ไกด์นำเที่ยวเกียวโตตั้งแต่วิธีการเดินทางยันไฮไลท์แนะนำ

เกียวโต

「เกียวโต」เมืองท่องเที่ยวขึ้นชื่อระดับโลกแห่งนี้เป็นเมืองขนาดใหญ่ในภูมิภาคคันไซพอๆกับโตเกียว โดยคึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวมากมายไม่เว้นแต่ละวัน「Heian-kyō (เฮอันเคียว)」ที่เคยเป็นเมืองหลวงใหม่ของญี่ปุ่นเมื่อปี ค.ศ. 794 นั้นเป็นต้นแบบของเกียวโตในปัจจุบัน หลังจากย้ายเมืองหลวงไปยังเอโดะ (โตเกียว) แล้ว ที่นี่ก็กลายเป็นที่หลงใหลของผู้คนมากมายในฐานะที่เป็นเมืองเก่าที่มีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า1000 ปี เนื่องจากภายในเมืองเรียงรายไปด้วยวัด-ศาลเจ้าซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกและมาจิยะเก่าแก่ที่เคยใช้เป็นที่อยู่อาศัยของชาวเมืองและพ่อค้าในสมัยก่อน แถมยังคงรักษาทัศนียภาพอันงดงามในอดีตเอาไว้มาจนถึงปัจจุบัน ด้วยเหตุนี้ ผู้คนจึงเรียกเกียวโตว่า「เมืองแห่งนิจนิรันดร์」
นอกจากนี้ เรายังจะได้พบกับเหล่าไมโกะ（※1）ตัวจริงตามทางเดินภายในย่านกิองที่อบอวลไปด้วยบรรยากาศดั้งเดิม รวมถึงช้อปปิ้งของฝากที่คาวารามาจิและสถานีเกียวโตอันแสนคึกคักในฐานะที่เป็นแหล่งช้อปปิ้งสมัยใหม่ด้วย แถมยังเต็มไปด้วยแหล่งวัดและศาลเจ้าขึ้นชื่ออย่างฮิกาชิยามะ, ฟุชิมิ, อุจิ และคิตาโนะอีกต่างหาก

※1...หญิงสาวผู้ร่ายรำและเล่นเครื่องดนตรีดั้งเดิมของญี่ปุ่นตามงานเลี้ยง

รู้เอาไว้สบายใจกว่า! ข้อมูลการเดินทางภายในเกียวโต

Photo by Pixta

สำหรับใครที่กำลังวางแผนท่องเที่ยวเกียวโตจำเป็นต้องวางแผนการเดินทางให้ดี เนื่องจากภายในเมืองไม่ได้มีรถไฟใต้ดิน รถไฟ และรถบัสครอบคลุมทั้งหมดขนาดนั้น จึงอาจเกิดเหตุการณ์ที่ต้องเดินจากสถานีรถไฟไปจนถึงจุดหมายปลายทางโดยใช้เวลากว่า 30 นาทีก็ได้

〜1-day Pass Ticket สุดคุ้ม〜 สำหรับนั่งรถไฟใต้ดินและรถบัสเมือง

Kyoto Municipal Subwayประกอบด้วย Tokyo Metro Tōzai Line ที่เชื่อมระหว่างฝั่งตะวันออก-ตะวันตกและ Karasuma Line ที่เชื่อมระหว่างฝั่งเหนือ-ใต้ของเกียวโต โดยเป็นวิธีการเดินทางที่สะดวกต่อการเดินทางจาก JR Kyoto Station ไปยังย่านคาวารามาจิ・คาราสึมะ・กิองสุดๆ ส่วนรถบัสเมืองที่วิ่งให้บริการรอบเมืองเกียวโตนั้นมีป้ายตั้งอยู่ใกล้กับแหล่งท่องเที่ยวต่างๆมากกว่าสถานีรถไฟ ไม่ต้องเปลี่ยนรถ แถมยังมีค่าโดยสารถูกอีกด้วย จึงบอกเลยว่าสะดวกสุดๆ
รถไฟใต้ดินมีการจำหน่ายตั๋วลดราคาที่เรียกว่า「Municipal Subway 1-day Free Ticket」ส่วนรถบัสเรียกว่า「1-day Pass」เนื่องจากทั้งคู่เป็นตั๋วขึ้น-ลงยานพาหนะดังกล่าวตลอด 1 วันแบบไม่จำกัด จึงขอแนะนำสำหรับใครที่ต้องการเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวหลายแห่งภายใน 1 วันเลยค่ะ

ในกรณีที่ใช้บริการรถไฟใต้ดินและรถบัสเมืองด้วยกันทั้งคู่ก็ขอแนะนำให้ซื้อตั๋ว 1-day Pass ที่ชื่อว่า「Kyoto Sightseeing Pass (1-day / 2-day)」จากเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ของรถบัสเมืองและรถไฟใต้ดินจะดีที่สุด

วิธีการเดินทางจากสถานีเกียวโตไปยังแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อ 3 แห่ง

ในกรณีที่เดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อ 3 แห่งในเกียวโตอย่างKinkaku-ji (วันคินคาคุจิ)・Ginkaku-ji (วัดกินคาคุจิ)・Kiyomizu-dera (วัดคิโยมิสึ)

เรามักมีโอกาสได้พบกับนักท่องเที่ยวที่นั่งรถบัสเมืองจาก JR Kyoto Station ไปยังแหล่งท่องเที่ยวต่างๆมากมายเลยทีเดียว แต่การนั่งรถบัสมีความเสี่ยงเจอกับปัญหารถติดสูง แถมยังคนแน่นเป็นประจำอีกด้วย จึงขอแนะนำให้ใช้บริการรถไฟใต้ดินและรถบัสควบคู่กันไปจะดีที่สุด

เพียงแค่นั่งรถไฟใต้ดินที่มีระบบปรับอากาศยอดเยี่ยมมาถึงกลางทางแล้วต่อด้วยรถบัสก็จะสามารถเดินทางไปถึงหน้าวัดได้แล้ว ด้วยเหตุนี้ เราจึงสามารถเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวต่างๆในเกียวโตได้อย่างสะดวกสบายเชียวล่ะค่ะ

ในกรณีที่เดินทางไปยังอาราชิยามะ เพียงแค่นั่งJR Sagano Lineโดยไม่ต้องขึ้นรถบัสจาก JR Kyoto Station เราก็จะไปถึง Saga Arashiyama Station ได้โดยใช้เวลาประมาณ 16 นาที หลายคนอาจคิดว่าทำไมไม่นั่งรถบัสล่ะ? เพราะว่าไม่ต้องเปลี่ยนขบวนด้วย สะดวกมากกว่าอีก... แต่ถ้าเกิดนั่งรถจาก JR Kyoto Station ไปยังที่ไกลๆอาจต้องเผชิญกับปัญหารถติดนานกว่า 1 ชั่วโมง จึงควรวางแผนเที่ยวตามจุดหมายปลายทางกันให้ดี

ไฮไลท์อยู่ในฤดูใบไม้ร่วง! Eizan Electric Railway ห้ามพลาดเมื่อได้มาเที่ยวเกียวโต

นอกจากนี้ ฝั่งภูเขาฮิเอ, ภูเขาคุรามะ และคิฟุเนะก็ยังไม่ได้มีระบบคมนาคมอย่างรถบัสเมืองและรถไฟใต้ดินที่ครอบคลุมเท่าไหร่นัก สำหรับใครที่วางแผนเดินทางมาเที่ยวแถวนี้จึงขอแนะนำให้ใช้บริการ Eizan Electric Railway จะดีที่สุด เมื่อย่างเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง เราสามารถชมอุโมงค์ใบไม้เปลี่ยนสีอันงดงามจากหน้าต่างขบวนได้ด้วยนะเออ...

【เกียวโต〜โอซาก้า・นารา・โกเบ】วิธีการเดินทางแนะนำ

ในเกียวโตเต็มไปด้วยรถไฟเอกชนวิ่งให้บริการมากมายไม่ว่าจะเป็นKeihan Electric Railwayที่เชื่อมระหว่างโอซาก้าและเกียวโต,Hankyuที่เชื่อมระหว่างโกเบและเกียวโต,Kintetsu Railwayที่เชื่อมระหว่างนาราและเกียวโต และArashiyama Electric Railwayที่วิ่งให้บริการภายในอาราชิยามะ เป็นต้น เนื่องจากรถไฟเอกชนส่วนใหญ่มีค่าโดยสารถูกกว่ารถไฟ JR ทั่วไป สำหรับใครที่ต้องการเดินทางออกนอกเกียวโต บอกเลยว่าต้องใช้บริการรถไฟเอกชนเลยค่ะ

ย่านแนะนำในเกียวโตทั้ง 6 แห่ง

① ย่านกิอง・ฮิกาชิยามะ

Photo by Pixta

“ย่านกิอง・ฮิกาชิยามะ” เป็นแหล่งรวมวัฒนธรรมดั้งเดิมของญี่ปุ่นมากมายไม่ว่าจะเป็นYasaka Shrine (ศาลเจ้ายาซากะ)ที่โด่งดังเรื่องงานเทศกาลกิอง,Kōdai-ji (วัดโคไดจิ)ที่มีสวนทรงเสน่ห์แสนงดงาม,ฮานามิโคจิที่สามารถชมการร่ายรำของเหล่าไมโกะ（※1）ได้ และMinami-za (มินามิสะ)โรงละครคาบูกิที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น เป็นต้น โดยเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวห้ามพลาดเมื่อได้มาเยือนเกียวโตเลยทีเดียว ภายในย่านกิองที่อบอวลไปด้วยบรรยากาศเก่าแก่ทางประวัติศาสตร์เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวและสถานที่สำหรับสัมผัสวัฒนธรรมดั้งเดิมของญี่ปุ่น เช่น การทดลองเป็นไมโกะและกิจกรรมทำขนมญี่ปุ่น เป็นต้น

② ย่านชิโจคาวารามาจิ・คาราสึมะ・โอมิยะ

ย่านชิโจคาวารามาจิ・คาราสึมะ・โอมิยะ

เป็นแหล่งท่องเที่ยวแนะนำสำหรับใครที่กำลังหาซื้อของฝากเลยค่ะ บน Teramachi Street (ถนนทารามาจิ) ยอดนิยมในหมู่นักศึกษาที่ตั้งอยู่บน Shijō Street (ถนนชิโจ) แหล่งรวมห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้าแห่งนี้เต็มไปด้วยร้านจำหน่ายของจิปาถะและของฝากมากมาย นอกจากนี้ เนื่องจากภายในNishiki Market (ตลาดนิชิกิ)ขึ้นชื่อในฐานะที่เป็น “ครัวแห่งเกียวโต” เป็นตลาดขนาดใหญ่ เราจึงสามารถช้อปปิ้งวัตถุดิบตามฤดูกาลเฉพาะของเกียวโตได้อย่างจุใจ ส่วน Ponto-chō (ปอนโตะโจ) ที่ทอดยาวเลียบแม่น้ำคาโมะเรียงรายไปด้วยร้านอาหารสุดเก๋ไก๋ที่รีโนเวทมาจากอาคารบ้านเรือนของชาวเมือง เมื่อตกกลางคืนจะมีการเปิดโคมไฟสว่างไสวให้บรรยากาศโรแมนติกสุดๆ

③ ย่านคิตาโนะ・คิตายามะ

ย่านคิตายามะ

เป็นย่านสุดเก๋ไก๋สไตล์โมเดิร์นแตกต่างจากเมืองศูนย์กลางที่ยังคงหลงเหลืออาคารบ้านเรือนสไตล์ดั้งเดิม โดยอบอวลไปด้วยบรรยากาศที่สาวๆจะต้องถูกใจกันอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะกลางแจ้งสไตล์โมเดิร์น「Garden Of Fine Arts」ที่ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดังระดับโลกอย่างทาดาโอะ อันโด,Kyoto Botanical Gardenสวนพฤกษศาสตร์เกียวโตที่ปลูกพืชกว่า 12,000 ชนิด รวมถึงร้านอาหารและคาเฟ่สุดเก๋ไก๋ด้วย นอกจากนี้ ในย่านคิตาโนะก็ยังเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าขึ้นชื่อระดับโลกอย่าง「Kitano Tenmangū (ศาลเจ้าคิตาโนะเท็มมังงู)」ที่สักการะบูชาเทพเจ้าแห่งวิชาการด้วย ทำให้มีเหล่านักเรียน-นักศึกษาแวะเวียนกันมากราบไหว้บูชามากมาย

④ ย่านอาราชิยามะ・อุสึมาสะ

ย่านอาราชิยามะ・อุสึมาสะ

ที่ตั้งอยู่ห่างจากเมืองเกียวโตเล็กน้อยแห่งนี้เป็นแหล่งชมทัศนียภาพทางธรรมชาติอันงดงามของเกียวโตที่ไม่ค่อยมีใครรู้ การได้เดินเล่นภายในถนนป่าไผ่ที่มีลมพัดเย็นสบาย ชมวิวพระอาทิตย์ตกดินบนTogetsukyo Bridge (สะพานโทเก็ตสึเคียว)และดื่มด่ำกับเมนูเต้าหู้ซึ่งเป็นของขึ้นชื่อประจำท้องถิ่นเป็นอะไรที่ฟินสุดๆ นอกจากนี้ เนื่องจากภายในโซนนี้มีSagano Romantic Trainวิ่งให้บริการบนภูเขาด้วย เราจึงสามารถเพลิดเพลินกับทัศนียภาพในฤดูใบไม้ร่วงจากภายในขบวนรถไฟได้อย่างเต็มอิ่ม

⑤ ย่านสถานีรถไฟเกียวโต

Kyoto Station

ที่เป็นโครงสร้างเหล็กซ้อนกันเป็นลายตารางสไตล์อนาคตแห่งนี้นับเป็นประตูสู่เกียวโตต้อนรับนักท่องเที่ยวเลยทีเดียว นอกจากรูปร่างหน้าตาอันสวยงามแล้วภายในสถานีเกียวโตก็ยังประกอบด้วยห้างสรรพสินค้าและแหล่งช้อปปิ้งอันกว้างใหญ่ด้วย จึงเหมาะสำหรับการหาซื้อของฝากเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้ บริเวณโดยรอบสถานีก็ยังเรียงรายไปด้วยศูนย์วัฒนธรรมและร้านขายส่งเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่อย่างโยโดบาชิคาเมร่าและอิออนด้วย เราจึงสามารถเพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งระหว่างท่องเที่ยวได้อย่างชิลล์ๆ สำหรับใครที่อยากดื่มด่ำกับทัศนียภาพยามค่ำคืนในเกียวโตก็ลองขึ้นไปบนเกียวโตทาวเวอร์ที่ตั้งตระหง่านอยู่ด้านหน้าสถานีก็ได้นะจ๊ะ...

⑥ ย่านฟุชิมิ・อุจิ

Fushimi Inari-taisha (ศาลเจ้าฟุชิมิอินาริไทฉะ)

ที่โด่งดังเรื่องเสาโทริอิกว่า 1 พันต้นแห่งนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในย่านฟุชิมิ ทัศนียภาพของเสาโทริอิสีแดงสดที่ตั้งเรียงรายไปจนถึงสุดเขาลึกนับเป็นไฮไลท์ที่ต้องเดินทางมาชมกันให้ได้สักครั้งในชีวิต ส่วน “ย่านอุจิ” เป็นเป็นย่านที่มีชื่อเสียงในฐานะที่เป็นแหล่งผลิตชาเขียว สำหรับใครที่วางแผนเดินทางมาเยือนย่านอุจิแห่งนี้ก็อย่าลืมแวะมาเที่ยวByōdō-in (วัดเบียวโดอิน)สถาปัตยกรรมทางประวัติศาสตร์ขึ้นชื่อที่ปรากฏอยู่บนเหรียญ 10 เยนกันด้วยเนอะ ในช่วงปลายเดือนเมษายน - ต้นเดือนพฤษภาคม บริเวณโดยรอบวัดเบียวโดอินจะบานสะพรั่งไปด้วยดอกฟูจิงดงามมากถึงขนาดว่ามีนักท่องเที่ยวมากมายเดินทางมาเพื่อชมดอกฟูจิโดยเฉพาะเลยทีเดียว

ของฝากน่าซื้อในเกียวโต

อุตส่าห์เดินทางมาเที่ยวถึงเกียวโตแล้วก็บอกเลยว่าห้ามพลาดช้อปปิ้งของฝากกลับไปเป็นความทรงจำระหว่างเที่ยวเด็ดขาด! เมื่อเอ่ยถึงของหวานขึ้นชื่อของเกียวโตแล้วก็ต้องนึกถึงนามะยัตสึฮาชิ(※ 2),คอมเปโต(※ 3) และขนมรสชาเขียวอย่างแน่นอน เนื่องจากบนถนนเทรามาจิที่จำหน่ายสินค้ากระจุกกระจิกสไตล์ญี่ปุ่นอย่างพัดและกระดาษญี่ปุ่นดั้งเดิม, บนถนนนิชิกิที่จำหน่ายสินค้าขึ้นชื่อของเกียวโต และภายในสถานีรถไฟเกียวโตนั้นเต็มไปด้วยของฝากมากมายทุกประเภท จึงขอแนะนำสำหรับใครที่ไม่รู้ว่าจะซื้ออะไรดีเลยค่ะ

※2：นามะยัตสึฮาชิ……ขนมญี่ปุ่นที่ทำโดยการนำแป้งข้าวสีผสมน้ำร้อนไปปรุงงรสด้วยน้ำตาลและหั่นเป็นชิ้นบางๆ
※3：คอมเปโต……ขนมเกล็ดน้ำตาลเม็ดเล็ก

“เกียวโต” เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมที่สร้างด้วยไม้ วัด และศาลเจ้าที่ผ่านการบำรุงรักษาโดยผู้คนท้องถิ่นมาเป็นระยะเวลายาวนาน ยังไงเพื่อนๆก็ลองแวะมาสัมผัสวัฒนธรรมดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่เกียวโตกันดูนะคะ ^^