Start planning your trip
เจดีย์แดง 5 ชั้น ชูเรโต จุดชมวิวที่รวมความเป็นญี่ปุ่นไว้ในที่เดียว ทั้งฟูจิ และซากุระ (Chureito Pagoda, Mt. Fuji)
จุดชมวิวภูเขาไฟฟูจิยอดนิยม ที่มีเจดีย์สีแดง 5 ชั้นเป็นฉากหน้า ถ้าโชคดีจะได้ภาพของดอกซากุระแสนสวยมาอีกต่างหาก มาดูวิธีเดินทาง และทริคเพื่อให้ได้รูปสวยๆ กันค่ะ
ถ้าค้นหาคำว่า "ญี่ปุ่น" ในกูเกิล
เวลามาเที่ยวญี่ปุ่น ทุกคนอยากเห็นทิวทัศน์แบบไหนกันคะ? หลายคนต้องนึกถึงภูเขาไฟฟูจิ อาคารบ้านเรือนเก่าๆ จากไม้ หรือไม่ก็ดอกซากุระกันแน่เลยใช่มั้ยคะ
ลองค้นหารูปภาพในกูเกิลด้วยคีย์เวิร์ด "ญี่ปุ่น" ดูดีกว่าค่ะ
Picture courtesy of Tourism Fujiyoshida
พอลองค้นหาดูแล้วก็จะพบกับภาพแบบนี้ค่ะ มีทั้งภูเขาไฟฟูจิ เจดีย์ห้าชั้น และดอกซากุระอยู่ในภาพเดียวกัน เป็นทิวทัศน์ที่สมกับเป็นญี่ปุ่นสุดๆ ไปเลยใช่มั้ยล่ะคะ รู้มั้ยคะว่าเราจะไปชมทิวทัศน์แบบนี้ได้ที่ไหน?
ภาพนี้ถ่ายที่เมืองฟูจิโยชิดะ จังหวัดยามานาชิค่ะ นี่เป็นภาพของเจดีย์แดงชูเรโต (Chureito Pagoda) ซึ่งตั้งอยู่ภายในสวนสาธารณะอาราคุรายามะเซ็นเก็น (Arakurayama Sengen Park) สวนแห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้กับทะเลสาบยามานากะโกะ (Lake Yamanakako) และทะเลสาบคาวากุจิโกะ (Lake Kawaguchiko) ซึ่งมีรีสอร์ทอยู่เป็นจำนวนมาก ใช้เวลาเดินทางจากโตเกียวประมาณ 2 ชั่วโมงค่ะ
ปัจจุบันเจดีย์ชูเรโตเป็นสถานที่ที่มีผู้คนไปเยือนเป็นจำนวนมากทั้งชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติ บทความนี้จะขอแนะนำวิธีการเดินทาง จุดถ่ายรูปสวยๆ และเคล็ดลับในการถ่ายรูปออกมาให้สวยค่ะ
วิธีการเดินทางไปยังจุดชมวิวที่เจดีย์ชูเรโต
ก่อนอื่นจะขอแนะนำวิธีการเดินทางจากโตเกียวไปยังสถานีชิโมะโยชิดะ (Shimoyoshida Station) ซึ่งเป็นสถานีที่ใกล้กับเจดีย์ชูเรโตค่ะ หากนั่งรถไฟไปก็จะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง แต่ถ้านั่งรถบัสด่วนไปก็จะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง เลือกวิธีที่สะดวกได้เลยค่ะ ไม่ว่าจะไปทางไหนก็สามารถเดินทางจากชินจูกุได้อย่างง่ายดายเหมือนกัน
พาหนะ | วิธีการเดินทาง | ค่าโดยสาร |
รถไฟ | ขึ้นรถด่วนไคจิ (Limited Express Kaiji) สายจูโอ (Chuo) ของ JR ที่สถานีชินจุกุ จากนั้นเปลี่ยนขบวนไปเป็นสายฟูจิคิว (Fujikyu Railway) ที่สถานีโอสึกิ (Otsuki Station) แล้วลงที่สถานีชิโมะโยชิดะ | 3,930 เยน |
รถบัสด่วน | ขึ้นรถบัสสายชินจุกุ-ฟูจิโกะโก (Shinjuku-Fujigoko) ที่สถานีรถบัสชินจุกุ (Shinjuku Bus Terminal) จากนั้นลงที่ป้ายรถบัสชิโมะโยชิดะ | 1,700 เยน |
จากนี้จะเป็นวิธีการเดินทางหลังมาลงที่สถานีรถไฟชิโมะโยชิดะ สายฟูจิคิวแล้วค่ะ
พอเดินออกจากสถานีชิโมะโยชิดะ เราก็จะเห็นป้ายแบบนี้ ให้เดินตามลูกศรเข้าไปในถนนแคบๆ ทางด้านขวาค่ะ จากตรงนี้จะใช้เวลาเดิน 10 นาทีไปยังทางเข้าสวนสาธารณะอาราคุรายามะเซ็นเก็น จากนั้นเดินอีก 10 นาทีจากทางเข้าก็จะถึงเจดีย์ชูเรโต ให้เดินไปในทิศทางตรงกันข้ามกับภูเขาไฟฟูจินะคะ
เมื่อข้ามทางรถไฟมาแล้วให้เลี้ยวซ้ายค่ะ (คนละทางกับที่คุณลุงคุณป้าเดินไปนะคะ)
จากนั้นพอเดินไปตามถนนที่ตัดผ่านทุ่งก็จะมาพบกับสะพานของทางด่วนอยู่ด้านหน้า ให้เลี้ยวไปทางซ้ายค่ะ
หลังจากเดินเลียบทางด่วนขึ้นเนินมาจนสุดแล้ว คราวนี้ให้เลี้ยวขวา (จะมีป้ายบอกทางค่ะ)
เมื่อลอดใต้ทางด่วนมาแล้วก็เดินตรงไปเลยค่ะ จากนั้นก็เข้าสวนสาธารณะอาราคุรายามะเซ็นเก็นซึ่งเป็นที่ตั้งของเจดีย์ชูเรโตกันได้เลย
นี่คือทางเข้าสวนสาธารณะอาราคุรายามะเซ็นเก็น เดินขึ้นบันไดหินไปได้เลยค่ะ
ระหว่างที่เดินไปตามทางเข้าสวน เราก็จะพบกับเสาโทริอิสีแดงและลานกว้างอันเป็นที่ตั้งของศาลเจ้า จากลานกว้างตรงนี้ก็สามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิขนาดมหึมาได้เช่นกันค่ะ!
มองจากตรงนี้ก็สวยสุดๆ แล้วใช่มั้ยล่ะคะ แต่ถ้าอยากถ่ายรูปคู่กับเจดีย์ชูเรโตละก็จะต้องใช้ความพยายามอีกสักหน่อย จากตรงนี้ไปจนถึงเจดีย์ชูเรโตมีบันไดหิน 398 ขั้นรออยู่ค่ะ! พักที่ลานกว้างสักครู่แล้วลุยกันต่อเลย
ถึงบันไดแล้วค่ะ ตรงนี้มีทางลาดสำหรับคนที่เดินขึ้นบันไดได้ลำบากด้วย เลือกทางที่ชอบได้เลยค่ะ หากขับรถเช่ามาก็สามารถขึ้นไปถึงข้างบนได้ แต่ที่จอดรถมีจำกัด และบางครั้งก็ห้ามรถขึ้นหากในสวนมีคนหนาแน่นค่ะ
เดินขึ้นบันไดหินที่ทอดตัวยาวทีละก้าว ทีละก้าว...ทิวทัศน์อันงดงามตระการตารออยู่ตรงหน้านี้แล้วค่ะ
มาถึงเจดีย์ชูเรโตแล้ว! ไปที่จุดถ่ายรูปกันเลย
เมื่อเดินขึ้นบันไดมาจนสุดแล้ว เราก็จะพบกับอาคารสีแดงตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า นี่คือเจดีย์ห้าชั้นสร้างจากไม้ที่เรียกกันว่าเจดีย์ชูเรโตนั่นเอง เจดีย์นี้สร้างขึ้นเป็นอนุสรณ์สถานเพื่อรำลึกถึงเหยื่อจากสงครามโลกครั้งที่สอง เมื่อมาถึงแล้วก็มุ่งหน้าไปที่จุดถ่ายรูปกันเลยค่ะ
จุดถ่ายรูปอยู่บนทางลาดด้านหลังของเจดีย์ เดินขึ้นไปบนเนินที่อยู่ทางขวาได้เลย
มีขั้นบันไดที่ทำขึ้นอย่างง่ายๆ ให้เดินค่ะ แต่ในวันที่มีฝนตกก็อาจจะลื่นได้ ต้องระวังด้วยนะคะ!
เราจะเห็นผู้คนจำนวนมากที่ด้านหลังของเจดีย์ห้าชั้นค่ะ นี่คือระเบียงชมวิวซึ่งเป็นจุดถ่ายรูป เนื่องจากเป็นพื้นที่แคบๆ ที่กว้างเพียง 10 เมตร และลึกเพียง 5 เมตรเท่านั้น เวลาถ่ายรูปจึงต้องคำนึงถึงคนอื่นๆ ด้วย และนี่ก็คือรูปที่ผู้เขียนถ่ายจากตรงนี้จริงๆ ค่ะ!
เป็นยังไงบ้างคะ? รูปที่ถ่ายออกมาแทบจะเหมือนกับรูปที่เราไปเจอจากกูเกิลเลยนะคะ! ผู้เขียนถ่ายรูปนี้ตอนปลายเดือนเมษายน เป็นวันที่สภาพอากาศเป็นใจ ไม่มีเมฆเลยแม้แต่ก้อนเดียว
ต้นไม้ที่เห็นตรงครึ่งล่างของรูปคือต้นซากุระค่ะ ช่วงกลางเดือนเมษายนจะมีดอกซากุระบาน ส่วนช่วงเดือนพฤศจิกายนก็จะมีใบไม้เปลี่ยนสีให้ได้ชมกัน
นอกจากนี้ยังมีการจัดเทศกาลซากุระ สวนอาราคุรายามะเซ็นเก็นในช่วงกลางเดือนเมษายนของทุกปีอีกด้วย สามารถมาชมทิวทัศน์พร้อมเพลิดเพลินไปกับของว่างตามร้านยะไตข้างทางได้ค่ะ หากมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากก็จะมีการห้ามไม่ให้เอารถเข้าไปที่บริเวณเจดีย์ เราจึงขอแนะนำให้เดินจากสถานีชิโมะโยชิดะไปค่ะ สำหรับรายละเอียด ลองดูที่เว็บไซต์ทางการ (ภาษาญี่ปุ่น) นะคะ
ช่วงเวลาที่แนะนำในการถ่ายรูปภูเขาไฟฟูจิให้สวย!
ไหนๆ ก็มาถึงชิโมะโยชิดะแล้ว แถมยังขึ้นบันไดหินมาตั้ง 398 ขั้น ทุกคนก็คงอยากมาในช่วงเวลาที่ได้เห็นภูเขาไฟฟูจิอย่างสวยงามใช่มั้ยล่ะคะ
ผู้เขียนซึ่งอาศัยอยู่ที่ฟูจิโยชิดะมาสามปีแล้วขอแนะนำว่าให้มาในช่วงเช้าค่ะ เนื่องจากเป็นช่วงที่อากาศปลอดโปร่งและมีโอกาสสูงที่ท้องฟ้าจะแจ่มใส ช่วงเวลาที่แนะนำถัดมาคือช่วงเย็น ลองไปจับภาพภูเขาไฟฟูจิกับท้องฟ้ายามเย็นที่เปลี่ยนแปลงไปทุกชั่วขณะกันดูนะคะ
ภาพนี้ถ่ายในช่วงเย็นของฤดูใบไม้ร่วง ถ่ายจากคนละจุดกับเจดีย์ชูเรโตนะคะ
โดยเฉพาะช่วงฤดูหนาวซึ่งมีความชื้นต่ำ จะสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้อย่างชัดเจนและสวยงาม ในทางกลับกัน ช่วงฤดูร้อนจะมีความชื้นสูง แม้สถานที่ถ่ายรูปจะมีอากาศแจ่มใส แต่บริเวณภูเขาไฟฟูจิจะปกคลุมไปด้วยเมฆ ช่วงกลางวันจะมีเมฆมาก จึงขอแนะนำให้ไปช่วงตีห้าถึงแปดโมงเช้าค่ะ
ออกแรงเดินกันแล้วก็มาพักผ่อนที่คาเฟ่กันสักครู่
สุดท้ายนี้เราขอแนะนำจุดแวะพักกันสักหน่อย ที่สถานีชิโมะโยชิดะซึ่งเป็นจุดตั้งต้นมีร้านคาเฟ่ชิโมะโยชิดะคลับ (Shimoyoshida Club) อยู่ค่ะ
ที่นี่มีทั้งเครื่องดื่มประเภทกาแฟรวมถึงอาหารรองท้องอย่างแซนด์วิช จะมาเติมพลังกันก่อนออกไปเดินเที่ยวหรือแวะพักหลังเดินจนครบรอบแล้วก็เหมาะค่ะ
โรงแรมแนะนำใกล้ชิโมโยชิดะคลับ
ไปถ่ายรูปสวยๆ ที่เจดีย์ชูเรโตกัน!
นอกจากเจดีย์ชูเรโตแล้ว บริเวณรอบภูเขาไฟฟูจิยังมีสถานที่ที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์อันสวยงามได้อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นทะเลสาบคาวากุจิโกะหรือทะเลสาบยามานากะโกะ รอบสถานีชิโมะโยชิดะก็ยังมีย่านที่สามารถไปหาของทานแล้วตระเวนดื่มได้อีกด้วย ลองมาเที่ยวชมให้เห็นด้วยตาของตัวเองกันให้ได้นะคะ
โรงแรมแนะนำใกล้Shinkurayama Asama Park Chureito Pagoda
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
เกิดที่จังหวัดยามากาตะ ฉันมีประสบการณ์ทำงานในการพัฒนาชุมชนบริเวณตีนเขาฟูจิและประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นทั่วประเทศ และปัจจุบันทำงานที่โตเกียวเพื่อเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับจังหวัดยามานาชิ คุณแม่ลูกหนึ่งที่ชื่นชอบอาหารและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในท้องถิ่น
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง