Start planning your trip
บันทึกประสบการณ์การปีนภูเขาไฟฟูจิ ดูพระอาทิตย์ขึ้น ด้วยเส้นทางโยชิดะรูท (Yoshida route, Mt. Fuji)
บันทึกประสบการณ์การปีนภูเขาไฟฟูจิ ชมพระอาทิตย์ขึ้นเหนือเมฆหมอกบนฟูจิ ภูเขาที่สูงที่สุดและสวยที่สุดของญี่ปุ่น ผ่านเส้นทางโยชิดะรูท
ภูเขาไฟฟูจิ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมโดยยูเนสโกในเดือนมิถุนายน ปี 2013 ในฐานะสถานที่อันเป็นศูนย์รวมด้านความเชื่อและแรงบันดาลใจด้านศิลปะ
ในครั้งนี้จะขอมาแบ่งปันประสบการณ์ในการปีนภูเขาไฟฟูจิที่ผู้เขียนเพิ่งไปปีนมาให้ดูกัน
ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2024 เส้นทางโยชิดะรูทของภูเขาไฟฟูจิต้องจองลองหน้าก่อนไปนะ หากวางแผนปีนเขาโดยใช้เส้นทางโยชิดะรูทนี้ กรุณาจองผ่านเว็บไซต์ทางการของ Mt. Fuji Climbing (มีภาษาญี่ปุ่น อังกฤษ จีนตัวเต็ม และจีนตัวย่อ)
ช่วงเวลาในการปีนเขา
ภูเขาไฟฟูจิ จะเปิดให้ปีนเขาในช่วงฤดูร้อนระหว่างเดือนกรกฎาคม ถึงต้นเดือนกันยายนเท่านั้น แต่ละเส้นทางจะมีกำหนดเวลาไม่เท่ากัน
ฤดูกาลที่ดีที่สุดคือช่วงหลังจากฤดูฝน ประมาณวันที่ 20 กรกฎาคมไปจนถึงต้นเดือนกันยายน ช่วงสุดสัปดาห์และวันหยุดเทศกาลโอบ้งคนจะเยอะมาก (บางช่วงเวลาโดยเฉพาะเช้ามืด ทางเดินขึ้นเขาจะมีคนเยอะมากเพราะจะไปดูพระอาทิตย์ขึ้นกัน ถึงจะเผื่อเวลาแล้วก็อาจจะไม่ทันเพราะคนเยอะจนเดินต่อไม่ได้) แนะนำว่าควรไปปีนเขาช่วงวันธรรมดา หลีกเลี่ยงสุดสัปดาห์และเทศกาลโอบ้งจะดีกว่า ใครที่จะไปค้างคืนบนที่พักด้านบนก็แนะนำให้รีบจองทางอินเตอร์เน็ตทันทีที่เริ่มเปิดจอง
เตรียมตัวปีนเขา
ภูเขาไฟฟูจิอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลมาก อากาศบนเขาจะต่างกับด้านล่างมาก หลักๆ ก็คืออุณหภูมิต่ำ และอาจจะมีฝนตกกระทันหัน แนะนำให้เตรียมอุปกรณ์กันหนาวและกันฝนไปด้วย หรือจะลองอ้างอิงจากลิสต์ของผู้เขียนนี่ก็ได้
เครื่องแต่งกายและสิ่งของจำเป็น
เครื่องแต่งกาย
ของที่มีไว้ก็ช่วยให้สะดวกขึ้น
ตัวช่วยอำนวยความสะดวกตอนเข้าพักบนเขา
อื่นๆ
ทางเข้าโยชิดะรูท ที่ชั้น 5 มีล็อกเกอร์ค่อนข้างเยอะ สามารถฝากสัมภาระขนาดใหญ่เพื่อแวะไปแช่ออนเซ็นหรือที่พักใกล้เคียงหลังจากปีนเขาได้
ได้เวลาปีนภูเขาไฟฟูจิ
ในวันจริง ได้วางแผนตามกำหนดการด้านล่าง โดยคำนึงถึงสภาพร่างกายและสภาพอากาศก่อนเริ่มต้น
กำหนดการ
10:00 เริ่มปีนจากชั้น 5
↓
17:00 ถึงที่พักบนเขาชั้น 8 ทานอาหารเย็น และหลับพักผ่อน
↓
2:00 เริ่มปีนเขา
↓
4:30 ถึงยอดเขา
↓
5:00 ชมพระอาทิตย์ขึ้นและชมรอบปล่องภูเขาไฟ
↓
9:30 ลงเขา
↓
13:00 ถึงปลายทางที่ชั้น 5
การปีนภูเขาไฟฟูจิมีทั้งหมด 4 เส้นทาง (รูท) ใหญ่ๆ คือ โยชิดะ, ฟูจิโนะมิยะ, สุบาชิริ และ โกเท็มบะ ในครั้งนี้ ได้เลือกปีนทางโยชิดะรูท ซึ่งเป็นเส้นทางที่นิยมมากที่สุด
ยอดภูเขาไฟฟูจิที่มองจากทางเข้าชั้น 5 เห็นแล้วรู้สึกเหมือนห่างแค่เพียงเอื้อมมือ แต่เอาเข้าจริงต้องใช้เวลาปีนเขาถึง 7 ชั่วโมงเลย
ภูเขาไฟฟูจิชั้น 5 เป็นทางเข้าของเส้นทางโยชิดะรูท ค่อนข้างครึกครื้นเพราะเป็นจุดที่มีรถมาถึง หลายคนที่ไม่ได้มาปีนเขาก็แวะมาชมวิว ซื้อของฝาก ทานอาหาร และถ่ายรูปกัน ส่วนคนที่จะปีนเขาก็มายืดเส้นยืดสายเตรียมตัวกันแถวทางเข้า อันที่จริงเส้นทางจากชั้น 5 ไปชั้น 6 นี่ยังถือว่าสบายๆ ไม่ต้องเตรียมตัวอะไรก็ปีนได้
แต่พอชั้น 6 ขึ้นไปจะเริ่มเป็นเส้นทางปีนเขาของจริงแล้ว ต้องหายใจเข้าออกลึกๆ และค่อยๆ เดินตามกำลังของตัวเองไม่ต้องรีบร้อน ระวังลื่นล้มและก้อนหินที่กลิ้งลงมา
พอเริ่มเข้าใกล้ชั้น 8 จะเรียกว่าเป็นทางเดินก็ยากเต็มที เพราะตามทางมีแต่โขดหินให้เดินกึ่งปีน สองฝั่งก็มีแค่เชือกหรือโซ่กั้นไว้เท่านั้น ไม้เท้ากับถุงมือจะช่วยได้มากเลยตอนนี้
ที่พักบนเขา
ตามเส้นทางโยชิดะรูทจะมีที่พักทั้งหมด 20 หลัง (ข้อมูลเดือนสิงหาคม 2014) ต้องวางแผนให้ดีว่า "จะนอนพักที่ชั้นไหน กี่คืน ออกเดินทางกลางดึกกี่โมงเพื่อไปชมพระอาทิตย์ขึ้น" แนะนำให้วางแผนแบบเผื่อเวลาพักผ่อนเอาแรงเยอะหน่อย จะได้ไม่ต้องฝืนเดิน
ผู้เขียนเดินทางไปถึงที่พักไทชิคัง (Taishikan 太子館) ที่ชั้น 8 เวลา 17:00 ทานอาหารเย็นและนอนหลับเอาแรงที่นั่น จากนั้นก็เริ่มออกเดินทางไปยอดเขาตอนกลางดึกเวลาตี 2 ในที่พักมีขายบะหมี่สำเร็จรูป ราคาประมาณ 700 เยน น้ำดื่มขวด 500 มิลลิลิตร ราคา 500 เยน (ยิ่งขึ้นไปสูงราคายิ่งแพง)
ค่าเข้าห้องน้ำส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 100 เยน แต่บางที่ก็คิด 200 เยน บนเขาไม่มีระบบท่อน้ำทิ้งก็ต้องใช้ระบบจุลินทรีย์บำบัดเพื่อกำจัดของเสีย และระบบชำระแบบง่ายๆ ไม่มีวอชเล็ตอะไรให้ใช้
อย่างในรูปข้างบนก็เป็นสายชำระ น้ำก็มีให้ใช้จำกัด เพราะงั้นอย่าลืมช่วยกันประหยัดน้ำ ใช้เท่าที่จำเป็นกันดีกว่า
ที่สำหรับนอนพักไม่ว่าจะเป็นที่พักเจ้าไหน ส่วนใหญ่จะเป็นรูปแบบเตียง 2 - 3 ชั้นไม่มีที่กั้นระหว่างคน เวลาคนเยอะจะต้องนอนเบียดกัน 3 คนบนพื้นที่เท่าเสื่อทาทามิ 2 ผืน (กว้าง-ยาวประมาณ 176 เซนติเมตร) สัมภาระก็แขวนเอาไว้ด้านบน เรียกได้ว่าทำได้แค่ล้มตัวลงนอนเท่านั้นจริงๆ
พวกฟูกต่างๆ ก็มักจะเย็นและชื้น ถึงจะเป็นฤดูร้อนก็ยังมีอุณหภูมิราว 2 - 3 องศา ควรจะนำถุงร้อนไคโระและแผ่นคลุมเก็บอุณหภูมิไปด้วย ค่าที่พัก 1 คืนอยู่ที่ประมาณ 5,000 - 6,500 เยน และถ้ารวมอาหาร 2 มื้อ จะอยู่ที่ราคา 7,000 - 8,500 เยน แนะนำให้จองที่พักล่วงหน้าไม่งั้นอาจจะไม่มีที่ให้นอน
มุ่งหน้าสู่ยอดเขา
คนที่พักแถวชั้น 8 ถ้าอยากชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ยอดเขา แนะนำให้ออกเดินทางรุ่งเช้าประมาณตี 2 (ถ้าเป็นช่วงสุดสัปดาห์ อาจจะต้องออกเร็วกว่าปกติ เพื่อจะได้ไม่ต้องเจอกับคนจำนวนมหาศาลใกล้ยอดเขา)
ตามทางจะมีป้ายบอกทางและป้ายบอกตำแหน่งปัจจุบันเป็นภาษาญี่ปุ่น ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน และภาษาเกาหลี
หลังจากงีบหลับในที่พักแล้ว ก็มีหลายคนมีอาการของโรคแพ้ความสูง (Altitude sickness) ใครที่เกิดอาการขึ้นมาก็ค่อยๆ หายใจลึกๆ แล้วก็ค่อยๆ เดินตามกำลังไม่ต้องฝืนนะ ใครที่ไม่ไหวจริงๆ จากชั้น 8 ก็เห็นพระอาทิตย์ขึ้นได้เหมือนกัน แล้วก็เปลี่ยนไปใช้เส้นทางลงเขากลับไปข้างล่างกัน
พอเข้าใกล้ชั้น 9 ถึงจะเป็นกลางฤดูร้อนก็ยังมีหยาดน้ำแข็งย้อยลงมาให้เห็น อุณหภูมิตอนนี้อยู่ที่ 2 - 5 องศา คนที่สวมเสื้อผ้าบางเกินไปจะหมดสภาพกันแถวนี้ อย่าลืมเตรียมอุปกรณ์กันหนาวไปให้พร้อม ทางเดินไปยอดเขาก็เริ่มสะดวกขึ้นกว่าที่ผ่านมาเยอะ (เพียงแค่อาจจะหายใจลำบากเท่านั้น)
ท้ายสุด เมื่อผ่านสิงโตเฝ้าประตูกับเสาโทริอิเข้ามา เราก็จะถึงยอดเขา และเจอกับศาลเจ้า Fujisan chojo Okumiya ซึ่งบริเวณรอบๆ จะมีร้านขายของฝากและร้านอาหาร
แต่ ... จุดนี้ยังไม่ใช่ยอดเขาที่แท้จริงนะ
เดินเวียนรอบปล่องภูเขาไฟฟูจิกัน
ฟูจิซัง โอฮาจิ เมกุริ คือการเดินวนรอบปากปล่องภูเขาไฟฟูจิ ระหว่างทางจะมี "จุดตรวจวัดสภาพอากาศพิเศษประจำภูเขาฟูจิ" ซึ่งเป็นจุดที่สูงที่สุดของภูเขาไฟฟูจิ เพราะงั้นขึ้นมาถึงข้างบนนี้ทั้งทีก็ต้องไม่พลาดมาให้ถึงจุดสูงสุดของฟูจิด้วยนะ
ทางเดินวนรอบปากปล่องภูเขาไฟฟูจิไม่มีรั้วกั้น เพราะงั้นค่อยๆ เดินกันนะ
จุดตรวจวัดสภาพอากาศพิเศษประจำภูเขาฟูจิ ตรงนี้มีอนุสรณ์หินระบุว่า "ยอดเขาของภูเขาไฟฟูจิ" มาถ่ายรูปคู่เป็นที่ระลึกกัน! ระหว่างทางมีไปรษณีย์ด้วยนะ มาส่งจดหมายจากยอดภูเขาเอาไว้เป็นที่ระลึกก็ดี
ได้เวลาลงเขา
เมื่อเต็มอิ่มกับวิวสวยๆ บนยอดเขาแล้ว คราวนี้ก็ถึงเวลาต้องลงเขากันซะที
เส้นทางลงเขาไม่มีโขดหินเหมือนขาขึ้น แต่ก็เหมือนกับการลงไปทางเดิมอีกรอบ ทิวทัศน์ไม่สวยงามเท่าไหร่ เอาจริงๆ ก็ค่อนข้างจะน่าเบื่อเลยแหละ ฝุ่นทรายก็เยอะ แนะนำให้สวมหน้ากากและใช้เกเตอร์คลุมรองเท้ากันทรายกันกรวด ขาลงใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่ง ก็ถึงชั้น 5
สุดท้ายนี้
นี่คือภาพรวมของการปีนภูเขาไฟฟูจิ เส้นทางโยชิดะรูท ถือเป็นหนึ่งในประสบการณ์ที่มีค่ามาก ทั้งการได้พบเจอผู้คนจากทั่วโลก สัมผัสความศรัทธาด้านศาสนาของญี่ปุ่นในอดีต การได้บรรลุเป้าหมาย และการได้ชมทิวทัศน์แสนสวยที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน พอจะทำให้ใครรู้สึกอยากลองมาสัมผัสประสบการณ์ปีนภูเขาไฟฟูจิกันดูบ้างไหมนะ เชื่อว่าจะต้องเป็นหนึ่งในการเดินทางที่มีค่าและสนุกมากครั้งหนึ่งในชีวิตของทุกคนแน่ๆ
Information
ภูเขาไฟฟูจิ
ที่อยู่ : Fujisan, Fujinomiya City, Shizuoka Prefecture
เวลาทำการ : 24 ชั่วโมง
วันหยุด : ไม่มี
Wi-Fi : ไม่มี
บัตรเครดิต : ไม่มี
ภาษาที่รองรับ : ญี่ปุ่น, อังกฤษ, จีน, เกาหลี
มีเมนูภาษาอื่นๆ : มี
สถานีที่ใกล้ที่สุด : สถานี Kawaguchiko
การเดินทาง : สถานี Kawaguchiko หรือไม่ก็สถานี Fujisan จากนั้นใช้บริการรถบัสนั่งไปจนถึงฟูจิชั้นที่ 5 (รถบัสไฮกิ้ง หรืออื่นๆ)
ช่วงราคา : ค่าเข้า (ค่าให้ความร่วมมืออนุรักษ์ภูเขาไฟฟูจิ) 1,000 เยน (วันที่อังคาร 1 กรกฎาคม - วันอาทิตย์ที่14 กันยายน 2014)
ข้อมูลด้านศาสนา : ไม่มี
เบอร์โทรศัพท์ : Fujisan Information (Fujisan Shizuoka Navi) 054-221-3776
HP ทางการ : Mount Fuji Official Site
海に潜ったり、仏像を見たり、世界中を旅するのが大好きな日本人です。特にお気に入りの仏像は奈良県中宮寺の弥勒菩薩です。今年はさらに50体以上の仏像を拝観したいです!
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง