Start planning your trip

“สวนคิวชิบะริคิว” ในโตเกียวเป็นสวนไดเมียวสไตล์ 3 มิติ โดยเรียกกันว่าเป็นโอเอซิสใจกลางเมืองหลวงเลยทีเดียว ในครั้งนี้เราจะมาแนะนำวิธีการเดินทาง จุดแนะนำ และงานอีเว้นท์ตามฤดูกาลที่จัดขึ้นภายในสวนคิวชิบะริคิวกันค่ะ
Hamamatsuchō Station เป็นสถานีใกล้ที่สุดของสวนคิวชิบะริคิว ส่วนวิธีการเดินทางให้เรานั่งรถไฟ JR Yamanote Line จากสถานีโตเกียวที่มุ่งหน้าไปยังชินากาว่ามาลงที่ Hamamatsuchō Station สวนคิวชิบะริคิวตั้งอยู่ติดกับสถานีนี้เลย ระยะเวลาในการเดินทางมาจากสถานีโตเกียวใช้เวลา 6 นาที ค่าโดยสาร 160 เยน
เอื้อเฟื้อภาพโดย:JNTO
“เซโกะโนะซึซึมิ” แห่งนี้สร้างขึ้นโดยจำลองมาจาก “โซเต” เขื่อนอันงดงามของทะเลสาบเซโกะในจีน แหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อทั้งในจีนและญี่ปุ่นถูกนำมาสร้างจำลองขึ้นภายในสวนคิวชิบะริคิวแห่งนี้เลย
“อิวากุมิ” คือ ศิลปะการจัดสวนที่จำลองทัศนียภาพทางธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ไม่ว่าจะเป็นภูเขาและน้ำตกร่วมกับก้อนหินใหญ่-เล็กมากมาย นอกจากอิวากุมิที่จำลองมาจาก “ภูเขา Penglai” ซึ่งว่ากันว่ามีเทวดาอาศัยอยู่ในจีนจะตั้งอยู่บนเกาะที่ล้อมรอบไปด้วยบ่อน้ำแล้ว เรายังสามารถเพลิดเพลินกับอิวากุมิในรูปแบบเคลื่อนไหว เช่น อิวากุมิที่จำลองมาจากน้ำตก ได้อีกด้วย
เพื่อน ๆ รู้มั้ยคะว่าภายในสวนก็มีโรงคิวโดด้วยนะเออ... ที่นี่ไม่มีธนูให้เช่ายืม และไม่มีพนักงานแนะนำด้วย เป็นโรงคิวโดสำหรับคนที่เล่นเป็นแล้ว ให้เตรียมอุปกรณ์มาเอง ที่นี่เปิดให้ใช้บริการระหว่างเวลา 9:00~16:00 น. โดยปิดทำการเพื่อบำรุงรักษาเฉพาะทุกเช้าวันจันทร์เท่านั้น (ในกรณีที่ตรงกับวันหยุดนักขัตฤกษ์จะเลื่อนเป็นวันถัดไปแทน) ค่าใช้บริการ 140 เยน / ชั่วโมง
ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมีนาคมจนถึงปลายเดือนเมษายนซึ่งเป็นช่วงชมดอกซากุระจะมีการจัดงานแสดงดนตรีโดยเครื่องดนตรีญี่ปุ่นให้ได้ชมกัน
ในช่วงทานาบาตะ ที่นี่จะมีการจัดงานแสดงดนตรีโดยเครื่องดนตรีญี่ปุ่น ห้องเรียนสัมผัสประสบการณ์ และร้านค้าต่าง ๆ เช่น ร้านจำหน่ายกระดิ่งลม ขึ้นเพื่อให้ทุกคนได้เพลิดเพลินกับเทศกาลดั้งเดิมของญี่ปุ่นอย่าง ทานาบาตะ ในวันที่ 7 กรกฎาคม เนื่องจากมีการจัดเตรียมต้นไผ่เอาไว้ให้บริการด้วย ยังไงเพื่อน ๆ ก็ลองเขียนคำอธิษฐานใส่กระดาษประดับต้นไผ่กันดูนะคะ ^^
ในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนซึ่งตรงกับฤดูใบไม้ร่วง ที่นี่จะมีการจัดงานอีเว้นท์เกี่ยวกับฤดูใบไม้ร่วงขึ้น เช่น ห้องเรียนงานฝีมือจากการรีไซเคิลสำหรับเด็ก ๆ, ร้านจำหน่ายสินค้าศิลปหัตถกรรม และงานแสดงดนตรีโดยเครื่องดนตรีญี่ปุ่นเพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสประวัติศาสตร์ของสวน, ประวัติความเป็นมา และวัฒนธรรมญี่ปุ่น
สวนแห่งนี้จะเริ่มเปิดให้เข้าชมตามปกติอีกครั้งตั้งแต่วันที่ 2 มกราคมเป็นต้นไป โดยในวันนี้จะมีการจัดงานอีเว้นท์ที่เหมาะกับวันขึ้นปีใหม่สุด ๆ ไม่ว่าจะเป็นงานแสดงดนตรีโดยเครื่องดนตรีดั้งเดิมของญี่ปุ่นและกิจกรรมสัมผัสการละเล่นสมัยโบราณ เราจึงสามารถเพลิดเพลินกับความรู้สึกราวกับกำลังเฉลิมฉลองวันขึ้นปีใหม่สมัยญี่ปุ่นโบราณได้อย่างเต็มที่
Hamarikyu Gardens (สวนฮามาริคิว) ซึ่งเป็นสวนไดเมียวในสมัยเอโดะเหมือนกับสวนคิวชิบะริคิวแห่งนี้เป็นสวนแห่งเดียวที่มีการถ่ายน้ำทะเลเข้า-ออกในปัจจุบัน โดยเราสามารถเดินเท้าจากสวนคิวชิบะริคิวมาถึงได้โดยใช้เวลาประมาณ 5 นาทีเท่านั้นเอง เราจะได้เพลิดเพลินกับทัศนียภาพที่เปลี่ยนแปลงไปตามระดับน้ำขึ้น-ลงกันที่นี่เลย
นอกจากนี้ Shiba Park (สวนชิบะ) ซึ่งเป็นที่ตั้งของโคะฟุน (※1) ที่ใหญ่ที่สุดในโตเกียวก็ยังตั้งอยู่ห่างจากสวนคิวชิบะริคิวแห่งนี้เพียงเดินเท้า 10 นาทีอีกด้วย แถมติดกับสวนชิบะยังเป็นที่ตั้งของ Zōjō-ji (วัดโซโจจิ) ที่มีประวัติความเป็นมาอันยาวนานกว่า 600 ปีอีกต่างหาก บอกเลยว่าที่นี่ก็เป็นแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อเช่นเดียวกันค่ะ ^^
Tokyo Tower (โตเกียวทาวเวอร์) ซึ่งสามารถมองเห็นจากสวนชิบะได้เป็นสัญลักษณ์ของโตเกียวเลยก็ว่าได้ บนจุดชมวิวขนาดใหญ่สูง 150 เมตรมีทั้งคาเฟ่และร้านค้ามากมาย โดยเราสามารถชมวิวเมืองโตเกียวจากบนจุดชมวิวพิเศษสูง 250 เมตรที่ได้รับการตกแต่งภายในเป็นธีมอวกาศได้ที่นี่เช่นเดียวกัน
หมายเหตุ : จุดชมวิวพิเศษขณะนี้อยู่ในระหว่างการปิดปรับปรุงเพื่อรีโนเวทใหม่ในเดือนมิถุนายน 2017
※1:โคะฟุน……สุสานที่สร้างในช่วงระหว่างศตวรรษที่ 3 จนถึงศตวรรษที่ 7 โดยสร้างชั้นดินให้นูนขึ้นมาเหมือนกับภูเขา
※ ข้อมูลระยะเวลาในการเดินทางและค่าโดยสารอ้างอิงมาจากเว็บไซต์หลักของสถานที่แต่ละแห่ง โดยเป็นข้อมูล ณ ปัจจุบัน เดือนมิถุนายน 2017 โปรดทราบว่าข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงในภายหลัง
บทความโดย
奈良生まれの旅好きライター。日本の魅力を世界の人々に伝えていきたいです。