปูเซโกะมีความโดดเด่นด้วยมันปูที่เข้มข้นและไข่ปูที่เคี้ยวหนึบ เซโกะด้งซึ่งราดข้าวด้วยปูเซโกะนี้เป็นเมนูสมบูรณ์แบบ ที่สามารถเพลิดเพลินกับความอร่อยของปูเซโกะแบบจัดเต็ม

ที่ร้านยามานิซุยซัง (Yamani Suisan) ใกล้ผาโทจินโบ สามารถซื้อปูเอจิเซ็นและอาหารทะเลสดอื่นๆ ได้ที่หน้าร้าน นอกจากนี้ยังรับประทานอาหารที่ร้านได้เช่นกัน มีเมนูคอร์สต่างๆ เช่น Port Of Mikuni Echizen Crab full course meal Echizen Crab ที่สามารถลิ้มรสปูเอจิเซ็นที่ปรุงรสในหลากหลายวิธี

ฤดูกาลและสภาพอากาศในจังหวัดฟุกุอิ

熊川宿

Photo by Pixta

จังหวัดฟุกุอิมีแต่ละฤดูกาลที่ต่างกันอย่างชัดเจน บางวันในฤดูร้อนอุณหภูมิจะสูงเกิน 30°C ส่วนในฤดูหนาวจะลดต่ำเกือบ 0°C โดยเฉพาะทางเหนือจะมีหิมะตกหนักมาก ดังนั้นหากมาเที่ยวในฤดูหนาว อย่าลืมเตรียมรองเท้ากันหิมะที่เดินได้ง่ายๆ และเสื้อกันหนาวขนเป็ดเพื่อป้องกันความหนาวเย็นกันด้วย

นอกจากนี้ยังมีสิ่งที่น่าสนใจแตกต่างกันในแต่ละฤดูด้วย ดังนั้นจะมาเที่ยวฤดูไหนก็สนุกได้

เช่น ฤดูใบไม้ผลิมีจุดชมซากุระชื่อดังหลายแห่ง เช่น แนวต้นซากุระที่แม่น้ำอาซุวะ (Asuwa River) ซึ่งมีต้นซากุระทอดยาวราว 2 กิโลเมตร และทะเลสาบคุซุริว (Kusuryu Lake) ซึ่งมีต้นซากุระราว 3,000 ต้นบานสะพรั่ง

ส่วนในฤดูร้อนมีสถานที่ท่องเที่ยวริมทะเลยอดฮิต เช่น ผาโทจินโบ และเคฮิโนะมัตสึบาระ นอกจากนี้ในราวเดือนสิงหาคมยังมีการจัดเทศกาลดอกไม้ไฟขึ้นในสถานที่ต่างๆ วางแผนมาเที่ยวกันได้เลย

วัดเอเฮจิและ Ichijodani Asakura Family Site ซึ่งแนะนำในบทความนี้ เป็นสถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ขึ้นชื่อในฤดูใบไม้ร่วง และสถานที่ชมทิวทัศน์หิมะที่สวยงามในฤดูหนาว

ตัวอย่างเส้นทางเที่ยวทริป 1 วันที่แนะนำ

ขอแนะนำตัวอย่างเส้นทางเที่ยว 2 คอร์ส ซึ่งสามารถเที่ยวจังหวัดฟุกุอิได้อย่างสนุกสนานและคุ้มค่าที่สุด เพื่อช่วยในการวางแผนเที่ยว

คอร์สเที่ยวฟุกุอิแบบไปเช้าเย็นกลับจากคานาซาวะ

しらさぎ

Photo by Pixta

จังหวัดฟุกุอิอยู่ติดกับจังหวัดอิชิคาวะซึ่งเป็นที่ตั้งของคานาซาวะ การเดินทางสะดวก สามารถนั่งรถไฟด่วนพิเศษ JR จากสถานีคานาซาวะไปยังสถานีฟุกุอิใช้เวลาราว 1 ชั่วโมง ดังนั้น ในวันสุดท้ายของการเที่ยวที่คานาซาวะ ขอแนะนำให้แวะมาเที่ยวฟุกุอิ

เส้นทางที่แนะนำคือ ลงรถไฟที่สถานีอาวาระออนเซ็นซึ่งอยู่ก่อนถึงสถานีฟุกุอิเพียงหนึ่งสถานี แล้วไปใช้บริการโรงอาบน้ำแบบไปเช้าเย็นกลับที่อาวาระออนเซ็น จากนั้นก็แวะไปเที่ยวชมผาโทจินโบ หรือไปชมงานศิลป์ที่ Kanaz Forest of Creation ซึ่งเดินทางไปง่าย รับรองว่าจะเป็นทริป 1 วันที่สามารถผ่อนคลายร่ายกายและจิตใจทำให้สดชื่นขึ้นอย่างแน่นอน

หากมีเวลาพอ ลองไปวัดเอเฮจิและ Ichijodani Asakura Family Site ซึ่งอยู่ห่างจากสถานีอาวาระออนเซ็นราว 1 ชั่วโมงโดยรถไฟ

คอร์สพักค้าง 1 คืนเต็มอิ่มฟุกุอิ

หากต้องการพักค้าง 1 คืนที่จังหวัดฟุกุอิ ขอแนะนำให้เที่ยวแบบจากเหนือลงใต้ วันแรกไปชมผาโทจินโบและวัดเอเฮจิซึ่งตั้งอยู่ทางเหนือของสถานีฟุกุอิ และวันที่ 2 จะลงใต้ไปเที่ยวศาลเจ้าเคฮิจิงกูและเมืองพักแรมคุมากาวะ

หากจะใช้เวลาเที่ยวแบบจัดเต็ม ลองแวะไปชมทะเลหมอกที่ปราสาทเอจิเซ็นโอโนะ หรือเข้าร่วม Echizen Asakura Mantoya เทศกาลยามค่ำคืนในฤดูร้อนซึ่งจัดขึ้นที่ Ichijodani Asakura Family Site

センチュリオンホテルヴィラスイート福井駅前

Picture courtesy of Booking.com
แนะนำให้พักที่โรงแรมใกล้สถานีฟุกุอิ ซึ่งเป็นจุดกึ่งกลางในการเที่ยว

โรงแรมเซ็นจูเรียน โฮลเต็ล วิลล่า สวีท (Centurion Hotel Villa Suite) เดินจากสถานีฟุกุอิแค่ 3 นาที สะดวกมากๆ มีห้องพักกว้างขวาง เหมาะกับครอบครัวหรือผู้ใหญ่ที่มาเป็นกลุ่มจะมาพัก

จองห้องพักของ Centurion Hotel Villa Suite กับ Booking.com

จองห้องพักของ Centurion Hotel Villa Suite กับ agoda

天然温泉羽二重の湯 ドーミーインプレミアム福井

Picture courtesy of Booking.com

สำหรับท่านที่ต้องการพักในราคาย่อมเยา ขอแนะนำ Dormy Inn Premium Fukui ออนเซ็นธรรมชาติฮาบุทาเอะโนะยุ (Habutae no Yu) เดินจากสถานีฟุกุอิมาแค่ 7 นาที แถมยังมีออนเซ็นและบริการต่างๆ เช่น การรับประทานโยนากิโซบะฟรี

จองห้องพักของ Dormy Inn Premium Fukui กับ Booking.com

วางแผนเที่ยวฟุกุอิที่มีจุดน่าสนใจเยอะเลยกัน

一乗谷朝倉氏遺跡

Ichijodani Asakura Family Site Photo by Pixta

ได้รู้จักจังหวัดฟุกุอิซึ่งเต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ ทิวทัศน์สวยงาม ประวัติศาสตร์ และของอร่อย มีสถานที่เที่ยวหลายแห่งที่น่าไปเที่ยวชม เช่น Ichijodani Asakura Family Site ที่อลังการ และพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ประจำจังหวัดฟุกุอิซึ่งน่าสนใจมากๆ กันแล้ว ดังนั้น ลองใช้การเดินทางจากสถานีรถไฟที่ใกล้ที่สุดอ้างอิงแล้วไปเที่ยวกัน

คลิกที่นี่เพื่อซื้อตั๋วโดยสาร Hokuriku Arch Pass

Main picture courtesy of Fukui Prefectural Tourism Association
บทความต้นฉบับภาษาญี่ปุ่นนี้เขียนขึ้นใหม่ในปี 2023 จากบทความที่ตีพิมพ์เมื่อเดือนเมษายน 2020

Written by

อาศัยอยู่ที่โตเกียว งานอดิเรกของฉันคือท่องเที่ยวและชื่นชมงานศิลปะ ฉันมองหาอาหารอร่อยๆ และหลังจากใช้ชีวิตในกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เป็นเวลาห้าปี ฉันก็ค้นพบความอร่อยของหม้อไฟ

เนื้อหาในบทความนี้อ้างอิงจากการเก็บข้อมูลในช่วงเวลาที่เขียนบทความ อาจมีการเปลี่ยนแปลงของรายละเอียดสินค้า บริการ ราคาในภายหลังได้ กรุณาตรวจสอบกับสถานที่นั้นอีกครั้งก่อนการไปใช้บริการ
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง

อันดับ

ไม่พบบทความ