สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำในอิบารากิ สัมผัสกับประเพณีญี่ปุ่นและวัฒนธรรมใหม่

ไปชมฟูจิที่ทะเลสาบคาวากุจิโกะ และที่เที่ยวน่าสนใจรอบๆ ทั้งเจดีย์ 8 ชั้นและ Fuji Q Highland

บริการนี้รวมโฆษณาที่ได้รับการสนับสนุน
article thumbnail image

ภูเขาไฟฟูจิ หนึ่งในสัญลักษณ์ของญี่ปุ่น หนึ่งในจุดชมฟูจิยอดนิยมก็ต้องบริเวณทะเลสาบคาวากุจิโกะ มีที่พักและรีสอร์ทมากมาย นอกจากนั้นใกล้ๆ กันก็ยังมีที่เที่ยวและกิจกรรมน่าทำอีกมาก ทั้งชมเจดีย์ 5 ชั้นที่มีฉากหลังเป็นฟูจิ สวนสนุกพร้อมเครื่องเล่นสุดหวาดเสียว

วันที่ปรับปรุงล่าสุด :

ทะเลสาบคาวากุจิโกะ ที่พักผ่อนหย่อนใจใกล้โตเกียว

ทะเลสาบคาวากุจิโกะ (Lake Kawaguchiko) แหล่งรีสอร์ทในจังหวัดยามานาชิที่อยู่ใกล้กับโตเกียว เมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น ทะเลสาบแห่งนี้อยู่บริเวณเชิงภูเขาไฟฟูจิ ภูเขาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น เป็นศูนย์กลางของพื้นที่ฟูจิโกะโกะ (ชื่อเรียกของทะเลสาบทั้งห้าที่อยู่รอบภูเขาไฟฟูจิ) ที่มีที่ให้พักผ่อนหย่อนใจมากมาย และธรรมชาติที่สวยงามของทะเลสาบ

หากถามว่าอะไรคือไฮไลท์ของที่นี่ก็คงเป็นทะเลสาบคาวากุจิโกะกว้างใหญ่กับทิวทัศน์ของภูเขาไฟฟูจิที่ตั้งตระหง่านอยู่ฝั่งตรงข้าม ทะเลสาบแห่งนี้ล้อมรอบไปด้วยโรงแรม ร้านอาหารและสถานที่พักผ่อนท่องเที่ยวต่างๆ ที่สำคัญคือไม่ไกลจากโตเกียว ใช้เวลานั่งรถบัสจากชินจูกุเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น

คลิกที่นี่เพื่อจองที่พักหรือโรงแรมในทะเลสาบคาวากุจิโกะกับ Booking.com!

คลิกที่นี่เพื่อจองที่พักหรือโรงแรมในทะเลสาบคาวากุจิโกะกับ Agoda!

สารบัญ

1. 8 สิ่งที่ควรทำเมื่อไปทะเลสาบคาวากุจิโกะ
2. อาหารท้องถิ่นจังหวัดยามานาชิที่ต้องมาลอง
3. ตัวอย่างแผนเที่ยว แถวทะเลสาบคาวากุจิโกะ
4. อีเวนท์ต่างๆ ในแต่ละฤดูกาล
5. วิธีเดินทางไปทะเลสาบคาวากุจิโกะและตั๋วโดยสารสุดคุ้ม
6. โรงแรมละแวกทะเลสาบคาวากุจิโกะ

8 สิ่งที่ควรทำเมื่อไปทะเลสาบคาวากุจิโกะ

มาดูกิจกรรมน่าทำและสถานที่ที่ควรไปบริเวณทะเลสาบคาวากุจิโกะกันค่ะ

1. ถ่ายรูปที่ระลึกของภูเขาไฟฟูจิ

河口湖を訪れたらやるべき5つのこと

Picture courtesy of Yamanashi Tourism Organization

ก่อนอื่น จะขอแนะนำจุดที่มองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้อย่างสวยงามหลายๆ ที่ก่อนนะคะ

สถานที่แรกก็คือ Kawaguchiko Amphitheatre Hall ที่อยู่ทางฝั่งเหนือของทะเลสาบคาวากุจิโกะ ในละแวกนี้สามารถเก็บภาพคู่กับสะพานคาวากุจิโอฮาชิและภูเขาไฟฟูจิได้

Picture courtesy of Yamanashi Tourism Organization

นอกจากนั้น หากเดินต่อไปทางฝั่งตะวันตกของทะเลสาบ บริเวณรอบๆ สวนโออิชิ (Oishi Park) ก็เป็นจุดยอดนิยมเช่นเดียวกัน เราสามารถชมภูเขาไฟฟูจิในฝั่งตรงข้ามของทะเลสาบคาวากุจิโกะ และทิวทัศน์ของสวนดอกไม้ตามฤดูกาลพร้อมๆ กันได้ โดยเฉพาะตั้งแต่เดือนมิถุนายนจนถึงกรกฎาคม เราจะได้เห็นทุ่งลาเวนเดอร์ (ในรูป) บานอย่างสวยงาม

ทิศเหนือของทะเลสาบคาวากุจิโกะมีสถานที่ที่วิวสวยเยอะมากๆ ค่ะ ลองไปเดินเล่นหามุมดีๆ ที่ถูกใจถ่ายรูปสวยๆ กันดูนะคะ

2. ชมเจดีย์แดง 5 ชั้น ชูเรโต

ไปชมฟูจิที่ทะเลสาบคาวากุจิโกะ และที่เที่ยวน่าสนใจรอบๆ ทั้งเจดีย์ 8 ชั้นและ Fuji Q Highland

Photo by Pixta

เจดีย์ชูเรโต (Chureito Pagoda) จะมีที่ไหนที่รวมเอาความเป็นญี่ปุ่นมาไว้ในที่เดียวกันได้เท่าที่นี่ หนึ่งในจุดชมวิวฟูจิที่กำลังได้รับความนิยมมากจากนักท่องเที่ยวต่างชาติมากๆ ที่แม้แต่คนญี่ปุ่นยังไม่ค่อยรู้จักเลยด้วยซ้ำ ภาพของเจดีย์สีแดงชาด 5 ชั้น มีฉากหลังเป็นภูเขาฟูจิลูกโต ถ้ามาช่วงกลางเดือนเมษายนก็จะมีดอกซากุระบานด้วยแต่งแต้มสีสันสวยงามให้อีก


3. Mt.Fuji Panorama Ropeway

富士山パノラマロープウェイ

Photo by Pixta

สถานที่ที่สามารถชมวิวทะเลสาบคาวากุจิโกะและภูเขาไฟฟูจิได้ในมุมมองที่ต่างออกไปนั่นก็คือ Mt.Fuji Panorama Ropeway กระเช้าโรปเวย์นี้จะพาเราขึ้นไปสู่ภูเขาเท็นโจ (Mt. Tenjo) เดิมกระเช้าโรปเวย์แห่งนี้เคยมีชื่อว่า Kachi Kachi Yama Ropeway (คาจิคาจิยามะโรปเวย์) เพราะว่ากันว่าภูเขาลูกนี้เป็นสถานที่ในนิทานเก่าแก่ของญี่ปุ่นเรื่อง Kachi Kachi Yama (คาจิคาจิยามะ)

นั่งชมวิวไปอย่างสบายๆ จนโรปเวย์พาเราขึ้นไปถึงจุดชมวิวบนยอดเขา ให้เราได้พบกับวิวพาโนราม่าที่กว้างใหญ่ของภูเขาไฟฟูจิทั้งลูก แล้วยังมีจุดถ่ายรูปเป็นระฆังรูปหัวใจ เท็นโจโนะคาเนะ (Tenjo no kane) ถ้าเริ่มเหนื่อย แนะนำให้ไปพักรับประทานอาหารว่างอย่างดังโกะกับมัทฉะโฟลทที่ร้านน้ำชา Tanuki Tea House กันนะคะ

4. นั่งเรือสำราญที่ทะเลสาบคาวากุจิโกะ

河口湖遊覧船アンソレイユ號

Picture courtesy of “Ensoleille” Cruiser
ที่ทะเลสาบคาวากุจิโกะ สามารถนั่งเรือสำราญเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ที่สวยงามของภูเขาไฟฟูจิจากในทะเลสาบได้ โดยเฉพาะในวันที่อากาศแจ่มในและไม่มีลม ห้ามพลาดชมทิวทัศน์อันงดงามของ "ภูเขาไฟฟูจิกลับหัว" ซึ่งเป็นภาพภูเขาไฟฟูจิสะท้อนบนผิวน้ำ

5. Kawaguchiko Music Forest Museum

河口湖を訪れたらやるべき5つのこと

Picture courtesy of Kawaguchiko Music Forest Museum

ต่อไป จะแนะนำมิวเซียม 2 แห่งที่ถึงแม้สภาพอากาศจะไม่ดีแต่ก็สามารถเพลิดเพลินได้ สถานที่แรกคือ Kawaguchiko Music Forest Museum สถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรปโดดเด่นสะดุดตาที่ตั้งอยู่ภายในสวนกว้างใหญ่

ไฮไลท์ที่น่าสนใจของที่นี่มีมากมาย เช่น ตู้ดนตรีขนาดใหญ่ที่เคยมีกำหนดการจะนำไปใช้ในเรือไททานิคจัดแสดงอยู่ และการแสดง Sand Art Live ที่เล่าเรื่องราวด้วยการวาดภาพบนทรายให้เข้ากับเสียงดนตรี ซึ่งจัดให้ชมวันละ 3 ครั้ง

河口湖を訪れたらやるべき5つのこと

Picture courtesy of Kawaguchiko Music Forest Museum

ในวันที่อากาศดี สามารถไปเดินเล่นท่ามกลางดอกกุหลาบหลากสีสันได้ในสวนกุหลาบ โดยเฉพาะช่วงพีคในเดือนมิถุนายนเราจะได้เห็นความตระการตาของดอกกุหลาบกว่า 720 สายพันธุ์บานสะพรั่งเต็มสวนเลยค่ะ

6. พิพิธภัณฑ์ศิลปะคูโบตะ (Itchiku Kubota Art Museum)

河口湖を訪れたらやるべき5つのこと

Picture courtesy of Itchiku Kubota Art Museum

อีกแห่งนึงก็คือ พิพิธภัณฑ์ศิลปะอิตจิคุ คูโบตะ (Itchiku Kubota Art Museum) ที่ได้รับมิชลินสตาร์ 3 ดาวจาก Michelin Guide หมวดท่องเที่ยวในปี 2009

มิชลินสตาร์ของ Michelin Guide เรียงลำดับจากน้อยสุด 1 ดาวไปถึงมากสุด 3 ดาว

ในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ มีผลงานของคุณคูโบตะ อิตจิคุ ศิลปินหัตถกรรมงานย้อม ซึ่งจัดแสดงภายในสถาปัตยกรรมสไตล์ญี่ปุ่นที่หรูหรา คุณคูโบตะ อิตจิคุมีชื่อเสียงจากการชุบชีวิตเทคนิคการย้อมสีที่สูญหายไปเป็นเวลานานที่เรียกว่า "สึจิกาฮานะ" ด้วยทักษะที่มีเอกลักษณ์แบบของตัวเอง ภายในพิพิธภัณฑ์ยังมีแกลอรี่ลูกปัดแก้ว และร้านค้าของพิพิธภัณฑ์ รวมถึงร้านน้ำชาอีกด้วย

河口湖を訪れたらやるべき5つのこと

Picture courtesy of Itchiku Kubota Art Museum

และไม่เพียงแต่ภายในพิพิธภัณฑ์เท่านั้น ความพิเศษของพิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งนี้คือทิวทัศน์ภายนอกที่มีความสวยงามทำให้เพลิดเพลินได้เช่นกัน สวนญี่ปุ่นที่สร้างสรรค์ขึ้นด้วยธรรมชาติและฝีมือของมนุษย์ ทิวทัศน์ที่เปลี่ยนไปในทุกๆ ฤดูกาล ดึงดูดผู้คนมากมายให้มาเยือน โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่มีไฮไลท์คือใบไม้เปลี่ยนสี

7. Fuji-Q Highland (สวนสนุกฟูจิคิวไฮแลนด์)

河口湖

จากบทความ "ชมฟูจิบนรถไฟเหาะตีลังกาที่ ฟูจิคิวไฮแลนด์ (Fuji-Q Highland) สวนสนุกสุดหวาดเสียว "

Fuji-Q Highland สวนสนุกยอดนิยมของเหล่าวัยรุ่นทั้งในและต่างประเทศ ที่นี่โด่งดังมากเพราะมีเครื่องเล่นสุดหวาดเสียวเยอะมาก! สวนสนุกแห่งนี้มีเครื่องเล่นที่ได้รับการบันทึกใน Guinness World Record มากมายอย่าง FUJIYAMA, Takabisha และ Eejanaika ซึ่งรู้จักเป็นอย่างดีในด้านเครื่องเล่นรถไฟเหาะที่มีความสูง ความเร็ว และองศาแนวดิ่งที่มากที่สุดในโลก

ในส่วนเครื่องเล่นอื่นๆ ก็มีเขาวงกตขนาดยักษ์ บ้านผีสิง และ La Ville de Gaspard et Lisa เมืองของ Gaspard และ Lisa ตัวการ์ตูนสุดน่ารักจากหนังสือภาพของฝรั่งเศส อีกทั้ง ที่นี่ยังมีโรงแรมและร้านอาหารด้วย จึงสะดวกมากๆ หากไปใช้บริการตอนไปเที่ยวสวนสนุกค่ะ

8. ถ้ำน้ำแข็งนารุซาวะ (Narusawa Ice Cave)

鳴沢氷穴

Photo by Pixta

ถ้ำน้ำแข็งนารุซาวะเป็นถ้ำซึ่งเกิดจากลาวาที่ไหลจากภูเขาไฟปะทุเมื่อปี 864 ภูเขาลูกนั้นงอยู่ใกล้ๆ กับภูเขาไฟฟูจิ อุณหภูมิภายในถ้ำเฉลี่ย 3°C มีน้ำแข็งปกคลุมตลอดทั้งปี

น้ำแข็งย้อยที่อยู่ภายในถ้ำแห่งนี้มีความงดงามขึ้นชื่อมากๆ บางปีจะมีความใหญ่โตมากๆ โดยมีเส้นผ่านศูนย์กลางถึง 50 เซนติเมตร และยาวถึง 3 เมตรเลยทีเดียว

อาหารท้องถิ่นจังหวัดยามานาชิที่ต้องมาลอง

河口湖を訪れたらやるべき5つのこと

Picture courtesy of Yamanashi Tourism Organization

สำหรับคนที่อยากลองชิมอาหารท้องถิ่นของคาวากุจิโกะ ก็ขอแนะนำ โฮโต ค่ะ

โฮโตเป็นอาหารท้องถิ่นในจังวัดยามานาชิ จุดเด่นอยู่ที่เส้นแบนนขนาดใหญ่ต้มพร้อมกับผัก เช่น ฟักทอง ในซุปมิโซะ กลายเป็นรสชาติที่ผสมผสานกันระหว่างความกลมกล่อมของดาชิกับความหวานของผัก โดยเฉพาะช่วงอากาศหนาวๆ นี่นอกจากจะอร่อยและอิ่มท้องแล้ว ยังทำให้ร่างกายอบอุ่นได้ดีด้วย รอบๆ สถานีคาวากุจิโกะมีร้านที่ขึ้นชื่อมากๆ อย่าง "Hoto Fudo (โฮโต ฟุโด)" และ "Koshu Hoto Kosaku (โคชู โฮโต โคซาคุ)"

นอกจากโฮโต ยังมีของอร่อยๆ รสเลิศที่มีเอกลักษณ์ของท้องถิ่นนี้อีกมากมาย เช่น Fujizakura Heights Beer เบียร์ที่ใช้น้ำธรรมชาติรอบภูเขาไฟฟูจิ

ตัวอย่างแผนเที่ยว แถวทะเลสาบคาวากุจิโกะ

ต่อไปจะพาไปดูแผนเที่ยวที่รวมถึงจุดท่องเที่ยวต่างๆ ที่แนะนำไปข้างต้นด้วยค่ะ หากมีเวลา 1-2 วัน สามารถที่จะเที่ยวตามสถานที่หลักๆ ในทะเลสาบคาวากุจิโกะได้ครบค่ะ แต่สำหรับคนที่มีเวลาเหลือเฟือมากกว่านั้น หากค้างสัก 2 คืนก็จะได้สัมผัสกับเสน่ห์ของที่นี่แบบสบายๆ ค่ะ

เที่ยวแบบ 2 วัน 1 คืน

หากไปถึงทะเลสาบคาวากุจิโกะด้วย Express Bus หรือรถไฟ ก่อนอื่นให้ไปขึ้น Mt.Fuji Panorama Ropeway ค่ะ หลังชมวิวสวยๆ เสร็จก็ไปขึ้นรถบัส เดินทางไปทานอาหารขึ้นชื่อของยามานาชิอย่างโฮโตหรืออุด้งเป็นอาหารเที่ยง

ช่วงบ่ายแนะนำให้ไปเดินสายเที่ยวพิพิธภัณฑ์ศิลปะแบบสบายๆ ค่ะ ถ้าพักโรงแรมหรือเรียวกังที่มีออนเซ็นล่ะก็ ให้รีบเช็คอินแล้วไปแช่ออนเซ็นคลายความเหนื่อยล้ากันได้เลย

河口湖を訪れたらやるべき五つのこと

Hana Terrace ช้อปปิ้งมอลล์ที่มองเห็นภูเขาไฟฟูจิจากฝั่งทะเลสาบคาวากุจิโกะ

ในวันที่ 2 ให้ไปเดินเล่นรอบๆ สวนโออิชิ ถ้าเริ่มเมื่อยก็ไปพักเบรกในคาเฟ่ หรือช้อปปิ้งซื้อของที่ "Hana Terrace" ที่มีร้านรวงตั้งอยู่มากมาย เช่น ร้านขนมหวานที่ใช้ผลไม้ของจังหวัดยามานาชิ และสินค้าจิปาถะสไตล์ญี่ปุ่น หรือไม่ก็อาจจะไปเล่นเครื่องเล่นสุดมันส์ที่ Fuji-Q Highland ตั้งแต่เช้าเลยก็ได้ค่ะ

ถ้าจะซื้อของฝากล่ะก็ แนะนำให้ซื้อที่ร้านขายของฝากที่อยู่ในสถานี Kawaguchiko, สถานี Fujisan หรือไม่ก็ป้ายรถเมล์ Fuji-Q Highland ค่ะ

เที่ยวแบบ 3 วัน 2 คืน

ถ้านอนค้างอีก 1 คืน ให้เดินทางไกลออกไปอีกสักหน่อย เช่นไปเที่ยวที่ทะเลสาบไซโกะ ที่อยู่ทางฝั่งตะวันตกของทะเลสาบคาวากุจิโกะ หรือไปเที่ยวที่ฟูจิโยชิดะดูไหมคะ?

บริเวณรอบๆ ทะเลสาบไซโกะมีป่าที่อุดมสมบูรณ์มากๆ ชื่อว่า Jukai (จุไค) ที่นี่มีคอร์สเดินป่าพร้อมกับไกด์ทัวร์ให้บริการด้วยค่ะ

河口湖を訪れたらやるべき5つのこと

ศาลเจ้าคิตะกุจิ ฮงกู ฟูจิ เซ็นเก็นจินจะ ตั้งอยู่บริเวณทางปีนขึ้นภูเขาไฟฟูจิ

นอกจากนั้น ในฟูจิโยชิดะ (Fujiyoshida) ซึ่งเป็นเมืองใกล้ๆ ยังมี เจดีย์ชูเรโต (Chureito Padoga) จุดถ่ายรูปยอดนิยมที่มองเห็นภูเขาไฟฟูจิกับเจดีย์ห้าชั้นคู่กันได้ และ ศาลเจ้าคิตะกุจิ ฮงกู ฟูจิ เซ็นเก็นจินจะ (Kitaguchi Hongu Fuji Sengen-jinja Shrine) หนึ่งในจุดออกเดินทางปีนภูเขาฟูจิ ทั้งสองที่สามารถเดินทางไปได้โดยรถบัสและรถไฟจากพื้นที่รอบๆ ทะเลสาบคาวากุจิโกะค่ะ

อีเวนท์ต่างๆ ในแต่ละฤดูกาล

สุดท้ายนี้ จะขอแนะนำอีเวนท์ต่างๆ ในแต่ละฤดูกาลค่ะ บริเวณรอบๆ ทะเลสาบคาวากุจิโกะ มีการจัดงานเทศกาลต่างๆ ตามแต่ละฤดูกาลที่จะเข้าช่วงไฮไลท์ไม่ว่าจะเป็นดอกไม้หรือใบไม้เปลี่ยนสี

เมษายน : เทศกาลชมดอกซากุระ ฟูจิคาวากุจิโกะ

河口湖を訪れたらやるべき5つのこと

ช่วงกลางเดือนเมษายนของทุกปี ทะเลสาบคาวากุจิโกะจะเข้าสู่ช่วงชมดอกซากุระ เส้นทางปีนเขาที่อยู่ใกล้กับ Kawaguchiko Amphitheatre Hall จะมองเห็นแนวของต้นซากุระริมฝั่งทะเลสาบ ในช่วงนี้จะมีการออกร้านด้วย แวะมาหาของทานกันได้

เมษายนถึงพฤษภาคม : เทศกาลชมทุ่งพิงค์มอส

河口湖を訪れたらやるべき5つのこと

Picture courtesy of Yamanashi Tourism Organization

พอหมดช่วงชมดอกซากุระแล้ว ต่อไปจะเป็นฤดูกาลของชิบะซากุระ หรือ พิงค์มอส ทิวทัศน์ของชิบะซากุระที่บานเป็นสีชมพูบนผืนดินราวกับพรมขนาดใหญ่เป็นภาพที่ตระการตามาก

มิถุนายนถึงกรกฎาคม : เทศกาลสมุนไพร Herb Festival (สวนยากิซากิและสวนโออิชิ)

河口湖を訪れたらやるべき5つのこと

Picture courtesy of Yamanashi Tourism Organization

ชมลาเวนเดอร์บานสวยเต็มที่ประมาณเดือนมิถุนายนจนถึงกรกฎาคมในสวนยากิซากิ (Yagizaki Park) และสวนโออิชิ จุดถ่ายภาพที่มองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้อย่างงดงาม

พฤศจิกายน : เทศกาลใบไม้เปลี่ยนสี (อุโมงค์ใบไม้แดง)

河口湖を訪れたらやるべき5つのこと

Picture courtesy of Yamanashi Tourism Organization

ต้นไม้แถบนี้จะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้มตั้งแต่ช่วงปลายเดือนตุลาคมจนถึงพฤศจิกายน เร็วกว่าแถบที่ราบอย่างโตเกียว แนะนำให้ไปบริเวณรอบๆ อุโมงค์ใบไม้แดง หรือ Maple Corridor ที่อยู่ทางฝั่งเหนือของทะเลสาบคาวากุจิโกะ มีร้านค้าตั้งเรียงรายและคึกคักไปด้วยผู้คนค่ะ

เนื่องจากรอบๆ ทะเลสาบคาวากุจิโกะสูงกว่าระดับน้ำทะเล จึงมีอากาศเย็นมากในช่วงฤดูหนาว แต่ในความหนาวเย็นนั้น เราก็จะได้เห็นวิวภูเขาไฟฟูจิที่สวยงามมากๆ ค่ะ สำหรับคนที่อยากชมภูเขาไฟฟูจิที่มีหิมะปกคลุมแนะนำให้ไปช่วงอื่นๆ ที่ไม่ใช่ช่วงระหว่างเดือนมิถุนายนถึงกันยายน เพราะเป็นช่วงฤดูร้อน หิมะบนภูเขาไฟฟูจิจะละลายหมด

วิธีการเดินทางไปทะเลสาบคาวากุจิโกะและตั๋วโดยสารสุดคุ้ม

หากเดินทางจากโตเกียวไปทะเลสาบคาวากุจิโกะ สามารถใช้รถบัสด่วนพิเศษและรถไฟได้

รถบัสด่วนพิเศษ

สามารถรถบัสด่วนพิเศษจากชินจูกุ สนามบินนาริตะ สนามบินฮาเนดะ สถานีโตเกียว ชินากาวะ ชิบูย่า และโยโกฮาม่า ไปที่สถานีคาวากุจิโกะได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนสายด้วย ดังนั้นจึงแนะนำสำหรับผู้ที่ไปครั้งแรก หากรถไม่ติด จะเดินทางจากชินจูกุหรือชินากาวะไปถึงได้ภายใน 2 ชั่วโมง

คลิกที่นี่เพื่อจองรถบัสด่วนพิเศษ
kosokubus

หากต้องการไปเที่ยวเล่นในพื้นที่ทะเลสาบคาวากุจิโกะ การใช้บริการรถบัสท่องเที่ยวคาวากุจิโกะสะดวกมาก ถ้าอยากเดินทางได้แบบไม่จำกัด ขอแนะนำ Mt.Fuji & Fuji Five Lakes Passport (2 วัน) (ผู้ใหญ่ 2,600 เยน เด็ก 1,300 เยน) ซึ่งใช้ได้ 2 วัน มีจำหน่ายที่เคาท์เตอร์ Fujikyu Bus ที่สถานีคุวากุจิโกะ (Kawaguchiko)

นอกจากนี้ยังมีตั๋วสุดคุ้มต่างๆ ดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ทางการของ Fujikyu Bus

รถไฟ

หากเดินทางไปโดยรถไฟ ให้ขึ้นรถไฟสาย JR ชูโอ (JR Chuo) ไปยังสถานีโอสึกิ (Otsuki) แล้วเปลี่ยนขบวนไปขึ้นยังสายฟุจิคิวโก (Fujikyuko) ไปยังสถานีคาวากุจิโกะ (Kawaguchiko) ใช้เวลาจากสถานีโตเกียวราว 3 ชั่วโมง ค่าใช้จ่ายประมาณ 2,700 เยน

ตั้งแต่ปี 2019 สามารถนั่งรถไฟด่วนพิเศษ FUJI EXCURSION ที่เชื่อมชินจูกุกับทะเลสาบคาวากุจิโกะได้ใน 1 ชั่วโมง 56 นาที ทำให้ขณะนี้สามารถเดินทางได้ทั้งเช้าและเย็นทุกวัน นักท่องเที่ยวต่างชาติสามารถใช้บัตร JR ฟรีพาสต่างๆ เช่น Japan Rail Pass หรือ JR TOKYO Wide Pass (มีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมสำหรับที่นั่งแบบจอง)

Japan Rail Pass และ JR TOKYO Wide Pass เป็นบัตรฟรีพาสสุดคุ้มในการเดินทางทั่วโตเกียวและทั่วญี่ปุ่น ดังนั้นอย่าลืมตรวจสอบดู

คลิกที่นี่เพื่อซื้อบัตร Japan Rail Pass

คลิกที่นี่เพื่อซื้อบัตร JR TOKYO Wide Pass

รถเช่า

ถ้าไปเที่ยวคาวากุจิโกะ การขับรถไปเที่ยวก็แนะนำเช่นกัน เมื่อขึ้นทางด่วน จะเดินทางจากโตเกียวไปยังทะเลสาบคาวากุจิโกะได้ในเวลาราว 1 ชั่วโมง 30 - 40 นาที

มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายรอบทะเลสาบคาวากุจิโกะ ดังนั้นการเดินทางโดยรถยนต์จึงง่ายกว่า แล้วอีกอย่างคือถ้าเดินทางไกลๆ เป็นกลุ่มใหญ่ การเช่ารถอาจถูกกว่าการใช้รถบัสหรือรถไฟนะ

MATCHA ขอมอบคูปองส่วนลด 10% แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เช่ารถจาก NIPPON Rent-A-Car บริษัทรถเช่ารายใหญ่ของญี่ปุ่น ท่านที่จะเช่ารถขับเที่ยวเอานำไปใช้ได้เลย!

คลิกที่นี่เพื่อรับคูปองส่วนลด 10% สำหรับเช่ารถจาก NIPPON Rent-A-Car

โรงแรมใกล้ทะเลสาบคาวากุจิโกะ

มีที่พักแนะนำซึ่งสามารถเพลิดเพลินกับทัศนียภาพอันงดงามของภูเขาไฟฟูจิและสัมผัสธรรมชาติได้

PICA Fujiyama (พีกะ ฟูจิยามะ)

PICA Fujiyama

Pictures courtesy of Booking.com
PICA Fujiyama เป็นสถานที่ตั้งแกลมปิ้งยอดฮิตใกล้ทะเลสาบคาวากุจิโกะ สามารถพักผ่อนสบายๆ ในเต็นท์กึ่งโดมสีขาวสุดหรูที่กลมกลืนกับธรรมชาติได้
จองที่พักกับ PICA Fujiyama

Fuji Lake Hotel (โรงแรมฟูจิเลก)

富士湖飯店

Pictures courtesy of Booking.com

Fuji Lake Hotel เป็นโรงแรมเก่าแก่ที่เปิดให้บริการเมื่อปี 1932 นอกจากห้องอาบน้ำแบบส่วนตัวที่มองเห็นภูเขาไฟฟูจิและทะเลสาบคาวากุจิโกะแล้ว ยังมีห้องอาบน้ำรวมขนาดใหญ่ที่สามารถเพลิดเพลินไปกับน้ำพุร้อนที่สูบขึ้นมาจากชั้นใต้ดินของภูเขาไฟฟูจิ

จองที่พักของ Fuji Lake Hotel

Super Hotel Fujikawaguchiko Tennenonsen (ซุปเปอร์โฮเทล ฟูจิคาวากุจิโกะ น้ำพุร้อนธรรมชาติ)

河口湖近くのホテル

Pictures courtesy of Booking.com

หากต้องการที่พักสะดวกสบายในราคาย่อมเยา ขอแนะนำ Super Hotel Fujikawaguchiko Tennenonsen ซึ่งมีน้ำพุร้อนธรรมชาติ พร้อมบริการอาหารเช้าฟรี

จองที่พักของ Super Hotel Fujikawaguchiko Tennenonsen

ไปเพลิดเพลินกับทะเลสาบคาวากุจิโกะทั้งสี่ฤดู!

ถึงตรงนี้ เราก็ได้แนะนำจุดเที่ยวต่างๆ ที่ไม่ควรพลาดรอบทะเลสาบคาวากุจิโกะไปเรียบร้อยแล้วค่ะ จะเดินทางจากโตเกียวก็สะดวก และมีสถานที่ต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะชมธรรมชาติ ดื่มด่ำกับผลงานศิลปะ อาหารท้องถิ่นขึ้นชื่อ หรือเครื่องเล่นสุดหวาดเสียว

นอกจากนั้น ในละแวกใกล้เคียงยังมีพื้นที่ฟูจิโกะโกะ ที่มีทะเลสาบยามานากะโกะ ทะเลสาบไซโกะ ซึ่งเต็มไปด้วยเสน่ห์น่าค้นหามากมาย ขอให้เต็มอิ่มกับทิวทัศน์ที่สวยงามในทุกๆ ฤดูกาลของทะเลสาบคาวากุจิโกะกันนะคะ

Article Display Image courtesy of Yamanashi Tourism Organization

Written by

เกิดที่จังหวัดยามากาตะ ฉันมีประสบการณ์ทำงานในการพัฒนาชุมชนบริเวณตีนเขาฟูจิและประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นทั่วประเทศ และปัจจุบันทำงานที่โตเกียวเพื่อเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับจังหวัดยามานาชิ คุณแม่ลูกหนึ่งที่ชื่นชอบอาหารและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในท้องถิ่น

เนื้อหาในบทความนี้อ้างอิงจากการเก็บข้อมูลในช่วงเวลาที่เขียนบทความ อาจมีการเปลี่ยนแปลงของรายละเอียดสินค้า บริการ ราคาในภายหลังได้ กรุณาตรวจสอบกับสถานที่นั้นอีกครั้งก่อนการไปใช้บริการ
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง