Unseen Japan สัมผัสมนต์เสน่ห์แห่งฤดูหนาวของเมืองมัตสึโมโตะ 2 วัน 1 คืน

หนีเมืองใหญ่ไปเยียวยาใจและกายที่ "Forest Therapy®" เมืองชินาโนะมาจิ (Shinanomachi) จังหวัดนากาโนะ (Nagano)

บริการนี้รวมโฆษณาที่ได้รับการสนับสนุน
article thumbnail image

สัมผัสประสบการณ์ Forest Therapy® ที่เมืองชินาโนะมาจิ (Shinanomachi) ทางตอนเหนือของจังหวัดนากาโนะ (Nagano) เดินทางจากโตเกียวประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง มาเยียวยาความเหนื่อยล้าจากเมืองใหญ่ด้วยธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ และผลผลิตสดใหม่ในท้องถิ่นกันค่ะ

บทความโดย

Miho Moriya

Tokyo,Japan

MATCHA editor and freelance writer. Born, raised, and currently living in Tokyo. Have visited over 30 countries and lived in four different prefectures. I have traveled to almost all 47 prefectures in Japan! I try to create articles that help convey the charms of a destination through words and pictures. I love forests, temples, and camels.
more

2 ชั่วโมงครึ่งจากโตเกียว ไปสู่ที่เยียวยาหัวใจ

黒姫山

นั่งรถไฟชินคันเซ็นจากมหานครโตเกียวไป 2 ชั่วโมง ต่อรถไฟชินาโนะ เท็ทสึโด (Shinano Tetsudo) สายคิตะชินาโนะ (Kita-Shinano Line) ที่สถานีนากาโนะไปอีกประมาณ 35 นาที ก็จะมาถึงสถานีคุโระฮิเมะ (Kurohime Station) ที่มียอดเขาคุโระฮิเมะ (Mt. Kurohime) ตั้งตระหง่านพร้อมความสูงจากระดับน้ำทะเล 2,053 เมตร

สถานีคุโระฮิเมะอยู่ในพื้นที่ของเมืองชินาโนะมาจิ (Shinanomachi) เมืองที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติทางตอนเหนือของจังหวัดนากาโนะ สามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรมได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นทัวร์พายเรือคายัค สกี และปีนเขา

ในครั้งนี้ จะพาไปสัมผัสประสบการณ์การบำบัดด้วยป่าของ Forest Therapy® ที่หากเดินทางมาที่ชินาโนะมาจิล่ะก็ อยากให้ไปลองกันสักครั้งค่ะ

Forest Therapy® คืออะไร

森林セラピーとは

Forest Therapy® ริเริ่มมาจากการคิดอยากลองสร้างสุขภาพที่แข็งแรงให้จิตใจและร่างกายด้วยป่าไม้ โดยการเข้าไปในป่า เยียวยาจิตใจและทำให้รู้สึกสดชื่นด้วยการสัมผัสกับต้นไม้และธรรมชาติ ในปัจจุบันมีสถานที่ที่ได้รับการรับรองว่าให้ผลในการบำบัดจริงถึง 62 แห่งทั่วประเทศญี่ปุ่น เช่น บริเวณทะเลสาบอาชิในฮาโกเนะ จังหวัดคานากาวะ

การเข้าไปในป่าจะไปพร้อมกับนักบำบัดผู้ทำหน้าที่เป็นไกด์นำทาง ผู้คอยช่วยเหลือให้เราได้ใช้เวลาในป่าอย่างสบายใจ และช่วยอธิบายเกี่ยวกับป่าและผลลัพธ์ของการบำบัดให้ฟัง

タイ人の人と森林セラピー

คุณกัลยา (คนที่สองจากทางซ้าย), คุณโบว์ (ตรงกลาง), คุณเล็กซ์ (คนที่สองจากทางขวา) นักท่องเที่ยวจากประเทศไทย

ในคราวนี้เราได้มีโอกาสมาลองคอร์สบำบัด 3 ชั่วโมงร่วมกับนักท่องเที่ยวชาวไทย 3 ท่าน เราเลยจะขอบอกเล่าจุดที่น่าสนใจที่ทั้ง 3 ท่านได้สัมผัสจากการบำบัดของ Forest Therapy® ให้ฟังกันค่ะ

5 สิ่งเพื่อการเยียวยาใน Forest Therapy®

1. เดินเล่นได้อย่างอิสระ ไม่มีกำหนดเส้นทาง

森林セラピー入り口

คอร์ส 3 ชั่วโมงจะเป็นการเดินวนรอบป่า 1 รอบ รวมระยะทางประมาณ 1.2 กิโลเมตร ไม่มีการกำหนดเส้นทางตายตัว เหมือนไปเดินเล่นกับไกด์อย่างอิสระค่ะ ดังนั้นเนื้อหาที่จะได้ฟังก็จะแตกต่างกันไปในแต่ละครั้ง

เราสามารถแจ้งในตอนจองได้ว่ามีความสนใจเรื่องไหน หรือต้องการเดินเยอะเดินน้อย ไกด์จะช่วยจัดแผนการเดินที่เหมาะสมกับความต้องการให้ค่ะ

ストレッチ

ระหว่างทางก็มีการยืดเส้นยืดสายออกกำลังกายง่ายๆ แค่ได้สูดอากาศบริสุทธิ์ท่ามกลางป่าเขานี้ ก็ทำให้รู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่ามากๆ แล้วค่ะ

2. ปลุกประสาทสัมผัสทั้งห้าด้วยเสียงธารไหลและกลิ่นอโรม่า

ระหว่างที่ต้องเดินท่ามกลางผู้คนมากมาย หรือถนนที่มีแต่เสียงรถและเครื่องจักร คนเราจะปิดประสาทสัมผัสทั้งห้าไปโดยไม่รู้ตัว เพื่อป้องกันอารมณ์ความรู้สึกของเราจากสภาพแวดล้อมอันไม่พึงประสงค์

森林セラピー ヒアリング

Forest Therapy® จะช่วยปลดปล่อยประสาทสัมผัสทั้งห้าที่เริ่มจะเป็นอัมพาตจากการปกป้องตัวเองให้ค่ะ ลองใช้ประสาทสัมผัสทั้งห้าของเราเช่น ใช้มือป้องหูแล้วลองหาเสียงของแม่น้ำ หรือเดินบนพื้นดินที่อ่อนนุ่มแล้วสัมผัสความรู้สึกผ่านฝ่าเท้า

การเพ่งสมาธิไปที่การกระทำทุกๆ อย่าง จะช่วยปลุกประสาทสัมผัสทั้งห้าของเราขึ้นใหม่ค่ะ

杉のアロマ

เมื่อเดินต่อไปอีกซักพัก ไกด์ก็หักกิ่งไม้และใบไม้ยื่นมาให้พวกเรา พอยื่นเอามาดมดู ก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นหอมอันอ่อนโยน เป็นกลิ่นอโรม่าแบบธรรมชาติที่พบเจอได้ในป่า

คุณโบว์เหมือนจะถูกใจกลิ่นหอมของต้นสนญี่ปุ่นมาก ถึงกับบอกว่า "ถ้ามีอโรม่าออยล์กลิ่นนี้ล่ะก็ซื้อแน่นอน!"

クロモジの枝

ถัดมาคือกิ่งของต้น "คุโระโมะจิ (Kuromoji)" ที่ว่ากันว่ามีเฉพาะในประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น ต้นคุโระโมะจินี้มีองค์ประกอบของไม้คล้ายกับต้นพะยูง (โรสวู้ด) และมีกลิ่นหอมคล้ายต้นยูคาลิปตัส จึงเหมาะมากในตอนที่เราอยากรู้สึกสดชื่น บางทีก็นำมาใช้ทำเป็นไม้จิ้มสำหรับทานขนมญี่ปุ่นด้วยล่ะ

กลิ่นหอมของอโรม่าจะช่วยปรับสมดุลให้ประสาทส่วนกลางดีขึ้น ลองเอาใบต้นสนมาถูด้วยมือแล้วดมกลิ่นหอมๆ หรือฟังเสียงน้ำในลำธารไหลรินระหว่างนั่งพัก นอกจากจะเป็นการลับประสาทสัมผัสทั้งห้าให้คมขึ้นแล้ว ยังทำให้ร่างกายได้ผ่อนคลายอีกด้วย

3. พักใจให้สงบริมทะเลสาบ

池

หลังจากแวะตามจุดต่างๆ ระหว่างทางในป่าแล้ว เราก็เดินมาเจอกับทะเลสาบที่เรียกว่าโอจิคะอิเคะ (Ojika-ike) เงียบสงบเหมาะแก่การนั่งสมาธิมาก ลองหาที่เหมาะๆ ที่ถูกใจ ปูเสื่อและนั่งพักปล่อยเวลาให้ไหลผ่านไปช้าๆ สัก 30 นาที

瞑想

นักท่องเที่ยวจากเมืองไทยแต่ละท่านเริ่มนั่งสมาธิกันในทันที "การทำสมาธิ" ไม่ใช่อะไรที่ยุ่งยากเลย แค่ปล่อยร่างกายตามสบาย หายใจเข้าออกด้วยท้อง บางครั้งก็ทอดสายตามองวงน้ำกระเพื่อมในทะเลสาบ ปล่อยให้จิตใจกลมกลืนไปกับธรรมชาติรอบข้าง

4. เปล่งประกายจากภายในด้วยอาหารที่อ่อนโยนต่อร่างกาย

おやつ

ระหว่างการบำบัด ทางไกด์ได้เตรียมของว่างไว้ให้ มีแอปเปิ้ลต้มที่ปรุงรสด้วยมะนาวกับซินนามอนเท่านั้น ได้รสหวานจากธรรมชาติโดยไม่ต้องใช้น้ำตาล และถั่วปรุงรสหวานที่ห่อด้วยใบไผ่ รับประทานโดยใช้ไม้จิ้มทำจากต้นคุโระโมะจิ

การได้ทานอาหารว่างท่ามกลางธรรมชาติหลังจากเดินเล่นมาสักพักนี่เป็นอะไรที่พิเศษมากๆ เลยค่ะ

マクロビ弁当

ในตอนจองสามารถเลือกเพิ่มข้าวกล่องได้ด้วย ข้าวกล่อง "อิยาชิโนะโมริเบนโตะ (Iyashi no Mori Bento)" เป็นข้าวกล่องแบบแมคโครไบโอติกส์ที่เน้นความสมดุลระหว่างร่างกายและจิตใจ ไม่ใช้ผลิตภัณฑ์จากนมและเนื้อสัตว์ ใช้วัตถุดิบในท้องถิ่นตามฤดูกาล ทานแล้วรู้สึกมีพลังขึ้นมาทันทีเลยค่ะ

5. สร้างที่พักพิงให้หัวใจ

忘れたものを思い出す

ไกด์นักบำบัดได้เล่าให้นักท่องเที่ยวที่กำลังชมภูเขาคุโระฮิเมะฟังว่า

"หลังจากผ่านการบำบัดจาก Forest Therapy ไปแล้ว เมื่อไหร่ที่รู้สึกเหนื่อยล้าจากการทำงาน ขอให้หลับตาและนึกถึงภาพทิวทัศน์ของที่นี่ ให้คิดว่า 'ตอนไปชินาโนะมาจิที่นากาโนะ ได้เห็นวิวแบบนี้ด้วยนะ ได้เจอต้นไม้แบบนี้ด้วยนะ' เราก็จะนึกถึงช่วงเวลาที่แสนผ่อนคลายนี้ และก็จะรู้สึกมีกำลังใจขึ้นมาอีกครั้ง"

อากาศบริสุทธิ์ เสียงลำธารไหล กิ่งไม้ที่แตกแขนงไปทุกทิศทุกทาง อาจดูเหมือนแค่การไปเดินในป่าธรรมดา แต่พวกเราสัมผัสถึงพลังอันยิ่งใหญ่ที่ผ่านเข้ามาได้จริงๆ

心を落ち着かせる

จะมีสักกี่ครั้งกันเชียวที่เราจะมีโอกาสได้มองย้อนกลับไปว่า "มีสิ่งสำคัญอะไรที่เราหลงลืมไปในวันเวลาที่แสนยุ่งวุ่นวายบ้าง?" การเดินป่าในครั้งนี้ทำให้เราได้สัมผัสกับประสบการณ์อันล้ำค่านั้นโดยไม่รู้ตัว

Forest Therapy® เป็นตัวกลางช่วยเหล่าพนักงานบริษัทที่งานยุ่งและผู้คนที่เหนื่อยล้าจากการทำงานให้ได้มาพักฟื้นร่างกาย ปลดปล่อยประสาทสัมผัสทั้งห้าที่ถูกปิดตาย ผ่านพลังธรรมชาติของป่าที่จะช่วยผลักดันศักยภาพที่ทุกคนมีอยู่

ชาวไทยทั้งสามท่านที่มาร่วมคอร์สในครั้งนี้ ก็ให้เสียงตอบรับมาเป็นอย่างดีว่า "อยากพาพนักงานบริษัทมาเที่ยวที่นี่" และ "อยากมาเองอีกรอบ"

การเดินทาง และวิธีจอง

野尻湖

ทะเลสาบโนจิริ (Nojiri Lake) ทะเลสาบที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของจังหวัดนากาโนะ สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของเมืองชินาโนะมาจิ

การเดินทางจากโตเกียวมาที่ชินาโนะมาจิต้องใช้รถไฟชินคันเซ็นและรถไฟธรรมดา

จากสถานีโตเกียวไปที่สถานีนากาโนะแนะนำให้นั่งชินคันเซ็นจะสะดวกที่สุด แต่ก็มีวิธีการเดินทางหลายรูปแบบ สามารถดูรายละเอียดได้ที่ "รวมวิธีเดินทางจากโตเกียวไปนากาโนะ แบบไหนคุ้มที่สุด!?"

จากสถานีนากาโนะไปสถานีคุโระฮิเมะ ให้ขึ้นรถไฟชินาโนะ เท็ทสึโด (Shinano Tetsudo) สายคิตะชินาโนะ (Kita-Shinano Line) ขบวนที่วิ่งไปเมียวโคโคเก็น (Myoko Kogen) ใช้เวลา 35 นาที ค่าโดยสาร 640 เยน จากสถานีไปยังสถานที่ของ Forest Therapy® จะเลือกแจ้งตอนจองให้รถมารับ หรือจะใช้บริการแท็กซี่ก็ได้

Forest Therapy® จะต้องจองผ่านทางอีเมล์ก่อนล่วงหน้า จะจองผ่านทางโทรศัพท์ก็ได้ แต่เนื่องจากจะรองรับด้วยภาษาญี่ปุ่นเป็นหลัก จึงแนะนำให้ส่งเมล์ (shinanomachi.wlc@gmail.com) ดีกว่า จะมีเจ้าหน้าที่รับผิดชอบเรื่องการจองและไกด์ที่พูดภาษาอังกฤษได้ดูแลอยู่

ค่าใช้จ่ายสำหรับคอร์ส 3 ชั่วโมง แบบคนเดียว ราคา 10,000 เยน ในกรณีกลุ่ม 2 ถึง 5 คน ราคา 15,000 เยน/คน ทั้งสองราคารวมภาษีแล้ว

宿泊ロッジ

Log House Pension Holy หนึ่งในที่พักที่สามารถจองล่วงหน้าได้

หากต้องการที่พักก็สามารถสอบถามในตอนจองกับ Forest Therapy® ได้ ราคารวมภาษี 1 คืน เริ่มที่คนละ 10,800 เยนขึ้นไป

ช่วงเวลาที่แนะนำคือตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคมไปจนถึงมิถุนายน เป็นช่วงต้นฤดูร้อนที่เหล่าต้นไม้แตกใบใหม่เชียวชอุ่มมีชีวิตชีวา และเพิ่งผ่านช่วงวันหยุดยาวของญี่ปุ่นพอดี จึงมีนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นน้อย ที่จริงแล้วจะช่วงเวลาไหนของปีก็มาได้ ในช่วงฤดูหนาวก็มาชมวิวหิมะ ในฤดูใบไม้ร่วงก็มาชมวิวใบไม้เปลี่ยนสี

ในช่วงที่มีหิมะ อากาศก็จะหนาวมาก แนะนำให้แปะถุงร้อนไคโระไว้บนเสื้อบริเวณหลังหรือท้อง สวมเสื้อดาวน์โค้ทหนาๆ และใส่กางเกงรัดรูปกันหนาวก่อนใส่กางเกงขายาวทับอีกที ก็จะช่วยป้องกันความหนาวเย็นได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

อีกอย่างคือทางเดินเป็นพื้นดินธรรมชาติ เลือกสวมรองเท้าที่ใส่สบาย เดินสะดวก และเปื้อนได้อย่างพวกรองเท้าสำหรับปีนเขา จะดีกว่าค่ะ

อยากรีเฟรชร่างกายและจิตใจ ต้องลองไปชินาโนะมาจิ

焼きリンゴ

จังหวัดนากาโนะมีชื่อเสียงเรื่องแอปเปิ้ลค่ะ ถ้าแวะไปที่ "Michi no Eki Shinano, Furusato Tenbokan" จะมี "Yaki Ringo" ทำจากแอปเปิ้ลของนากาโนะอบทั้งลูกมาคู่กับซอฟต์ครีมที่ทำจากนมที่ผลิตได้จากคุโระฮิเมะโคเก็น มาเป็นเซ็ทพร้อมกาแฟหรือชา ราคารวมภาษี 550 เยน

ลับประสาททั้งห้าให้แหลมคมด้วยการเดินป่า ลิ้มลองอาหารที่เก็บเกี่ยวได้ในท้องถิ่น ดื่มด่ำกับประสบการณ์ที่ไม่มาก็ไม่รู้ที่เมืองชินาโนะมาจิ จังหวัดนากาโนะกันค่ะ

อ่านเพิ่มเติม :

ไกด์นำเที่ยวนากาโนะแบบจัดเต็ม! 23 แหล่งท่องเที่ยว 10 ลานสกี ข้อมูลโซนต่างๆ

ลิงแช่ออนเซ็นในฤดูหนาว! ไปเจอลิงญี่ปุ่นที่ "อุทยานลิงป่าจิโกะคุดานิ" จังหวัดนากาโนะ!

ดื่มด่ำฤดูหนาวญี่ปุ่นพร้อมสกีและออนเซ็นที่เมืองโนะซาวะออนเซ็น จังหวัดนากาโนะ (ฉบับปี 2018)

ความร่วมมือในการเก็บข้อมูลโดย : บริษัทซาโตะยูเมะจำกัด

บทความโดย

Miho Moriya

Tokyo,Japan

MATCHA editor and freelance writer. Born, raised, and currently living in Tokyo. Have visited over 30 countries and lived in four different prefectures. I have traveled to almost all 47 prefectures in Japan! I try to create articles that help convey the charms of a destination through words and pictures. I love forests, temples, and camels.
more
เนื้อหาในบทความนี้อ้างอิงจากการเก็บข้อมูลในช่วงเวลาที่เขียนบทความ อาจมีการเปลี่ยนแปลงของรายละเอียดสินค้า บริการ ราคาในภายหลังได้ กรุณาตรวจสอบกับสถานที่นั้นอีกครั้งก่อนการไปใช้บริการ
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง