กูรูราเม็งขอบอก! แนะนำ 30 ราเม็งอร่อยขั้นเทพในโตเกียว (Tokyo) พลาดแล้วจะเสียใจ!

โตเกียว สมรภูมิราเม็งอันดับหนึ่งในญี่ปุ่น

ในโตเกียว เมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น มีร้านราเม็งเยอะมากๆ ทั้งยังมีคุณภาพสูง เรียกได้ว่าเป็นสมรภูมิราเม็งอันดับหนึ่งในญี่ปุ่นไม่ผิดแน่นอน ราเม็งในโตเกียวมีให้เลือกทานหลากหลายชนิด ตั้งแต่ราเม็งแบบดั้งเดิมไปจนถึงราเม็งที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวสุดๆ จึงน่าจะมีคนไม่น้อยที่ลังเลว่าจะทานราเม็งแบบไหนดีนะ..

เพราะงั้นในบทความนี้ ผู้เขียนซึ่งทานราเม็งปีละประมาณ 900 ชาม (หรือวันละ 2.4 ชาม ...ก็คือกินมันทุกวันนั่นแหละ) จนถึงตอนนี้รวมแล้วก็กว่า 5,000 ชาม ขอเรียกตัวเองว่ากูรูราเม็ง จะมาแนะนำร้านราเม็งที่คอนเฟิร์มว่าอร่อยจริงๆ จากการไปเดินตะลุยทานมาด้วยตัวเองในโตเกียวครับ

สารบัญ

ย่านอาซากุสะ, อุเอโนะ
ย่านอิเคบุคุโระ, โอสึกะ, สุกาโมะ
ย่านชินจูกุ
ย่านทาคาดะโนะบาบะ, วาเซดะ
ย่านสถานีโตเกียว, กินซ่า
ย่านอากิฮาบาระ
ย่านชิบูยะ
ย่านคิตะเซ็นจู
ย่านฮะจิโอจิ
พื้นที่อื่นๆ

ย่านอาซากุสะ, อุเอโนะ

1. ราเม็งที่เรียบง่ายสุดๆ "Ramen toy box" มิโนวะ

จากการที่ได้ชิมโชยุราเม็งมาทุกพื้นที่ในโตเกียว โชยุราเม็งแบบท็อปคลาส ผมบอกเลยว่าต้องที่นี่ "Ramen toy box" ในร้านนี้มีทั้งชิโอะราเม็งและมิโสะราเม็ง แต่ลูกค้าส่วนใหญ่มักจะสั่งโชยุราเม็งกันมากกว่า (ในรูปเป็นชามพิเศษ เพิ่มไข่ต้มกับหมูชาชูด้วย ราคารวมภาษี 1,050 เยน)

วัตถุดิบในดาชิมีเพียงเนื้อไก่เท่านั้น ไม่ได้ใส่วัตถุดิบอื่นๆ เช่น หมู, อาหารทะเล หรือผักช่วยกลบกลิ่นคาวใดๆ ลงไปทั้งสิ้น ซุปที่เข้ากันได้ดีกับน้ำจิ้มโชยุที่อบอวลด้วยกลิ่นหอม มีรสชาติที่ล้ำเลิศจนทำให้หลังทานเข้าไปแล้วก็ยังสัมผัสได้ถึงรสชาติที่ลิ้มรสไปแล้วอยู่ แม้จะเป็นราเม็งที่เรียบง่ายสุดๆ แต่ก็อร่อยมากๆ จนคิดว่าวัตถุดิบไม่ต้องเยอะแบบนี้แหละเพียงพอแล้ว

การที่ไม่ได้ผสมปนเปกับอย่างอื่นให้เยอะไปหมดเป็นสิ่งที่ดีงาม และการที่สามารถทานราเม็งนี้ได้โดยไม่ต้องรอนานก็พูดอะไรไม่ได้มากนอกจากคุ้มจริงๆ ถ้าอยากทานราเม็งในโตเกียวล่ะก็ นี่เป็นหนึ่งในร้านที่ผู้เขียนขอแนะนำว่าห้ามพลาดอย่างยิ่ง

กล่องของเล่นราเมน

1-1-3 Higashinippori, Arakawa-ku, Tokyo 116-0014 ชั้น 1

2. มี Live Performance น่าสนใจ "Takesue Tokyo Premium" โอชิอาเกะ

ร้านราเม็งยอดฮิตที่อยู่ใกล้กับโตเกียวสกายทรีที่คลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวจำนวนมาก นั่นก็คือ "Takesue Tokyo Premium (ทาเคสุเอะ โตเกียว พรีเมี่ยม)" นั่นเอง ท่ามกลางเมนูที่เป็นเอกลักษณ์และมีให้เลือกหลากชนิด ชามเด็ดที่ผู้เขียนอยากแนะนำคือ "โซบะไก่และหอยเชลล์" ในรูป (ราคารวมภาษี 900 เยน)

ราเม็งที่ใส่เนื้อหอยเชลล์บดลงไปในซุปโทริไพทัน(*1) เราจะทานโดยค่อยๆ ละลายหอยเชลล์บดทีละน้อย ยิ่งละลายมากเท่าไร รสชาติของหอยเชลล์ก็จะแรงขึ้นเท่านั้น ให้รสชาติที่น่าสนใจและอร่อยมากทีเดียว ในส่วนของท็อปปิ้ง นอกจากผักแล้ว ยังมีRoast beef (โรสท์บีฟ) และอื่นๆ ใส่ลงไปด้วย แค่หน้าตาก็น่าอร่อยมากๆ แล้วล่ะครับ

นอกจากนั้น ที่ร้านยังมี Live Show Performance โดยวางชามไว้ด้านหน้าลูกค้า และแต่งหน้าชามให้ชมกันสดๆ พลางอธิบายเกี่ยวกับท็อปปิ้งต่างๆ ไปด้วย ซึ่งดูๆ ไปก็เพลินดีครับ ยิ่งไปกว่านั้น ความสว่างและความสะอาดภายในร้าน รวมถึงการต้อนรับลูกค้าก็ดีเยี่ยม เรียกได้ว่าเป็นร้านราเม็งที่เพอร์เฟ็คมากๆ ทีเดียว

*1: ซุปโทริไพทัน.....ซุปที่ต้มเนื้อไก่เป็นระยะเวลานานให้ขาวขุ่น หน้าตาคล้ายกับทงคตสึ (กระดูกหมู) แต่รสชาติไม่เหมือนกัน

Takesue โตเกียวพรีเมี่ยม

〒130-0002 5-14-7 Narihira, Sumida-ku, Tokyo Fullerishi Oshiage

3. แวะร้านนี้ด้วยถ้าไปเที่ยวอาซากุสะ "Yoroiya" อาซากุสะ

ร้านราเม็งยอดนิยมที่อยู่ในอาซากุสะ แหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตอันดับต้นๆ ของโตเกียว นั่นก็คือ "Yoroiya (โยโรอิยะ)" แห่งนี้น่ะเอง เมนูธรรมดาของร้านนี้มีโชยุราเม็งกับชิโอะราเม็ง แต่ที่อยากให้ลองชิมก่อนเป็นอย่างแรกคือ "โชยุราเม็ง" ที่อยู่ในรูปครับ (ในรูปเป็นแบบพิเศษ เพิ่มไข่ต้มและหมูชาชู ราคารวมภาษี 1,000 เยน)

ซุปสไตล์ญี่ปุ่นที่ประกอบด้วยหมู ไก่ และอาหารทะเลมีรสชาติไม่เข้มข้นมาก และทานง่าย แม้จะไม่มีเอกลักษณ์เฉพาะอะไรเป็นพิเศษ แต่เพราะลักษณะแบบนี้ จึงเป็นราเม็งที่ใครๆ ก็ชื่นชอบ เกี๊ยวซ่าขนาดใหญ่ก็เป็นของขึ้นชื่อ เป็นสินค้าที่นิยมมากๆ ที่กว่าครึ่งนึงของลูกค้านิยมสั่ง

ที่ตั้งร้านอยู่ใกล้กับวัดเซ็นโซจิมากๆ เที่ยววัดจนอิ่มใจแล้วก็ไปอิ่มท้องกับราเม็งต่อได้ง่ายๆ ไม่ต้องเดินไกลด้วย และเพราะว่าอาซากุสะกลายเป็นสถานที่ที่มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาเยือนเป็นจำนวนมาก จึงมีเมนูภาษาอังกฤษเตรียมไว้พร้อมสรรพ ไม่ต้องกังวลเรื่องภาษาเลยครับ ในช่วงพีค (เที่ยง) ภายในร้านจะแน่นมาก จึงขอแนะนำให้มาก่อนหรือหลังช่วงนั้นจะดีกว่าครับ

อาซากุสะ โยโรอิยะ ราเมน โยโรอิยะ

1-36-7 Asakusa, Taito-ku, โตเกียว 111-0032

ย่านอิเคบุคุโระ, โอสึกะ, สุกาโมะ

4. ราเม็งธรรมดาแบบชั้นเยี่ยม "Chuka Soba Shinagawa" อิเคบุคุโระ

ในอิเคบุคุโระที่มีร้านราเม็งเยอะมากเป็นพิเศษในโตเกียว ร้านราเม็งที่ผู้เขียนชอบมากที่สุดคือ "Chuka Soba Shinagawa (จูคะโซบะ ชินากาวะ)" เมนูขึ้นป้ายของร้านคือ "จูคะโซบะ" ที่อยู่ในรูป (ในรูปเป็นแบบพิเศษ เพิ่มไข่ต้มและหมูชาชู ราคารวมภาษี 1,000 เยน)

ชามนี้เป็นโชยุราเม็งแบบปกติ ไม่ได้มีสิ่งที่แตกต่างตรงไหนเป็นพิเศษ แต่ทั้งเส้น ซุปและท็อปปิ้งมาในรูปแบบระดับพรีเมี่ยมทั้งหมด ทำให้เข้าใจเลยว่า แม้จะเป็นราเม็งโหลๆ ธรรมดาๆ แต่ถ้าทำขึ้นมาดีๆ อย่างตั้งใจ มันสามารถอร่อยได้ถึงเพียงนี้เลย โดยเฉพาะเส้นทำเอง มันเด็ดมาก ยิ่งเพิ่มเส้นได้ฟรี ยิ่งดีเข้าไปใหญ่

แม้จะอยู่ไกลเล็กน้อยจากสถานีอิเคบุคุโระ แต่ถ้าเป็นคนชอบทานราเม็งล่ะก็ รับรองว่าคุ้มค่าแก่การเดินไปแน่นอน อีกทั้ง ร้านนี้ยังมีจุดพิเศษที่ควรทราบไว้คือ เมนูกลางวันกับกลางคืนจะไม่เหมือนกัน ราเม็งที่อยู่ในรูปเป็นเมนูตอนกลางวันครับ

ชินางาวะ

4-19-14 Nishiikebukuro, Toshima-ku, โตเกียว 171-0021

5. ร้านราเม็งที่ได้สตาร์ที่แรกของโลก "Japanese Soba Noodles Tsuta" สุกาโมะ

ร้านราเม็งที่ได้ดาวจากมิชิลินที่แรกของโลกคือ "Japanese Soba Noodles Tsuta (สึตะ)" แม้จะมีเมนูราเม็งเยอะมาก แต่ถ้ามาเป็นครั้งแรก ขอให้ลองชิม "โชยุโซบะ" ดูนะครับ (ในรูปใส่ท็อปปิ้งทั้งหมด เช่น หมูชาชูและไข่ต้ม ราคารวมภาษี 1,650 เยน)

ซุปที่ทำจากอาหารทะเลที่คัดสรรมาอย่างดีและเนื้อไก่คุณภาพสูงจากจังหวัดต่างๆ ในประเทศญี่ปุ่น ออกมาเป็นซุปที่มีระดับชั้นหนาและเข้มข้น แม้จะมีความซับซ้อนแต่ก็อุดมไปด้วยความสมดุล เพียงทานเข้าไปหนึ่งคำก็จะรับรู้ได้ทันทีว่าอร่อยแบบง่ายๆ เหนือสิ่งอื่นใดก็คือเส้นราเม็งทำเองที่เคี้ยวเพลินๆ ไปจนถึงหมูชาชูที่ทำจากหมูอิเบอริโค ซึ่งไม่ว่าอย่างไหนก็รสชาติเยี่ยมไม่แพ้กัน

ข้าวต่างๆ ก็มีให้เลือกหลากหลายชนิด และยังมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว แนะนำให้ทานคู่กับราเม็งเลยครับ ปัจจุบันระบบของร้านเป็นแบบตั๋วคิว หลังจากรับตั๋วคิวแล้ว ก็จะกลับมาสู่เวลาที่กำหนดไว้ ต้องระวังจุดนี้ด้วยนะครับ เพียงแต่หลังบ่าย 3 โมงเป็นต้นไป ไม่มีตั๋วคิวก็เข้าแถวทานราเม็งได้ครับ

บะหมี่โซบะญี่ปุ่น

〒Ia Yoyogi Uehara, 3-2-4 Nishihara Shibuya-ku โตเกียว 151-0066 ญี่ปุ่...

6. จุดสุดยอดในวงการโตเกียวราเม็ง "Sosaku Menkobo Nakiryu" โอสึกะ

ร้านราเม็งที่ได้รับดาวจากมิชิลินต่อจาก "Japanese Soba Noodles Tsuta" ด้านบน นั่นก็คือ "Sosaku Menkobo Nakiryu (โซซาคุ เม็งโคโบ นากิริว)" ครับ จากเมนูหลากหลายชนิดของร้าน โดยส่วนตัวแล้วขอแนะนำ "ทันตัมเม็ง" หรือไม่ก็ "โชยุราเม็ง" ที่อยู่ในรูป (ใส่ท็อปปิ้งทั้งหมด เช่น หมูชาชูและไข่ต้ม ราคารวมภาษี 1,100 เยน)

อย่างแรก แค่หน้าตาก็น่าอร่อยสุดๆ ยิ่งรสชาติยิ่งไม่ต้องพูดถึง มันสุดยอดมากๆ ซุปที่ทำจากวัตถุดิบหลายชนิดแต่เน้นไก่เป็นหลัก, เส้นราเม็งทำเองนุ่มๆ และหมูชาชู 3 ชนิด ทั้งหมดเพียบพร้อมและสมบูรณ์แบบ ไม่มีข้อบกพร่องใดๆ ทั้งสิ้น ทางร้านมักจะปรุงรสชาติให้ดีขึ้นเสมอๆ ไปทานกี่ครั้งก็อร่อยกว่าขึ้นๆ ทุกที

หลังจากได้ดาวจากมิชิลินแล้ว ร้านมักจะเนืองแน่นเป็นประจำ จึงควรเตรียมใจไว้เลยว่าจะต้องรอนานแน่นอนครับ ยิ่งกว่านั้น โดยเฉพาะช่วงวันหยุดมักจะปิดร้านเร็วเป็นพิเศษ เพราะขายหมดเร็ว จึงควรทราบและเตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้ให้ดีก่อนไปกันนะครับ

ร้านก๋วยเตี๋ยวสร้างสรรค์ Naruryu

2-34-4 มินามิ-โอสึกะ, โทชิมะ-คุ, โตเกียว 170-0005 SKY มินามิ-โอสึกะ

7. ราเม็งที่เชื่อมผู้ผลิตและผู้บริโภคเข้าด้วยกัน "MENSHO" โกะโคคุจิ

ร้านราเม็งแนวใหม่ที่มีการโชว์ขั้นตอนต่างๆ แบบที่ร้านอื่นไม่มีให้เห็น เช่น โม่แป้งสาลีภายในร้าน ร้านนั้นก็คือ "MENSHO" ปัจจุบัน เดือนมิถุนายน ปี 2018 มีราเม็ง 2 ชนิดคือชิโอะราเม็งกับสึเคเม็ง โดยส่วนตัวแล้ว ผมขอแนะนำ "สึเคเม็งแป้งโม่สดใหม่" (ราคารวมภาษี 1,000 เยน)

ภายในร้านมีการบดแป้งสาลีด้วยโม่หินและทำออกมาเป็นเส้นราเม็งสดๆ ให้เราได้ทานกัน ทั้งรสชาติและกลิ่นหอมทำให้ได้ออกมาเป็นเส้นราเม็งทำเองที่ยอดเยี่ยม ก่อนที่จะจุ่มเส้นนี้ลงในซุปเป็ด เราจะนำไปทานด้วยเกลือกับน้ำออนเซ็นเท่านั้นก่อน แค่ลองทานกับสองอย่างนั้นก็ยังอร่อย คนที่ลองทานเป็นครั้งแรกน่าจะต้องประหลาดใจแน่นอน เทคนิคการทำเส้นของที่นี่ค่อนข้างใช้แรงและเวลา แต่ก็ทำขึ้นมาอย่างตั้งใจเพื่อให้ทุกคนได้เพลิดเพลินกับรสชาติที่แท้จริงของวัตถุดิบกันครับ

นอกจากราเม็งและสีเคเม็งแล้ว ยังมีเมนูเครื่องเคียงที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและของอร่อยเพียบ อีกทั้ง บรรยากาศภายในร้านยังกว้างขวาง เข้าไปเพลิดเพลินกับการทานราเม็งได้อย่างสบายตัวสบายใจ ร้านนี้คนไม่ค่อยแน่นเท่าไร แม้จะเป็นข้อดี แต่ก็ทำให้ผมแปลกใจมาก

ร้านก๋วยเตี๋ยว

1-17-16 Otowa, Bunkyo-ku, โตเกียว 112-0013

ย่านชินจูกุ

8. สึเคเม็งรสชาติเข้มข้นอันดับหนึ่งไม่เป็นที่สองรองใคร "Tsukemen Gonokami Seisakusho" ชินจูกุ

สึเคเม็งที่ผู้เขียนชอบมากที่สุดในโตเกียวต้องยกให้ที่นี่ ร้าน "Tsukemen Gonokami Seisakusho (สึเคเม็ง โกะโนะคามิ เซซาคุโชะ)" ที่อยู่ในชินจูกุ ร้านนี้ทานสึเคเม็งที่ทำจากกุ้งได้ 3 ชนิด หนึ่งในเมนูแนะนำก็คือ "Ebi tomato tsukemen (เอบิ โทมาโท สึเคเม็ง : สึเคเม็งกุ้งและมะเขือเทศ)" (ในรูปเพิ่มไข่กับหมูชาชูด้วย ราคารวมภาษี 1,180 เยน)

ความเข้มข้นแบบที่แทบไม่น่าเชื่อเลยว่าไม่ใส่สารเคมีปรุงแต่งรสอาหารใดๆ แค่เพิ่มน้ำมันกุ้งหอมๆ ลงในซุปทงคตสึเกียวไค ทำให้ได้ซุปราเม็งที่หอมและกลมกล่อม แต่ละคำที่ทานเข้าไปมันรู้สึกถึงรสชาติของกุ้งมากกว่าทานเนื้อกุ้งจริงๆ เสียอีก นอกจากนั้นยังมีเส้นราเม็งหนาๆ ทำเองที่มีส่วนประกอบของธัญพืช คงรสชาติในตัวเอง และเป็นอีกองค์ประกอบที่ดีงามไม่แพ้น้ำซุป

ราเม็งที่ทำจากกุ้งพบเห็นได้บ่อยในโตเกียว แต่ราเม็งกุ้งที่ร้าน "Tsukemen Gonokami Seisakusho" เรียกได้ว่าพิเศษกว่า ร้านนี้เป็นร้านที่คิวยาวมากที่สุดในบรรดาร้านราเม็งชินจูกุที่จะแนะนำในบทความนี้ แม้อาจจะต้องเสียเวลารอบ้าง แต่ก็คุ้มค่าในการรอคอยอย่างแน่นอนครับ

Tsukemen Gonokami Seisakusho ชินจูกุ

5-33-16 Sendagaya, Shibuya-ku, Tokyo 151-0051 Chatelet Shinjuku Gyoen...

9. ยอดราเม็งที่สุดในโลกหล้า "SOBAHOUSE Konjikihototogisu" ชินจูกุเกียวเอ็นมาเอะ

หนึ่งในร้านราเม็งชั้นยอดที่ญี่ปุ่นภูมิใจอวดแก่ชาวโลก นั่นก็คือ "SOBAHOUSE Konjikihototogisu (โซบะเฮาส์ คงจิคิโอโตะโทงิสุ)" ในบรรดาราเม็งล้ำเลิศที่ไม่ว่าจะเป็นเมนูไหนก็ยากจะเทียมทาน อันดับต้นๆ ที่อยากให้ลองชิมคือ "โซบะเกลือปลามะไดกับหอยกาบ" ครับ (ในรูปเพิ่มหมูชาชูด้วย ราคารวมภาษี 1,200 เยน)

ซุปที่ส่องประกายเป็นสีทองเต็มไปด้วยรสชาติกลมกล่อมเป็นที่สุด ทั้งยังมีกลิ่นหอมของเห็ดพอร์ชินีและน้ำมันทรัฟเฟิลขาว ออกมาเป็นชามที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวจากวัตถุดิบเลอค่า แม้จะดูดีไปเสียหมดอย่างนี้ แต่ก็ทานไม่ยาก เป็นราเม็งอีก 1 ชามที่อร่อยสุดๆ เลยล่ะครับ

แม้ที่ร้านนี้จะต้องเข้าคิวเป็นประจำ แต่ก็เป็นสิ่งที่พูดได้เต็มปากว่าเป็นเรื่องธรรมดาของร้านที่ีมีราเม็งรสเลิศแบบนี้ แต่ถ้าไม่ต้องต่อคิวราเม็งนี้จะอร่อยกว่าเดิมเสียอีก แต่การสลับเปลี่ยนลูกค้าเข้ามาในร้านก็เร็วกว่าที่คิด น่าจะไม่ใช้เวลารอนานมากขนาดนั้น ถ้าเป็นคนที่ชอบทานราเม็งอยู่แล้วล่ะก็ นี่เป็นร้านขึ้นชื่อในโตเกียวที่คุณต้องไปลองให้ได้จริงๆ ครับ

SOBAHOUSE Golden Unlucky Return สาขาชินจูกุเกียวเอ็น

2-4-1 ชินจูกุ, ชินจูกุ-คุ, โตเกียว 160-0022 22nd Miyaba Mansion 1F

10. ร้านราเม็งเก่าแก่ตัวแทนจากโตเกียว "Harukiya สาขา Ogikubo" โองิคุโบะ

ร้านราเม็งเก่าแก่อันดับต้นๆ ของโตเกียว "Harukiya สาขา Ogikubo (ฮารุกิยะ สาขาโองิคุโบะ)" ในย่านโองิคุโบะ เดินทางจากชินจูกุด้วย JR Chuo Line ใช้เวลาเพียง 10 นาที เมนูของร้านมีความเรียบง่าย ถ้าไม่นับราเม็งพิเศษตามฤดูกาล ก็จะมีแต่ราเม็งรสโชยุกับสึเคเม็งเท่านั้น (ในรูปคือ "ชาชูเม็ง" ราคารวมภาษี 1,350 เยน)

ชามนี้เป็นโชยุราเม็งที่มีรสชาติดั้งเดิม ราเม็งเส้นหยักทำเองเข้ากันได้ดีกับน้ำซุปซดง่ายที่นำหมูกับไก่ไปใส่ลงในดาชิสไตล์ญี่ปุ่น เป็นเมนูที่กล้าแนะนำให้ทุกคนมาลองชิมจริงๆ ครับ ดีตรงที่ไม่ได้เป็นที่นิยมอะไรมากมาย ด้วยรสชาติของราเม็งที่ทานได้เรื่อยๆ ไม่น่าเบื่อนั่นเอง

ถ้าอยากลองทานราเม็งแบบดั้งเดิม ไม่ใช่ราเม็งที่พลิกแพลงสูตรใหม่ๆ เช่นแบบทุกวันนี้ ขอให้ตรงดิ่งไปร้านนี้แบบไม่ต้องลังเลใจเลยครับ ระหว่างทานก็อาจจะเติมพริกไทยที่วางบนโต๊ะเล็กน้อย และเพิ่มน้ำส้มสายชูเพื่อเปลี่ยนแปลงรสชาตินิดหน่อยให้พอมีสีสัน ก็เป็นวิธีการทานที่ "Harukiya" เขาอยากให้ลองอยู่แล้ว อย่าลืมไปลองชิมกันนะครับ

Ogikubo Chinese Soba Harukiya Ogikubo Main Store

1-4-6 Kamiogi, Suginami-ku, โตเกียว 167-0043

ย่านทาคาดะโนะบาบะ, วาเซดะ

11. โดดเด่นด้วยความอร่อยของเส้นทำเอง "Ramen Gantetsu" วาเซดะ

ร้านราเม็งประจำอันดับ 1 ในตอนนี้ของผู้เขียนตอนนี้ก็คือ "Ramen Gantetsu (ราเม็งกังเเททสึ)" ย่านวาเซดะ เมนูก็มีให้เลือกเยอะพอสมควร แต่ถ้าไปครั้งแรก ชามที่ต้องลองเลยก็คือ "โชยุราเม็ง" (ในรูปเพิ่มเนื้อ ราคารวมภาษี 1,100 เยน)

จุดขายของร้านนี้คือเส้นราเม็งทำเอง นอกจากความลื่นไหล กลืนง่าย และเคี้ยวเพลินแล้ว ยังสัมผัสได้ถึงรสชาติจากตัวเส้นอีกด้วย น้ำซุปมีรสชาติไม่เข้มข้นมาก และมีกลิ่นของไก่และอาหารทะเลเป็นเบส ช่วยดึงรสชาติของเส้นที่ทางร้านภาคภูมิใจออกมา กลายเป็นราเม็งที่ทำให้คนชอบทานเส้นคลั่งไคล้อย่างแน่นอน

ราเม็งพิเศษในแต่ละวันและตามฤดูกาลที่มีมากมายก็เป็นจุดเด่นของ "Ramen Gantetsu" ที่ทำให้มีแฟนๆ เหนียวแน่นจำนวนมาก โดยเฉพาะ "โซซาคุชิโอะสึเคเม็ง" ที่มีจำกัดเฉพาะช่วงกลางคืนของวันศุกร์และวันเสาร์ ใช้วัตถุดิบหรูหราโดยเน้นปลาตามฤดูกาลเป็นหลัก บางครั้งก็ใช้ปลาเกรดสูงหายาก ในร้านจึงคลาคล่ำไปด้วยลูกค้าจำนวนมากที่มาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ

ราเมน กันเท็ตสึ ราเมน

1-10-4 Nishiwaseda, Shinjuku-ku, โตเกียว 169-0051

12. ราชาแห่งสมรภูมิราเม็ง "Ramen Yamaguchi" นิชิวาเซดะและทาคาดะโนะบาบะ

"Ramen Yamaguchi (ราเม็ง ยามะกุจิ)" ร้านราเม็งยอดฮิตที่มีเสียงต้อนรับดีอย่างไม่สั่นคลอนในย่านทาคาดะโนะบาบะ สมรภูมิราเม็ง เมนูมี 2 ชนิดคือราเม็งกับสึเคเม็ง สิ่งแรกที่อยากให้ลองคือ "โซบะไก่" ในรูป (ในรูปเป็นชามพิเศษ เพิ่มไข่ต้มกับหมูชาชูด้วย ราคารวมภาษี 1,150 เยน)

น้ำซุปที่ทำจากไก่บ้านในภูมิภาคโทโฮคุ บ้านเกิดของเจ้าของร้าน แม้จะใสแจ๋วแต่ก็ยังมีรสชาติเข้มข้นมากแตกต่างกับราเม็งรสอ่อนปกติ ความสมดุลกับซอสโชยุที่อบอวลด้วยกลิ่นหอม ทำให้รู้สึกว่าไม่ใช่เรื่องแปลกที่เมนูนี้จะกลายเป็นที่นิยม

โดยทั่วไปแล้ว ร้านนี้จะเปิดทำการตลอดโดยไม่หยุดพัก ถ้าไม่ชอบรอนานล่ะก็ แนะนำให้หลีกเลี่ยงช่วงเวลาพีคดีกว่า ส่วนใหญ่แล้ว ถ้าไปถึงประมาณ 15 นาฬิกาถึง 17 นาฬิกา ก็น่าจะได้ทานทันทีแบบไม่ต้องรอครับ

ราเมนยามากุจิ

3-13-4 Nishiwaseda, Shinjuku-ku, โตเกียว 169-0051

13. ทงคตสึราเม็งรสเข้มข้นหนึ่งในหล้า "Muteppo สาขา Tokyo Nakano" นุมะบุคุโระ

ร้านทงคตสึราเม็งยอดฮิตรสชาติเข้มข้นอันดับต้นๆ ของโตเกียว นั่นก็คือ "Muteppo สาขา Tokyo Nakano (มุเทปโป สาขาโตเกียวนากาโนะ)" ที่อยู่ในนุมะบุคุโระ ห่างเพียง 10 นาทีจากย่านทาคาดะโนะบาบะ เดินทางไปได้โดยสายเซบุชินจูกุ (Seibu Shinjuku Line) ราเม็งรสอ่อนที่ทำจากอาหารทะเลต่างๆ ก็มี แต่ที่อยากให้ลองจริงๆ คือ "ทงคตสึราเม็ง" ในรูปเลยครับ (ในรูปเพิ่มหมูชาชู ราคารวมภาษี 1,030 เยน)

น้ำซุปมีความเข้มข้นจนถึงหนืด เรียกได้ว่าต้องออกแรงยกตะเกียบ แต่เป็นอีกชามที่หาชิมในร้านอื่นไม่ได้แน่นอน และซุปยังไม่ใช้ไขมันใดๆ อย่างมากที่สุดก็เป็นแค่คอลลาเจนที่ออกมาจากทงคตสึปริมาณมากเท่านั้นจริงๆ ความพิเศษของชามนี้ต้องบอกเลยว่าไม่จัดจ้านอย่างที่คิด แต่ถ้าสั่งว่าขอแบบจัดจ้าน พ่อครัวก็จะเพิ่มมันส่วนหลังหมูให้อย่างในรูปครับ

นอกจากจะเพิ่มมันส่วนหลังหมูให้แล้ว ยังขอเพิ่มต้นหอมได้ฟรีอีก ซุปทงคตสึกับต้นหอมของ "Muteppo" เข้ากันได้ดีมากจริงๆ เพราะงั้นโดยส่วนตัวแล้ว ผมอยากแนะนำให้เพิ่มต้นหอมเถอะครับ เกี๊ยวซ่าที่เป็นเมนูเครื่องเคียงก็ได้รับความนิยมสุดๆ เช่นกัน ทานคู่กับเบียร์สักแก้วก่อนเริ่มต้นมื้อราเม็งก็ไม่เลวนะครับ

ร้าน Muteppo โตเกียว นากาโนะ

4-5-1 Egota, Nakano-ku, โตเกียว 165-0022 IKUTAGRACE

ย่านสถานีโตเกียว, กินซ่า

14. ตื่นตะลึงกับการทำราเม็งสดๆ ด้วยมือ "Menya Shichisai" สถานีโตเกียวและฮัทโจโบริ

ร้านราเม็งที่มีการคัดเลือกวัตถุดิบและเครื่องปรุงรสอย่างพิถีพิถัน ไม่แต่งสารหรือใช้วัตถุกันเสียที่มีโทษต่อร่างกาย นั่นก็คือ "Menya Shichisai สาขา Hatchobori (เม็งยะ ชิจิไซ สาขาฮัทโจโบริ)" เดินไปได้ไม่ยากและสะดวกมากจากสถานีโตเกียว อย่างแรกที่อยากให้ลองคือ "คิตะคาตะราเม็ง (นิโบชิ)" (ในรูปเพิ่มไข่ต้มกับหมูชาชู ราคารวมภาษี 1,220 เยน)

จุดขายหลักของร้านคือเส้นทำเองที่จะเริ่มทำก็ต่อเมื่อลูกค้าออเดอร์อาหาร บางทีนั่งก็มองเห็นการทำเส้นสดๆ ได้ตรงหน้า ช่วงเวลาที่ได้ดูพนักงานเริ่มทำเส้นโดยใช้เวลาไม่กี่นาทีเหมือนได้ชมการแสดงอะไรสักอย่าง ตัวเส้นที่นอกจากจะเหนียวนุ่มแล้วยังมีรสหวาน เข้ากันได้ดีกับซุปนิโบชิ(*2)ที่ข้นได้ใจ แบบธรรมดาหรือพิเศษก็ราคาเดียวกัน ต้องขอบคุณความเมตตาจากร้านจริงๆ

ใน "Menya Shichisai" ยังมีราเม็งพิเศษแบบเฉพาะตัวที่ได้รับความนิยม ในจำนวนเหล่านั้นก็มีราเม็งที่ทำต่อเนื่องมาทุกปีจนกลายเป็นประเพณี มีแฟนคลับของร้านจำนวนไม่น้อยที่ตั้งตาคอยจะได้ทานเมนูเหล่านั้น และร้านนี้ก็เช่นกัน มักจะต้องต่อคิวรอในช่วงพีคเสมอ แนะนำให้ไปก่อนหรือหลังช่วงเวลานั้นดีกว่าครับ

*2: นิโบชิ......ปลาตัวเล็กๆ ที่ต้มแล้วนำไปทำให้แห้ง

ก๋วยเตี๋ยวและนานาสาย

2-13-2 Hatchobori, Chuo-ku, โตเกียว 104-0032

15. ร้านขึ้นชื่อในแหล่งท่องเที่ยว "Mugi To Olive สาขา Ginza" กินซ่า

ร้านราเม็งระดับท็อปคลาสในย่านกินซ่าที่คลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวมหาศาล นั่นก็คือ "Mugi To Olive สาขา Ginza "มุงิโตะโอลีฟ สาขากินซ่า" เมนูของร้านก็มีแบบปกติ ทั้งราเม็ง สึเคเม็ง และอาบุระโซบะ แต่เมนูที่ผู้เขียนอยากแนะนำที่สุดคือ "สึเคเม็งรสเข้มข้นใส่ไก่และหอยกาบ" ครับ (ในรูปเป็นชามพิเศษ เพิ่มไข่ต้มกับหมูชาชูด้วย ราคารวมภาษี 1,180 เยน)

ตามชื่อ น้ำซุปรสชาติเข้มข้นที่ใส่ไก่และหอยกาบลงไป ปรุงรสไม่แรงมากจนรู้สึกเลี่ยน เข้ากันได้ดีสุดๆ กับราเม็งเส้นตรง ติดแน่นกับน้ำซุปดี ด้านบนสาหร่ายทะเลเรียกว่าโทริบุชิ เป็นการนำเนื้อไก่มาแปรรูปด้วยเทคนิคเดียวกันกับคัทสึโอะบุชิ ถ้าใส่เพิ่มไปในน้ำซุปจะช่วยให้รสชาติกลมกล่อมมากขึ้น

เฉพาะสีเคเม็งนี้อย่างเดียวเท่านั้นที่มีบริการชามใหญ่ฟรี (ชามพิเศษบวกเพิ่มอีก 100 เยน) อีกทั้ง สถานที่ที่ชื่อว่ากินซ่า และ "Mugi To Olive สาขา Ginza" เหมือนจะมีนักท่องเที่ยวจากต่างชาติมาเยือนจำนวนมากเป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วยครับ

มูกิถึงร้านโอลีฟกินซ่า

6-12-12 Ginza, Chuo-ku, Tokyo 104-0061

ย่านอากิฮาบาระ

16. หนึ่งในชิโอะราเม็งที่สมบูรณ์แบบ "Motenashi Kuroki" อากิฮาบาระ

ในอากิฮาบาระ อีกย่านที่เรียกได้ว่าเป็นสมรภูมิราเม็งอันดับต้นๆ ในโตเกียว มีร้านราเม็งที่นิยมมากๆ ที่ผมทำตกหล่อนไป นั่นก็คือ "Motenashi Kuroki (โมเทนาชิ คุโรกิ)" แม้จะมีระยะทางค่อนข้างไกลเล็กน้อยจากสถานีอากิฮาบาระ แต่ที่ร้านมักจะเนืองแน่นไปด้วยลูกค้าจำนวนมากอยู่เสมอ เมนูขึ้นชื่อของร้านคือ "ชิโอะโซบะ" ในรูปครับ (ในรูปเป็นแบบพิเศษเพิ่มท็อปปิ้ง ราคารวมภาษี 1,300 เยน)

ในซอสเกลือมีเกลือ 5 ชนิดที่มีแหล่งกำเนิดจากหลายๆ ที่ เช่น ทะเล ภูเขา ทะเลสาบ ประโยชน์ของเกลือแต่ละชนิดรวมกันอย่างซับซ้อน กลายเป็นรสชาติเฉพาะตัวที่ลึกล้ำที่ไม่ต้องพึ่งความเค็มจากอาหารอื่นๆ เลย รสชาติของซอสเข้ากันได้เป็นอย่างดีกับเส้นหมี่ที่ทดลองทำซ้ำไปมาหลายสิบครั้ง มีกลิ่นหอมของธัญพืช ทั้งยังเคี้ยวเพลิน (สามารถเลือกเส้นที่ใช้มือนวดอื่นๆ นอกจากเส้นหมี่ได้)

ใน "Motenashi Kuroki" นอกจากราเม็งทั่วไปแล้ว ยังมีราเม็งพิเศษขึ้นชื่อที่ทำออกมาซ้ำหลายๆ ครั้งเรื่อยๆ ลูกค้าที่ตั้งตารอคอยราเม็งพิเศษมีเยอะมาก เป็นร้านขึ้นชื่อที่จะมาอีกกี่ครั้งก็ไม่เบื่อเลยล่ะครับ

โมเตนาชิ คุโรกิ

2-15 Kanda Izumicho, Chiyoda-ku, Tokyo 101-0024 อาคาร Shiren No. 3 อาค...

17. สึเคเม็งรสเข้มข้น No.1 ในอากิฮาบาระ "Kujukuri Niboshi Tsukemen Shinada" อากิฮาบาระ

ในอากิฮาบาระที่มีราเม็งรสชาติเข้มข้นเพิ่มขึ้นจำนวนมาก ร้านที่ผู้เขียนอยากแนะนำมากๆ เลยก็คือ "Kujukuri Niboshi Tsukemen Shinada (คุจูคุริ นิโบชิ สึเคเม็ง ชินาดะ)" ท่ามกลางเมนูที่มีให้เลือกมากมาย อย่างแรกที่อยากให้ลองชิมคือ "Junno Niboshi Tsukemen (จุนโนนิโบชิสึเคเม็ง: สึเคเม็งนิโบชิรสเข้มธรรมดา" ในรูป (ในรูปเป็นชามพิเศษ เพิ่มไข่ต้มกับหมูชาชูด้วย ราคารวมภาษี 1,090 เยน)

แม้ค่อนข้างจะเป็นซุปนิโบชิที่เข้มข้นมากๆ แต่ก็สามารถเพลิดเพลินกับรสชาติของนิโบชิเพียวๆ แบบไม่มีมันได้ การปรุงรสให้เปรี้ยวหน่อยๆ ทำให้เห็นถึงอิทธิพลจากอิตาเลี่ยนที่เป็นความตั้งใจของเจ้าของร้าน น้ำซุปนี้เข้ากันดีกับเส้นแบนที่ตีออกมาราวกับพาสต้ามากๆ น้ำซุปจะหายไปอย่างรวดเร็ว ถ้าสั่งเป็นชามพิเศษ ปริมาณของซุปก็จะเพิ่มขึ้นด้วยนะ

ใน "Shinada" มีบริการพิเศษในแต่ละวันด้วยนะครับ อย่างเช่นบริการข้าวสำหรับลูกค้าผู้ชายฟรีในวันอังคาร และบริการของหวานฟรีสำหรับลูกค้าผู้หญิงใน Ladies' day ทุกวันพุธ ราเม็งกุ้งที่มีเฉพาะวันพุธและสึเคเม็งเข้มข้นที่มีเฉพาะในวันพฤหัสบดีก็เป็นอะไรที่ห้ามพลาดเช่นกัน

ชินะ โซบะ ทานากะ เมียวจิน ชิตะ

3-4-1 Sotokanda, Chiyoda-ku, โตเกียว 101-0021

ย่านชิบูยะ

18. พิถีพิถันราเม็งเพียงหนึ่งเดียว “Ramen Hayashi” ชิบูยะ

ในชิบูยะที่มีผู้คนมากมาย ร้านราเม็งยอดนิยมระดับท็อปคลาสที่ได้รับการตอบรับอย่างดีคือ “ Ramen Hayashi (ราเม็ง ฮายาชิ)” แห่งนี้ เมนูมีความเรียบง่ายมาก และมีแค่ไข่ต้มกับหมูชาชูในราเม็งเพียงชนิดเดียวเท่านั้น (ในรูปเพิ่มไข้ต้มกับหมูชาชู ราคารวมภาษี 1,100 เยน) ร้านนี้มีแค่ราเม็งอย่างเดียวจริงๆ เพราะไม่มีอาหารเครื่องเคียงและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ใดๆ ทั้งสิ้น

น้ำซุปทำจากหมูกับอาหารทะเลรวมกัน รสชาติอ่อนโยนทานง่าย อยู่ในระดับที่ต้องเข้าคิวรอก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ถ้าได้ลองทานแล้วจะเข้าใจอย่างถ่องแท้แน่นอนครับ ขอให้ลองไปดื่มด่ำกับรสชาติที่เจ้าของร้านพิถีพิถันอย่างดีกับราเม็งเพียงชนิดเดียวดูนะครับ

ที่จริงแล้วเมนูเบื้องหลังของ “Hayashi” ยังมีชิโอะราเม็งด้วย ถ้าอยากทานชิโอะราเม็งมากกว่า ตอนยื่นตั๋วให้กับพนักงาน ต้องแจ้งด้วยว่าขอรสชิโอะแทนครับ

ราเมน ฮายาชิ

1-14-9 Dogenzaka, Shibuya-ku, โตเกียว 150-0043 Social Dogenzaka

19. วันตันกับชาชูรสเลิศ “Yakumo ” อิเคจิริโอฮาชิ

เกือบ 10 ปีที่ผู้เขียนได้ออกเดินทางมาที่โตเกียว หนึ่งในร้านที่มักจะผ่านบ่อยๆ ก็คือร้านนี้ “Yakumo (ยาคุโมะ)” โดยปกติแล้วที่นี่จะมีเมนูให้เลือก 2 ชนิด ชิโระกับคุโระ (ขาวกับดำ) โดยส่วนตัวแล้ว ผมแนะนำ “ชิโระ” ครับ (ในรูปเพิ่มวันตันกับชาชู ราคารวมภาษี 1,300 เยน)

แม้จะรสชาติอ่อนๆ แต่ก็เป็นซุปที่มีรสหวานเล็กน้อย เป็นความอร่อยที่ทานกี่ครั้งก็ไม่มีเบื่อ ตอนที่ทานครั้งแรกรู้สึกอิมแพ็คมาก ทั้งวันตันและชาชูเป็นของขึ้นชื่อของ “Yakumo” เลย โดยเฉพาะ ชาชูที่เคี้ยวเพลิน ขอบอกเลยว่าต้องลองทานให้ได้ครับ

ผมเขียนไว้ว่าร้านนี้มีให้ราเม็งให้เลือก 2 ชนิดคือชิโระกับคุโระ จริงๆ แล้วจะสั่งแบบมิกซ์หรือเอามารวมกันทั้งสองเมนูก็ได้ครับ หากอยากทานแบบมิกซ์ ให้ซื้อตั๋วแบบไหนก็ได้ ชิโระหรือคุโระอย่างใดอย่างหนึ่ง และบอกกับพนักงานตอนยื่นตั๋วให้ว่าเอาแบบมิกซ์รวมกัน

ยาคุโมะ

ชั้น 1 อาคารเอบิยะ 3-6-15 ฮิกาชิยามะ เขตเมกุโระ โตเกียว 153-0043

20. ราเม็งโทริไพทันชั้นยอด อร่อยด้วยรสชาติอ่อนๆ “Garyu” ซังเก็นจายะ

ร้านราเม็งโทริไพทันขึ้นชื่อที่ผู้เขียนชอบมากที่สุดในโตเกียวคือ “Garyu (กะริว)” ตั้งอยู่ในซังเก็นจายะ ซึ่งอยู่ห่างเพียง 2 สถานีจากชิบูยะ สายโตคิวเด็นเอ็นโทชิ (ในรูปเพิ่มชาชูไก่ ราคารวมภาษี 850 เยน) เป็นร้านที่บรรยากาศเป็นกันเอง แม้ภายนอกเจ้าของร้านจะดูหน้าตาน่ากลัวสักหน่อย แต่จริงๆ แล้วเป็นคนนิสัยง่ายๆ และเป็นมิตรมากๆ ครับ

ราเม็งโทริไพทันของ “Garyu” มีรสชาติกลมกล่อม ลักษณะพิเศษคือมันน้อย และมีรสชาติอ่อนๆ อีกทั้งยังไม่ใช้สารปรุงแต่งอาหารใดๆ จึงไม่มีอันตรายต่อสุขภาพ ในตอนแรกอาจจะรู้สึกเหมือนขาดอะไรไปสักอย่าง แต่หากลองทานไปสักพักก็น่าจะรู้ซึ้งถึงความยอดเยี่ยมของชามนั้นแน่นอน นอกจากนั้นเส้นนุ่มๆ ลื่นๆ ที่ทำจากรากบัวก็ยังเข้ากันกับน้ำซุปได้ดีมากๆ

ดูเหมือนว่าร้านนี้เจ้าของจะชอบโชจู (*4) มาก ในร้านจึงมีวางไว้หนาตา กับแกล้มทำเองก็มีหลายอย่าง โดยเฉพาะช่วงกลางคืน จะคึกคักไปด้วยลูกค้าขาประจำ จะสั่งแค่เหล้ากับกับแกล้ม ไม่ต้องมีราเม็งก็ย่อมได้

*4: โชจู......สุรากลั่นแบบโบราณของญี่ปุ่น ทำจากมัน ข้าว แป้งสาลี เป็นต้น

ร้านการิวซังเก็นจายะ

1-35-3 ซังเก็นจายะ เซตากายะ-คุ โตเกียว 154-0024

ย่านคิตะเซ็นจู

21. ราเม็งกระดูกวัวหนึ่งเดียวในโลกหล้า "Gyukotsu Ramen Matador Honten" คิตะเซ็นจู

ร้านที่นำราเม็งกระดูกวัวมาเป็นจุดขาย ซึ่งยังเป็นเมนูแปลกใหม่ในโตเกียวในคิตะเซ็นจูก็คือ "Gyukotsu Ramen Matador Honten (กิวคทสึราเม็ง มาธาดอร์ สาขาใหญ่)" เมนูที่ร้านมีหลากหลายชนิดที่ทำจากซุปกระดูกวัว ผู้เขียนขอแนะนำสึเคเม็งครับ (ในรูปเพิ่มไข่ต้มกับโรสท์บีฟด้วย ราคารวมภาษี 1,050 เยน)

น้ำซุปที่ทำจากวัตถุดิบนานาชนิด เช่น อาหารทะเลและผัก โดยเน้นกิวคทสึหรือกระดูกวัวเป็นหลัก รสชาติที่แตกต่างกับหมูและไก่อย่างชัดเจน มีความสมดุลพอดีและทานได้ง่ายมากๆ โรสท์บีฟที่วางอยู่ 2 แผ่นก็เช่นกัน ไม่ใช่แค่หน้าตาอย่างเดียวที่เชื้อเชิญให้มารับประทาน แต่การปรุงรสชาติก็คำนึงแล้วว่าจะต้องเข้ากันได้ดีกับน้ำซุป จึงเป็นอีกชามที่ยอดเยี่ยมมากๆ ครับ

ในทุกๆ วันจันทร์ จะมีการเปลี่ยนชื่อร้าน และเปิดทำการเป็น “Mazesoba Senmon Togyushi (มาเซโซบะเซ็มมง โทกิวช)” ร้านที่เมนูไม่มีน้ำซุปแทน ร้านนี้ก็มีเมนูที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของร้านที่ทำจากวัวเช่นกัน ถ้ามีโอกาสก็ลองไปทานสักครั้งนะครับ

ราเมนกระดูกเนื้อมาทาดอร์ร้านหลัก

อาคาร Nakamura, 2-4-17 Senjuazuma, Adachi-ku, Tokyo 120-0025

22. ฮาคาตะราเม็งเข้มข้นแบบออริจินัล “Hakata Nagahama Ramen Tanaka Shoten” โรคุโจ

ในบรรดาทงคทสึราเม็ง ร้านราเม็งที่มีชื่อเสียงมากๆ และภาคภูมิใจกับความนิยมระดับท็อปคลาสจากทั้งประเทศ นั่นก็คือ “Tanaka Shoten (ทานากะโชเท็น)” แห่งนี้ เมนูราเม็งมีแค่ทงคทสึราเม็งเพียงอย่างเดียวเท่านั้น นอกนั้นก็มีแค่เมนูท็อปปิ้งและอาหารจำพวกข้าว แล้วก็เครื่องดื่ม (ในรูปเพิ่มหมูชาชู ราคารวมภาษี 950 เยน)

น้ำซุปที่ต้มส่วนต่างๆ ของหมูเป็นระยะเวลา 3 วันค่อนข้างเข้มข้นมาก เป็นชามที่มีรสชาติค่อนข้างแตกต่างจากฮาคาตะราเม็งแบบขนานแท้ นี่เป็นเมนูออริจินัลของ “Tanaka Shoten” อย่างสมบูรณ์เลยครับ โดยส่วนตัวแล้ว ผมชอบทงคทสึราเม็งที่มีความเข้มข้นระดับนี้มากๆ เข้ากันได้ดีกับเส้นหมี่ที่สั่งให้เอามาสั่งจากฟุกุโอกะจริงๆ

แม้การเดินทางจากใจกลางโตเกียวอาจจะลำบากสักหน่อย แต่ถ้าเป็นคนที่ชอบทงคตสึราเม็งล่ะก็ ผมขอแนะนำให้ไปลองทานดูให้ได้เลยครับ แต่เนื่องจากร้านนี้มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมค่อนข้างมาก แม้จะต้องรอคิวสักหน่อย แต่ก็สลับเปลี่ยนลูกค้าอย่างรวดเร็วมาก รอจริงๆ ไม่นานอย่างที่คิดครับ

Hakata Nagahama Ramen Tanaka Shoten Main Store

2-14-6 Hitotsuya, Adachi-ku, โตเกียว 121-0075 Antrum 1F

ย่านฮะจิโอจิ

23. สมบูรณ์แบบทั้งรสชาติและหน้าตา “Niboshi Iwashi Ramen En” ฮะจิโอจิ

ร้านราเม็งอันดับต้นๆ ของประเทศในโตเกียว ที่ผู้เขียนก็แวะเวียนไปเป็นระยะเวลานาน นั่นก็คือ “Iwashi Ramen En (อิวาชิราเม็งเอ็น)” ภายในร้านเสิร์ฟราเม็งหลายชนิดที่ใส่นิโบชิลงไปด้วย ชามแรกที่อยากให้ลองชิมเลยก็คือ “นิโบชิราเม็ง” (ในรูปทำแบบพิเศษ เพิ่มไข่ต้มและชาชูลงไปด้วย ราคารวมภาษี 980 เยน)

ซุปนิโบชิที่มีรสชาติอ่อนๆ แต่ลุ่มลึก ความสมบูรณ์แบบระดับท็อปคลาสในญี่ปุ่นอย่างจริงแท้ เส้นราเม็งทำเองที่ใส่ไข่ลงไปเต็มที่นุ่มลื่นและเข้ากันได้ดีเป็นอย่างยิ่งกับซุป หน้าตาชามนี้ก็ตกแต่งอย่างสวยงาม เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในราเม็งที่สมบูรณ์แบบเลยล่ะครับ

แต่ถึงแม้จะเป็นราเม็งที่ยอดเยี่ยมขนาดไหน ก็ไม่ต้องรอคิวนานมากมายยกเว้นช่วงเวลาพีคที่คนเยอะมากจริงๆ ฮะจิโอจิอยู่ใกล้กับภูเขาทาคาโอะ จะแวะไปทานราเม็งที่ “Iwashi Ramen En” ก่อนหรือหลังจากไปเที่ยวภูเขาก็ดีเหมือนกันนะครับ

ราเมนปลาซาร์ดีนต้ม 圓 ร้านหลักฮาจิโอจิ

21-21 Yokoyama-cho, Hachioji-shi, โตเกียว 192-0081

24. ราเม็งรสชาติเข้มข้น ปราศจากการปรุงแต่ง “Hokkori Chuka Soba Motsuke” ฮะจิโอจิ

ร้านราเม็งยอดนิยมที่คะแนนรีวิวค่อยๆ สูงขึ้นเรื่อยๆ ในโตเกียวตะวันตกก็คือ “Hokkori Chuka Soba Motsuke (ฮกโคริ จูคะโซบะ โมะสึเคะ)” ในร้านเสิร์ฟราเม็งที่ดึงรสชาติจากตัววัตถุดิบ ปราศจากการปรุงแต่งใดๆ เมนูขึ้นชื่อของร้านคือ “จูคะโซบะ” รสโชยุ (ในรูปเป็นแบบพิเศษ เพิ่มชาชูและอื่นๆ ราคารวมภาษี 1,000 เยน)

ซุปรสชาติกลมกล่อมเน้นๆ ที่ทำจากวัตถุดิบปริมาณมาก เช่น ไก่และอาหารทะเล มีความพิเศษคือรสชาติเข้มข้นพอดี ซึ่งแตกต่างกับราเม็งรสอ่อนๆ แบบธรรมดาอย่างสิ้นเชิง เส้นราเม็งเป็นเส้นทำเอง มีความยืดหยุ่นสูง เพียงนำไปทานกับซุป ก็จะดึงจุดเด่นของรสชาติขึ้นมาให้ดียิ่งขึ้น ท็อปปิ้งก็มีการปรับปรุงและพัฒนาอยู่ตลอด ไปกินทุกครั้งก็อร่อยกว่าเดิมทุกครั้งครับ

ใน “Motsuke” ยังมีอีกหนึ่งเมนูขึ้นชื่อของร้าน นั่นก็คือทันตัมเม็ง นอกจากนั้นยังมีราเม็งพิเศษที่ภูมิใจนำเสนออย่างกระตือรือร้น ราเม็งรสชาติพิเศษเป็นสิ่งที่ลูกค้าขาประจำของร้านรอคอย ถึงแม้จะเป็นร้านเล็กๆ แต่ก็มีลูกค้ามาเต็มตลอดครับ

ใส่บะหมี่จีนอุ่นๆด้วย

34-1-34-1, Yorozu-cho, Hachioji-shi, โตเกียว 192-0903

พื้นที่อื่นๆ

25. ทงคทสึราเม็งสไตล์เฉพาะตัวที่ลิ้มลองได้ในพื้นที่อนาคตอันใกล้ “Mengekijo Gen-ei Roppongi Ten ” รปปงหงิ

ร้านราเม็งที่ผู้เขียนถูกใจใน รปปงหงิที่มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาเที่ยวมากมาย นั่นก็คือ “Mengekijo Gen-ei Roppongi Ten (เม็งเกคิโจ เก็นเอ สาขารปปงหงิ)” โดยปกติแล้วจะมีราเม็ง 2 ชนิด ส่วนตัวแล้วผมแนะนำ “XO Junkaoru Iberikobuta No Gen-ei Ryu Ramen” (ราคารวมภาษี 920 เยน)

ถ้าจะเรียกสั้นๆ มันก็คือราเม็งกระดูกหมูนั่นแหละครับ น้ำซุปที่ทำจากซอส XO(*3) ซึ่งเป็นเครื่องปรุงชั้นสูงในอาหารจีน ทำให้ชามนี้ออกมากลมกล่อมและหรูหรา แตกต่างกับทงคทสึราเม็งทั่วไปแบบไม่เห็นฝุ่น ในส่วนของชาชูก็ทำจากหมูอิเบริโกะที่ผลิตในสเปน ซึ่งมีราคาสูงมาก แม้จะมีส่วนที่เป็นมันเล็กน้อย แต่นั่นและคือส่วนที่อร่อยมากๆ ของหมูอิเบริโกะครับ
ถ้าเทียบราคากับปริมาณอันน้อยนิด ด้าน cost performance อาจจะยังไม่ค่อยโอเคสักเท่าไร แต่ก็เข้าใจได้ว่าใช้ต้นทุนค่อนข้างมากและทำขึ้นมาเป็นอย่างตั้งใจ แต่ถ้าปริมาณเท่านี้ไม่พอ และอยากทานให้อิ่มๆ แนะนำให้สั่ง ข้าวราดไข่ เมนูเครื่องเคียง ภายในร้านตกแต่งแบบเฉพาะตัว ทำให้รู้สึกเหมือนอยู่ในอนาคตอันใกล้ บรรยากาศเหมือนเข้ามาอยู่ในหนังเลยล่ะครับ

*3: ซอส XO......เครื่องปรุงชั้นสูง บรรจุในขวดแก้ว ทำโดยนำกุ้ง, เอ็นหอยตากแห้งไปผัด คิดสูตรโดยประเทศฮ่องกง

Mengekijou Genei

4-5-7 รปปงหงิ, มินาโตะ-คุ, โตเกียว 106-0032

26. นิโบชิสึเคเม็งรสเข้มข้นสุดยอด “Niboshi Tsukemen Miyamoto” คามาตะ

ในบรรดาราเม็งและสึเคเม็งรสชาติเข้มข้น ร้านที่ภาคภูมิใจในความนิยมระดับท็อปคลาสในโตเกียวก็คือ “ Niboshi Tsukemen Miyamoto (นิโบชิ สึเคเม็ง มิยาโมโตะ)” ในคามาตะ แม้จะมีนิโบชิราเม็งรสชาติไม่จัดจ้าน แต่ลูกค้าส่วนใหญ่มักจะสั่งสึเคเม็งกันมากกว่า (ในรูปเป็นแบบพิเศษและชามใหญ่ เพิ่มไข่ต้มและหมูชาชูด้วย ราคารวมภาษี 1,130 เยน)

ความพิเศษคือซุปรสชาติเข้มข้นแสนเลอค่าราวกับเอานิโบชิมาทำเป็นน้ำซุปยังไงยังงั้น คนที่ลองทานเป็นครั้งแรกอาจจะตกใจกับความเข้มข้นและความอร่อย เข้ากันได้ดีเป็นอย่างยิ่งกับเส้นราเม็งทำเอง จนหยุดตะเกียบไม่อยู่ ชาชูที่ใส่อยู่ในชาม 2 ชนิดทำให้หน้าตาดูน่าทาน แถมยังอิ่มแบบเต็มๆ คำอีกด้วย

ร้านนี้มักจะต้องรอคิวตลอดไม่ว่าตอนไหน ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาครับ แต่การสลับเปลี่ยนลูกค้าภายในร้านรวดเร็วมาก และหากหลีกเลี่ยงช่วงพีคก็อาจจะไม่ต้องรอนานมาก ใกล้ๆ กับคามาตะมีสาขา 2 ที่ชื่อว่า “Ramen Miyarou (ราเม็งมิยาโร่)” ด้วย

สึเคเมน มิยาโมโตะ มิยาโมโตะ

7-8-1 Nishikamata, Ota-ku, โตเกียว 144-0051

27. คิดถึงเส้นทำเองนุ่มๆ ลื่นๆ ต้องคิดถึง “Menya Ishin” เมกุโระ

หลังจากเริ่มก่อตั้งในโยโกฮาม่า ก็ย้ายมาที่เมกุโระ ในปัจจุบันกลายเป็นร้านราเม็งรสอ่อนขึ้นชื่อและถือเป็นตัวแทนของร้านราเม็งในโตเกียว นั่นก็คือ “ Menya Ishin (เม็งยะ อิชิน)” ในเมนูต่างๆ ที่มีทั้งโชยุ ชิโอะและสึเคเม็ง หากมาเป็นครั้งแรก แนะนำให้ลองโชยุราเม็งดีกว่า (ในรูปเป็นแบบพิเศษ เพิ่มไข่ต้มและหมูชาชู ราคารวมภาษี 1,050 เยน)

กลิ่นหอมของโชยุที่โชยมาจากน้ำซุป บวกกับเส้นราเม็งทำเองแบบอร่อยเลิศ แม้จะไม่หนุบหนับมาก แต่ก็ลื่นไหล กลืนคล่อง อยากจะสูดซู้ดๆ ตลอเวลา ตัวเส้นราเม็งมีความยาวมากกว่าราเม็งทั่วไป เวลาสูดเส้นก็จะเพลิดเพลินได้ในนานกว่าปกติ

ร้านนี้ไม่แออัดมากจนเกินไป “Menya Ishin” จึงเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในร้านราเม็งดีๆ ที่ยังไม่ค่อยมีคนรู้จักเท่าไรนักในโตเกียว แถมยังอยู่ไม่ไกลจากสถานีเมกุโระอีก เป็นร้านราเม็งที่อยากให้คนรู้จักมากขึ้นกว่านี้จริงๆ ครับ

เมนยะ อิชิง

3-4-1 คามิโอซากิ, ชินางาวะ-คุ, โตเกียว 141-0021

28. ชิโอะราเม็งระดับปรมาจารย์ในญี่ปุ่น “Machidashiruba Shio Ramen Shinka” มะจิดะ

ร้านราเม็งสุดฮิตในมะจิดะที่อยู่ทางตะวันตกของโตเกียว คือ “ Machidashiruba Shio Ramen Shinka (มะจิดะชิรุบะ ชิโอะราเม็ง ชินคะ)” ทางร้านมีความพิถีพิถันในการสรรค์สร้างชิโอะราเม็งให้สมกับชื่อร้าน ถ้ามาเป็นครั้งแรกก็ขอให้สั่ง “ชิโอะราเม็ง” ทานเลยแบบไม่ต้องลังเลครับ (ราคารวมภาษี 750 เยน)

น้ำซุปที่ใช้ไก่บ้านเป็นหลักและเพิ่มอาหารทะเลลงไป ช่วยดึงจุดเด่นของวัตถุดิบเหล่านั้นออกมา รสชาติที่นุ่มลิ้นแต่ที่จริงแล้วอร่อย เข้ากันได้ดีกับเส้นราเม็งทำเองที่นุ่มลื่นและเหนียวนุ่ม ทำจากแป้งสาลีที่ผลิตในญี่ปุ่น ท็อปปิ้งมีความเรียบง่าย ดื่มด่ำกับเส้นและซุปได้อย่างเต็มที่

แม้จะใช้เวลาเดิน 20 นาทีจากสถานีมะจิดะ ซึ่งเป็นสถานีที่อยู่ใกล้ที่สุด แต่รับประกันว่าเป็นชิโอะราเม็งที่ควรค่าแก่การไปลองอย่างยิ่งครับ แต่สำหรับคนที่คิดว่ายังไงก็ไกลไปอยู่ดี ให้ลองไปทานที่สาขาหน้าสถานีมะจิดะก็ได้ครับ เพียงแต่เมนูอาจจะแตกต่างกันเล็กน้อย

Machida Jujo Evolution Main Store

3-18-17 Morino, Machida-shi, โตเกียว 194-0022 Wing Morino 103

29. ซัปโปโรมิโสะราเม็งที่ลิ้มลองได้ในโตเกียว “Oshima” ฟุนะโบริ

ร้านที่หาซัปโปโรมิโสะราเม็งขนานแท้ ซึ่งมีจำนวนน้อยในโตเกียวได้ก็คือ “Oshima (โอชิมะ)” แห่งนี้ค่ะ (“มิโสะราเม็ง” ในรูป ราคารวมภาษี 800 เยน) เจ้าของร้านมีประสบการณ์เคยไปเรียนรู้และฝึกฝนในร้านราเม็งชื่อดังที่ซัปโปโรมานานหลายปี ในส่วนของรสชาติ ผู้เขียนขอรับประกันเลยครับ

น้ำซุปมิโสะร้อนๆ รสชาติเข้มข้น ที่มีกลิ่นเครื่องเทศ มีน้ำมันหมูลอยเหนือน้ำซุป นี่แหละที่ทำให้ชามนี้มีรสชาติเข้มข้น ในขณะเดียวกัน ฝาก็ทำหน้าที่ไม่ให้ซุปเย็นชืดเร็วจนเกินไป น้ำซุปเข้ากันได้ดีกับเส้นราเม็งแบบหยักขนาดกลางและใหญ่ โดยเฉพาะ ถ้าทานในช่วงฤดูหนาว มิโสะราเม็งชั้นยอดที่จะช่วยทำให้ร่างกายอบอุ่นอยู่ที่นี่แล้ว

วินาทีที่เปิดประตูเข้าไป สิ่งที่มาปะทะจมูกคือกลิ่นหอมของมิโสะ บรรยากาศภายในร้านอันอบอุ่นด้วยองค์ประกอบที่ทำจากไม้ก็แสนวิเศษ นอกจากนั้น ที่ “Oshima” ยังมีเก้าอี้และภาชนะสำหรับเด็กเตรียมไว้ให้ด้วย จึงไปเพลิดเพลินกับราเม็งได้ทั้งครอบครัวเลยครับ

โอชิมะ

30. นิยมในหมู่สาวๆ "Soranoiro Japanese soup noodle free style" โคจิมะจิ

ร้านที่มีราเม็งที่มีรสชาติอันคุ้นเคยสามารถทานได้ทุกวัน กับราเม็งแบบพิเศษหลากหลายเมนู “Soranoiro japanese soup noodle free style (โซระโนอิโระ เจแปนนีสซุปนู้ดเดิ้ล ฟรีสไตล์)” เมนูที่นิยมเป็นที่ 1 ของร้านก็คือ “ดาชิโซบะรสชาติกลมกล่อมแบบพิเศษ” (ราคารวมภาษี 1,100 เยน)

ซุปที่ทำจากไก่บ้านอันล้ำค่าเป็นหลักควบคู่กับอาหารทะเลและวัตถุดิบอื่นๆ มีรสชาติกลมกล่อมสมชื่อ ภายนอกดูเหมือนจะเป็นซุปรสชาติไม่จัดจ้านเท่าไร แต่คะแนนความพึงพอใจผมให้เต็มสิบ ยิ่งกว่านั้น ชาชูที่ทำจากหมูชั้นดีก็มีรสชาติเป็นเลิศ เกี๊ยวซ่าที่ทำจากหมูอันนี้ก็เป็นอีกอย่างที่ผมอยากแนะนำ จะทานกับเบียร์ก็เหมาะที่สุด

เมนูขึ้นชื่อของร้าน “Soranoiro” อีกอย่างนึงก็คือราเม็งที่ชื่อว่า “เบจิโซบะ” ที่ใช้ผักปริมาณมาก เนื่องจากเป็นราเม็งมังสวิรัติที่ยังมีน้อยในโตเกียว จึงมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติแวะมาทานเยอมากเป็นที่เรียบร้อยครับ

Soranoiro ARTISAN ก๋วยเตี๋ยว

1-3-10 Hirakawacho, Chiyoda-ku, Tokyo 102-0093 อาคารหลักอาคารสีน้ำเงิน...

ทานราเม็งในโตเกียวให้จุใจกันไปเลย

คงจะทราบแล้วใช่ไหมครับว่าในโตเกียวมีร้านราเม็งหลายชนิดมาก อย่าลืมดูลายแทงในบทความนี้ก่อนจะไปทานราเม็งในโตเกียวกันนะครับ